ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 3 เจ็ดปีให้หลัง

เฉินเป่ยชวนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เขาหยุดเดิน บอดี้การ์ดสองนายที่เดินตามเขามาก็หยุดเดินเช่นกัน มั่วเชียนอดไม่ได้ที่จะกระตุกปาก แต่ไม่ได้โต้แย้งอันใด

หลินเฟยเอ๋อร์ผู้นี้ช่างใจกล้าเสียจริง บอสของพวกเขาพาเธอมาคุยเรื่องสัญญากันเพียงเท่านั้น เธอกลับได้ใจคิดอยากมีสถานะอีกหรือ?

เฉินเป่ยชวนหันไปมองหลินเฟยเอ๋อร์ และถามอย่างเฉยเมยออกไปว่า “พวกเรามีความสัมพันธ์แบบไหนกันหรือ?”

“……” หลินเฟยเอ๋อร์บื้อใบ้ไปชั่วขณะ ไร้คำพูดจะตอบ จากนั้นเธอก็หัวเราะเบาๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เป่ยชวน”

“คำพูดแบบนี้ ผมไม่อยากได้ยินอีกเป็นครั้งที่สองครับ”

มุมปากเขาโค้งเป็นวงพระจันทร์ที่แสนเย็นชา จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาแกะมือของหลินเฟยเอ๋อร์ที่กำลังคล้องแขนเขาอยู่ออกไป ในขณะเดียวกันก็สาวเท้าเดินห่างออกไป

“เป่ยชวน!” หลินเฟยเอ๋อร์ตะโกนอย่างไม่ยินยอมออกมา แล้วรีบเดินตามไป

ในตอนที่เฉินเป่ยชวนกำลังเดินจากไปอย่างไม่แยแสอยู่นั้น เฉียวจิ่งเหยียนที่ถูกเสียงตะโกนดึงความสนใจไปก่อนหน้าทันได้เห็นใบหน้าเรียวแหลมดั่งมีดเหลา และโครงหน้าอันคมสันอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีใบหน้าคล้ายกับตัวเขาในกระจกที่ส่องอยู่ทุกวัน

ดวงตาเขาเหมือนจะสว่างขึ้น จากนั้นส้อมในมือก็ตกลงไปกับพื้นดัง ‘แกร๊ง’

“หม่ามี๊! คุณอาคนนั้นหน้าเหมือนกับผมเลยครับ!” เฉียวจิ่งเหยียนตัวน้อยพูดเสียงดังระดับเดซิเบล

เมื่อนั้นน้ำเสียงที่น่ารัก บวกกับใบหน้าหล่อเหลาของเด็กน้อยก็ดึงดูดความสนใจของคนเป็นจำนวนมาก

รวมถึงเฉินเป่ยชวน

บริกรหนุ่มกำลังแหวกม่านให้เขาก้าวขึ้นบันได แต่พอได้ยินเสียงของเด็กน้อย เขาจึงชะลอการเดินให้ช้าลง จากนั้นก็หันกลับไปมอง

สายตาของเขากวาดมองไปทั่วใบหน้าของเฉียวจิ่งเหยียน ครั้นแล้วสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ร่างของหญิงสาวผอมบางที่กำลังนั่งตัวตรงอยู่ด้านข้าง

“ใครหรือ?” เฉียวชูเฉี่ยนมึนงงเล็กน้อย

“เขา!” เฉียวจิ่งเหยียนตัวน้อยส่งเสียงเล็กๆ แล้วชี้ไปทิศทางหนึ่ง

เฉียวชูเฉี่ยนมองตามนิ้วที่เฉียวจิ่งเหยียนชี้ไป พอเธอเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจน กลับเพิ่มแรงในการจับมีดและส้อมให้มากขึ้น

เวลานี้ใบหน้าอันสวยสดงดงามของเธอก็ซีดลง

“เฉิน เป่ย ชวน?” เฉียวชูเฉี่ยนเอ่ยออกมาทีละคำ ชื่อที่เธอเก็บเงียบเอาไว้ในใจมาตลอดเจ็ดปี

และในวินาทีนี้ เธอรู้สึกราวกับว่ารอยแผลตกสะเก็ดที่หัวใจได้ฉีดขาดจนเจ็บปวดอีกครั้ง

เมื่อเจอเธอ แน่ใจว่าเป็นเธอ ใบหน้าของเฉินเป่ยชวนดูราวกับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

เขายืนอยู่ตรงนั้น นัยน์ตาเขาสีเข้ม สีริมฝีปากซีด เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแบบเรียบง่ายคลุมทับด้วยสูทสีดำ ยังทรงเสน่ห์ตามแบบฉบับของคนระดับพระกาฬแห่งวงการธุรกิจที่ชวนให้ผู้คนตกตะลึงไม่ต่างจากเดิม

แต่หากจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเพียงหนึ่งเดียวเห็นจะเป็นจังหวะที่ลู่ฉีหันหน้ามา

ชายหนุ่มทั้งสองสบตากันผ่านช่องว่างของอากาศ

เขาค่อยๆ บีบนิ้วมือที่จับซิการ์เอาไว้ให้แน่น จากนั้นก็ดับไฟซิการ์ด้วยฝ่ามือ

เหอะ หลายปีมานี้เธอยังคบกับคนๆ นี้อีกหรือ?

แล้วยังมาแบบหนึ่งครอบครัวสามคนที่แลดูมีความสุขและเต็มอกเต็มใจอีกด้วย

เขาเม้มริมฝีปากบางแน่น รอยยิ้มของเฉินเป่ยชวนเย็นชาลงเล็กน้อย เขาย่อมสังเกตเห็นเจ้าถุงนมน้อยเฉียวจิ่งเหยียน แต่เขาไม่คิดจะสนใจเด็กที่เกิดจากผู้ชายอื่นแม้แต่น้อย

“ไม่ได้พบกันเสียนาน……” เฉียวชูเฉี่ยนกัดริมฝีปาก

เธอไม่คาดคิดจริงๆ เลยว่าวันแรกที่กลับประเทศมาจะได้เจอกับอดีตสามี——เฉิน เป่ย ชวน

“ประธานเฉิน ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน ผมชื่อลู่ฉี จากกลุ่มบริษัทหวาเม่าครับ” ลู่ฉีดึงเก้าอี้ แล้วยื่นมือออกไป โดยไม่รอให้เฉียวชูเฉี่ยนได้เอ่ยปากห้าม

เดิมทีเธอตั้งใจจะยับยั้งแต่เสียงกลับติดอยู่ที่ลำคอ ทำให้เธอร้อนรนอยู่ในใจ

เฉินเป่ยชวนเคลื่อนสายตาจากใบหน้าของหญิงสาวจากนั้นก็มองไปที่นิ้วทั้งห้าของลู่ฉีที่ยื่นมาให้ เขาส่งยิ้มอันแสนจะเย็นชากลับไป

“เหมือนผมจะไม่คุ้นเคยกับคุณนะครับ” เขายกริมฝีปากให้โค้งขึ้นเล็กน้อย มือยังคงวางอยู่ในกระเป๋ากางเกง ไม่คิดที่จะยื่นออกมา

ทำให้แขนของลู่ฉีค้างอยู่กลางอากาศ บรรยากาศแลดูเก้อเขินไปชั่วขณะ

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset