ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 93 คนเฮงซวยนี่พึ่งพาไม่ได้จริง ๆ

ในที่สุดเหยียนสือเซี่ยซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับก็เอ่ยขึ้นมา ถ้าหากวันนี้ไม่ใช่เนื่องจากต้องส่งเฉี่ยนเฉียนกลับบ้าน เธอไม่มีทางอยู่กับผู้ชายเฮงซวยอย่างเขาแน่นอน ทำให้เวลานี้เธออยากอาเจียนทุกวินาที

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง ?” ถังอี้หันหน้าไปถามกลับด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา

“คุณโทรหาบริษัทรถบรรทุกพ่วงแล้วไม่ใช่หรือไง ? อย่าบอกนะว่าคุณไม่ได้บอกพวกเขาว่าให้ลากรถฉันไปที่ไหน ?”

เหยียนสือเซี่ยรู้สึกกลุ้มใจแทบแย่ ไอ้เฮงซวยนี่พึ่งพาไม่ได้จริง ๆ ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าเรื่องที่เขาจัดการให้สบายใจได้ สบายใจกะผีน่ะสิ

“ผมโทรแล้วนะ แค่ติดสายไม่มีคนรับเท่านั้นเอง”

“ไอ้คนเฮงซวย นายจงใจใช่ไหม !”

เมื่อเห็นสีหน้าอันได้ใจของเขา เธอจึงทราบว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยเหลือเธอในการเรียกรถบรรทุกพ่วงเลยตั้งแต่แรก

“ยินดีด้วยนะที่คุณตอบถูก ผมจงใจนั่นแหละ”

ถังอี้ยิ้มแห้ง ๆ ขึ้นมา เมื่อเห็นความเดือนดาลที่อยู่บนใบหน้าของเธอ ตนเองก็ยิ่งรู้สึกจิตใจเบิกบานขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่จบการดำเนินคดีครั้งที่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเรื่องที่น่าเบิกบานใจมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว วันนี้มีโอกาส แน่นอนว่าจะต้องสนุกสนานอย่างเต็มที่ถึงจะถูกต้อง

“ไอ้ระยำ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นผู้ชายที่ต่ำช้าอย่างนายแบบนี้ !”

ถ้าหากไม่สืบเนื่องจากเธอเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง เธออยากตีเขาตอนนี้เลยเสียจริง เหตุใดจึงมีคนเฮงซวยอย่างเขาอยู่บนโลกนี้ได้ ทุกครั้งที่เขาสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดล้วนก็เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรของโลกแท้ ๆ

“นั่นถือว่าเป็นเกียรติกับผมอย่างยิ่งครับ”

ถูกด่าทอว่าต่ำช้า ถังอี้ไม่เพียงแค่ไม่โกรธเลย ครั้นกลับยิ้มอย่างมีความสุขยิ่งกว่าเดิม เขาอยากลองดู ว่าตนจะทำให้ทนายสาวที่ใจเย็นและคารมดีที่สุดในสายงานอะไรนั่นสูญเสียความใจเย็นได้ทุกนาทีหรือไม่

“……”

ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้นมา จึงทำให้เธอกักเก็บความคิดที่ต้องการฆ่าคนเอาไว้แล้วกดปุ่มรับสาย

“ฮัลโหล คุณคือเหยียนสือเซี่ยหรือเปล่าครับ ?”

เมื่อรับสาย ก็มีน้ำเสียงอันเคร่งขรึมของผู้ชายดังเข้ามา

“ใช่ค่ะ ฉันเอง คุณคือใครคะ ?”

“ผมคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถของคุณจอดอยู่ทางแยกขัดขวางความปลอดภัยของจราจร พวกเราลากมาที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว คุณมาทำเอกสารหน่อย”

เหยียนสือเซี่ยส่งสายตาอันเคียดแค้นไปให้ตัวต้นเหตุที่อยู่ข้าง ๆ ทันที และทำได้เพียงใช้น้ำเสียงอันไพเราะคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสองสามคำ จากนั้นก็วางสาย

“ว้าว ประสิทธิภาพการทำงานของไอ้พวกเวรนั่นเร็วมากจริง ๆ เป็นอะไรไปคุณทนายคนสวย ให้เกียรติผมไปส่งคุณที่โรงพักดีไหมครับ ? อย่าให้คุณตำรวจเขารอนาน”

“ถังอี้ !”

“อยู่นี่ครับ จะออกรถเดี๋ยวนี้เลย จะต้องให้คุณถึงที่หมายด้วยความรวดเร็วที่สุดเลยครับผม”

ทันใดนั้นที่ล็อกประตูรถก็หล่นลง รถยนต์ถูกขับบึ่งออกไปด้วยความเร็วมุ่งไปยังสถานีตำรวจ

สีหน้าเหยียนสือเซี่ยสักพักก็ดำมืดสักพักก็ซีดเซียว แต่ก็ยังคงคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ได้เลยถังอี้ แค้นนี้ฉันจะจดจำเอาไว้

ภายในสถานีตำรวจ เหยียนสือเซี่ยทำเอกสารไปด้วยรอยยิ้ม คุณตำรวจที่อยู่ข้าง ๆ กลับทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไร ไม่เพียงเท่านั้น ยังไม่ลืมที่จะเอ่ยสั่งสอนขึ้นด้วย “แม้รถจะพัง คุณจะทิ้งรถไว้ข้างทางแล้วจากไปแบบนี้ไม่ได้นะครับ คุณรู้หรือเปล่าว่ารถข้างหลังติดอยู่ครึ่งชั่วโมงถึงจะแล่นได้ราบรื่นปกติ”

“คุณตำรวจคะขอโทษจริง ๆ นะคะ ครั้งหน้าฉันจะไม่ทำอีกแล้ว”

ทันใดนั้นถังอี้ก็เดินเข้ามาพูดแทรกว่า “คุณตำรวจครับเรื่องนี้คงโทษเธอไม่ได้หรอกครับ เธอไปทานข้าวกับเพื่อนแล้วเพื่อนเมามาก เธอเลยรีบส่งเพื่อนกลับน่ะครับ”

“ฉัน……”

เมื่อเหยียนสือเซี่ยได้ยินดังนั้น จึงรู้สึกอยากบีบเขาให้ตายคามือ เธอรีบอ้าปากหมายจะกล่าวอธิบายทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยออกมา ก็ได้ยินเสียงของคุณตำรวจท่านนั้นเอ่ยขึ้นก่อน “คุณไปตรวจค่าแอลกอฮอล์กับผมเดี๋ยวนี้ !”

“คุณตำรวจคะ ไม่ต้องหรอกมั้งคะ”

“ผมบอกว่าไปตรวจก็ไปตรวจสิ”

เมื่อไร้ช่องว่างในการถอยกลับ เธอตะโกนว่าซวยแล้วขึ้นมาในใจ แม้ว่าเธอจะดื่มไวน์ไปเพียงสองแก้วเท่านั้น ทว่าเมื่อทำการทดสอบแอลกอฮอล์ ก็จะทดสอบออกมาว่าค่าแอลกอฮอล์ในร่างกายของเธอนั้นเกินกว่ามาตรฐานเป็นแน่

ถังอี้ยิ้มตาหยีพร้อมผลักแผ่นหลังของเธอ “รีบไปสิครับ แค่เป่า ๆ เอง”

“……”

ไอ้บัดซบถังอี้ จงใจชัด ๆ เขารู้ทั้งรู้ว่าเฉี่ยนเฉียนดื่มจนกลายเป็นสภาพนั้น แล้วเธอจะไม่ดื่มเลยได้อย่างไร

หลังจากที่ถูกพาไปทำการทดสอบระดับแอลกอฮอล์ด้วยความจำยอมแล้วนั้น ผลที่ออกมาก็เป็นที่ทราบอยู่แล้ว “ระดับความเข้มของแอลกอฮอล์ในร่างกายคุณเกินกว่ามาตรฐาน ต้องสงสัยว่าเมาแล้วขับ ตามกฎหมายของการจราจรคุณจะต้องถูกขังคุกหกเดือน คุณต้องการเชิญทนายหรือเปล่า ?”

“คุณตำรวจคะฟังฉันอธิบายก่อนค่ะ”

เธอนั่นแหละคือทนาย แม้ว่าจะเป็นทหายเรื่องการหย่าร้าง ทว่ากฎหมายพื้นฐานทั่วไปเธอสามารถท่องได้บรรลุทั้งหมด

หากทำตามกฎหมายแล้วต้องถูกขังอยู่ในคุกหกเดือน จากนี้ไปเธอจะใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงนี้ต่อไปได้อย่างไร

“ในเมื่อเป็นการเมาแล้วขับก็ไม่ต้องอธิบายหรอก คุณรู้หรือเปล่าว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ไม่รับผิดชอบต่อตัวคุณคนเดียวนะ ยังเป็นการไม่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของคนอื่นด้วย ถ้าคนขับรถทุกคนบนสังคมนี้ดื่มแล้วขับรถกันหมด คุณรู้หรือเปล่าว่าจะมีอุบัติเหตุรถยนต์เพิ่มขึ้นในทุกวันอีกเท่าไหร่ จะมีคนตายเพราะเมาแล้วขับอีกเท่าไหร่”

คุณพี่ตำรวจอบรมสั่งสอนให้ฟื้นสติ พูดโดยไม่หายใจด้วยซ้ำ เหยียนสือเซี่ยถูกคุณตำรวจตำหนิมาจนตอบโต้กลับไม่ได้ กระทำผิดกฎหมาย มีหลักฐานชัดเจน เธอปฎิเสธอย่างน้ำขุ่น ๆ ไม่ได้เลย

“คุณตำรวจครับ ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วละครับ ผมเป็นคนขับรถตลอด ผมขับรถไปส่งแฟนผมและเพื่อนของแฟนผมที่ดื่มเมากลับบ้านมีปัญหาเหรอครับ ?”

ขณะที่เธอกำลังจะยอมรับการลงโทษนั้น อยู่ ๆ ถังอี้ก็ปริปากเอ่ยขึ้นมา แค่คำพูดเดียวนี้อย่าว่าแต่ตำรวจเลยแม้แต่เธอเองก็งุนงนจนสับสนไปแล้วเช่นเดียวกัน แฟนอะไรกันแล้วอะไรคือเพื่อนของแฟน

ถังอี้ยื่นมือเรียวยาวของเขาไปโอบเหยียนสือเซี่ยที่กำลังครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ในประโยคเมื่อสักครู่นี้อยู่เข้ามาให้อ้อมกอด ท่าทีอันกระหนุงกระหนิงนั้นไม่ต้องอธิบายก็ทราบว่าเป็นอะไรกัน

“คุณตำรวจครับ เมื่อสักครู่แฟนผมตื่นเต้นเลยอาจลืมบอกคุณตำรวจไป เธอคือเจ้าของรถก็จริงแต่ว่าเธอไม่ได้เป็นคนขับรถ ผมลืมบอกคุณตำรวจไปเลยว่าแฟนของผมเป็นทนายใหญ่ที่มีชื่อเสียงของเมืองซั่นเป่ยเชียวนะ จะทำผิดกฎหมายทั้งที่ทราบกฎหมายดีได้ยังไง หรือไม่คุณตำรวจก็ตรวจสอบแอลกอฮอล์ของผมด้วยเลยสิครับ เรื่องที่ไม่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของประชาชนแบบนี้ผมกับแฟนผมทำไม่ลงหรอกครับ”

เมื่อได้ยินที่เขาพูดว่าแฟนผม ๆ บ่อยครั้งเช่นนี้ ประกอบกับท่าทางที่ฉวยโอกาสเธออยู่เช่นนี้ เหยียนสือเซี่ยจึงคิดอยากผลักตัวเขาออกด้วยสันชาตญาณ ครั้นกลับถูกเขาโอบเข้ามาในอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม

“เสี่ยวเซี่ยเซี่ย คุณไม่ใช่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าจะถูกลงโทษถ้าเมาแล้วขับก็ยังทำอยู่ดีอย่างนั้นใช่ไหม เราเป็นประชาชนที่รักษากฎหมายกันเนอะ เป็นคนขับรถที่ดีที่พยายามเต็มความสามารถเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ใช่ไหมครับ ?”

ดวงตาเรียวยาวนั้นโค้งขึ้นจนผิดปกติ ทว่านัยน์ตาของเขากลับมีกลิ่นอายของการข่มขู่แอบแฝงอยู่ เขากำลังข่มขู่ว่าเธอไม่เพียงแค่ต้องเข้าคุกเท่านั้น

“ทำไมเมื่อกี้ไม่บอกว่าเธอไม่ได้เป็นคนขับรถ ?” คุณตำรวจสอบถามขึ้นด้วยความสงสัยทันที

“เธอเป็นทนายความนะครับ คุณตำรวจตอนที่เราเข้าประตูมาคุณก็ถามเป็นประโยคแรกเลยว่าเจ้าของรถคันนี้คือเธอใช่ไหม แน่นอนว่าเธอจะต้องยอมรับตอบตามความเป็นจริงสิครับ”

“……” คุณตำรวจลูบผมที่อยู่ท้ายทอยไปมา เขาถามเช่นนี้หรอกหรือ ?

“ถ้างั้นคุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าคุณเป็นคนขับรถเอง ไม่ใช่เธอที่เมาแล้วขับ ?”

“พนักงานต้อนรับสาวหน้าร้านอาหารที่พวกเราไปทานเป็นพยานให้ได้ครับ”

ถังอี้เอ่ยคำพูดปลดออกมาโดยที่ไม่ละอายใจ ไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด เหยียนสือเซี่ยคิดตั้งนานสองนานก็จำไม่ได้ว่าหน้าประตูร้านซื่ออั้นมีพนักงานต้อนรับสาวอยู่ด้วยหรือ

เมื่อคุณตำรวจถูกอ้างมาเช่นนั้นจึงทำได้เพียงทำการจดบันทึกใหม่ หลังจากที่ทำการทดสอบระดับแอลกอฮอล์ถังอี้เสร็จแล้วก็ทำขั้นตอนการปรับเงิน เสร็จสรรพแล้วทั้งสองคนจึงออกจากสถานีตำรวจไปได้

“คุณทนายคนสวย เมื่อสักครู่ผมทำให้คุณได้รับการยกเว้นภัยการจำคุกหกเดือน คุณไม่ควรกล่าวขอบคุณผมหรอกเหรอ ?”

เมื่อเดินออกประตูมาถังอี้ก็ฉีกยิ้มให้เธอ นัยน์ตาอันเปล่งประกายระยิบระยับของเขาทำให้เหยียนสือเซี่ยคลุ้มคลั่งแทบบ้า

“ถังอี้ คนที่วางแผนให้ฉันเดือดร้อนคือนายนะ ฉันขอบคุณนายกะผีน่ะสิ !”

หากไม่เป็นเพราะเขาจงใจที่จะวางแผนชั่วช้า รถของเธอจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลากไปโรงพักหรือ เธอจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนเมาแล้วขับหรือ !

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset