ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 627

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เฉยเมยยิ่งนักอยู่เสมอ

ทูตส่างซั่นเหงื่อตก “ยามที่ข้าน้อยทำลายเรือนแม่นางกู้มิได้อยู่ข้างในแล้วขอรับ ข้าน้อยรอให้นางจากไปก่อนถึงเริ่มทำลาย หลังจากทำลายเสร็จก็พบนางนั่งเย็บม่านผืนนี้อยู่ริมลำธาร ตอนที่ข้าน้อยเห็นนาง นางเพิ่งเย็บเสร็จพอดี…เลยฝากข้าน้อยนำมาคืนให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ…”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่พูดอะไรอีก เก็บม่านเตียงผืนนั้นไป ใส่เข้าไปในถุงเก็บของ

ทูตส่างซั่นลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ที่รักความสมบูรณ์แบบเขาไม่ต้องการสิ่งใดที่ไม่สมบูรณ์

ถึงแม้สิ่งที่ไม่สมบูรณ์นั้นจะล้ำค่าปานใด ซ่อมแซมจนสมบูรณ์เพียงไหน เขาก็จะโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่มองอีกเลย คาดไม่ถึงว่าเขาจะเก็บผ้าม่านที่เห็นชัดว่ามีตำหนิผืนนี้ไว้

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เฉยเมยอย่างยิ่งอยู่เสมอ ทูตส่างซั่นเองก็ไม่ทราบว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าใส่ใจมากมิใช่หรือ? และเห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าปฏิบัติด้วยอย่างสนิทสนมกลมเกลียวยิ่ง แล้วทำไมจู่ๆ ก็…

คล้ายว่าทูตส่างซั่นจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก “อ่า ใช่แล้ว ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ ยามที่แม่นางกู้มอบผ้าม่านผืนนี้ให้ยังฝากถ้อยคำให้ข้าน้อยมาแจ้งแก่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยขอรับ”

ในที่สุดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เหลือบมองเขาอีกแวบหนึ่ง “ถ้อยคำใด?”

“แม่นางกู้กล่าวว่า นางเคยอาศัยชื่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไปก่อเรื่องจริงๆ สร้างความยุ่งยากให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ นางรู้สึกขออภัยยิ่ง ภายหน้าจะไม่ทำอีกเด็ดขาด ขอท่านเทพศักดิ์สิทธิ์โปรดวางใจ”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เงียบงัน

เขาไม่พูดอะไร เหลาขลุ่ยไผ่ต่อไป

ต่อมาทูตส่างซั่นตาแหลมสังเกตเห็นว่า ขลุ่ยที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เหลาขึ้นมาใหม่มีรูเกินมาหนึ่งรู…

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ ข้าน้อยไม่เข้าใจเลย อันที่จริงแม่นางกู้ก็มิได้อาศัยชื่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไปก่อเรื่องอันใด เพียงแต่จงใจยั่วโม่โหผู้อื่นเท่านั้น ความจริงแล้วนางพึ่งพาตัวเองทุกอย่าง นางพลิกสถานการณ์ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จนงดงามเช่นนี้ได้ก็อาศัยความสามารถของตนเองทั้งสิ้น การที่เข้าชั้นเรียนเมฆาคล้อยได้โดยงดเว้นการทดสอบก็เป็นนางอาศัยความพากเพียรของตน ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ตำหนินางละทิ้งนางด้วยเหตุนี้ ข้าน้อยรู้สึกว่าค่อนข้าง…” ทูตส่างซั่นเริ่มทำใจกล้ากล่าวความเห็นตนออกมา

เห็นได้ชัดเจนยิ่งนัก ว่าเขาก็ได้ยินบทสนทนาเหล่านั้นของกู้ซีจิ่วกับอวิ๋นชิงหลัว…

เท่าที่เขาเห็นนั่นไม่มีอะไรเลย เป็แค่เด็กน้อยทะเลาะกันเท่านั้น อย่างมากกู้ซีจิ่วก็เป็นเพียงเด็กแสบที่ค่อนข้างกวนโมโหผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นยิ้มก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก

“เหตุใดจึงบอกว่าเปิ่นจุนละทิ้งนาง?” ในที่สุดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดปากเอ่ย น้ำเสียงเรียบเฉย “อันที่จริงเปิ่นจุนแค่อยากให้นางเข้าสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์อย่างราบรื่นเท่านั้น ตอนนี้บรรลุจุดประสงค์แล้ว ย่อมสมควรถอนตัวมา ไม่เกี่ยวกับทิ้งหรือไม่ทิ้ง”

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ภารกิจรัดตัว จากมาเป็นเรื่องปกติ แต่ข้าน้อยเห็นว่าแม่นางกู้ชอบคฤหาสน์หลังนั้นมาก นางยังปลูกดอกไม้ไว้ในเรือนอีกด้วย ใช่แล้ว ยามที่ข้าน้อยทำลายเรือนทิ้ง พบแบบแปลนที่นางวาดแผ่นหนึ่งในเรือนของนางด้วยขอรับ ดูเหมือนจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ที่นางออกแบบเอง ดูน่าสนใจยิ่ง ตอนนี้กลับพังพินาศไปเช่นนี้แล้ว…อันที่จริงให้นางอาศัยอยู่ในเรือนนั้นตลอดไปก็ไม่เป็นไรเลยนี่ขอรับ อย่างไรเสียทุกคนก็ล้วนยอมรับความจริงที่นางอาศัยอยู่ที่นั่นได้แล้ว น่าจะไม่มีผู้ใดนินทาหรอกขอรับ” ทูตส่างซั่นกล่าวต่อ

“มู่เฟิง วันนี้เจ้าชักจะพูดมากไปแล้ว!” ท่านเทพศักดิสิทธิ์ดีดนิ้วเปาะ มีดในมือพุ่งเข้าใส่ไผ่เขียวต้นหนึ่ง เสียบเข้าไปมิดด้ามเสียงดังปึก

มู่เฟิงไม่กล้าพูดจาวุ่นวายต่อแล้ว

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หมุนขลุ่ยไผ่ในมือ “ด้านหลงซือเย่เป็นอย่างไรบ้าง?”

มู่เฟิงจึงรายงาน “เขายังติดตามอยู่ข้างกายองค์ชายหรงเช่อขอรับ ”ตอนนี้ยังไม่พบอะไร อาการบาดเบ็ดขององค์ชายหรงเช่อสาหัสยิ่ง ระหว่างทางยังสลบไปหนหนึ่งด้วย หลงซือเย่ดูแลอยู่ตลอด เพิ่งกลับถึงอาณาจักรเฟยซิงเมื่อหลายวันก่อน หลายวันมานี้เก็บตัวอยู่ตลอด ได้ยินว่าเขาเพิ่งลุกจากเตียงได้เมื่อวานซืน อาการแย่กว่าอวิ๋นชิงหลัว รากฐานของอวิ๋นชิงหลัวดีกว่าเขา หลายวันก่อนสามารถออกมาวิ่งได้แล้ว ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ โทษของนางยังต้องดำเนินการอยู่หรือไม่?”

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset