ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 2206+2207

บทที่ 2206 มาหาคุณชายตี้หรือ?

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอตื่นขึ้นมา คราแรกที่ลืมตาขึ้น ยังคงงุนงงอยู่บ้าง นึกไม่ออกว่าตนอยู่ที่ไหน

เมื่อครู่เธอฝัน ในฝันค่อนข้างสับสนวุ่นวาย ในฝันคล้ายว่าเธอกำลังอยู่ที่ดินแดนเบื้องบนในตำนาน ทุ่มเทตามหาคนผู้หนึ่งอยู่ ซ้ำยังต้องทำภารกิจอันใดให้สำเร็จด้วย…

เธอยกมือนวดหว่างคิ้ว รู้สึกได้ตามสัญชาตญาณว่านั่นคงจะเป็นความทรงจำในอดีตของตน ต้องการจะไขว่คว้าไว้ เธอพยายามทบทวนความฝันนั้น แต่ภาพฝันนั้นเลือนรางเกินไป เธอนึกไม่ออกชั่วขณะ

ช่างเถอะ ตี้ฝูอีเคยบอกเธอไว้ การฟื้นฟูความทรงจำที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัจจัยหนุน อย่าได้ฝืนตัวเองจนเกินไป มิเช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายสมองเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่คิดแล้ว

ลุกจากเตียงล้างหน้าล้างตาเล็กน้อย ก็ไปเคาะประตูห้องข้างๆ

เคาะอยู่พักหนึ่งก็ไม่มีความเคลื่อนไหว หัวใจพลันสั่นไหว หรือว่าเขาจะออกจากเมืองไปแล้ว?

แต่ถ้าเขาจะไป ก็น่าจะบอกกล่าวเธอก่อนมิใช่หรือ?

เธอลองดันประตูดู พบว่าเปิดไม่ได้

เธอค่อนข้างฉงน ประตูไม่ได้ลงกลอนจากด้านนอก หรือว่าจะลงสลักไว้ด้านใน? เขายังนอนอยู่ข้างในหรือ?

“แม่นางกู้ มาหาคุณชายตี้หรือ?”

เถ้าแก่เจ้าหน้าที่อาลักษณ์ผู้สุภาพคนนั้นเดินขึ้นบันไดมา

“ใช่”

“เขาออกไปตั้งแต่ฟ้ายังสางแล้ว ก่อนจะไปฝากข้อความไว้ให้แม่นางด้วย บอกว่าสองวันนี้ให้แม่นางดูแลทุกคนดีๆ เขาจะกลับมาภายในสามวัน”

ที่แท้เขาก็ออกเดินทางเช้าถึงเพียงนั้น!

“ประตูห้องเขาเหมือนจะลงสลักจากด้านใน คงมิใช่ว่ามีคนนอกบุกเข้าไปด้านในกระมัง?!”

สายตากู้ซีจิ่วร่อนลงที่ประตูบานนั้น

“ก่อนจะไปคุณชายตี้บอกให้เก็บสองห้องนี้ไว้ ห้องหนึ่งให้แม่นาง ห้องหนึ่งให้ตัวเขา ห้องนี้ของเขาน่าจะถูกตัวเขาติดตั้งกลไกอันใดไว้ ดังนั้นคนนอกอย่างพวกเราจึงเปิดไม่ออก แม่นางวางใจเถิด”

เถ้าแก่ผู้นั้นปลอบเธอ

กู้ซีจิ่วถอนหายใจเบาๆ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีคนนอกเข้าไปก็ดีแล้ว”

โรงเตี๊ยมแห่งนี้รับผิดเรื่องอาหารเช้าด้วย หลังจากกู้ซีจิ่วกินอิ่มก็กลับไปยังที่พักของคนในเผ่า พอไปถึงที่นั่นก็พบว่าผิดปกติ คนส่วนใหญ่ในเผ่าล้วนไม่อยู่ทั้งสิ้น เหลือเพียงผู้เฒ่าที่อายุค่อนข้างมากสามท่านเท่านั้น

ผู้เฒ่าสามท่านนี้พอเห็นเธอมา ก็เหมือนเห็นดาวช่วยชีวิต

“สือโทว ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว!”

“สือโทว รีบไปช่วยคนในเผ่าเราเถอะ…”

“เกิดอะไรขึ้น? คนอื่นๆ ล่ะ?”

กู้ซีจิ่วสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีขึ้นมาแล้ว

“รุ่งเช้าวันนี้มีทหารที่ดุเหมือนพยัคฆ์เหมือนหมาป่ากลุ่มหนึ่งมา ริบอาหารทั้งหมดของพวกเราไป แม้แต่น้ำสะอาดก็ไม่เหลือไว้ให้ บอกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็ต้องไปทำงาน มิเช่นนั้นก็ไสหัวออกจากเมืองลั่วฮวาไป”

“ทหารพวกนั้นต้อนคนของพวกเราไปฟังสหภาพแรงงานอันใดสักอย่าง บอกว่าที่นั่นจะจัดการตารางงานให้ใหม่”

“แม้แต่เด็กๆ ก็ถูกต้อนไปด้วย…”

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว คนในเผ่าถูกต้อนไปทำงานไม่เหนือไปจากที่เธอคาดไว้ ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่เลี้ยงคนว่างงาน

ทุกคนล้วนต้องทำงาน นั่นเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ชั่วคราว

“พวกชุนเฉาล่ะ?”

กู้ซีจิ่วพะว้าพะวงถึงเด็กสาวไม่กี่คนนั้น

“ไม่รู้ พวกนางก็ถูกพาไปด้วยเหมือนกัน…”

….

งานที่เหน็ดเหนื่อยที่สุดในเมืองลั่วฮวาคืออะไรน่ะหรือ?

งานขนย้ายหินในเหมืองไงล่ะ!

ทุกก้อนล้วนเป็นศิลาเขียวก้อนใหญ่กองสุมกัน ที่เล็กหน่อยก็ปาเข้าไปหลายร้อยจินแล้ว ที่ใหญ่หน่อยก็อาจหนักเป็นตันๆ ได้

ก้อนหินเหล่านี้ล้วนใช้วิธีแบกขึ้นหลังหรือไม่ก็สามสี่คนช่วยกันแบก ขนไปยังที่ต่างๆ เอาไปก่อสร้างกำแพงเมืองที่สึกหรอเอย เอาไปสร้างบ้านเรือนอันงดงามขึ้นใหม่เอย

เช้าวันนี้พวกเถี่ยตั้น เถี่ยหนิวเหล่าบุรุษในเผ่าล้วนถูกต้อนมาที่นี่ ทำงานที่เหน็ดเหนื่อยที่สุดยากลำบากที่สุด

ยามที่กู้ซีจิ่วตามมาถึงที่นี่ ก็ได้เห็นชาวเผ่าของตนแบกหินจนเอวค่อมปานโคแก่ หยาดเหงื่อไหลโชก ก้าวไปสั่นระริกไป

————————————————————————————-

บทที่ 2207 เมินเฉยต่อการเฆี่ยนตีผู้อื่น…

พวกเถี่ยตั้นยังดีหน่อย ถึงอย่างไรก็ยังหนุ่มแน่น แต่ที่นี่ยังมีผู้เฒ่าอายุหกสิบเจ็ดสิบอยู่ด้วย พวกเขาถูกก้อนหินทับจนยืดกายไม่ขึ้น โซซัดโซเซ หากไม่ระวังก็จะล้มกองบนพื้นได้

ที่นี่มีผู้คุมงานด้วย ถ้าเดินช้าไปสักนิด หรือว่าล้มลงบนพื้น ก็จะถูกพวกเขาลงแส้!

ทันทีที่กู้ซีจิ่วมาถึงก็ได้เห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งถูกหินกดทับจนล้มลงบนพื้น เข่าแตกเลือดไหล ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน ก็ถูกผู้คุมงานตวัดแส้ฟาดหน้าแล้ว ฟาดจนเกิดรอยเลือดสายหนึ่ง…

ผู้เฒ่าคนนั้นถูกซัดจนยืนไม่อยู่ ล้มลงบนพื้นอีกครั้ง ก้อนหินบนหลังกดทับจนเขาร้องครวญคราง กระอักเลือดออกมา

“แสร้งตายอันใด?! ไสหัวขึ้นมา!”

ผู้คุมคนนั้นยังคิดจะฟาดแส้ใส่อีก จู่ๆ ข้อมือก็ปวดแปลบ เสมือนถูกดาบฟัน แส้ในมือก็ร่วงลงพื้นด้วย

“ผู้ใด? เป็นไอ้สารเลวหน้าไหน…”

ผู้คุมคนนั้นตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

แต่พอได้เห็นคนที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหัน ก็สะดุ้งโหยง หดกายถอยหลังไป

กู้ซีจิ่วยื่นมือไปดันก้อนหินออกจากร่างผู้เฒ่าคนนั้น พยุงผู้เฒ่าขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่าบาดเจ็บภายใน มุมปากมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด มองกู้ซีจิ่วน้ำตาแทบไหลพราก

“สือโทว…”

ตอนพวกเขาอยู่ในหุบเขาก็ยังไม่เคยถูกทารุณเช่นนี้มาก่อนเลย

เมื่อครู่พวกเถี่ยหนิวก็คิดจะตีวงเข้ามา แต่ข้างกายพวกเขาก็มีผู้คุมอยู่เช่นกัน…

ผู้คุมเหล่านี้โฉดดั่งเสื้อเหี้ยมดุจหมาป่า ขอเพียงพวกเขาแข็งข้อเพียงนิด ก็จะหวดแส้ใส่ทันที!

เห็นได้ชัดว่าแส้ของพวกเขามีการเพิ่มลูกเล่นเข้าไป เมื่อฟาดลงบนร่างจะคล้ายโดนตัวต่อต่อย!

ผู้คุมเหล่านี้ล้วนมีพลังวิญญาณทั้งสิ้น พลังวิญญาณขั้นสาม วรยุทธ์ที่สำแดงออกมาทำให้คนตะลึงได้

พวกเถี่ยตั้นมีเพียงพละกำลังอันงุ่มง่าม แข็งขืนขึ้นมาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ เถี่ยตั้น เถี่ยหนิวเนื่องจากสองคนนี้เห็นคนในเผ่าถูกข่มเหงจึงแข็งข้อขึ้นมาสามคราแล้ว ทั้งสามครั้งล้วนถูกฟาดจนพลิกตัวแทบไม่ได้ ยามนี้ลายพร้อยดุจม้าลายก็มิปาน บนร่างมีรอยแส้เส้นแล้วเส้นเล่า…

แน่นอน เหมืองหินแห่งนี้มิได้มีเพียงชาวเผ่าของกู้ซีจิ่ว ยังมีคนอื่นๆ อีกสิบกว่าคน

เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ถูกเฆี่ยนตีจนด้านชาแล้ว แบกหินอย่างด้านชา เดินอย่างด้านชา…

เมินเฉยต่อการเฆี่ยนตีผู้อื่น…

ผู้คุมเหล่านี้เคยชินกับการวางอำนาจแล้ว ซ้ำยังชอบจับกลุ่มกัน พอเห็นผู้คุมคนนี้เสียเปรียบ อีกสามสี่คนก็ถือแส้วิ่งเข้ามา

ตะโกนใส่กู้ซีจิ่ว

“เป็นนังคนป่าจากที่ใดกัน?! ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าทำร้ายคน…”

กู้ซีจิ่วไม่พูดจาไร้สาระกับพวกเขาเลย เธอยืดกายขึ้น พุ่งผ่านหน้าผู้คุมเหล่านั้นไปคราหนึ่ง ผู้คุมเหล่านั้นล้วนแข็งทื่อไปหมด…

เห็นได้ชัดว่าผู้คุมเหล่านั้นตระหนกยิ่งนัก เบิกตากว้างถลึงตามองกู้ซีจิ่ว

กู้ซีจิ่วไม่พูดไม่จา หยิบแส้ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา ตวัดฝ่ามือคราหนึ่ง ผู้คุมแต่ละคนถูกเธอฟาดคนละห้าแส้!

ห้าแส้นี้เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดเป็นที่สุด ทั้งห้าคนทรุดลงบนพื้น ใบหน้าเหยเก กลิ้งเกลือกทุรนทุรายโดยไร้เสียง (กู้ซีจิ่วสกัดจุดใบ้พวกเขาไว้)

“แม่นาง ทำร้ายพวกเขาไม่ได้นะ พวกเขาจะมาล้างแค้นกับพวกเรา…พวกเขาตีเราตายก็ไม่มีโทษ คนที่แข็งข้อล้วนถูกพวกเขาฟาดตายไปมากมายนัก…”

คนงานคนหนึ่งวางหินบนหลังตนแล้ววิ่งเข้ามา เกลี้ยกล่อมอย่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง

ผู้คุมห้าคนนั้นต่างถลึงตามองกู้ซีจิ่วทุกคน อ้าปากพะงาบๆ ถึงแม้พวกเขาจะพูดอะไรไม่ออก แต่กู้ซีจิ่วเป็นวิชาอ่านปาก เข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูด ต่อให้พวกเขาทำอะไรเธอไม่ได้ แต่สามารถระบายโทสะใส่ร่างของคนงานเหล่านี้ได้…

กู้ซีจิ่วยิ้มแล้ว!

หากว่าแม้แต่คนงานไม่กี่คนนี้เธอยังจัดการไม่ได้ เช่นนั้นเธอจะเป็นลูกพี่ของคนเหล่านี้ได้อย่างไร?!

เธอพลันเงื้อมือขึ้น แล้วซัดฝ่ามือใส่คนทั้งห้านี้ทีละคน!

————————————

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

อ่านนิยาย ลำนำบุปผาพิษ
Status: Ongoing
เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset