ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ – ตอนที่ 240 ขโมยกางเกงใน (1)

เป๋าเป่ามองดูแส้ที่ใช้ลงทัณฑ์ มุมปากเผยรอยยิ้มสะใจ ยามคุณชายสี่โหดขึ้นมายังคงโหดมากทีเดียว

 

 

เขากระซิบข้างหูชิวเยี่ยไป๋ว่า “คุณชายสี่ คนที่โดนแส้หวายนี่ครั้งที่แล้วคือคุณชายเทียนฉีที่ถูกเปลื้องผ้าใช่ไหม เขายังแค้นท่านจนถึงวันนี้นะ ท่านไม่กลัวคนพวกนี้แค้นท่านหรือ”

 

 

แส้หวายเฆี่ยนคนเจ็บมาก เป็นหวายที่คุณชายสี่ได้มาจากแดนเหมียว ตอนหวดลงไปไม่เพียงเสื้อผ้าไม่เสียหาย แม้แต่ผิวหนังก็แค่เป็นรอยแดงเท่านั้น แต่เนื้อใต้ผิวหนังเละแล้ว การหุ้มอยู่ในผิวหนังโดยไม่แตกออกมาเช่นนี้เจ็บปวดที่สุด

 

 

ชิวเยี่ยไป๋เชิดริมฝีปากอย่างเฉยเมย “เทียนฉีเป็นบุตรหลานเพียงหนึ่งเดียวของแม่ทัพเจี่ยง มีความหยิ่งยโสของทหารอย่างเหลือร้ายตั้งแต่เล็ก ถ้าพวกหยิบหย่งพวกนี้มีความทระนงเหมือนเขาสักหนึ่งส่วน ยังต้องให้ข้าจัดการตรงนี้ในวันนี้ด้วยหรือ”

 

 

เป๋าเป่านึกดูแล้วก็ใช่ จึงไม่พูดอีก ประคองถ้วยของตนเองชมดูต่อไป

 

 

ครู่หนึ่ง เพิ่งเฆี่ยนไปครบสิบครั้ง เฝยหลงก็เกือบสลบเหมือดแล้ว เสื้อผ้าบนตัวถูกเหงื่อเย็นเยียบย้อมจนเปียกโชก แต่คนเสื้อเทาที่ทำหน้าที่ลงทัณฑ์ควบคุมได้ดีมาก แค่ให้เขากระเสือกกระสนอยู่ชายขอบของความเจ็บปวดกับการสิ้นสติแต่กลับไม่สลบไป

 

 

บรรดาคนหยิบหย่งเห็นสภาพอเนจอนาถของเฝยหลงแล้วก็อกสั่นขวัญแขวน ไม่มีใครกล้าส่งเสียง คนที่ใจเสาะหน่อยก็สั่นพั่บๆ ไปทั้งตัวแล้ว

 

 

ส่วนต้าสู่ที่กำลังแทะเป็ดย่างแปดสมบัติก็กินอย่างไร้รสชาติ ถือเป็ดย่างครึ่งตัวไว้ในมือนั่งมองเฝยหลงที่ถูกลงทัณฑ์อย่างงงงัน และรับรู้ถึงสายตาอิจฉาแกมชิงชังของพรรคพวกที่ถาโถมใส่ตน

 

 

ต้าสู่พลันฝืนหัวร่อ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ลางสังหรณ์ของเขาถูกต้อง งานเลี้ยงของใต้เท้าเชียนจ่งก็คืองานเลี้ยงหงเหมิน ที่คนเล่านิทานเล่ากัน

 

 

วัตถุประสงค์ของใต้เท้า หลังสยบพวกเขาแล้วคงแบ่งแยกพวกเขาด้วยกระมัง ใต้เท้าดูออกว่าเฝยหลงสะดุดตาที่สุดท่ามกลางพี่น้องและมีบารมีที่สุด

 

 

แต่ถ้าพูดออกมาตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลจาก ‘การประจบประแจง’

 

 

พวกเขาไม่กล้าทำอะไรใต้เท้า ย่อมจะเทความไม่ยินยอมและความหวาดกลัวความเกลียดชังคั่งแค้นโถมทับตัวเขา และเห็นเขาเป็นคนทรยศ

 

 

แม้เขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม

 

 

ในที่สุดก็โบยครบยี่สิบแส้ เฝยหลงเหมือนตายไปแล้วรอบหนึ่งทั้งตัวเหมือนถูกงมขึ้นจากน้ำ ถูกคนเสื้อเทาหามไปวางหน้าชิวเยี่ยไป๋

 

 

ชิวเยี่ยไป๋แลดูเขายิ้มอย่างอ่อนโยน “ข้าให้รางวัลและลงโทษยุติธรรมเสมอ เฝยหลง เจ้าไปส้องเสพรางวัลของเจ้าได้แล้ว”

 

 

เฝยหลงมองดูใบหน้าสุดหล่อเหลาแต่แววตาเย็นเยียบเบื้องหน้าตน นึกอยาก ‘ถุย’ ใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างทระนง!

 

 

ทว่า เขายังไม่มีความกล้าขนาดนี้ อีกอย่างก็หมดแรงแล้ว สุดท้ายจึงได้แต่ก้มหน้าลง ถูกคนเสื้อเทาหนีบไว้แล้วพาลากไปที่โต๊ะอาหารด้านข้าง

 

 

ต้าสู่มองดูเขาด้วยแววตาขลาดกลัวอยู่บ้าง ส่วนเฝยหลงถลึงตาใส่ต้าสู่ เขาไม่มีความกล้าไปทุบตีชิวเยี่ยไป๋ แต่ยังกล้าที่จะทุบตีต้าสู่ แม้จะไม่รู้ว่าทำไมจึงอยากทุบตีต้าสู่ก็ตาม

 

 

แต่แค่ปล่อยให้เขาโดนทรมาน ส่วนต้าสู่ดื่มกินเป็นการใหญ่ เฝยหลงคิดว่าแค่นี้ก็น่าทุบตีต้าสู่แล้ว

 

 

แม้ขณะนี้เขาจะไม่มีเรี่ยวแรงก็ตาม!

 

 

แต่เมื่อต้าสู่จู่ๆ ก็ส่งน่องเป็ดย่างถึงหน้าเขาและกล่าวอย่างไม่สบายใจว่า “กินเถิด ของนี้เคี้ยวง่าย เจ้าไม่ต้องเปลืองแรง”

 

 

เฝยหลงเห็นน่องเป็ดหอมกรุ่นที่อยู่เบื้องหน้า ยกมือสั่นเทาขึ้น ขณะที่ทุกคนคิดว่าเขาคงจะปัดน่องเป็ดทิ้ง เขากลับน้ำตาร่วงพรูแล้วคว้าน่องเป็ดกำไว้แน่น แทะเนื้อชิ้นโต “มารดาเอ๋ย ข้าจะกินให้คุ้ม!”

 

 

โต๊ะเลี้ยงที่แลกมาด้วยการเฆี่ยนยี่สิบแส้ ขืนไม่กินก็บ้าแล้ว!

 

 

บรรดาคนหยิบหย่งมองดูต้าสู่รับใช้เฝยหลงสวาปามอย่างรวดเร็วราวลมหอบใบไม้ร่วง หลังงุนงงและแอบด่าในใจว่าไอ้พวกทรยศไร้ศักดิ์ศรีแล้ว กลับพากันมีความรู้สึกตรงกันอย่างหนึ่ง…หิวแล้ว กลิ่นหอมฉุยทำเอาหลายคนท้องร้องจ๊อก

 

 

ชิวเยี่ยไป๋ได้ยินเสียงท้องร้องก็เปิดดูบันทึกเมื่อครู่ กล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ดีมาก คนต่อไป วันนี้กับข้าวพอกินแน่”

 

 

หลังจัดการกับเฝยหลงและต้าสู่แล้ว การ ‘ให้รางวัล’ และ ‘การลงโทษ’ อันดับต่อไปก็เป็นไปอย่างราบรื่น

 

 

บ้านติดกันดูเหมือนจะแว่วเสียงอู้อี้ที่ไม่รู้มาจากไหนและกลิ่นอาหารหอมฉุยล่องลอยจนถึงยามดึก

 

 

และวันนี้ ก็เป็นวันที่พลพรรคกองคั่นเฟิงแห่งซือหลี่เจียนที่ในเวลาต่อมาชื่อเสียงสะท้านทั่วราชสำนักและหมู่ราษฎร ได้เริ่ม ‘เส้นทางการละเล่นอันแสนสุข’ ของพวกเขาครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

 

 

และเป็นก้าวแรกของการกลับสู่อำนาจส่วนกลางแคว้นซือหลี่เจียนหลังเงียบงันไปนานปีเมื่อสิ้นมหาจักรพรรดิเจินอู่

 

 

 

 

วุ่นวายตลอดคืน ชิวเยี่ยไป๋แลดูบรรดาคนหยิบหย่งบุตรหลานตระกูลใหญ่ที่ระเกะระกะกับพื้นด้วยความเจ็บปวดระคนพึงพอใจ นางยิ้มไปแคะฟันไปพลางกล่าวว่า “พรุ่งนี้พวกเรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันไหม”

 

 

คราวนี้ทุกคนตื่นตัวแล้ว การละเล่นของใต้เท้าเชียนจ่งไม่ใช่เกมธรรมดาแน่

 

 

“ใต้เท้า…” ต้าสู่ใจระรัวกล่าวว่า “ท่านจะเล่นอะไรหรือ”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋เท้าคางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ง่ายมาก พวกเจ้าไปบ้านหลังหนึ่งในเมือง พาคนสองคนมาให้ข้า”

 

 

“ตีให้สลบ หรือปล้น” ต้าสู่ถามเลียบเคียง

 

 

ชิวเยี่ยไป๋โบกมือ “ไม่ต้องๆ ตรงเข้าไปเอาตัวเลยก็พอ แต่…”

 

 

“แต่อะไรหรือ” ต้าสู่ชักสงสัยและนึกระแวดระวังในใจ

 

 

ชิวเยี่ยไป๋นึกดู “มีเพิ่มอีกเรื่อง พวกเจ้าช่วยขโมยกางเกงชั้นในของเจ้าของบ้านมาให้ข้าด้วย”

 

 

อะไรนะ ไปขโมยกางเกงชั้นในเจ้าของบ้านกลับมาด้วยหรือ

 

 

นี่…นี่…พวกเขา…ไม่ได้ฟังผิดกระมัง

 

 

“ใต้เท้า ท่านบอกให้พวกเราไปขโมย…” แม้แต่เฝยหลงที่อาการร่อแร่รวยรินก็ยังได้สติในพริบตา และสงสัยว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่

 

 

ชิวเยี่ยไป๋พยักหน้ายืนยันสิ่งที่พวกเขาคิด “ไม่ผิด เป็นอย่างที่พวกเจ้าคิด!”

 

 

บรรดาคนหยิบหย่งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “นี่…เอ่อ…ทำไมถึงต้องไปขโมยกางเกงในบุรุษ”

 

 

มีคนพึมพำอย่างอดมิได้ “ใต้เท้า ถ้าท่านจะฝึกพี่น้องพวกเรา ก็น่าจะหาสตรีนี่นา”

 

 

ต้าสู่ก็พึมพำ “นั่นนะสิ ขโมยของดีทั้งทีจะดีจะร้ายก็น่าจะเป็นคนงาม ไปเอาของบุรุษ พวกเราไม่มีรสนิยมเหมือนโจวอี้จ่างสักหน่อย”

 

 

คนที่ชมชอบบุรุษในประดานี้กล่าวอย่างมีเลศนัยว่า “ต่อให้พวกเราชอบแบบนั้นก็ต้องดูหน้าก่อน ขืนเหมือนเจ้าเฝยหลงคงไม่ไหว ใช่หรือไม่!”

 

 

ทุกคนฟังแล้วพากันจ้องเฝยหลงแล้วแอบหัวร่อ ทำเอาเฝยหลงเขม้นใส่อย่างเดือดดาล

 

 

ชิวเยี่ยไป๋กลับหัวร่อเบาๆ “ใครบอกพวกเจ้าว่าไม่ใช่คนงาม”

 

 

ทุกคนฟังแล้วตาลุก “หา หรือว่าเจ้าของบ้านนี้เป็นสตรี”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋เท้าคางมือเดียว แคะฟันพลางกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “สรุปแล้วเป็นคนงามชนิดที่พวกเจ้าไม่เคยพบก็แล้วกัน”

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ
Score 7.2
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษนับแต่ลืมตาดูโลกอีกครั้งในยุคโบราณ นางก็ใช้ชีวิตในฐานะ ชิวเยี่ยไป๋ คุณชายสี่แห่งตระกูลชิวผู้เป็นที่เกลียดชังผู้ถูกขับไล่ไสส่งให้ออกไปเผชิญความโหดร้ายของโลกภายนอกตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยคำทำนายที่ว่าบุตรีคนที่สี่ของตระกูลจะนำความหายนะมาสู่ตระกูลและบ้านเมือง จึงเป็นเหตุให้นางจำต้องปกปิดความจริงเพื่อหลบเลี่ยงมิให้ถูกสังหารหรือถูกขายไปเป็นนางคณิกาหลวง หลังจากผ่านการเคี่ยวกรำนานัปการจนนางได้ก้าวขึ้นเป็นประมุขแห่งหอซ่อนกระบี่ในยุทธภพ กลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน นางก็ตัดสินใจหวนคืนกลับตระกูลเพื่อกลับมาทวงความยุติธรรมให้กับตนเอง จวบจนนางได้พบกับ องค์หญิงเซ่อกั๋ว องค์หญิงคนงามผู้มากด้วยปริศนา ขึ้นชื่อลือชาด้านความโหดเหี้ยมอำมหิตและนิสัยวิปริตจนใครต่อใครล้วนประหวั่นพรั่นพรึง หนำซ้ำยังรังเกียจสตรียิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และได้ล่วงรู้ความลับบางอย่างขององค์หญิงผู้นี้เข้า นับแต่นั้นชีวิตของนางจึงต้องเข้าไปพัวพันกับ ‘เขา’ และก้าวเข้าสู่วังวนแห่งการชิงอำนาจที่เปรียบดุจคลื่นใต้น้ำในราชสำนัก!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset