ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 57 เริ่มปฏิบัติการกู้ภัยในทันที

รถถูกสตาร์ทเครื่องทันที จากนั้นก็พุ่งเข้าทางหลวงระดับจังหวัดที่มีผู้คนหนาแน่น

ทันทีหลังจากนั้นรถยนต์มายบัคของเฉินเป่ยชวนก็วิ่งเข้าช่องเก็บเงิน สายตาอึมครึมมองไปยังผู้คนที่นอนอยู่บนพื้นและหยดเลือดสดๆ ตามพื้น เขาก็หรี่ตาลงอย่างอันตราย ตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว

ถังอี้เองก็ตกตะลึงไปกับสถานการณ์ตรงหน้า มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย แต่ไม่มีร่างของเฉียวชูเฉี่ยนและเหยียนสือเซี่ย ในใจอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาว่า แย่แล้ว

“ตัวประกันล่ะ!”

เฉินเป่ยชวนกระโดดลงจากรถด้วยใบหน้าที่เย็นชา แววตาเขาเกรี้ยวโกรธราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ต่างตกตะลึงไปกับความหนาวเหน็บนี้อยู่นานกว่าจะรู้สึกตัว

“ถูกพวกค้ายาพาตัวไปแล้วครับ”

“เริ่มปฏิบัติการกู้ภัยในทันที และจะต้องรับรองความปลอดภัยของพวกเขาด้วย!”

ยามเขาเอ่ยปากขึ้นมา นอกจากความโกรธแล้วยังมีกลิ่นอายสังหารที่เข้มข้นมาก หาก

เฉียวชูเฉี่ยนเกิดเป็นอะไรขึ้นมา พวกมันก็อย่าได้คิดจะใช้ชีวิตอยู่ในซั่นเป่ยอีกเลย

“แต่ประธานเฉินครับ ทางเบื้องบนได้แจ้งลงมาแล้วว่าแก๊งยาเสพติดกลุ่มนี้เกี่ยวพันกับคดีใหญ่ๆ ทางเบื้องบนได้ส่งตำรวจอาชญากรรมที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลางออกไปแล้วครับ……”

เวลานี้พวกเขายังพอจะคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันได้ แต่หากเป็นตำรวจอาชญากรรมด้านปราบปรามยาเสพติดลงเองก็ไม่อาจรับรองได้แล้ว

“ไม่ว่าจะส่งใครมา ก็อย่าได้คิดจะทำร้ายแม้เพียงเส้นผมของเธอเด็ดขาด!”

หางตาของเฉินเป่ยชวนยกขึ้น และฉายแววตาที่เต็มไปด้วยความเหน็บหนาวออกมา ใครทำร้ายเธอแม้เพียงเส้นผม ก็ต้องเอาชีวิตมาแลก!

“เป่ยชวน เธอจะต้องปลอดภัยแน่นอนเพื่อน”

เป็นครั้งแรกที่ถังอี้เห็นเขาโกรธมากขนาดนี้ ยามพูดจึงลดเสียงลดมาหน่อย หวังจะช่วยคลายความโกรธในใจของพี่น้องได้ แต่เฉินเป่ยชวนกลับเดินขึ้นรถไป

“นายคนเดียวไม่ไหวหรอก ไปด้วยกัน”

ถังอี้เข้าใจความหมายของเขาในทันที เขารีบเดินตามไปขึ้นรถ จากนั้นรถมายบัคก็พุ่งทะยานผ่านช่องเก็บเงิน มุ่งหน้าเข้าทางด่วนระดับจังหวัดที่มีการจราจรหนาแน่น

เฉินเป่ยชวนกดโทรศัพท์ที่อยู่ด้านข้าง “ช่วยตรวจสอบให้หน่อยว่าตำรวจอาชญากรรมด้านปราบปรามยาเสพติดที่ส่งมาเป็นใครดูแล ไม่ว่าจะเป็นทางระดับจังหวัดหรือส่วนกลางส่งมา จักต้องรับรองความปลอดภัยของเฉียวชูเฉี่ยนให้ด้วย”

……

ชายที่มีรอยบากเหลือบมองคนที่มาเจอพวกมันที่กำลังนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ แววตาที่เหี้ยมโหดก็เปลี่ยนเป็นสุภาพในทันใด “พี่เฉิง ผมได้เอาสินค้าของบอสกดลงชักโครกไปหมดแล้ว ไม่มีหลักฐานอะไรแน่ครับ แต่พี่น้องสองคนนั่นของผม……”

หากตายไปก็จบ แต่หากยังมีชีวิตอยู่ก็จะโดนพวกตำรวจจับไป ซึ่งถ้าหากพวกมันเปิดปากพูดออกไปล่ะก็ การค้าในภายภาคหน้าก็คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว เกรงว่าจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปตลอดชีวิต

“เมื่อครู่นี้นายน่าจะยิงไอ้พวกไร้ประโยชน์นั่นให้ตายไปเสีย”

ชายผู้ถูกเรียกว่าพี่เฉิงจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา วงการนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องมือเท้าเร็ว มาตอนนี้ดันทิ้งเจ้าหายนะเอาไว้สองนาย เรื่องราวชักจะยุ่งยากขึ้นเสียแล้ว

“พี่เฉิง พวกเราสามารถเอาผู้หญิงสองคนนี้ไปแลกตัวพวกมันกลับมาได้นะครับ”

ชายที่มีรอยบากรู้ตัวว่าตัวเองจัดการเรื่องราวไม่เรียบร้อย จึงคิดจะเอาความดีความชอบมาลบล้างความผิดทันที

เฉียวชูเฉี่ยนปวดเอวเป็นอย่างมาก เธอเอามือไปลูบๆ ก็สัมผัสได้ถึงคราบเลือดเหนียวข้นที่ด้านหลัง ถึงว่าทำไมเธอเจ็บได้ขนาดนี้

การสูญเสียเลือดและความเจ็บปวดทำให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเบลอมากขึ้น เธอจึงกัดลิ้นตัวเองเพื่อเรียกสติคืนมา

กลุ่มค้ายาพวกนี้คิดจะเอาเธอและเหยียนสือเซี่ยไปแลกกับลูกน้องที่โดนยิงบาดเจ็บหรือ? นี่เท่ากับพวกเธอจะปลอดภัยไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งใช่ไหม?

พี่เฉิงหันมามองคนสองคนที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยสายตาที่ครุ่นคิด จากนั้นก็หันมาพูดกับชายที่มีรอยบากด้วยสีหน้ามืดมน “นายก็คอยภาวนาให้ไอ้ตำรวจอาชญากรรมพวกนั้นเห็นคุณค่าในชีวิตพวกมันแล้วกัน”

เฉียวชูเฉี่ยนได้ยินสีหน้าก็ซีดลงกว่าเดิม คำพูดนี้มันหมายความอย่างไร ตำรวจประชาชนรับใช้ประชาชน หรือพวกเขาไม่สนว่าเธอและสือเซี่ยจะเป็นอันตรายเลยหรือ?

แววตาเธอค้นหาอะไรบางอย่างไม่ต่างกับสือเซี่ยที่อยู่ข้างๆ แต่ใบหน้าของเธอจะดูเคร่งขรึมและพินิจพิจารณามากกว่า เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“บอสหาที่กบดานได้แล้ว เดี๋ยวจะมีเฮลิคอปเตอร์มารอรับอยู่ด้านหน้า เวลานี้พวกเราเตรียมหาที่ปลอดภัยเพื่อเฝ้ารอเวลาแลกเปลี่ยนตัวประกันกันก่อน”

พี่เฉิงชี้ไปยังพื้นที่ว่างด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกลนัก ที่นี่คนเยอะเกินไป มีกล้องอยู่รอบด้าน ไม่ง่ายที่จะหลบซ่อนตัว

“จัดว่าบอสรอบคอบมากครับ”

ชายที่มีรอยบากพูดจาประสบสอพลอออกไปหนึ่งประโยค เพียงไม่นานก็เอารถมาจอดที่ข้างถนน เฉียวชูเฉี่ยนและเหยียนสือเซี่ยถูกลากลงจากรถอย่างป่าเถื่อน เฮลิคอปเตอร์ที่ลอยวนเวียนอยู่กลางอากาศค่อยๆ ลงจอด

“เข้าไปซะ!”

เฉียวชูเฉี่ยนถูกชายที่เธอเคยยิงใส่เตะจากทางด้านหลัง อาการเจ็บปวดตรงช่วงเอวทำให้เธอหมดสติไป

ชายที่มีรอยบากเห็นสีหน้าพี่เฉิงไม่พอใจก็รีบเอามือตบกะโหลกลูกน้องทันที “นังผู้หญิงสองคนนี้ยังมีประโยชน์อยู่ อย่าทำให้ลูกพี่กูอารมณ์เสียดิว่ะ”

หลังจากที่พวกเธอถูกผลักขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป ด้วยแรงสั่นสะเทือนขณะบินขึ้นไปจึงทำให้เธอทนไม่ไหวจนต้องสลบไปอีกรอบ

“เฉี่ยนเฉี่ยน!”

เหยียนสือเซี่ยส่งเสียงออกมาด้วยความร้อนใจ จู่ๆ เธอก็เจ็บที่คอ จากนั้นร่างของเธอก็อ่อนยวบลงไป

เฉินเป่ยชวนไล่ล่าอย่างดุเดือดไปตลอดทาง เขาจอดมายบัคไว้ที่ข้างทาง จากนั้นก็ลงมาตรวจสอบที่เบาะหลัง แต่เมื่อพบคราบเลือดตามพนักพิง เขาก็ต้องกำมืออย่างอดรนทนไม่ได้

สายตาอันน่ากลัวของเขามองขึ้นไปบนอากาศที่อยู่ไม่ไกลนัก พวกมันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปนี่เอง

“มิน่าถึงต้องส่งตำรวจอาชญากรรมจากส่วนกลางมา ดูท่าพวกมันจะเป็นแก๊งขนาดใหญ่”

ถังอี้ประเมินสถานการณ์ตรงหน้า ความวิตกกังวลบนดวงตาทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นเพียงพวกค้ายาเสพติดกลุ่มเล็กๆ ก็ยังพอว่า แต่ถ้าหากเป็นแก๊งขนาดใหญ่แล้วล่ะก็……

“ไปค้นหาสถานที่ที่มีแต่เฮลิคอปเตอร์เท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้กันเถอะ”

“เป่ยชวน เรื่องนี้ให้ทางตำรวจอาชญากรรมจัดการไปดีกว่า” เขาไม่อาจเพิกเฉยแล้วปล่อยให้พี่น้องตัวเองต้องไปเสี่ยงอันตรายได้ แม้ตัวประกันคนนั้นจะเป็นเฉียวชูเฉี่ยนก็ตาม

“ชีวิตผู้หญิงของฉัน ฉันจะไม่ยอมส่งผู้ใดไปจัดการเด็ดขาด”

เฉินเป่ยชวนเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำไมเขาจะไม่รู้วิธีการทำงานของตำรวจอาชญากรรมด้านปราบปรามยาเสพติดพวกนั้นกันล่ะ หากจำเป็นพวกเขาจะสละชีวิตตัวประกันเพื่อให้ภารกิจประสบความสำเร็จโดยไม่ลังเล

ถังอี้เห็นเขาที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก เขารักเฉียวชูเฉี่ยนอย่างแท้จริง

“ในเมื่อคิดจะเป็นฮีโร่ ก็เพิ่มฉันไปอีกคนด้วยก็แล้วกัน”

เขายิ้มออกมาอย่างองอาจผ่าเผย จากนั้นก็เริ่มสั่งลูกน้องเพื่อหาที่ซ่อนตัวที่มีแต่เฮลิคอปเตอร์เท่านั้นที่เข้าออกได้

การทำงานของตำรวจอาชญากรรมที่ส่วนกลางส่งมาเป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถล็อคพื้นที่ๆ น่าสงสัยสามแห่งได้ภายในคืนเดียว

“เครื่องเฮลิคอปเตอร์ต่างมีเครื่องส่งสัญญาณวิทยุติดอยู่ ตราบใดที่ค้นหาสัญญาณดังกล่าวก็จะหาตำแหน่งที่อยู่ของพวกมันได้อย่างรวดเร็ว

ภายในบังกะโลขนาดย่อมที่เป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราว เฉินเป่ยชวนมองสัญลักษณ์พิเศษสามจุด ซึ่งเป็นป่าทึบและเหมาะเป็นที่หลบซ่อนตัวที่สุด

“ประธานเฉิน พวกเราทราบดีว่าคุณร้อนใจในความปลอดภัยของภรรยา แต่น่าเสียดายที่จะต้องเรียนให้ท่านทราบว่า พวกเราทำการค้นหาคลื่นสัญญาณและคัดกรองจุดที่น่าสงสัยในเบื้องต้นมาได้ยี่สิบจุดแล้ว แต่เนื่องจากแก๊งนี้มีบุคลากรด้านเทคนิคอย่างเห็นได้ชัด พวกเขารู้วิธีการที่จะขัดขวางการสืบสวนคดีและได้ทำการปิดซ่อนสัญญาณเอาไว้แต่เนิ่นๆ แล้วครับ”

หลินเทียน ตำรวจอาชญากรรมที่รับผิดชอบการปฏิบัติการในครั้งนี้กล่าวอย่างจนใจออกไป แก๊งนี้ปลิ้นปล้อนและลื่นไหลมาก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงทลายซ่องโจรไปได้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว

“ดังนั้น?”

เฉินเป่ยชวนถามกลับด้วยแววตาที่แปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น

“ดังนั้นผมจึงอยากจะบอกคุณชายเฉินว่า ในขณะที่พวกเรายังไม่ทราบแหล่งซ่อนตัวที่แน่ชัดของพวกมันสามจุดที่น่าสงสัยนี้เราจำเป็นต้องกระจายกำลังคนออกไป ซึ่งพวกเราจะพยายามรักษาความปลอดภัยของตัวประกันเท่าที่เป็นไปได้เท่านั้นครับ”

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset