ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 2343 หึงหวง 2 / บทที่ 2344 หึงหวง 3

บทที่ 2343 หึงหวง 2

อ้อมแขนตี้ฝูอีพลันว่างเปล่า หัวใจก็วูบโหวงเช่นกัน

เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ยังไม่ลืมเลือนหัวข้อเมื่อครู่

“เรื่องในชาติก่อนของนางเจ้าเล่าให้ข้าฟังหน่อยได้ไหม?”

เล่ากับปู่เจ้าสิ!

ใบหน้าเฉิดฉันของกู้ซีจิ่วเย็นชานิดๆ

“ข้าไม่ชอบนินทาชาวบ้าน เจ้ากับนางมีความสัมพันธ์กันระดับนี้แล้ว ไยไม่ไปถามนางเอาเองเล่า?”

ตี้ฝูอีเงียบไปแล้ว

เขาฉวยข้อมือนางไว้ ขณะที่กำลังจะพูดอะไร กู้ซีจิ่วก็สะบัดมือเขาทิ้งแล้ว มองออกไปด้านนอก

“คุณชายไผ่ขจีกลับมาแล้ว”

น้ำเสียงเจือความยินดีเอาไว้

ตี้ฝูอีพลันขมวดคิ้ว หันกลับไปมอง ในจุดที่ห่างออกไปไม่ไกลพลันมีประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เงาร่างสีมรกตวูบไหว คนผู้หนึ่งกระโดดเข้ามา ร่อนลงด้านนอกค่ายกล

คุณชายไผ่ขจีกลับมาแล้ว

เขาก็เฉลียวฉลาดมากเช่นกัน วิธีเข้าออกค่ายกลนี้กู้ซีจิ่วบอกครั้งเดียวเขาก็จดจำได้ชัดเจนแล้ว

เงาร่างเหินทะยานปานนกโผบินครู่เดียวก็มาถึงเบื้องหน้าพวกกู้ซีจิ่วทั้งสองแล้ว

ทันทีที่เห็นตี้ฝูอี สีหน้าเขาพลันแปรเปลี่ยน ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็วัดฝ่ามือใส่ตี้ฝูอีแล้ว

“ปล่อยอาจารย์ข้านะ!”

ตี้ฝูอีตัวแข็งทื่อไปทันที!

อาจารย์?

เขาย่อมไม่โดนฝ่ามือที่ซัดใส่ ขยับตัวเล็กน้อย หลบหลีกกระบวนท่าสังหารของอีกฝ่าย

คุณชายไผ่ขจีออกแรงไม่น้อยเลย ทว่าทำร้ายคนไม่ได้ แต่กลับทำร้ายตั่งนุ่มตัวนั้นของตี้ฝูอีจนแหลกเป็นผุยผง

คุณชายไผ่ขจีไม่ยอมแพ้ง่ายๆ โจมตีตี้ฝูอีอย่างดุเดือดอีกครั้ง

จนกระทั่งยามนี้กู้ซีจิ่วถึงได้ค้นพบว่าวรยุทธ์ของคุณชายไผ่ขจีแข็งแกร่งมากขนาดไหน

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นคนที่ดูอ้อนแอ้นเจ้าสำอางคนหนึ่ง ทว่ากระบวนท่าที่สำแดงออกมากลับจองหองคะนองฤทธิ์ แฝงความเกรี้ยวกราดดั่งวัชรยักษ์[1]เอาไว้ ทุกท่วงท่าปานห่าพายุฝน รอบข้างเกิดเสียงลมกรรโชกอื้ออึงขึ้นในชั่วพริบตา ฝุ่นทรายปลิวว่อน

โชคดีที่กู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายออกมาได้ทันกาล มิเช่นนั้นคงถูกกวาดเข้าสู่สมรภูมิรบแห่งนี้ ต่อให้ไม่ถูกกระแสฝ่ามือของเขาซัดตาย แต่ก็มีทรายเข้าปากอยู่สองสามครั้ง

พลังยุทธ์ของคุณชายไผ่ขจีผู้นี้สูงส่งเลิศล้ำ ตอนนี้ถึงแม้พลังยุทธ์ของกู้ซีจิ่วจะยังไม่ฟื้นฟูคืนมา แต่สายตายังคงดีอยู่ เธอเห็นไม่กี่กระบวนท่าก็รู้แล้วว่าวรยุทธ์ของคุณชายไผ่ขจีผู้นี้บรรลุขั้นซ่างเซียนแล้ว พลังยุทธ์เหนือกว่าตี้ฝูอีในตอนนี้มากนัก!

มิน่าเล่าเขาถึงเตร่ไปเตร่มาอยู่ในอาณาจักรมารแห่งนี้ได้ ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง ที่แท้วรยุทธ์ของเขาก็ไร้ข้อกังขาจริงๆ!

เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางตี้ฝูอี พลันชะงักไปเล็กน้อย!

วรยุทธ์ของตี้ฝูอีก็แตกต่างไปจากปีนั้นเช่นกัน อันตราการเติบโตช่างรวดเร็วจนน่าตะลึง

ตอนนี้พลังยุทธ์ของเขาอยู่ในชั้นจินเซียน แต่วรยุทธ์กลับพิสดารอย่างยิ่ง คล้ายนำสารพัดสิ่งมาผสมผสานเข้าด้วยกัน

มีทั้งคาถาอาคม มีทั้งวิชาหุ่นเชิด มีทั้งศาสตร์ค่ายกล มีทั้งวิถีกระบี่…

แต่ละวิชาล้วนสำแดงออกมาได้ช่ำชองนัก ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ

ยามที่สำแดงอาคมออกมา แต่ละอย่างล้วนสะท้านสะเทือนเลือนลั่น เกิดแสงจ้าพร่าตา วูบไหวเสียดนัยน์ตาของอีกคู่ต่อสู้

และท่ามกลางความสะท้านสะเทือนครึกโครม ไหมเชิดหุ่นซอกซอนไปได้ทุกที่ รัดพันคู่ต่อสู้ไว้ ทำให้อีกฝ่ายยากจะป้องกันได้

เห็นได้ชัดว่าคุณชายไผ่ขจีหวั่นเกรงไหมเชิดหุ่นของเขายิ่งนัก พลันถอยร่นไปด้านหลัง แต่ด้านหลังก็มีค่ายกลหนึ่งคอยเขาอยู่ เมื่อย่ำเท้าลงไปทรายก็กลายเป็นวังน้ำวน เกือบจะสูบเขาเข้าไปแล้ว!

สารพัดศาสตร์วิชาที่ตี้ฝูอีสำแดงออกมา ถ้วนถี่พิสดาร ดุจตาข่ายสวรรค์ผืนหนึ่ง คุณชายไผ่ขจีโยกซ้ายย้ายขวาอยู่ในตาข่าย หลังจากสู้กันอยู่พักหนึ่ง ก็เหมือนผลักตกลงไปในหล่มโคลน มือเท้าถูกรัดรึง ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด

กระบวนท่าของคุณชายไผ่ขจีเร่งร้อนดั่งอุกกาบาต ราวกับจะพลิกฟ้าท้าดินได้ในกระบวนท่าเดียว

กระบวนท่าของตี้ฝูอีรอบคอบถ้วนถี่ ควบคุมคุณชายไผ่ขจีไว้ได้อยู่หมัด!

เวลาผ่านไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา คุณชายไผ่ขจีก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้ว ถูกไหมเชิดหุ่นของเขาบาดมือบาดแขน ถูกอาคมของเขาทำลายเส้นผมไปหลายกระจุก

ถึงแม้จะไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอันใด ทว่าเป็นการเสียเปรียบครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณชายไผ่ขจี

โดยเฉพาะคืออยู่ต่อหน้ากู้ซีจิ่วด้วย เช่นนี้จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?

————————————————————————————-

บทที่ 2344 หึงหวง 3

คุณชายไผ่ขจีโมโหนัก

“ตี้ฝูอี เจ้าเอาเปรียบผู้อื่นเกินไปแล้ว! ถ้ามีฝีมือก็มาสู้กับข้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟันสิ!”

ตี้ฝูอีเม้มปากไม่เอ่ยวาจา เพียงแสดงของจริงให้เขาได้ยลเสีย

ฉวยโอกาสตอนที่เขาพูดจาไปเรื่อย ใช้ยันต์สายฟ้าโจมตีลงบนหน้าผากเขา!

เรือนผมดำขลับของคุณชายไผ่ขจีถูกระเบิดออกไปกระจุกใหญ่ ในหูเกิดเสียงดังหึ่งๆ ไม่ได้ยินเสียงใดไปในทันที

เขามองเห็นริมฝีปากตี้ฝูอีคล้ายจะขยับอยู่ไม่กี่ครั้ง เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง แต่เขาไม่ได้ยิน

คิดว่าคงไม่ใช่ถ้อยคำดีอันใด

ระหว่างที่เขาสู้อยู่ได้เหลือบมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง กู้ซีจิ่วกำลังจับตามองพวกเจาอยู่ สายตาที่มองมายังเขามีความห่วงใยด้วย

คุณชายไผ่ขจีใจเต้นแวบหนึ่ง เสียสมาธิอีกครั้ง ถอยหลังไปสองสามก้าว

เขาเห็นสีหน้ากู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนเล็กน้อย คล้ายจะตะโกนอันใดออกมา แต่เขาไม่ได้ยินเลย รอจนคาดเดาจากรูปปากของนางออก เท้าข้างหนึ่งก็เหยียบลงบนหล่มโคลนที่ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไปแล้ว…

ที่นางตะโกนคือ ‘ระวัง’

คุณชายไผ่ขจีไม่ได้ยิน แต่ตี้ฝูอีกลับได้ยินแจ่มแจ้ง เขาเหลือบมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง

ดูเหมือนนางจะมองคุณชายไผ่ขจีผู้นี้เป็นสหายไปแล้ว…

ไม่สิ คล้ายว่านางจะรับเขาเป็นศิษย์แล้ว! ปกป้องกันดียิ่งนัก!

ถ้าตี้ฝูอีจำไม่ผิด ปีนั้นกู้ซีจิ่วก็เคยคิดจะรับเขาเป็นศิษย์เหมือนกัน เกลี้ยกล่อมเขาให้เขากราบนางเป็นอาจารย์ อยู่สามสี่ครั้ง ล้วนถูกเขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดทั้งสิ้น เนื่องจากตอนนั้นเขามีความคิดที่จะตามเกี้ยวพานางแล้ว อยากให้นางมาเป็นภรรยาของตน และเขาก็ไม่คิดจะเล่นละครสัมพันธ์รักศิษย์อาจารย์พรรค์นั้นด้วย…

ตอนนี้ในที่สุดนางก็รับศิษย์แล้ว! จึงรีบกางปีกปกป้องเหมือนแม่ไก่ระวังเหยี่ยว…

นางรู้บ้างไหมว่าคุณชายไผ่ขจีผู้นี้นิสัยวิปริตยิ่งนัก?

เจ้าคนผู้นี้เคยประกาศต่อภายนอกอย่างชัดเจนว่า เขาไม่เห็นหญิงใดอยู่ในสายตาทั้งนั้น เว้นแต่จะเป็นสตรีที่ทำให้เขาเคารพเลื่อมใสยอมกราบไหว้เป็นอาจารย์ได้ เขาถึงจะมีความคิดอยากแต่งภรรยา…

กล่าวอีกนัยคือ คุณชายไผ่ขจีผู้นี้มีรสนิยมรักๆ ใคร่ๆ แนวศิษย์อาจารย์!

มีความเป็นไปได้เกือบสิบส่วนว่าเขาจะคิดอะไรกับกู้ซีจิ่วแล้ว…

ตี้ฝูอีย่อมรู้ดีว่ากู้ซีจิ่วจะไม่หลงรักคุณชายไผ่ขจี แต่พอคิดว่าคุณชายไผ่ขจีคิดเกินเลยกับกู้ซีจิ่ว เขาก็โมโหเป็นไฟแล้ว!

ประกอบกับนึกถึงตอนที่คุณชายไผ่ขจีฉวยโอกาสตอนเขาไม่ทันระวัง ลักพาตัวกู้ซีจิ่วมา โทสะของเขาก็ยิ่งลุกโหม!

ป่าไผ่เฉาแห่งนั้นของคุณชายไผ่ขจีไม่สามารถบุกเข้าไปส่งเดชได้ นอกเหนือจากตัวเขาเอง หากว่าผู้อื่นคิดจะเข้าไปในป่าไผ่นั้นก็ต้องใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม มีเพียงช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวระหว่างยามห้ายกับยามจื่อเท่านั้นที่สามารถใช้วิชาพิเศษบุกเข้าไปได้

และนี่ก็คือเหตุผลที่เขารั้งรอเวลามาโดยตลอด มิได้จงใจจะเล่นตัว

ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเข้าสู่ป่าไผ่ได้ ผลคือไม่พบเห็นเงาร่างของคนสองคนนั้นเลย กลับพบเพียงโลหิตที่กู้ซีจิ่วกระอักออกมา…

เขาตรวจสอบโลหิตนั้นดูเล็กน้อยก็ทราบแล้วว่ากู้ซีจิ่วถูกพิษ!

ร้อนรนอย่างยิ่ง!

เกรงว่านางจะเกิดเหตุขึ้น สิ้นเปลืองพลังวิญญาณใช้วิชาสืบรอยค้นหาที่อยู่ของนางอย่างไม่นึกเสียดายเลย เขาวิ่งเต้นอยู่หนึ่งคืนครึ่งวัน ถึงได้ตามมาถึงทะเลทรายแห่งนี้ ถ้าเขามาช้าไปอีกเพียงก้าวเดียว กู้ซีจิ่วคงกลายเป็นอาหารงูไปแล้ว!

ตี้ฝูอีตามหาตัวคนด้วยโทสะที่สุมอยู่เต็มท้อง ในใจบังเกิดความคิดอยากจะจับคุณชายไผ่ขจีมาเชือดทั้งเป็นขึ้นมา

ยามนี้พอเห็นเขาปรากฏตัว ซ้ำยังสนิทสนมกับกู้ซีจิ่วขนาดนี้ โทสะในใจเขาจึงพวยพุ่งสูงครึ่งฟ้าแล้ว!

เขาไม่พูดพล่ามอันใดแล้ว ออกกระบวนท่าโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม

เมื่อก่อนคุณชายไผ่ขจีเคยประมือกับเขามาแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นตี้ฝูอีไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นตัวคุกคามเลย ซ้ำยังชื่นชมในความสามารถของเขา ดังนั้นการประมือในครั้งนั้นจึงลงเอ่ยด้วยการเสมอกัน

ครั้งนั้นคุณชายไผ่ขจีไม่ได้เล่นเล่ห์ต่อรองเลย ตี้ฝูอีก็ไม่ได้อวดโอ่บารมีเช่นกัน

เพียงอยากให้คุณชายไผ่ขจีนึกยำเกรงเขา ไม่ออกมาก่อเรื่องวุ่นวายก็พอ

คุณชายไผ่ขจีคาดเดาพลังที่แท้จริงของตี้ฝูอีผิดไป ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงถูกตี้ฝูอีจัดการจนสะบักสะบอมยิ่งนัก

ไม่น่าเชื่อว่าจินเซียนคนหนึ่งจะสามารถกักตัวซ่างเซียนคนหนึ่งไว้ที่นั่นได้ แทบจะถูกบดขยี้อยู่บนพื้นแล้ว

————————————————————————————-

[1] วัชรยักษ์ เป็นหนึ่งในวิทยาราชทั้งห้า เป็นสัญลักษณ์แทนพระปัญญาคุณอันรุ่งเรืองยิ่งของพระโคตมพุทธเจ้า และเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองพระ ธยานิพุทธะทั้งห้า โดยวัชรยักษ์เป็นผู้คุ้มครองพระอโมฆสิทธิพุทธะ

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

อ่านนิยาย ลำนำบุปผาพิษ
Status: Ongoing
เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset