ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 6 แค้นที่ต้องชำระ เธอจะต้องล้างเเค้นอย่างแน่นอน

เฉียวจิ่งเหยียนสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างราบรื่น เฉียวชูเฉี่ยนดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเขา เจ้าซาลาเปาน้อยมองเธอด้วยดวงตาที่กลมบ๊อกราวกับอยากจะรู้อะไรบางอย่าง

“เหมือนที่ผมคิดถึงปาปี๊ใช่ไหมครับ?”

เฉียวชูเฉี่ยนผงะไปสักพักหนึ่ง ใจเธอสั่นเล็กน้อยยามนึกถึงชายหนุ่มที่บังเอิญเจอในร้านอาหาร

แล้วความเจ็บปวดก็ค่อยๆ แผ่ซ่านขึ้นมาทีละน้อย

คำพูดที่ขมขื่นแปรเปลี่ยนเป็นเสียงถอนใจเบาๆ ออกมา เฉียวชูเฉี่ยนยิ้มบางๆ แล้วลูบศีรษะของเจ้าซาลาเปาน้อย “เด็กดี รีบนอนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้หม่ามี๊จะพาไปเที่ยวบ้านแม่ทูลหัวเซี่ยเซี่ย”

“ครับ!” เจ้าซาลาเปาน้อยส่งเสียงครับไว้หน้าเธอเป็นอย่างมาก จากนั้นก็หลับตาอย่างว่าง่าย

หลังจากนั้นไม่นานก็ส่งเสียงกรนออกมา

เฉียวชูเฉี่ยนก้มตัวลงไปจูบกระหม่อมของเจ้าซาลาเปาน้อย “ลูกรัก แม่รักลูกจ้ะ”

……

วันรุ่งขึ้น ณ บริษัท M&R ——

“เอมี่ ฉันคงจะต้องอยู่จีนไปอีกซักพักหนึ่งนะคะ”

ขณะที่เฉียวชูเฉี่ยนกำลังคุยโทรศัพท์กับอีกฝ่ายหนึ่ง สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นว่าประตูลิฟต์กำลังจะปิด จึงรีบเอาตัวขวางไว้แล้วสอดตัวเดินเข้าไป “ขอโทษนะคะ รอด้วยค่ะ!”

เข้าลิฟต์แล้วสัญญาณโทรศัพท์ก็ถูกตัดโดยอัตโนมัติ

เฉียวชูเฉี่ยนเม้มริมฝีปากอย่างจนใจ แล้วเอาโทรศัพท์มือถือสอดเข้าไปในกระเป๋า

ด้วยความบังเอิญ เธอได้ยินเสียงที่คุ้นหูและนุ่มนวลของผู้หญิงคนหนึ่งดังอยู่ข้างหู “เป่ยชวนคะ เที่ยงนี้ฉันอยากทานฟิเลต์สเต็กของร้าน Moreca Western คุณไปทานเป็นเพื่อนหน่อยนะคะ?”

ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป “ได้ครับ”

เฉียวชูเฉี่ยนตระหนกตกใจไปทั้งตัว

เธอแอบเหลือบไปมองก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ในลิฟต์ขนาดใหญ่

เป็นหลินเฟยเอ๋อร์ในชุดกระโปรงสีทับทิม สวมใส่รองเท้าสูงเกือบสิบเซนติเมตรกำลังโอบแขนชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกัน ทั้งสองแลดูเหมาะสมกันมาก

เฉินเป่ยชวน

เฉินเป่ยชวนอีกแล้ว!

ชายหนุ่มที่ยืนเคียงข้างหลินเฟยเอ๋อร์มีใบหน้าที่แสนเย็นชา ราวกับเขาไม่เห็นเธอมาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่กลับทำให้ผู้อื่นสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง

น้ำเสียงอ่อนหวานที่เอื้อนเอ่ยผ่านลิปสติกสีแดงของหลินเฟยเอ๋อร์ดังมากระทบหูของเฉียวชูเฉี่ยน “พอทานข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้วคุณช่วยพาฉันไปส่งที่กองถ่ายหน่อยจะได้ไหมคะ?”

“มีแม่บ้านและผู้ช่วยอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ยังต้องให้ผมไปส่งอีกหรือ?” ขณะที่พูด มือใหญ่ของเฉินเป่ยชวนก็ยกไปวางอยู่บนไหล่บางของหลินเฟยเอ๋อร์ น้ำเสียงเรียบเย็นราวกับไม่ใส่ใจอะไร

หลินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างอ่อนช้อยและเขินอายนิดๆ “นั่นไม่เหมือนกันนี่คะ ฉันอยากให้คุณไปส่งนะค่ะ!”

สองคนนี้คุยกันต่อหน้าเฉียวชูเฉี่ยนอย่างไม่มียางอาย ราวกับทิ่มแทงไปที่ตาและคิ้วเฉียวชูเฉี่ยนจนเจ็บปวด เธอบีบกระเป๋าสะพายในมือให้แน่นขึ้น

เห็นๆ อยู่ว่าแต่ก่อนก็เคยชินกับท่าทีเช่นนี้ของเขา แต่ทำไมพอได้มาเห็นอีกในเจ็ดปีให้หลังถึงยังเจ็บปวดใจมากอยู่อีก?

‘ติ้ง’ แล้วลิฟต์ก็ค่อยๆ เปิดออก

เมื่อเลขาเห็นเฉินเป่ยชวนและหลินเฟยเอ๋อร์ก็ทักทายอย่างสุภาพออกไปว่า “ประธานเฉิน คุณหลิน”

จากนั้นสายตาเธอก็หันไปที่เฉียวชูเฉี่ยน “เลขาเฉียว”

“เล ขา?” ฟังแล้วหลินเฟยเอ๋อร์ก็หยุดเท้าอยู่นอกลิฟต์ เฉินเป่ยชวนก็หยุดเดินตามมา

เธอรู้สึกแปลกใจจึงหันไปมองเฉียวชูเฉี่ยน “ผู้หญิงคนนี้เป็นเลขาหรือคะ?”

เฉินเป่ยชวนจ้องไปที่ด้านข้างของเธอด้วยสีหน้าที่เย็นชาดังเดิม ใบหน้าเขาราวกับแช่แข็งเอาไว้

“ขออภัยด้วยเรื่องนี้กะทันหันไปซักหน่อย จึงไม่ทันได้รายงานต่อประธานเฉินและคุณหลินนะค่ะ”

คุณเลขากล่าวคำขอโทษ “คุณเฉียวเป็นคนที่ฝั่งนายทุนที่อเมริกาส่งตัวมา มาแทนตำแหน่งของดิฉันนะค่ะและต่อจากนี้ไปจะมารับผิดชอบงานส่วนของบริษัท MR อีกด้วยค่ะ”

“ไม่คิดว่าศัลยแพทย์อย่างคุณเฉียวจะเปลี่ยนสายงานและเข้าสู่วงการบังเทิงนะครับ” เฉินเป่ยชวนส่งสายตาที่เย็นชืดมาให้

คุณเลขาอึ้งไป

ไม่จริงน่า หญิงแกร่งมืออาชีพอันดับหนึ่งจากฝั่งเงินทุนที่บริษัทเอาแต่ยกย่องไม่หยุดหย่อนจะเคยเรียนการแพทย์มาก่อน?

เฉียวชูเฉี่ยนหัวใจเต้นแรงอย่างไม่คาดคิด

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามปรับน้ำเสียงให้เยือกเย็น “มีใครตั้งเงื่อนไขกันว่าคนทำอาชีพหนึ่งจะต้องทำไปจนแก่เฒ่าคะ? ฉันชอบงานนี้จึงเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงมีอะไรที่ไม่สมควร หรือประธานเฉินสงสัยในความสามารถของฉันกันแน่คะ?”

บรรยากาศตึงเครียดไปในพริบตา

“ลินดา จัดตำแหน่งที่นั่งของเลขาเฉียวไปอยู่ข้างห้องทำงานผม”

ทันใดนั้น เฉินเป่ยชวนก็พูดขึ้นมา “ภายในหนึ่งอาทิตย์จะต้องส่งมอบงานทั้งหมดให้กับเลขาเฉียว และประชุมในสัปดาห์หน้าให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบ”

ทันทีที่พูดจบ ขายาวๆ ของเฉินเป่ยชวนก็ก้าวเดินไปแล้ว ราวกับรังเกียจใบหน้าเธอหากจะมองไปมากกว่านี้

ลินดาหันไปยังทิศทางที่เขาเดินจากไปแล้วตอบกลับอย่างสุภาพและเคารพยิ่ง “รับทราบค่ะ ประธานเฉิน”

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset