ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 86 เต้นรำ

“พี่สะใภ้ ผมล้อเล่นน่ะ พี่ชายเป็นผู้ชายไม่ขี้หึงหรอก ไม่มีผู้ชายคนไหนในซั่นเป่ยที่จะทำให้เขาหึงได้หรอกครับ”

หลังจากที่เฉินจิ้นถงพูดจบเขาก็หันมองไปด้านข้างพลางพูดขึ้นว่า “ไม่เห็นพี่ชายเต้นรำมาหลายปี เต้นดีขึ้นเยอะเลย”

“คุณก็ดีเหมือนกัน”

มุมริมฝีปากของเฉินเป่ยชวนยกขึ้นและดวงตาของเขาก็ประสบเข้ากับใบหน้าของเฉียวชูเฉี่ยน “มาเต้นกันอีกเพลงเถอะ”

มือที่เพิ่งว่างเมื่อครู่ถูกเขาดึงไปอีกครั้ง เธอจึงทำได้เพียงเต้นตามเขาต่อไปที่กลางฟลอร์ท่านกลางแสงสีเสียงโดยรอบ เพลงหนึ่งจบก็เต้นต่ออีกเพลง แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือผู้คนที่เต้นรำมากมายเมื่อครู่ค่อยๆ ทยอยแยกย้ายกันออกไป เหลือเพียงพวกเขาสองคนที่ยังคงเต้นอยู่

“… ”

เพลงนี้มีแค่เราสองคนที่เต้นรำเหรอ?

ทันใดนั้นแสงไฟรอบ ๆ ก็มืดลงและแสงสีที่เปลี่ยนไปก็อ้อยอิ่งราวกับภาพลวงตา เธอสวมชุดสีแดงตัวเล็กเช่นเดียวกับเอลฟ์ที่ขี้เล่นและเซ็กซี่ที่สุดในความมืด และชายที่มีรูปร่างตรงในชุดสูทสีดำคนนั้นหนึ่ง ทำให้เธอยอมทิ้งโลกของตัวเองและหลุดไปสู่โลกอื่น

“แบบนี้ไม่ดีหรอกมั้งคะ”

ยังไงวันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับของเฉินจิ้นถง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดที่จะกลายเป็นจุดเด่ในงานเช่นนี้

“ไม่มีอะไรที่ไม่ดีสักหน่อย”

ดวงตาของเฉินเป่ยชวนเต็มไปด้วยแสงที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่งไม่ว่างานเลี้ยงต้อนรับในคืนนี้จะเป็นใคร เขาก็จะทำในสิ่งที่เขาอยากทำเท่านั้น

“… ”

เฉียวชูเฉี่ยนรู้สึกอายจริงๆ ที่จะพูดอีกครั้ง เธอก้มศีรษะลงและดูขั้นตอนการเต้นรำของทั้งสองที่หมุนและเคลื่อนไหว เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม นี่เป็นการแสดงความรักของเธอหรือเปล่านะ?

แต่ผู้คนมักบอกว่าความรักอันหวานชื่น มักจะสิ้นสุดไว

ผู้ชายที่หลงใหลในการแสดงความรักอันหวานชื่นก้มศีรษะลง ปล่อยมือที่จับไว้อย่างกะทันหัน เธอเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ มือที่คุ้นเคยก็ช้อนคางเบาๆ อย่างอ่อนโยน โดยไม่ต้องรอการตอบสนองใดๆ ของเธอ เขาประทับริมฝีปากลงไปอย่างอ่อนโยน…

“… ”

ดวงตาของเฉียวูเฉี่ยนเบิกกว้างขึ้น แต่เขากลับหลับตาลงดื่มด่ำกับรสจูบนั้นอย่างเพลิดเพลิน

“โอ้พระเจ้า! เฉินเป่ยชวนกำลังจูบผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เหรอ? ”

ใครบางคนในหมู่คนร้องตะโกนขึ้น ทุกคนต่างอยู่ในสังคมคนรวย ย่อมเข้าใจถึงวิธีการของคนในสังคมเดียวกัน การประกาศของเมื่อก่อน ที่เฉินเป่ยชวนจูบผู้หญิงคนนี้ทั้งหมดก็เพียงเป็นแค่วิธีการหนึ่ง แต่วันนี้เป็นเพียงงานเลี้ยงเล็กๆ ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องจูบเธอเพื่อหลอกใคร

เว้นแต่จะหลงรักผู้หญิงชื่อเฉียวชูเฉี่ยนคนนี้จริงๆ

เฉินจิ้นถงเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ จากด้านข้าง มุมของริมฝีปากที่ยิ้มของเขากระชับขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เฉียวชูเฉี่ยน…อีกไม่นานคุณก็จะรู้ผู้ชายที่เต้นรำด้วยตรงหน้านี้รักคุณมากแค่ไหน

……

ลืมไปเลยว่างานเลี้ยงต้อนรับเมื่อวานจบลงอย่างไร มีเพียงร่างกายเท่านั้นที่บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าเหนื่อยล้าขนาดไหน เธอลุกขึ้นจากเตียง รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง

“นายหญิงน้อยตื่นหรือยังคะ? ท่านผู้หญิงให้มาเชิญคุณไปทานอาหารค่ะ”

เสียงคนรับใช้ดังขึ้นอยู่ด้านนอก ก่อนที่คุณชายจะไปทำงานได้สั่งไว้ว่าห้ามขึ้นไปรบกวนคนายหญิงน้อย แต่ท่านผู้หญิงให้เธอมาเชิญลงไปทานอาหาร ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น

“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอก็เปลี่ยนชุดที่จะใส่ไปทำงานและเดินออกไปพร้อมกระเป๋าของเธอ

ทั้งหมดเป็นคนผิดของเฉินเป่ยชวน!

“โอ้ นายหญิงน้อยของเราตื่นเสียทีนะ”

เมื่อลงไปชั้นล่างก็ได้ยินเสียงแดกดันของเว่ยชูหรง คำพูดที่ดูถากถางเฉียวชูเฉี่ยน ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ แต่ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับด้วย จึงตรงไปยังที่นั่งเพื่อทานอาหารเช้า

“เฉียวชูเฉี่ยน ฉันเป็นผู้อาวุโสกว่าเธอ อย่าคิดว่ามีเฉินเป่ยชวนคอยหนุนหลังให้แล้วจะไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาแบบนี้นะ”

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ตอบสนองใด ๆ เว่ยชูหรงก็โกรธมากยิ่งขึ้น ให้ตายเถอะ นี่เธอกำลังดูถูกหล่อนอยู่งั้นเหรอ!

“ฉันไม่ต้องการให้ใครมาหนุนหลังฉัน ”

เมื่อเธอเงยหน้าไปมองเว่ยชูหรง “ฉันไม่จำเป็นต้องมองคุณอยู่ในสายตาของฉันเช่นกัน”

7 ปีที่แล้ว เว่ยชูหรงซ้ำเติมเธอมากเท่าไร แบบนี้จะมองว่าเป็นผู้อาวุโสได้ยังไงกัน?

“สายตาแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน เฉียวชูเฉี่ยน…ฉันจะบอกเธอให้นะว่าทางที่ดีเธอเกาะไว้ให้ดีๆ ไม่งั้นจุดจบของเธอคงไม่ดีเท่าไรหรอก”

“คุณจะโวยวายอะไรตั้งแต่เช้าแบบนี้ บ้านนี้มีคุณก็ไม่เคยสงบสุขเลยสักวัน”

แม้ว่าท่านผู้หญิงที่กลับมาจากการเดินเล่นข้างนอกจะไม่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดในตอนนี้ แต่เธอก็ปกป้องเฉียวชูเฉี่ยนทันที

“คุณย่า แม่ของผมคงจะกำลังล้อเล่นอยู่ ใช่ไหมครับ? แม่ ”

เฉินจิ้นถงที่กำลังพยุงท่านผู้หญิงอยู่ด้านข้างยิ้มทันทีและหันมอง ความไม่พอใจฉายในดวงตาของเขาเมื่อเขามองไปที่เว่ยชูหรง

“คุณแม่ หนูคิดว่าเด็กวัยรุ่นไม่ควรนอนตื่นสาย ควรจะเอาอย่างจิ้นถงของเรา ตื่นแต่เช้าขึ้นมาออกกำลังกาย จะได้ไม่ป่วยง่าย”

แม้ว่าเว่ยชูหรงจะรู้สึกโกรธในใจ แต่เธอรู้ว่าหากเธอพูดต่อไปเขาจะทำให้ท่านผู้หญิงไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น

มีเพียงแค่เฉินเป่ยชวนเท่านั้นที่อยู่ในสายตา เธอสองแม่ลูกนั้นไม่เคยได้อยู่ในสายตาแมเพียงน้อย

“เธอจะไปรู้อะไร บางคนชอบออกกำลังกายตอนเช้า บาคนชอบออกกำลังกายตอนกลางคืน”

“… ”

เฉียวชูเฉี่ยนดูเขินอายเมื่อได้ฟังคำพูดจากปากคุณย่า

“พี่สะใภ้ ผมบังเอิญไปที่โครงการใกล้บริษัทของคุณ เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณเอง”

“ไม่ดีมั้ง”

เฉียวชูเฉี่ยนต้องการปฏิเสธโดยตรง แต่มันเป็นความตั้งใจที่ดี การปฏิเสธเร็วเกินไปจะดูไม่ดี แม้ว่าเว่ยชูหรงจะสร้างความเดือดร้อนให้เฉินเป่ยชวนเสมอ แต่เฉินจิ้นถงคนนี้ก็อ่อนโยนและเป็นมิตรกับเธอเสมอ

“ไม่เป็นไร คุณทานข้าวก่อนเถอะ ทานเสร็จแล้วค่อยไป”

หลังทานอาหารเช้า เธอเดินตามเฉินจิ้นถงและขึ้นรถ หลังจากช่วงเวลาเร่งด่วนดังนั้นมีรถน้อยมากบนท้องถนนและอากาศถ่ายเทได้ดี ทำให้เงียบมาก

“คุณทำงานกับเฟิงฉิงอยู่เหรอ?”

เพื่อหาหัวข้อพูดคุยไม่ให้รู้สึกอึดอัด เธอคิดมาตลอดว่าเฉินเป่ยชวนจะให้เฉินจิ้นถงทำตำแหน่งที่ไม่มีอำนาจใดๆ แต่ไม่คิดว่าจะให้ตำแหน่งงานที่สำคัญกับเขาเช่นนี้

นี่เป็นความไว้วางใจหรือกับดักกันแน่?

“ดีนะที่พี่ชายให้คนเก่งๆ มาสอนผม ผมเรียนรู้อะไรมากมายจากเขาทุกวัน”

เฉินจิ้นถงยิ้มให้เธอราวกับว่าเต็มไปด้วยความขอบคุณ

“มีคนสอนก็ดีแล้วแหละ” ใครจะเหมือนกับเธอ ไปอเมริกาทำงานไม่นานก็ต้องทำงานเป็นเลขา แต่ไม่มีคนสอนเธอ ทำได้เพียงเรียนรู้การทำงานอย่างโดดเดี่ยว

“ผมได้ยินมาว่าพี่สะใภ้ทำงานเก่งมาก ลองสอนผมบ้างสิครับ”

“อย่าล้อเล่นสิ”

ยิ่งเราคุยกันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งน่าอายมากขึ้นเท่านั้น เฉียวชูเฉี่ยนอยากจะจบหัวข้อสนทนานี้เร็วๆ โชคดีที่รถขับมาถึง MR พอดี “ถึงแล้ว ขอบคุณที่มาส่งนะ”

“พี่สะใภ้ไม่ต้องเกรงใจครับ งั้นผมขอตัวไปที่โครงการก่อน”

เฉินจิ้นถงโบกมืออย่างสุภาพบุรุษและขับรถออกไป

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset