ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนพิเศษ 28

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่28  (คม x ใบบุญ)

Author: 여님  (ยอนิม)

 

“ตั้งใจเรียนนะครับ พี่จะรีบช่วยงานนายให้เสร็จ แล้วจะได้จัดการเรื่องของเราสองคนสักที” คมพูดขึ้นยิ้มๆ เมื่อจอดรถตรงที่ประจำเพื่อส่งใบบุญ

“เรื่องของเรา เรื่องอะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามกลับไปด้วยความอยากรู้

“พี่จะคุยกับยายของใบบุญ เรื่องของเราสองคน” คมพูดบอก ใบบุญตาเบิกกว้างนิดๆ

“จริงเหรอฮะ ละ..แล้ว..ยายจะยอมรับเรามั้ยฮะพี่คม” เด็กหนุ่มถามขึ้นมาอีก

“พี่ไม่น่าบอกเราก่อนเล้ยยย ทำให้เรากังวลขึ้นมาซะงั้น” คมพูดบ่นตัวเอง เมื่อนึกได้ว่าใบบุญต้องกังวลเรื่องนี้แน่ๆ

“ก็มัน..” ใบบุญจะพูดต่อ

“ใบบุญ ตอนนี้ใบบุญมีหน้าที่เรียนก็เรียนไปก่อนนะ เรื่องนี้พี่จัดการเอง เราไม่ต้องห่วง พี่จะทำทุกอย่างให้ยายของใบบุญยอมรับเรื่องของเราสองคนให้ได้ ตกลงมั้ย” คมให้คำมั่น ใบบุญนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับ

“งั้นไปเข้าห้องเรียนได้แล้วครับ เจอกันตอนเย็นนะ เดี๋ยวพี่มารับเอง” คมพูดบอกอีกครั้ง ใบบุญยิ้มรับเมื่อรู้ว่าคมจะเป็นคนมารับตน ก่อนที่ใบบุญจะลงจากรถไป ส่วนคมก็ขับรถกลับไปทำงานกับกมลต่อ

..

..

..

“ใบบุญยืมสมุดลอกงานที่อาจารย์สั่งหน่อยสิ” เสียงไผ่พูดขึ้นเพราะคาบแรกไผ่ไม่ได้เข้าเรียน เพราะเข้าเรียนสาย

“อ่ะ” ใบบุญส่งให้

“ขอบใจนะ” ไผ่พูดบอกออกมายิ้มๆ ก่อนจะนั่งลอก

“ทำไมถึงมาสายได้ล่ะ” ใบบุญถามเพื่อนร่างสูง

“ก็พ่อกับแม่เราน่ะสิ ไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวาน ทุกทีแม่จะเป็นคนมาปลุก แล้วเราก็ดันลืมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ ผลคือตื่นสาย” ไผ่พูดเล่าออกมา ใบบุญยิ้มขำนิดๆ

“อ๊ะ อาจารย์มาแล้ว ไผ่เก็บสมุดเราไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยลอกตอนพักกลางวัน” ใบบุญพูดบอกเพราะอาจารย์ในคาบที่สองเข้ามาแล้ว

“โอเค ขอบใจนะ” ไผ่ตอบกลับก่อนจะเก็บสมุดของใบบุญเข้ากระเป๋าตนเอง แล้วนั่งเรียนวิชาต่อไป

และวันนี้ตลอดทั้งวัน ก็มีเรียนแบบเคร่งเครียดทุกวิชา ทำให้ช่วงพักกลางวันไผ่ลืมลอกงานในสมุดของใบบุญ และใบบุญเองก็ลืมเรื่องสมุดที่ให้ไผ่ยืมไป จนกระทั่งเลิกเรียน วันนี้ใบบุญไม่ต้องเข้าชมรมจึงทำให้เลิกเรียนปกติ และคมก็มารับใบบุญกลับบ้าน

“เรากลับก่อนนะไผ่” ใบบุญพูดบอกเมื่อคมขับรถเข้ามาจอด ไผ่พยักหน้ารับก่อนที่ใบบุญจะขึ้นรถของคมไปทันที ไผ่ยืนมองรถของคมขับออกไป แล้วถึงจะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง

“เราลืมอะไรรึเปล่าวะ” ไผ่พูดกับตัวเองยังงุนงง แต่ก็คิดไม่ออก จึงขี่รถกลับบ้านตนเอง เมื่อไปถึงบ้าน ไผ่ก็วางกระเป๋านักเรียนลงบนโซฟากลางบ้าน แล้วเดินไปหาน้ำดื่ม ก่อนจะกลับมาที่กระเป๋านักเรียนของตนเอง

“ทำการบ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยออกไปหาอะไรกิน” ไผ่พูดกับตัวเองเพราะอยู่บ้านคนเดียว พอเปิดกระเป๋าและหยิบสมุดออกมา ไผ่ก็นึกขึ้นได้ทันที เมื่อเห็นสมุดของใบบุญ

“ต่ายห่าแล้ว ลืมลอกงานแล้วคืนสมุดให้ใบบุญ ทำไงดีวะ ส่งพรุ่งนี้ซะด้วย” ไผ่พึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิดที่ดันลืมคืนสมุดให้ใบบุญไป ไผ่จึงหยิบโทรศัพท์โทรไปหาใบบุญทันที

(“มีอะไรเหรอไผ่”) ใบบุญรับสาย

“ใบบุญเราลืมคืนสมุดวิชาคณิตให้ใบบุญน่ะ ใบบุญถึงไหนแล้ว” ไผ่ถามขึ้น

(“อ่า จริงด้วย เรากำลังเลี้ยวเข้าซอยบ้านแล้วอ่ะไผ่”) ใบบุญตอบกลับ ก่อนที่ไผ่จะได้ยินเสียงคมถามใบบุญว่ามีอะไร ใบบุญก็ตอบกลับไปว่าลืมสมุดไว้ที่ไผ่

“เอาแบบนี้ล่ะกัน เดี๋ยวเราขอลอกโจทย์ให้เสร็จก่อน แล้วจะรีบขี่รถเอาไปคืนให้ใบบุญนะ” ไผ่หาทางออกให้ ใบบุญก็หันไปขอคำปรึกษากับคม ซึ่งคมก็ตอบรับมา

(“อืม เอาแบบนั้นก็ได้ไผ่ ถ้าไผ่มาถึงแล้วโทรหาเรานะ”) ใบบุญตอบกลับ

“ได้ๆ ขอโทษด้วยนะใบบุญ เราลืมจริงๆ” ไผ่บอกกลับ

(“ไม่เป็นไร แค่นี้ก่อนนะไผ่ ถึงแล้วโทรมานะ”) ใบบุญบอกส่งท้าย ก่อนจะวางสายไป ไผ่จึงรีบลอกงานให้เสร็จ แล้วหยิบสมุดใส่กระเป๋าสะพายข้าง พร้อมกับคว้ากุญแจรถเพื่อขี่เอาสมุดไปคืนที่บ้านของใบบุญ

..

..

..

..

“ใบบุญ พี่ต้องเข้าไปคุยกับนายก่อน ถ้าเพื่อนเอาการบ้านมาให้ ก็เดินไปบอกพี่ รปภ.ด้านหน้านะ” คมพูดสั่งขึ้นมา

“ฮะ” ใบบุญตอบรับ

“ได้การบ้านแล้วให้รีบเข้าบ้านเลย ตกลงมั้ย”  คมกำชับอีกครั้ง ใบบุญยิ้มนิดๆ

“ฮะ รับทราบฮะ” ใบบุญตอบกลับ คมขยี้หัวใบบุญเบาๆ ก่อนจะเดินแยกไปหากมล ความจริงคมจะตามใบบุญไปเอาการบ้านก่อนก็ได้ แต่คมไม่อยากให้ป้านีคิดว่าคมตามติดใบบุญมากเกินไป ใบบุญช่วยงานในครัวสักพัก ก็ออกมาเดินวนไปวนมาอยู่ที่สนามหญ้าคนเดียวเพื่อรอให้ไผ่โทรเข้ามา

“ใบบุญ” เสียงเรียกใบบุญดังขึ้น ใบบุญชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่าเป็นไหม

“มีอะไรเหรอฮะพี่ไหม” ใบบุญถามอย่างเกร็งๆ เมื่อเห็นไหม แต่ไหมเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่นๆ ไม่ได้มองใบบุญแบบไม่พอใจเหมือนกับทุกครั้ง

“พี่มีเรื่องด่วนต้องมาบอกเรา” ไหมพูดขึ้น ใบบุญขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงงๆ ไหมมองซ้ายมองขวาก่อนจะดึงใบบุญหลบตรงพุ่มไม้เพื่อคุยบางอย่าง

“เมื่อกี้พี่ออกไปซื้อของหน้าปากซอย แล้วพี่เจอแม่ของเรา” ไหมพูดขึ้น ใบบุญตาเบิกกว้างเมื่อได้ยิน

“มะ..แม่เหรอฮะ แล้วตอนนี้แม่อยู่ที่ไหนฮะพี่ไหม” ใบบุญถามขึ้นด้วยความร้อนใจ ดวงตาร้อนผ่าว บอกไม่ถูกว่าควรดีใจหรือเสียใจดี

“แม่ของใบบุญเค้าให้พี่มาบอกกับใบบุญว่า ให้ใบบุญออกไปหาเค้าหน่อย เค้ามีเรื่องต้องอธิบาย ที่เค้าต้องทิ้งใบบุญไป” ไหมบอกอีก ใบบุญตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก

“แล้วทำไมแม่ไม่เข้ามาที่นี่ล่ะฮะ” ใบบุญถามกลับไปอีก

“แม่ของเราเค้ากลัวว่าป้านีจะโกรธมากน่ะสิ ก็เค้าทิ้งใบบุญไปนี่นา เค้าเลยอยากจะคุยกับใบบุญก่อน” ไหมพูดขึ้น ใบบุญหันซ้ายหันขวา

“ใบบุญไปบอกพี่คมได้มั้ยฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้น ไหมรีบคว้าแขนของใบบุญเอาไว้

“ไม่ได้นะใบบุญ ถ้าใบบุญบอกคนอื่น แล้วเค้าไม่ให้ใบบุญไปเจอกับแม่ ใบบุญจะทำยังไง ใบบุญก็อาจจะไม่ได้เจอแม่ของใบบุญอีกเลยก็ได้นะ” ไหมพูดขึ้นมาแบบนี้ ทำให้ใบบุญสับสนเป็นอย่างมาก

“แล้วแม่อยู่ที่ไหนฮะ ใบบุญจะไปหาแม่” เด็กหนุ่มตัดสินใจจะไปคุยกับแม่ตนเองก่อน

“รออยู่ในรถที่จอดอยู่ก่อนถึงปากซอยน่ะ พี่ไม่กล้าให้แม่เราลงจากรถ เพราะกลัวคนของพวกเราที่รู้จักจะเข้ามาบอกป้านีซะก่อน ถ้าใบบุญจะไป เดี๋ยวพี่จะเดินนำออกไปก่อนนะ ใบบุญค่อยเดินตาม พี่จะไปดูก่อนว่ามีคนในบ้านไปเดินอยู่นอกรั้วบ้างมั้ย” ไหมพูดขึ้นอีก ใบบุญพยักหน้าระรัว ไหมจึงรีบเดินออกไปตรงประตูเล็ก ซึ่ง รปภ. ก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไร เพราะเห็นว่าเป็นคนในบ้านเดินเข้าออก ไหมเดินออกไปสักพัก ใบบุญก็เดินไปบ้าง

“จะไปไหนใบบุญ” รปภ.ถามขึ้น เพราะปกติไม่เคยเห็นใบบุญเดินเข้าออกบริเวณบ้านเองแบบนี้

“คือ…เอ่อ…เพื่อนของใบบุญเอาการบ้านมาให้น่ะฮะ อยู่ข้างหน้านี้เอง ใบบุญก็เลยจะออกไปเอา” เด็กหนุ่มอ้างเรื่องไผ่ไว้ก่อน

“แล้วคมมันรู้รึเปล่า” รปภ. ถามต่อ

“รู้ฮะ พี่คมให้ใบบุญมายืนรอเอาหนังสือ แล้วเพื่อนใบบุญมารออยู่หน้าปากซอย” ใบบุญตอบไปตัวก็สั่นไป

“อืมๆ ได้การบ้านแล้วรีบกลับมาล่ะ ตรงกลางซอยตอนเย็นๆมันเงียบหน่อย” รปภ. พูดบอก ใบบุญพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบเดินออกไปหาไหมที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“ป่ะ ไปกันเถอะ” ไหมบอกอย่างรีบร้อน ก่อนจะดึงมือของใบบุญให้เดินไปตามถนนในซอยด้วยกัน จนกระทั่งมาถึงกลางซอย ก็พบกับรถยนต์ 4 ประตู สีดำจอดติดเครื่องอยู่ ฟิล์มรถค่อนข้างดำจนมองไม่เห็นข้างในรถเท่าไรนัก

“แม่อยู่ในรถเหรอฮะ” ใบบุญถามขึ้นพยายามเพ่งมองหาแม่ตนเอง

“เราต้องขึ้นไปคุยกับแม่เราบนรถ เค้าไม่กล้าลงมา” ไหมบอกอีก ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วดันใบบุญเข้าไป แต่ใบบุญขืนตัวเอาไว้เมื่อเห็นชายร่างใหญ่นั่งอยู่และกำลังเอื้อมมือมาจับใบบุญ

“นี่มันอะไรกันฮะพี่ไหม..ไหนแม่ของใบบุญล่ะ” ใบบุญถามขึ้นด้วยความตกใจ รอบๆบริเวณนั้นไม่มีใครเพราะเป็นช่วงที่เป็นป่ากระถิน

“ขึ้นไปเหอะน่า!” ไหมผลักใบบุญ ทำให้เด็กหนุ่มรับรู้ถึงความผิดปกติ แต่ยังไม่ทันจะวิ่งหนีหรือร้องให้ใครช่วย ใบบุญก็ถูกกระชากเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว

“ปล่อยใบบุญเดี๋ยวนี้นะเว้ย!” เสียงตะโกนของใครบางคนดังขึ้น ก่อนที่ไหมจะถูกผลักล้มลงไป ไผ่เข้าไปช่วยดึงใบบุญออกจากรถทันทีเพราะตอนที่เขาขี่รถเข้ามาก็เห็นว่าใบบุญกำลังถูกฉุดขึ้นรถ ไผ่จึงรีบเข้ามาช่วย

“ไผ่ ช่วยเราด้วย” ใบบุญร้องบอกออกมาก่อนจะถูกชายอีกคนที่นั่งอีกด้านกระชากตัวเข้าไปพร้อมกับเอาผ้าปิดปาก ไผ่เองก็ยื้อแย่งช่วยใบบุญ

“พี่มล เอาไอ้เด็กนี่ไปด้วยเลย ชั้นจะได้มีข้ออ้างว่ามันหายไปด้วยกัน” ไหมพูดขึ้น ทำให้ไผ่ถูกกระชากขึ้นรถไปด้วยอีกคน ไผ่ทั้งดิ้นทั้งถีบ ทั้งต่อย

ผั่วะ!

“อื๊ออออออออ” ใบบุญร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าไผ่โดนต่อยที่หน้าอย่างจัง ก่อนที่จะถูกล็อคตัวเอาไว้ ประตูรถถูกปิดอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของไหม ตอนนี้ทั้งไผ่และใบบุญถูกจับด้วยกันทั้งคู่ ไผ่กับใบบุญถูกจับมานั่งตรงกลางระหว่างชายร่างใหญ่สองคน ใบบุญน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นว่าไผ่ปากแตกจากการถูกต่อย ไผ่เองก็ขยับเข้าหาใบบุญเพื่อปกป้องทันที

“นั่งเงียบไปซะพวกมึง อย่าแผลงฤทธิ์ให้มากนัก” คนที่ชื่อมลว่าออกมาเสียงเข้ม ส่วนคนขับรถก็ขับรถออกไปจากซอยอย่างรวดเร็ว ใบบุญกับไผ่มองหน้ากันนิ่งๆ แต่ใบบุญยังคงสะอื้นอยู่บ้างด้วยความกลัว

..

..

..

..

“มีใครเห็นใบบุญบ้าง” คมเดินมาถาม รปภ. ที่อยู่หน้ารั้วบ้าน เพราะเขาเดินไปหาที่บ้านพักก็ไม่เจอ จึงเดินตามหาที่หน้าบ้านเผื่อว่าใบบุญจะออกมารอไผ่

“เห็นบอกว่าจะออกไปเอาการบ้านที่เพื่อนน่ะ” รปภ.ตอบกลับ คมขมวดคิ้วนิดๆ

“แล้วเพื่อนของใบบุญไม่ได้เอามาให้หน้าบ้านเหรอพี่ทิว” คมถามอย่างแปลกใจ

“ไม่เห็นนะ มีแต่ใบบุญบอกว่าเพื่อนมารอที่ข้างนอก แต่พี่ก็ไม่ได้เดินออกไปดู นึกว่ามารออยู่ตรงข้างรั้วแถบโน้น”  รปภ.ของบ้านตอบกลับ

“ออกไปนานแค่ไหนแล้วพี่” คมถามอย่างร้อนใจ

“ประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้วมั้ง แกลองไปถามไอ้ไหมดูสิ มันคงเห็นอะไรบ้าง เพราะมันก็ออกไปก่อนใบบุญ” ทิวบอกกลับ คมรีบเดินออกไปดูนอกรั้วบ้านทันที แต่ก็ไม่มีวี่แววใบบุญกับไผ่ คมรีบกดโทรศัพท์หาใบบุญ โทรติด แต่ก็ถูกตัดสายพร้อมกับปิดเครื่อง ทำให้คมร้อนใจมากกว่าเดิม เพราะใบบุญไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน คมรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านใหญ่ทันที

“ไหม!!! ไหม!!” คมตะโกนเรียกลั่นบ้านโดยไม่สนใจแล้วว่าใครจะว่ายังไง ทำให้ทั้งคิมและกมลต่างออกมาดูด้วยความตกใจ ไหมเดินออกมาจากครัวด้วยสีหน้างง

“มีอะไรพี่คม ทำไมเรียกไหมเสียงดังแบบนั้นล่ะ” หญิงสาวเก็บอาการสะใจเอาไว้ได้มิด

“ใบบุญไปไหน!” คมถามเสียงเข้ม ป้านีก็เดินออกมาอย่างสงสัย เมื่อได้ยินชื่อของใบบุญ

“ไหมจะไปรู้เหรอ” หญิงสาวตอบกลับ คมถลาเข้าไปบีบแขนไหมทันที

“บอกมา! ว่าเห็นใบบุญรึเปล่า” คมถามอีก หญิงสาวสะบัดแขนตนเองออก

“เห็น” ไหมตอบกลับ

“เห็นที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” คมถามอีกครั้ง ดวงตาแข็งกร้าว

“มีอะไรกันไอ้คม เสียงดังเอะอะลั่นบ้าน” กมลถามขึ้น

“ใบบุญหายไปไหนไม่รู้ครับนาย พี่ทิวบอกว่าไหมน่าจะรู้ เพราะไหมเดินออกไปจากบ้านก่อนที่ใบบุญจะเดินตามออกไป” คมพูดขึ้น ทุกคนหันไปมองไหมทันที หญิงสาวรู้สึกสั่นไหวิดๆในใจ แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้

“ไหม เธอเห็นใบบุญรึเปล่า” คิมถามขึ้นบ้าง พลางรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา

“ไหมเห็นใบบุญนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อนน่ะค่ะ แต่ไหมไม่ได้ถามว่าไปไหน อีกอย่างก็เป็นเพื่อนใบบุญจริงๆ คนที่เคยมาบ้านเมื่อวันเสาร์ไงคะ” หญิงสาวหาคำตอบเอาไว้แล้ว คมกัดฟันกรอด

“ไผ่น่ะเหรอคม” คิมถามคมบ้าง

“ครับ น่าจะใช่ เพราะว่าไผ่จะเอาการบ้านมาให้ใบบุญ แต่มันน่าแปลกใจตรงที่ปกติแล้ว ใบบุญจะไม่ออกไปไหนโดยไม่บอกผม แล้วเมื่อกี้ ผมโทรหาใบบุญ เค้าไม่ยอมรับสายผม ตัดสายผมทิ้งแล้วก็ปิดเครื่องด้วยครับ” คมพูดบอกออกมา คมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าใบบุญออกไปข้างนอกกับไผ่

“ใบบุญอาจจะอยากออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่อยากให้พี่คมรู้ก็ได้นะคะ” ไหมพูดขึ้นมา

“หุบปาก!! เธอมันน่าสงสัยนะไหม” คมพูดเสียงเข้ม ทำให้หญิงสาวหน้าตึง

“ไหมทำอะไร ทำไมพี่คมถึงบอกว่าไหมน่าสงสัย” หญิงสาวถามกลับไปบ้าง พยายามคิดว่าคมคงไม่มองตนเองออกว่ากำลังโกหกอยู่ ตอนนี้ทั้งคิมและกมลต่างจ้องหน้าไหมเขม็ง

“ไหม เราเห็นใบบุญไปกับเพื่อนจริงๆใช่มั้ย” ป้านีถามขึ้นเสียงสั่น รู้สึกห่วงหลานชายขึ้นมาไม่น้อย

“จริงสิป้านี ไหมเห็นใบบุญซ้อนท้ายเพื่อนไปจริงๆ” หญิงสาวยืนยันคำเดิม

“คม รู้จักบ้านเพื่อนของใบบุญรึเปล่า” ป้านีหันมาถามคมบ้าง

“ไม่รู้จักครับ แต่ผมมั่นใจว่าใบบุญไม่มีทางไปไหนกับเพื่อนโดยที่ไม่ได้บอกใครแน่นอน” คมยังคงยืนยันความคิดตนเอง

“ก็ไม่แน่หรอกพี่คม ใบบุญก็อาจจะเบื่อบ้างอะไรบ้าง อยากออกไปเที่ยวโน่นนี่กับเพื่อนบ้างก็ได้” ไหมอดที่จะพูดถึงไม่ได้เพราะหมั่นไส้ที่คมมีท่าทีเป็นห่วงใบบุญมากเกินไป

“ใบบุญไม่ได้เหมือนเธอ” คมพูดออกมาอย่างไม่สนใจความรู้สึกของหญิงสาวก่อนจะหันไปหาคิมกับกมล

“นายครับ เดี๋ยวผมจะลองติดต่อขอที่อยู่ของไผ่กับทางโรงเรียนดู ถ้าได้ที่อยู่แล้ว ผมจะไปตามหาใบบุญ ผมขออนุญาตก่อนนะครับ” คมพูดกับกมลเสียงจริงจัง

“ไม่เป็นไร ให้คนของเราตามหาด้วยก็ได้ ลองไปถามคนในซอยก่อนว่ามีใครเห็นอะไรรึเปล่า ชั้นเองก็ห่วงใบบุญเหมือนกัน” กมลบอกกลับ

“ใช่ เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ตามหาใบบุญให้ได้ก่อน ถ้าใบบุญไปเที่ยวกับเพื่อนจริงก็ไม่เป็นไร ใบบุญกลับมาเราค่อยเรียกมาอบรม แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับใบบุญ” คิมพูดพร้อมกับหันมามองหน้าไหมด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“ชั้นจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น” คิมพูดจบทำให้ไหมลอบกลืนน้ำลายนิดๆ แต่ก็พยายามทำตัวตามปกติ

“งั้นแกไปติดต่อกับทางผู้อำนวยการโรงเรียนตอนนี้เลย บอกว่าชั้นต้องการข้อมูลเพื่อนของใบบุญเดี๋ยวนี้ ส่วนคนอื่นๆ ออกไปสอบถามคนแถวๆปากซอยว่าเห็นอะไรบ้าง” กมลพูดขึ้น ทุกคนก็รีบแยกย้ายกันอย่างรวดเร็วเพื่อตามหาใบบุญ คิมรีบไปประคองป้านีเอาไว้

“อย่าพึ่งคิดอะไรมากเลยนะครับป้านี มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้” คิมพูดปลอบยายของเด็กหนุ่ม

..

..

..

..

“พี่ เราต้องเติมน้ำมันไว้ก่อนนะ” เสียงพูดของคนที่ขับรถดังขึ้น หลังจากที่ขับรถออกมาแถวนอกกรุงเทพฯไม่ไกลมากนัก

“แล้วทำไมมึงไม่เติมก่อนหน้านี้วะ” เสียงคนชื่อมลบ่นขึ้น

“ก็มันรีบๆนี่พี่ อีไหมมันก็โทรเร่งๆ” คนขับรถพูดบอก คนชื่อมลหันมามองหน้าไผ่กับใบบุญนิดๆ

“เดี๋ยวหาปั้มน้ำมันเติมล่ะกัน ไม่มีใครทันสังเกตเห็นไอ้เด็กสองคนนี้หรอกมั้ง” คนที่ชื่อมลพูดขึ้น ทำให้ไผ่กับใบบุญหันมามองหน้ากันทันที ตอนนี้ใบบุญคลายอาการสะอื้นลงบ้างแล้ว

“ดีเลยพี่ ผมจะเข้าห้องน้ำด้วย” คนที่นั่งประกบทางฝั่งใบบุญพูดขึ้นอีกคน

“เออ แม่งไม่รู้ว่าเด็กพวกนี้มันมีปัญหาอะไรกับนังไหม ถึงได้จ้างพวกเราให้พาเด็กพวกนี้ไปขายทิ้งที่ชายแดน แต่ก็ดี เพราะพวกเราไม่ได้ขโมยเด็กไปขายมาสักพักแล้ว ช่วงนี้ตำรวจชุกชุมฉิบหาย เราได้เงินทั้งทางนังไหมกับทางที่จะเอาไปขายด้วย” คนที่ชื่อมลพูดขึ้น เพราะทำอาชีพแอบขโมยเด็กๆไปขายที่ชายแดน แต่ก็ไม่เคยจับเด็กวัยรุ่น รุ่นไผ่กับใบบุญมาก่อน ใบบุญตัวสั่นนิดๆเมื่อได้ยิน ส่วนไผ่ก็ยื่นมือที่ถูกมัดไปจับมือของใบบุญเอาไว้เพื่อปลอบใจ

“มึงเอาผ้าห่มผืนใหญ่มาสิ กูจะคลุมไอ้เด็กสองคนนี้ เฮ้ย มึงสองคนน่ะ ก้มลงไป แล้วห้ามตุกติก ไม่งั้นกูจะยิงทิ้งตรงนี้เลย” คนที่ชื่อมลพูดขึ้น ก่อนที่จะช่วยกันเอาผ้าคลุมหัวไผ่กับใบบุญเอาไว้ ทันทีเมื่อรถจอดเติมน้ำมัน คนที่นั่งข้างใบบุญก็รีบเปิดรถลงเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เสียงคนขับบอกจำนวนเงินที่จะเติมน้ำมันกับเด็กปั้ม  ไผ่เขย่ามือใบบุญเบาๆ ทำให้ใบบุญหันไปมองไผ่แสงจากด้านนอกรอดเข้ามาในผ้าห่มได้ ไผ่ยื่นมือที่ถูกมัดทางด้านหน้าชี้ไปที่ที่เปิดประตูรถ ใบบุญส่ายหัวนิดๆด้วยความกลัว แต่ไผ่ก็พยักหน้าเพื่อต้องการให้ใบบุญทำตามที่ตนเองต้องการ ใบบุญเองก็รับรู้ว่าไผ่อยากให้ใบบุญปลดล็อคประตูแล้วเปิดออกไป ไผ่จับมือใบบุญมาแบ แล้วรีบใช้นิ้วเขียนลงบนฝ่ามือของใบบุญก่อนที่คนที่ไปเข้าห้องน้ำจะกลับมา

.. ข้าง…นอก…มี…คน…ช่วย…เรา…ได้

ไผเขียนให้ใบบุญรับรู้ ทำให้ใบบุญที่รู้สึกกลัวในตอนแรกฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ที่นี่คือปั้มน้ำมัน ต้องมีคนมาเติมน้ำมันมากมายอยู่แล้ว  ไผ่เขย่ามือของใบบุญอีกครั้ง ใบบุญดวงตาร้อนผ่าว ทั้งกลัวทั้งหวาดหวั่น แต่ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองไว้ก่อน ใบบุญค่อยๆเอื้อมมือไปปลดล็อคเบาๆ เพราะถูกผ้าคลุมอยู่ อีกฝ่ายก็เลยไม่ทันสังเกต เพราะทุกทีจับแต่เด็กๆ ที่ไม่มีทางกล้าหนีไปไหน

พรึ่บ!!

“เฮ้ย!!” ชายที่ชื่อมลร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อประตูรถถูกเปิดออก ใบบุญรีบกระโดดลงไปทันที ส่วนไผ่ก็พลิกตัวนอนกับเบาะแล้วถีบเข้าที่ส่วนหน้าของคนที่ชื่อมลอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ในปั้มน้ำมันแตกตื่น เนื่องจากใบบุญลงจากรถวิ่งเข้าหาคนด้วยสภาพมีผ้ามัดปากกับถูกมัดมือเอาไว้

“เฮ้ย มีเด็กถูกจับมา” เสียงคนตะโกนขึ้น บางคนยังกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าเข้าใกล้รถ เพราะไม่รู้ว่าคนในรถจะมีอาวุธหรือไม่ ส่วนไผ่ก็ดิ้นจนลงจากรถได้

“ไผ่!” ใบบุญเรียกไผ่ทันที เพราะถูกช่วยพร้อมกับแก้ผ้าที่ปากออกแล้ว

“เอาไงดีพี่” คนขับรถถามอย่างตกใจ เพราะไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

“หนีสิวะ มึงจะอยู่ทำไม” คนที่ชื่อมลพูดอย่างตกใจเช่นเดียวกัน

“แล้วไอ้เด็กพวกนั้นล่ะ แล้วๆ ไอ้ปอล่ะพี่” อีกคนถามอย่างลนลานเพราะเพื่อนอีกคนยังอยู่ที่ห้องน้ำ

“ทิ้งแม่งไปเลย ห่า เดี๋ยวตำรวจก็แห่มาหรอก ไปๆ” คนชื่อมลบอกออกมาทันที ก่อนจะรีบปิดประตูรถฝั่งที่ใบบุญกับไผ่หนีลง รถถูกกระชากขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่ยังเติมน้ำมันไม่เสร็จด้วยซ้ำ เด็กปั้มต้องรีบปิดตัวจ่ายน้ำมันอย่างรวดเร็ว

“ฮึกก..ไผ่ เรารอดแล้ว” ใบบุญสะอื้นออกมาอย่างดีใจ พร้อมกับโผเข้ากอดไผ่เอาไว้ ไผ่ก็กอดใบบุญเอาไว้เช่นกัน

“ไม่เป็นไรนะน้อง พี่โทรเรียกตำรวจไว้แล้ว ทะเบียนรถพวกมันพี่จดไว้แล้วไม่ต้องห่วง” คนที่เข้ามาช่วยใบบุญพูดบอกขึ้นมา

“พี่ครับพี่ คนนั้นเป็นพวกของมันด้วย” ไผ่ชี้ไปที่พรรคพวกของกลุ่มเมื่อสักครู่ ที่ออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน เมื่อรู้ว่าตนเองโดนทิ้ง เพราะได้ยินเสียงคนคุยกันเรื่องมีเด็กถูกจับมาแต่ถูกช่วยเอาไว้ได้แล้ว

“ช่วยจับไอ้หมอนั่นด้วยครับ” คนที่ยืนข้างใบบุญตะโกนขึ้น พลเมืองดีก็ตรงไปจับชายคนดังกล่าวทันที ผู้คนต่างมามุงด้วยความสนใจและตกใจ ส่วนไผ่กับใบบุญถูกเจ้าของปั้มพามานั่งพักในห้องคิดเงินของทางปั้มน้ำมัน พร้อมกับคนที่ช่วยเหลือโทรตามตำรวจ เนื่องจากต้องมีการสอบสวนขึ้น

“ไผ่ เราอยากโทรหาทางบ้าน โทรศัพท์เราหล่นหายไปไหนไม่รู้” ใบบุญบอกออกมาเสียงสั่น ตัวของใบบุญยังคงสั่นระริก ไม่ว่าไผ่จะกอดปลอบหรือลูบหลังให้ใบบุญยังไง เด็กหนุ่มก็ไม่มีท่าทีหายสั่นได้เลย

“ของเราแบตหมดตอนที่ขี่รถมาหาใบบุญพอดี เดี๋ยวขอน้าเค้าให้นะ” ไผ่พูดบอก ก่อนจะหันไปหาเจ้าของปั้มที่นั่งเตรียมกล้องวงจรปิด เนื่องจากรู้ว่าตำรวจต้องขอดูแน่นอน

“น้าครับ พวกผมขอใช้โทรศัพท์ได้มั้ยครับ”

..

..

..

..

..

“ผมได้ที่อยู่ของไผ่มาแล้ว ผมจะออกไปดูที่บ้านไผ่ก่อนนะครับ” คมพูดบอกออกมาด้วยความร้อนใจ กมลพยักหน้ารับ

Tru….Tru…Tru

เสียงโทรศัพท์ของคมดังขึ้น ทำให้ทุกคนชะงักนิ่ง คมรีบหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก คมกดรับสายทันที ในขณะที่ไหมเองก็จ้องมองอย่างลุ้นๆ รู้สึกใจหายวูบๆ แปลกๆ

“สวัสดีครับ” คมรับสายทันที

(“..ฮึกกก…พี่คม…ฮือออ”) เสียงสะอื้นไห้ของใบบุญดังขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเสียงของคม ทำให้คมตาเบิกกว้างหัวใจเต้นระรัว

“ใบบุญ!!! เป็นอะไร ใบบุญ” คมพูดขึ้นเสียงดังลั่น ทุกคนหันไปมอง ในขณะที่ไหมหน้าซีดเมื่อได้ยิน

2   Be   Con

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ดราม่าตอนเดียวพอ

โดนจับต้นตอน

หนีรอดท้ายตอน ฮ่าๆๆ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset