ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 103 ฉันสบายดี

น้ำตาเธอร่วงรินโดยไม่มีสัญญาณเตือน เธอเป็นคนซื้อตะเกียบเงินนี้เอง ตอนที่ซื้อเธอตั้งใจจะซื้อแค่ตะเกียบธรรมดาๆ 2 คู่ แต่สายตากลับถูกดึงดูดด้วยตะเกียบสีเงินคู่นี้ และสุดท้ายเธอก็ซื้อมันด้วยเหตุผลเพราะคำพูดของพนักงานประโยคนั้น

เงินจะไม่เสื่อมสภาพ แม้ว่าจะถูกออกซิไดซ์จนเปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อใช้ผ้าเช็ดเงินเช็ดแล้วก็จะกลับมาเงางามเช่นเดิม

ในเวลานั้นเธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฉินเป่ยชวนอาจจะเป็นเช่นนี้ แม้ว่าความเจ็บปวดจะถูกแยกออกและออกซิไดซ์เป็นสีดำที่เจ็บปวด แต่ก็ยังดีเหมือนเดิมเมื่อใช้ผ้าเช็ดอย่างระมัดระวัง

“เฉียวชูเฉี่ยน ทำไมแกถึงไร้เดียงสาแบบนี้นะ!”

น้ำตาไหลรินออกมาทีละหยด เธอทนไม่ได้ที่จะด่าทอตนเอง ทำไมถึงต้องไปเชื่อคำพูดของพนักงาน ทำไมต้องเชื่อว่าความรักสามารถใช้ผ้าเช็ดแล้วจะทำให้มีความสุขดังเดิม

“นี่คุณ คุณโอเคหรือเปล่า?”

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นเธอหน้าซีดและนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น เฉียวชูเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นและส่ายหัวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

“ฉันสบายดี”

ใจเธอรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย แต่เธอยังสบายดี อย่างน้อยก็ยังมีสติ ไม่มีวันเชื่อคำพูดโง่ๆ แบบวันนั้นอีกต่อไปแล้ว!

“เฮ้อ คงไม่ใช่คนบ้าหรอกนะ”

คนถามจากไปในขณะที่พึมพำ คนที่ร้องไห้ไปพลางหัวเราะไปด้วยแถมยังบอกว่าตัวเองสบายดี ไม่ใช่คนบ้าแล้วจะเป็นอะไร

เธอค่อยเก็บของทั้งหมดลงในกล่องอีกครั้ง จู่ๆ ก็เหลือบไปมองตะเกียบที่วางอยู่บนพื้น ไม่ควรมีความคิดโง่ๆ อีกต่อไป ก็ควรที่จะทิ้งมันราวกับขยะ

เธอเรียกแท็กซี่กลับไปยังคฤหาสน์เฉินหลังเก่า ในห้องนั่งเล่นกำลังเปิดโทรทัศน์เสียงดังเอาไว้อยู่

“… รายงานการติดตามเรื่องราวความรักของประธานบริษัทเฟิงฉิง เฟิงสิงเอ็นเตอร์เทนเมนท์จะติดตามรายงานให้คุณต่อไป”

“หม่ามี๊ !”

น้ำตาเธอร่วงรินโดยไม่มีสัญญาณเตือน เธอเป็นคนซื้อตะเกียบเงินนี้เอง ตอนที่ซื้อเธอตั้งใจจะซื้อแค่ตะเกียบธรรมดาๆ 2 คู่ แต่สายตากลับถูกดึงดูดด้วยตะเกียบสีเงินคู่นี้ และสุดท้ายเธอก็ซื้อมันด้วยเหตุผลเพราะคำพูดของพนักงานประโยคนั้น

เงินจะไม่เสื่อมสภาพ แม้ว่าจะถูกออกซิไดซ์จนเปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อใช้ผ้าเช็ดเงินเช็ดแล้วก็จะกลับมาเงางามเช่นเดิม

ในเวลานั้นเธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฉินเป่ยชวนอาจจะเป็นเช่นนี้ แม้ว่าความเจ็บปวดจะถูกแยกออกและออกซิไดซ์เป็นสีดำที่เจ็บปวด แต่ก็ยังดีเหมือนเดิมเมื่อใช้ผ้าเช็ดอย่างระมัดระวัง

“เฉียวชูเฉี่ยน ทำไมแกถึงไร้เดียงสาแบบนี้นะ!”

น้ำตาไหลรินออกมาทีละหยด เธอทนไม่ได้ที่จะด่าทอตนเอง ทำไมถึงต้องไปเชื่อคำพูดของพนักงาน ทำไมต้องเชื่อว่าความรักสามารถใช้ผ้าเช็ดแล้วจะทำให้มีความสุขดังเดิม

“นี่คุณ คุณโอเคหรือเปล่า?”

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นเธอหน้าซีดและนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น เฉียวชูเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นและส่ายหัวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

“ฉันสบายดี”

ใจเธอรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย แต่เธอยังสบายดี อย่างน้อยก็ยังมีสติ ไม่มีวันเชื่อคำพูดโง่ๆ แบบวันนั้นอีกต่อไปแล้ว!

“เฮ้อ คงไม่ใช่คนบ้าหรอกนะ”

คนถามจากไปในขณะที่พึมพำ คนที่ร้องไห้ไปพลางหัวเราะไปด้วยแถมยังบอกว่าตัวเองสบายดี ไม่ใช่คนบ้าแล้วจะเป็นอะไร

เธอค่อยเก็บของทั้งหมดลงในกล่องอีกครั้ง จู่ๆ ก็เหลือบไปมองตะเกียบที่วางอยู่บนพื้น ไม่ควรมีความคิดโง่ๆ อีกต่อไป ก็ควรที่จะทิ้งมันราวกับขยะ

เธอเรียกแท็กซี่กลับไปยังคฤหาสน์เฉินหลังเก่า ในห้องนั่งเล่นกำลังเปิดโทรทัศน์เสียงดังเอาไว้อยู่

“… รายงานการติดตามเรื่องราวความรักของประธานบริษัทเฟิงฉิง เฟิงสิงเอ็นเตอร์เทนเมนท์จะติดตามรายงานให้คุณต่อไป”

“หม่ามี๊ !”

“คุณย่าครับ พวกเรากลับมาแล้ว”

ในขณะที่พยายามยื้อสองแม่ลูกอยู่นั้น ก็มีเสียงของเฉินเป่ยชวนดังขึ้นที่หน้าประตู สีหน้าของท่านผู้หญิงดีใจขึ้นมาทันที “เป่ยชวน แกกลับมาพอดีเลย รีบมาขอโทษยายหนู…”

ความสุขบนใบหน้าของเธอกลายเป็นความโกรธ “เป่ยชวน แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่! ”

ดวงตาที่ไม่พอใจกวาดมองผู้หญิงกลับมาด้วยกัน เขาพาดาราคนนั้นกลับมาจริงๆ

“คุณย่า ฉันชื่อหลินเฟยเอ๋อร์ ตอนเจอท่านครั้งแรกไม่ได้เตรียมตัวทักทาย ฉันผิดเองค่ะ ”

หลินเฟยเอ๋อร์ ยอมรับความผิดพลาดของเธอทันทีอย่างเชื่อฟัง

“เป่ยชวน รีบพาผู้หญิงคนนี้กลับไปซะ ตระกูลเฉินของเราไม่ต้อนรับคนแบบนี้”

หลินเฟยเอ๋อร์รู้สึกอับอาย แม้ว่าเธอเตรียมใจมา แต่ก็ไม่คาดคิดว่าท่านผู้หญิงตระกูลเฉินจะไม่ไว้หน้าเธอแม้แต่น้อย

“เป่ยชวนให้ฉันไปก่อนดีไหมคะ”

“ไม่ต้อง”

เฉินเป่ยชวนเอื้อมมือมาโอบรอบเอวของเธอและมองไปยังเฉียวชูเฉี่ยนที่อยู่ไม่ไกลอย่างเย็นชา “คุณย่า วันนี้ผมพาหลินเฟยเอ๋อร์มา เพราะอยากจะประกาศเรื่องเรื่องหนึ่ง ผมจะหมั้นกับเฟยเอ๋อร์”

หมั้น?

น้ำตาเธอร่วงรินโดยไม่มีสัญญาณเตือน เธอเป็นคนซื้อตะเกียบเงินนี้เอง ตอนที่ซื้อเธอตั้งใจจะซื้อแค่ตะเกียบธรรมดาๆ 2 คู่ แต่สายตากลับถูกดึงดูดด้วยตะเกียบสีเงินคู่นี้ และสุดท้ายเธอก็ซื้อมันด้วยเหตุผลเพราะคำพูดของพนักงานประโยคนั้น

เงินจะไม่เสื่อมสภาพ แม้ว่าจะถูกออกซิไดซ์จนเปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อใช้ผ้าเช็ดเงินเช็ดแล้วก็จะกลับมาเงางามเช่นเดิม

ในเวลานั้นเธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฉินเป่ยชวนอาจจะเป็นเช่นนี้ แม้ว่าความเจ็บปวดจะถูกแยกออกและออกซิไดซ์เป็นสีดำที่เจ็บปวด แต่ก็ยังดีเหมือนเดิมเมื่อใช้ผ้าเช็ดอย่างระมัดระวัง

“เฉียวชูเฉี่ยน ทำไมแกถึงไร้เดียงสาแบบนี้นะ!”

น้ำตาไหลรินออกมาทีละหยด เธอทนไม่ได้ที่จะด่าทอตนเอง ทำไมถึงต้องไปเชื่อคำพูดของพนักงาน ทำไมต้องเชื่อว่าความรักสามารถใช้ผ้าเช็ดแล้วจะทำให้มีความสุขดังเดิม

“นี่คุณ คุณโอเคหรือเปล่า?”

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นเธอหน้าซีดและนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น เฉียวชูเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นและส่ายหัวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

“ฉันสบายดี”

ใจเธอรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย แต่เธอยังสบายดี อย่างน้อยก็ยังมีสติ ไม่มีวันเชื่อคำพูดโง่ๆ แบบวันนั้นอีกต่อไปแล้ว!

“เฮ้อ คงไม่ใช่คนบ้าหรอกนะ”

คนถามจากไปในขณะที่พึมพำ คนที่ร้องไห้ไปพลางหัวเราะไปด้วยแถมยังบอกว่าตัวเองสบายดี ไม่ใช่คนบ้าแล้วจะเป็นอะไร

เธอค่อยเก็บของทั้งหมดลงในกล่องอีกครั้ง จู่ๆ ก็เหลือบไปมองตะเกียบที่วางอยู่บนพื้น ไม่ควรมีความคิดโง่ๆ อีกต่อไป ก็ควรที่จะทิ้งมันราวกับขยะ

เธอเรียกแท็กซี่กลับไปยังคฤหาสน์เฉินหลังเก่า ในห้องนั่งเล่นกำลังเปิดโทรทัศน์เสียงดังเอาไว้อยู่

“… รายงานการติดตามเรื่องราวความรักของประธานบริษัทเฟิงฉิง เฟิงสิงเอ็นเตอร์เทนเมนท์จะติดตามรายงานให้คุณต่อไป”

“หม่ามี๊ !”

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset