ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 617

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เกี้ยวพาเธอหรือ? 3

วาจานี้ดูเหมือนเธอกล่าวออกมาโดยไม่เจตนา แต่ความจริงแล้วเป็นการหยั่งเชิงอย่างหนึ่ง

บางทีอาจเป็นเพราะสัมผัสที่หก ทำให้เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้องหน้าอาจเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายปลอมตัวมา แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้เต็มปาก ดังนั้นจึงหยั่งเชิงเป็นนัยๆ คิดจะหาเบาะแสจากท่าทางเล็กๆ น้อยๆ จากท่าทีของเขา

แต่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์สวนหน้ากากไว้ เธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าของเขา ทำได้เพียงมองปฏิกิริยาของเขา

มองจากปฏิกิริยาของเขาแล้ว ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ เขาแค่ร้องอ่อคราหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นว่า “กาสุราใบนั้นของเขาไม่เลวจริงๆ ถ้าเจ้าชอบก้ลองไปขอเขาดูสิ”

กู้ซีจิ่วกระแอมไอคราหนึ่ง ”ซีจิ่วว่าเขาคงไม่ให้หรอกเจ้าค่ะ”

ภายภาคหน้าเธอจะได้พบเขาอีกหรือไหมก็ยากจะบอกได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการขอกาสุราจากเขาเลย

“บางทีถ้าเจ้าไปออดอ้อนขอเขาอาจจะให้ก็ได้นะ” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยท่าทียิ้มมิเชิงยิ้ม “เขาอาจจะชอบสตรีช่างอ้อนก็ได้”

กู้ซีจิ่วทำตาโต “ดูไม่ออกเลยเจ้าค่ะ…”

“บางครั้งก็ต้องลองทดสอบดู ถ้าเจ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรเล่า?” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ให้กำลังใจเธอ

“ท่านทราบได้อย่างไรว่าเขาชอบ?” กู้ซีจิ่วหลุดปากถาม

“เอ่อ เป็นเพราะไม่มีอะไรที่เปิ่นจุนไม่รู้…” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เอ่ยแถ

“เช่นนั้นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์คงคุ้นเคยกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นพิเศษ แล้วคุ้นเคยกับสานุศิษย์สวรรค์คนอื่นๆ ด้วยไหมเจ้าคะ?”

“ดูเหมือนเจ้ากำลังตะล่อมถามเปิ่นจุนอยู่ เจ้าอยากรู้อะไรงั้นรึ?” ปลายนิ้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เคาะหน้าโต๊ะเบาๆ ดวงตาที่มองดูนางฉายแววใคร่ครวญแวบหนึ่ง

“ซีจิ่วอยากรู้ว่าโฉมงามในตำหนักน้ำแข็งของหลงซือเย่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาหรือยัง?” ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เอ่ยคำถามข้อหนึ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา

เงียบสนิท!

ดวงตาของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เดิมทีฉายแววอ่อนโยนพลันเย็นชาลงเล็กน้อย

เขาไม่ได้พูดอะไร หลังจากกู้ซีจิ่วถามคำถามนี้ออกไปหัวใจก็ค่อยๆ บีบรัด

ผ่านไปครู่หนึ่งท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็คล้ายจะยิ้มออกมา แต่กลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พวกเราเพิ่งจะพูดคุยถึงปัญหาที่ให้เจ้าไปออดอ้อนตี้ฝูอีมิใช่หรือ…?”

กู้ซีจิ่วตัวสั่น โพล่งออกไปประโยคหนึ่ง “ข้าไหนเลยจะมีคุณสมบัติไปออดอ้อนขอสิ่งของจากเขาล่ะเจ้าคะ?”

“เจ้ามิใช่คู่หมั้นของเขาหรอกหรือ?” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถาม

“ข้ากับเขาถอนหมั้นกันนานแล้ว ตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้วเจ้าค่ะ”

“เสียใจหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วชะงักไปเล็กน้อย เสียใจหรือ? น่าจะไม่เสียใจละมั้ง! สถานการณ์ในวันนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการถอนหมั้น เพียงแต่บีบให้เธอเอ่ยออกมาก็เท่านั้น

เธอส่ายหน้านิดๆ “ไม่เสียใจเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นตอนนี้พวกเจ้ายังเป็นสหายกันอยู่หรือไม่?” คำถามของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์คมชัดขึ้นเรื่อยๆ

สหายหรือ? น่าจะนับว่าใช่กระมัง?

อันที่จริงกู้ซีจิ่วก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก เนื่องจากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้นคาดเดายากเกินไป เธอไม่เคยเข้าถึงเขาเลย

เพียงแต่ถึงแม้คนผู้นั้นกลั่นแกล้งเธออยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังดีต่อเธอ ดังนั้นน่าจะนับว่าเป็นสหายได้ละมั้ง?

เธอจึงพยักหน้า “น…นับว่าเป็นสหายได้กระมัง?” น้ำเสียงเธอไม่ค่อยแน่ใจนัก

“นับว่าเป็น?” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เอ่ยทวน น้ำเสียงแผ่วหวิวเล็กน้อย “ฝืนใจถึงปานนั้นเชียวหรือ?”

กู้ซีจิ่วยิ้มขื่นๆ ตอบไปว่า “มิใช่ฝืนใจหรอกเจ้าค่ะ เป็น…เป็นซีจิ่วเข้าไม่ถึงเขาจริงๆ เจ้าค่ะ…”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยิ้มแล้ว “ที่แท้เจ้าก็อยากเข้าถึงเขา!”

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นคำศัพท์ที่ง่ายดายนัก แต่พอท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เอ่ยออกมาเช่นนี้ กลับดูคลุมเครืออยู่บ้าง

กู้ซีจิ่วเหงื่อตก ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวข้อถึงดำเนินไปในทิศทางที่ประหลาดเช่นนี้ เธอกระแอมคราหนึ่ง ตัดสินใจจะดึงหัวข้อสนทนากลับมาอีกครั้ง “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เจ้าคะ ซีจิ่วจำได้ว่าเมื่อครู่เราคุยกันเรื่องกาสุราของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายว้าย…”

“อื้ม กาสุรา ดูเหมือนเจ้าจะหมกหมุ่นกับกาสุราของเขาเหลือเกิน ความจริงถ้าเจ้าอยากได้ก็ง่ายดายนัก เดี๋ยวเปิ่นจุนจะจัดการให้ ยกเจ้าให้ออกเรือนกับเขา จากนั้นก็ให้เขามอบกาสุราใบนั้นเป็นสินสมรสแก่เจ้า”

กู้ซีจิ่วตะลึงงัน

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset