ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 107 ทำไมถึงมีคนเฮงซวยแบบนี้อยู่นะ?

เธอขี้เกียจเกินไปที่จะให้ความสนใจกับชายที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เหยียนสือเซี่ยหันไปมองตำรวจข้างๆ “คุณตำรวจ เนื่องจากนักข่าวคนนี้บอกว่ามีหลักฐานว่าฉันทำกล้องตกดังนั้นต้องมีหลักฐานเพียงพอว่าฉันเป็นคนลงมือ ตราบใดที่ได้รับหลักฐานที่สอดคล้องกันฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เขาเพิ่งพูดถึงได้”

เดิมทีตำรวจที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า กำลังชื่นชมหญิงสาวกับคำพูดเมื่อครู่ เมื่อได้ฟังแล้วก็ต้องอึ้ง

“แต่ถ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานการทำร้ายได้ ฉันจะฟ้องนักข่าวด้วยข้อหาหมิ่นประมาทและสร้างเรื่องเท็จเพื่อใส่ร้ายผู้อื่น หากสถานการณ์ร้ายแรงจะถูกตัดสินให้จำคุกตามระยะเวลาไม่เกินสามปี การคุมขังการเฝ้าระวังทางอาญาหรือการลิดรอนสิทธิทางการเมือง ”

“ไหนจะประโยคขู่กรรโชกอีก ฉันยังต้องพูดอะไรอีกไหม”

หลังจากศึกษากฎหมายมาหลายปี หากเธอถูกแบล็กเมล์ในวันนี้ พรุ่งนี้เธอคงจะต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วล่ะ

“… ฉัน … ฉันต้องการแค่เงินชดเชยค่ากล้องอย่างเดียว”

นักข่าวชายถอยห่าง เขาไม่อยากติดคุก

ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากการให้ปากคำ เหยียนสือเซี่ยก็ออกมาจากสถานีตำรวจตามด้วยถังอี้

“ไม่เสียแรงที่เป็นถึงทนายคนสวยที่เยาว์วัยที่สุดในเมืองซั่นเป่ยจริงๆ ”

ดวงตาดอกท้อยิ้มสดใสเป็นพิเศษ ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากหญิงสาวทั่วไปที่เขาเคยพบเจอ จึงทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้น

“คุณว่างมากใช่ไหม”

เขาหันหน้าไปมองชายที่อยู่ข้างหลังอแม้ว่าวันนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่เมื่อคิดว่าเกือบจะตกหลุมพรางของเขา ก็เลยรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

“คุณไม่รู้เหรอว่าผู้ชายรวย หล่อ ฉลาดอย่างฉันมักมีเวลาว่างเสมอ”

ถังอี้กางมือออกและบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เงิน…ไม่ว่าจะวางไว้ที่ไหนก็จะงอกเงย หล่อ…ก็จะทำให้มีสาวๆ มารายล้อมไม่หยุดหย่อน ฉลาด…ทำให้เขาจัดการเรื่องได้ไวมากกว่าคนอื่นๆ

“… ”

ทำไมถึงมีคนเฮงซวยแบบนี้อยู่นะ?

เธอขี้เกียจเกินไปที่จะให้ความสนใจกับชายที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เหยียนสือเซี่ยหันไปมองตำรวจข้างๆ “คุณตำรวจ เนื่องจากนักข่าวคนนี้บอกว่ามีหลักฐานว่าฉันทำกล้องตกดังนั้นต้องมีหลักฐานเพียงพอว่าฉันเป็นคนลงมือ ตราบใดที่ได้รับหลักฐานที่สอดคล้องกันฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เขาเพิ่งพูดถึงได้”

เดิมทีตำรวจที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า กำลังชื่นชมหญิงสาวกับคำพูดเมื่อครู่ เมื่อได้ฟังแล้วก็ต้องอึ้ง

“แต่ถ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานการทำร้ายได้ ฉันจะฟ้องนักข่าวด้วยข้อหาหมิ่นประมาทและสร้างเรื่องเท็จเพื่อใส่ร้ายผู้อื่น หากสถานการณ์ร้ายแรงจะถูกตัดสินให้จำคุกตามระยะเวลาไม่เกินสามปี การคุมขังการเฝ้าระวังทางอาญาหรือการลิดรอนสิทธิทางการเมือง ”

“ไหนจะประโยคขู่กรรโชกอีก ฉันยังต้องพูดอะไรอีกไหม”

หลังจากศึกษากฎหมายมาหลายปี หากเธอถูกแบล็กเมล์ในวันนี้ พรุ่งนี้เธอคงจะต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วล่ะ

“… ฉัน … ฉันต้องการแค่เงินชดเชยค่ากล้องอย่างเดียว”

นักข่าวชายถอยห่าง เขาไม่อยากติดคุก

ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากการให้ปากคำ เหยียนสือเซี่ยก็ออกมาจากสถานีตำรวจตามด้วยถังอี้

“ไม่เสียแรงที่เป็นถึงทนายคนสวยที่เยาว์วัยที่สุดในเมืองซั่นเป่ยจริงๆ ”

ดวงตาดอกท้อยิ้มสดใสเป็นพิเศษ ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากหญิงสาวทั่วไปที่เขาเคยพบเจอ จึงทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้น

“คุณว่างมากใช่ไหม”

เขาหันหน้าไปมองชายที่อยู่ข้างหลังอแม้ว่าวันนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่เมื่อคิดว่าเกือบจะตกหลุมพรางของเขา ก็เลยรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

“คุณไม่รู้เหรอว่าผู้ชายรวย หล่อ ฉลาดอย่างฉันมักมีเวลาว่างเสมอ”

ถังอี้กางมือออกและบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เงิน…ไม่ว่าจะวางไว้ที่ไหนก็จะงอกเงย หล่อ…ก็จะทำให้มีสาวๆ มารายล้อมไม่หยุดหย่อน ฉลาด…ทำให้เขาจัดการเรื่องได้ไวมากกว่าคนอื่นๆ

“… ”

ทำไมถึงมีคนเฮงซวยแบบนี้อยู่นะ?

เมื่อจินตนาการถึงภาพนั้น เธอแทบรอไม่ไหวที่จะส่งชายตรงหน้าเข้าคุกทันที

“ฟ้องฉันเหรอ? ฉันไม่ใช่นักข่าวไร้ประโยชน์หรือทนายของคุณ ฉันไม่กลัว”

ถังอี้ยิ่งนิ่ง ดวงตาที่ยิ้มแย้มของเขาดูเหมือนนักล่าที่ออกล่า มองดูเหยื่อที่ดิ้นรนและโกรธแล้วรอให้มันสงบลงอย่างเชื่อฟัง

“… ”

เหยียนสือเซี่ยโกรธมาก แต่สิ่งที่เขาพูดคือความจริงแม้ว่าเธอจะดำเนินคดี แต่เขาก็สามารถหาวิธีแก้ตัวจากอาชญากรรมได้ นี่ไม่ใช่การแข่งขันทางกฎหมาย แต่เป็นการแข่งขันกันของอำนาจทางการเงิน

“นายต้องการอะไร” ความไม่พอใจในตอนนี้ยังคงอยู่แต่มันเผยให้เห็นถึงความไม่สามารถทำอะไรได้จากการถูกบีบบังคับ

“เป็นแฟนฉันนะ”

ถังอี้ชี้นิ้วไปที่ตัวเองทันทีหลังจากที่ยิ้มมากขึ้นเล็กน้อย

“ไสหัวไป! ”

ในฐานะทนายความเธอคิดเสมอว่าการสบถเป็นการแสดงที่โง่ที่สุด แต่ตอนนี้เธอไม่อยากพูดอะไรแค่อยากพูดหยาบ

“เอาล่ะ งั้นฉันจะไปพร้อมรูปของคุณละกัน ไปถึงไหนฉันไม่รับประกันนะ”

ด้วยรอยยิ้มที่สดใสและน่าหลงใหลพร้อมกับการคุกคามอันชั่วร้าย เธอรู้สึกว่าปอดของเธอกำลังจะระเบิด “จะให้ฉันเป็นแฟนนายเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้”

“ฉันยังพูดไม่จบ แฟนของฉันน่ะไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะ ฉันเห็นว่าคุณเป็นคนคุ้นเคยก็เลยให้โอกาส หนึ่งร้อยวัน มาเป็นแฟนฉันหนึ่งร้อยวัน หลังจากครบแล้วจะคืนโทรศัพท์ให้คุณ ฉันสัญญาว่าจะไม่เปิดรูปในนี้ดูอีกเลย และลบในสมองอัตโนมัติ ”

เธอขี้เกียจเกินไปที่จะให้ความสนใจกับชายที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เหยียนสือเซี่ยหันไปมองตำรวจข้างๆ “คุณตำรวจ เนื่องจากนักข่าวคนนี้บอกว่ามีหลักฐานว่าฉันทำกล้องตกดังนั้นต้องมีหลักฐานเพียงพอว่าฉันเป็นคนลงมือ ตราบใดที่ได้รับหลักฐานที่สอดคล้องกันฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เขาเพิ่งพูดถึงได้”

เดิมทีตำรวจที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า กำลังชื่นชมหญิงสาวกับคำพูดเมื่อครู่ เมื่อได้ฟังแล้วก็ต้องอึ้ง

“แต่ถ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานการทำร้ายได้ ฉันจะฟ้องนักข่าวด้วยข้อหาหมิ่นประมาทและสร้างเรื่องเท็จเพื่อใส่ร้ายผู้อื่น หากสถานการณ์ร้ายแรงจะถูกตัดสินให้จำคุกตามระยะเวลาไม่เกินสามปี การคุมขังการเฝ้าระวังทางอาญาหรือการลิดรอนสิทธิทางการเมือง ”

“ไหนจะประโยคขู่กรรโชกอีก ฉันยังต้องพูดอะไรอีกไหม”

หลังจากศึกษากฎหมายมาหลายปี หากเธอถูกแบล็กเมล์ในวันนี้ พรุ่งนี้เธอคงจะต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วล่ะ

“… ฉัน … ฉันต้องการแค่เงินชดเชยค่ากล้องอย่างเดียว”

นักข่าวชายถอยห่าง เขาไม่อยากติดคุก

ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากการให้ปากคำ เหยียนสือเซี่ยก็ออกมาจากสถานีตำรวจตามด้วยถังอี้

“ไม่เสียแรงที่เป็นถึงทนายคนสวยที่เยาว์วัยที่สุดในเมืองซั่นเป่ยจริงๆ ”

ดวงตาดอกท้อยิ้มสดใสเป็นพิเศษ ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากหญิงสาวทั่วไปที่เขาเคยพบเจอ จึงทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้น

“คุณว่างมากใช่ไหม”

เขาหันหน้าไปมองชายที่อยู่ข้างหลังอแม้ว่าวันนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่เมื่อคิดว่าเกือบจะตกหลุมพรางของเขา ก็เลยรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

“คุณไม่รู้เหรอว่าผู้ชายรวย หล่อ ฉลาดอย่างฉันมักมีเวลาว่างเสมอ”

ถังอี้กางมือออกและบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เงิน…ไม่ว่าจะวางไว้ที่ไหนก็จะงอกเงย หล่อ…ก็จะทำให้มีสาวๆ มารายล้อมไม่หยุดหย่อน ฉลาด…ทำให้เขาจัดการเรื่องได้ไวมากกว่าคนอื่นๆ

“… ”

ทำไมถึงมีคนเฮงซวยแบบนี้อยู่นะ?

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset