ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 55 ฆ่าตัวประกัน

“ฉันรู้แล้ว”

เฉินเป่ยชวนหรี่ตาลง พวกมันมุ่งไปทางใต้จริงๆ ด้วย

เขาเพิ่มความเร็วรถขึ้นอีก ถังอี้มองระบบนำทางบนมือถือแล้วพูดว่า “ฉันบอกลูกน้องตัวเองเรียบร้อยแล้ว อีกร้อยกิโลเมตรข้างหน้าจะมีจุดให้บริการ มีของที่จำเป็นสำหรับพวกเราอยู่”

“เตรียมให้มากอีกหน่อย”

เฉินเป่ยชวนมีสีหน้าเป็นกังวล เขารู้ว่าของที่ถังอี้พูดถึงคืออะไร เขามีบางอย่างที่ทำให้ไม่อาจจะสงบใจลงได้

เมื่อนึกไปถึงผู้หญิงคนนั้น เขาก็ยิ่งร้อนใจ ไม่รู้ป่านนี้เธอจะหวาดกลัวขนาดไหนแล้ว ดีที่ยังมีเหยียนสือเซี่ยคนนั้นอยู่ด้วย

“ในเมื่อยังลืมเธอไม่ลงแบบนี้ จบเรื่องนี้แล้วก็เริ่มต้นใหม่กับเธอสิ”

ถังอี้อดที่จะพูดมากไม่ได้ เฉินเป่ยชวนอะไรๆ ก็ดีไปหมด แต่พอกับเฉียวชูเฉี่ยนกลับชอบตั้งแง่ใส่กัน

“หุบปากไปเลย นายควรสวดภาวนาให้เธอแคล้วคลาดปลอดภัยเอาไว้จะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นอย่าได้คิดจะใช้ชีวิตอยู่ในซั่นเป่ยอีกเลย”

“พี่น้องเปรียบประดุจมือและเท้า ผู้หญิงเปรียบประดุจเครื่องแต่งกาย……”

เขาไม่กล้าพูดต่อจนจบ พอเห็นสายตาเย็นชาของคนข้างๆ สาดเข้ามาก็รีบปิดปากในทันใด

ต้องช่วยเธอออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาได้อดใช้ชีวิตอยู่ในซั่นเป่ยแล้วจริงๆ

เฉียวชูเฉี่ยนยังอยู่ในรถตู้ เมื่อเหลือบมองถุงแป้งที่เหลืออยู่เพียงครึ่ง เธอก็เป็นกังวลมากขึ้น จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเข้าใจสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเธอเลย

หากยังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป เธอกับสือเซี่ยคงไม่รอดแล้วจริงๆ

ขณะที่กำลังร้อนใจอยู่นั้น ไม่รู้สมองเธอเป็นอะไร ถึงได้เกิดใบหน้าของเฉินเป่ยชวนขึ้นมา แล้วยังมีความรู้สึกที่เธอพยายามเก็บเอาไว้สุดฤทธิ์นั่นอีก

เหยียนสือเซี่ยที่อยู่ข้างๆ เห็นเพื่อนตาแดงๆ จึงรีบเอาตัวไปสะกิดเพื่อนเธอทันที ดูท่าคนพวกนี้จะต้องไปพบกับบอสของพวกมันแน่ ตราบใดที่รถยังวิ่งอยู่ พวกเธอจะยังไม่เป็นอันตราย แต่หากรถหยุดลงเมื่อใด พวกเธอคงไม่รอด

เธอพยายามทำมือให้เล็กๆ แล้วลองขยับไปขยับมาเพื่อให้หลุดจากเชือก บางทีพวกเธออาจยังพอมีโอกาสรอดก่อนที่รถจะหยุด

เฉียวชูเฉี่ยนรีบเก็บอารมณ์ที่แตกกระเจิง จากนั้นก็โรยผงแป้งต่อไป ได้แต่หวังว่าจะมีคนเห็นพิรุธในรถครั้งนี้แล้วเข้าช่วยเหลือพวกเธอ

“ลูกพี่ ด้านหน้าเหมือนรถจะติดนะครับ”

ลูกน้องที่กำลังขับรถอยู่พูดอย่างเป็นกังวลพร้อมบีบแตรไปด้วย

ชายที่มีรอยบากสอดส่องไปทางกระโปรงรถทันที สายตามองออกไปที่ด้านหน้า จากที่เคร่งเครียดอยู่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงมาหน่อย “ไม่ใช่ด่านตรวจของพวกตำรวจ ข้างหน้ามีอุบัติเหตุทางจราจร อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้”

“ครับ”

ลูกน้องพยักหน้า ในใจหวังให้อุบัติเหตุทางจราจรได้รับการไกล่เกลี่ยโดยเร็วที่สุด ขอเพียงพวกเขาได้พบบอสก็ปลอดภัยแล้ว

เฉียวชูเฉี่ยนสบตาเหยียนสือเซี่ย ราวกับได้เจอความหวังใหม่ พวกเธอรีบปฏิบัติการโรยแป้งต่อไปอย่างแข็งขัน

รถมายบัคของเฉินเป่ยชวนวิ่งทำความเร็วระดับสูงสุด มันวิ่งแซงหลายคันรถจนนับไม่หวาดไม่ไหว ด้วยเทคนิคในการขับรถที่สมบูรณ์แบบบวกกับสมรรถนะของรถที่มีมากพอ จึงทิ้งท้ายรถคันที่ขับตามหลังมาอย่างไกลลิบ

ระบบนำทางภายในรถแจ้งเตือนอัตโนมัติว่า “มีการชะลอตัวของรถคันที่อยู่ด้านหน้าในระยะสิบกิโลเมตร”

“ไม่จริงน่า รถติดหรือนี่?” ถังอี้อดไม่ได้ที่จะโอดครวญออกมา ตลอดทางสายตาเขาแทบจะเร็วกว่าเครื่องสแกนเสียอีก เขามองหาแต่รถตู้ ซึ่งถ้าหากวิ่งในระดับความเร็วแบบนี้ก็อาจจะวิ่งตามรถคันนั้นได้ แต่เวลานี้ดันมารถติดเสียได้……

ขอให้ไอ้รถตู้คันนั้นติดอยู่ในนี้ด้วยแล้วกัน

“ตำรวจมาถึงไหนแล้ว?”

เฉินเป่ยชวนขมวดคิ้ว แล้วขยับพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว เพื่อให้รถขยับเข้าเลนกู้ภัยฉุกเฉิน

“ราวๆ สามสิบกิโลเมตรจากด้านหลังพวกเรา”

การทำงานของตำรวจในวันนี้นับว่าเร็วกว่าปกติแล้ว

“ให้พวกเขาติดต่อตำรวจจราจรเพื่อเร่งเคลียร์สถานการณ์รถติด แล้วทางออกด้านหน้าได้จัดเตรียมหน่วยลาดตระเวนไว้แล้วหรือยัง?”

ไม่ต้องห่วง จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว”

ถังอี้ไม่กล้าทำเป็นเล่นเช่นกัน วันนี้ดูท่าพวกเขาคงได้เป็นฮีโร่ปราบปรามยาเสพติดจริงๆ เสียแล้ว

เมื่อได้รับผลลัพธ์ตามที่ตัวเองต้องการแล้ว เขาถึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ลงมาได้ สายตาจดจ้องไปยังการเดินรถที่ค่อยๆ เขยิบไปทีละน้อยๆ ทำให้เขาเป็นกังวลมากขึ้น

ขณะที่เขาเตรียมจะบีบแตรรถเพื่อให้รถคันข้างหน้าหลบให้ จู่ๆ ก็สังเกตเห็นรอยขาวๆ เหมือนมีคนเอาแป้งมาโรยอยู่บนหน้าถนน

จู่ๆ ก็แวบเข้ามาในความคิด เขารีบชะลอความเร็วลง อย่างที่คิดเอาไว้มีร่องรอยผงแป้งสีขาวกลุ่มหนึ่งอยู่ห่างจากหน้าถนนช่วงหนึ่ง คิ้วเขาขมวดขึ้นในทันใด “พวกมันน่าจะวิ่งอยู่บนทางด่วนนี่ และอยู่ไม่ไกลจากพวกเรามากแล้ว!”

ถังอี้จู่ๆ ก็พูดออกมาด้วยประหลาดใจ “นายรู้ได้อย่างไรกัน?”

หรือเขากับเฉียวชูเฉี่ยนจะสื่อกระแสจิตถึงกันได้?

“มองไปที่หน้าถนนตรงหน้าสิ”

เฉินเป่ยชวนชี้นิ้วออกไป ผงแป้งพวกนี้หากปล่อยไว้นานๆ มันจะปลิวไปไหนก็ได้ แต่ผงแป้งที่อยู่ตรงหน้าสามารถมองเห็นร่องรอยของจุดเริ่มต้นที่ปลิวออกมาได้อย่างชัดเจน แสดงว่าเพิ่งจะโรยออกมาไม่นานนี่เอง

“นายยังมองออกอีกหรือนี่?” ถังอี้แทบอยากจะก้มกราบด้วยความเลื่อมใส บนทางด่วนนี้จะมีรถบรรทุกสินค้าประเภทไหนก็หาได้ พื้นถนนจะมีของอะไรตกอยู่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ เฉินเป่ยชวนนายคงไม่ได้คิดมากไปเองสินะ

“ฉันเชื่อในลางสังหรณ์ของฉัน”

เขาพูดอย่างเยือกเย็นออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง เขาขับมายบัคซิกแซกไปมาตามที่รถจะสามารถแซงได้ เพื่อให้รถขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว

เฉียวชูเฉี่ยน เธอจะต้องมีชีวิตรอดมาให้ได้!

เฉียวชูเฉี่ยนแทบอยากจะให้รถติดยาวเป็นหางมังกร ชนิดจะเดินก็ยังยากลำบาก แต่ประหนึ่งพระเจ้าจะเป็นอริกับเธอ เพราะสถานการณ์รถติดตรงบริเวณด้านหน้าค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ จนสามารถเร่งความเร็วรถได้บ้างแล้ว

“ลูกพี่ ฉลุยแล้วครับ”

ลูกน้องตะโกนออกมาด้วยอาการตื่นเต้น ราวกับมองเห็นประตูแห่งการหลบหนีได้เปิดกว้างรอรับพวกเขาอยู่เสียอย่างนั้น

“หากเราลงทางด่วนข้างหน้านี่ไป ก็จะถึงจุดที่คนของลูกพี่จะมารับพวกเราแล้ว”

ชายที่มีรอยบากชี้ไปที่ป้ายบอกเครื่องหมายที่อยู่ด้านข้าง สีหน้าของเฉียวชูเฉี่ยนและเหยียนสือเซี่ยซีดขาวกันถ้วนหน้า อีกเพียงไม่ถึงสามสิบกิโลเมตร หากรถลงจากทางด่วนก็จะถึงจุดนัดหมาย เมื่อนั้นหายนะก็จะมาเยือนพวกเธอสองคนแล้ว

ทำอย่างไรดี? หรือจะต้องมาตายในแบบนี้จริงๆ หรือนี่?

เหยียนสือเซี่ยขยับข้อมือจนเลือดออกแล้ว แต่ก็ยังไม่คิดจะหยุดพัก หวังให้ตำรวจสามารถยืนยันทิศทางของพวกมัน และจัดเตรียมกำลังตำรวจดักไว้ตรงทางลงทางด่วน ไม่แน่พวกเธออาจยังพอมีโอกาสที่จะหลบหนี

เฉียวชูเฉี่ยนกำแป้งให้มากขึ้นอีก ถึงอย่างไรก็จะถึงจุดนัดหมายอยู่แล้ว เธอไม่ต้องกลัวว่าจะมีผงแป้งไม่เพียงพออีกต่อไป

เธอไม่เชื่อว่าผงแป้งกำใหญ่ๆ ที่โปยออกไป รถคันข้างหลังจะตาบอดจนมองไม่เห็นไปซะหมดหรอก

ระยะห่างสามสิบกิโลเมตรใช้เวลาเพียงยี่สิบกว่านาทีเท่านั้น พอเธอโปรยผงแป้งออกไป จู่ๆ รถก็หักศอกกะทันหัน เธอไม่ทันได้ระวังความปลอดภัยของตัวเอง จึงตกลงไปตามแรงเหวี่ยงของรถ

เฉียวชูเฉี่ยนเจ็บบนศีรษะ เหมือนสมองจะถูกกระทบกระเทือนอย่างไรอย่างนั้น แต่พอเห็นจุดเก็บค่าทางด่วนที่อยู่ในระยะสายตา สมองที่กระทบกระเทือนของเธอก็กลับคืนสติในทันที

แย่ล่ะ ถึงทางลงแล้ว อีกไม่นานพ่อค้ายาพวกนี้ก็จะได้เจอกับหัวโจกแล้ว

สายตาของเหยียนสือเซี่ยเริ่มไม่สุขแล้วเช่นกัน เธอออกแรงเต็มที่ จนหนังบนมือลอกออกมาหนึ่งชั้นแล้ว ในที่สุดมือที่เปื้อนเลือดก็หลุดออกจากเชือกได้เสียที

เฉียวชูเฉี่ยนแสดงความดีใจออกมาทางสายตา แต่แล้วก็รีบเก็บอาการ เธอโน้มตัวไปหาเหยียนสือเซี่ยโดยเร็ว

“ขับช้าๆ หน่อยสิ กลัวคนอื่นไม่รู้หรือว่าเรากำลังหลบหนี!”

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset