ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1363 (2)+1364

บทที่ 1363 (2)+1364

บทที่ 1363 ราวกับมีประสบการณ์โชกโชน (2)

เตียงเมฆาหลังนั้นอบอุ่น เธอนอนหงายบนเตียงแทบจะไม่รู้สึกหนาวเลย กลับมีกระแสความอบอุ่นจางๆ ส่งผ่านจากบนเตียงมายังแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอ

ใช่แล้ว เบื้องหลังที่เปลือยเปล่า การสะบัดของตี้ฝูอีเมื่อสักครู่ไม่เพียงแต่ใช้วิชาชำระล้างอันแข็งแกร่งให้เธอ ซ้ำยังถือโอกาสถอดเสื้อผ้าเธอทั้งหมดด้วย

“ท่าน…รีบร้อนขนาดนี้เลย…”

หัวใจกู้ซีจิ่วแทบจะกระโดดออกมา มือทั้งสองข้างผลักแขนเขาเบาๆ เขาโน้มตัวลงมา น้ำเสียงแหบพร่าราวกับกำลังควบคุมลาวาที่เดือดพล่าน “ใช่ ข้ารีบร้อนนัก…”

เรื่องราวต่อจากนี้เธอก็พูดต่อไม่ได้แล้ว ด้วยถูกเขาผนึกไว้ด้วยจุมพิต…

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม กู้ซีจิ่วแทบจะเป็นอัมพาตอยู่บนเตียงไม่อยากขยับไปไหน ในที่สุดเธอก็ได้รับรู้ถึงความรีบร้อนของเขาแล้ว…

สมกับที่เป็นเทพ ร่างกายมิอาจหาคำมาบรรยายได้ พายุฝนพัดกระหน่ำตลอดหนึ่งชั่วยามเต็ม…

อีกทั้งทักษะของเขาช่ำชองกว่าครั้งที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าอะไรคือการลอยล่องราวเทพเทวะ อะไรคือไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ การเคลื่อนไหวเช่นนั้นทำให้คนเคลิบเคลิ้มดื่มด่ำ ประหนึ่งมีเพียงเขาและเธอบนโลกใบนี้ มีเพียงการเคลื่อนไหวอันเร่าร้อนดิบเถื่อน…

ท้ายที่สุด เธอเหน็ดเหนื่อยจนแม้แต่ปลายนิ้วยังไม่อยากกระดิก แต่เขากลับกระปรี้กระเปร่าประดุจหมาป่าที่สุขสมอารมณ์หมาย อดทนชำระล้างให้เธอ

เนื่องจากเป็นครั้งที่สอง อีกทั้งเขาไม่เหมือนคนทั่วไป เธอยังคงเจ็บและมีอาการบวมเล็กน้อย หลังจากชำระล้างเสร็จสิ้น เขาหยิบยาชนิดหนึ่งออกมา เตรียมจะทาให้เธอ…

ใบหน้ากู้ซีจิ่วแดงก่ำดั่งลูกมะเขือเทศ แม้แต่เรื่องที่สนิทชิดเชื้อที่สุดก็ทำแล้ว ทว่าให้เขาทาตรงนั้น…

เธอฝืนเอื้อมจับมือเขา “ข้า…ข้าทาเอง…คือว่า ไม่ใช่สิ ความจริงไม่ต้องทายาหรอก…” ความเจ็บปวดเช่นนี้ฟื้นฟูแค่นิดหน่อยก็หายแล้ว หรือไม่ต้องฟื้นฟูก็ได้…

มือไม้เธออ่อนปวกเปียก ย่อมหยุดยั้งเขาไม่ไหว

“ใช้ยาทาจะได้หายเร็วๆ เจ้าจะได้ไม่เจ็บปวด” ตี้ฝูอีจับมือทั้งสองข้างที่ดิ้นรนของนางด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งทายาให้นางอย่างเบามือ

ความรู้สึกที่แตกต่างไปทำให้ใบหน้าเธอแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง เธอแทบจะไม่กล้าลืมตา อยากยกขาขึ้นมาถีบเขาออกไป แต่ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ต่อให้ถีบก็เสียแรงเปล่า เธอจึงโอนอ่อนตามความต้องการของเขาไป

สำหรับเธอแล้ว เหตุการณ์เช่นนี้กระอักกระอ่วนอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อกระอักกระอ่วนก็ตึงเครียด เมื่อตึงเครียดก็จะพูดมาก “นี่…นี่เป็นครั้งแรกของท่านจริงหรือ?”

“แน่นอน!”

“แต่ดูท่านช่ำชองยิ่งนัก ราวกับมีประสบการณ์โชกโชน”

ตี้ฝูอีมองใบหน้าแดงระเรื่อของนาง ถึงแม้นางพยายามสงบสติอารมณ์เต็มที่ ทว่าสายตากลับลอกแลก ไม่กล้ามองเขา…

หัวใจของเขาพลันสั่นไหว ที่แท้นางก็มีช่วงเวลาเด็กน้อยแบบนี้เหมือนกัน ลักษณะของนางเช่นนี้มีเพียงเขาที่ได้เห็นกระมัง?

ตี้ฝูอีหรี่ตาเหลือบมองนาง อมยิ้มเอ่ย “นี่เจ้า…ไม่พึงพอใจในทักษะของข้าหรือ? ไม่พอใจพวกเราทำกันใหม่อีกครั้งก็ได้…”

พอใจสิ พึงพอใจมากจริงๆ!

กู้ซีจิ่วกลัวว่าเขาจะทำอีกครั้ง โพล่งออกไปทันที “พึงพอใจสิ! ไม่ต้องทำแล้ว…”

ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม จุมพิตริมฝีปากนางคราหนึ่ง สุ้มเสียงเร่าร้อนคลุมเครือ “ความจริงข้ายังทำให้เจ้าพึงพอใจได้มากกว่านี้”

ร่างกู้ซีจิ่วคุดคู้ “ไม่ ไม่ต้องแล้ว…” หากต้องการเธออีกครั้งหนึ่ง เธอรู้สึกว่าร่างกายตนต้องแหลกสลายแล้ว

ตี้ฝูอีไม่ได้บังคับนาง แต่กลับยิ้มพลางฉุดนางขึ้นมา “มา ฝึกฝน”

กู้ซีจิ่วงงงวย “หา?”

โดยปกติหลังจากเสร็จกิจล้วนนอนพักผ่อนอิงแอบแนบกายไม่ใช่หรือ? เหตุใดให้เธอฝึกฝนเล่า? เธอเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!

————————————————————————————-

บทที่ 1364 เจ้าอยากอาบน้ำไม่ใช่หรือ?

“ไม่เอา! ข้าเหนื่อยแล้ว!” กู้ซีจิ่วเอนกายนอนราวกับร่างที่ไร้กระดูก เนื่องจากร่างกายเปล่าเปลือย เธอจึงขดตัวเองเป็นวงกลมโดยสัญชาตญาณ

ตี้ฝูอีอดยิ้มไม่ได้ คลายตัวนางออกแล้วค่อยดึงให้ลุกขึ้นนั่ง “เชื่อข้า การฝึกฝนในช่วงเวลานี้ดีที่สุด เจ้าลองดู ข้าจะสอนวิธีให้เจ้า”

เขาแสดงวิธีการฝึกฝนให้ดูเป็นตัวอย่าง เธอนั่งโอนเอนไปมาดุจตุ๊กตาล้มลุก เมื่อเขาพูดจบ เธอล้มตัวลงอีกครั้ง “ข้าขอนอนก่อนสักงีบ เดี๋ยวค่อยฝึก”

ตี้ฝูอีนิ่งอึ้ง เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงฝืนดึงนางขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนเคาะศีรษะไปครั้งหนึ่ง ข่มขู่นาง “หากไม่ยอมเชื่อฟังอีกข้าจะขืนใจเจ้า!”

กู้ซีจิ่วเหนื่อยจนเปลือกตาบนและล่างจะปิดเข้าหากันอยู่แล้ว ทว่าการข่มขู่ของเขาก็ยังได้ผลกับเธอ ดังนั้นจึงตื่นตัวขึ้นมานิดหน่อย ดวงตาพร่ามัวทั้งคู่มองเขา “เมื่อกี้ท่านพูดถึงวิธีการฝึกฝนแบบไหน?”

ตี้ฝูอีกล่าวอันใดไม่ออกแล้ว มีคนตั้งมากมายต้องการรับฟังคำชี้แนะของเขา แม้เพียงหนึ่งหรือครึ่งประโยคก็ไม่มีทางได้ฟัง เด็กคนนี้กลับทำเป็นหูทวนลม

เขาสอนนางอีกรอบหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่าระหว่างที่สอนก็สังเกตความตื่นตัวของนาง เตรียมพร้อมจะเคาะปลุกนางตลอด

เคราะห์ดีที่นางยังมีใจสู้ไม่ย่อท้อ ครั้งนี้เข้าใจอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง รีบนั่งขัดสมาธิทันที…

ฝึกฝนไปสักครู่เธอก็สัมผัสได้ถึงคุณประโยชน์ เมื่อโคจรพลังวิญญาณในร่างกาย จุดสำคัญบางจุดภายใต้ท้องน้อยแทบจะหลอมละลายรวมเป็นหนึ่งเดียวทีละน้อย และจุดสำคัญเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณ หลอมรวมเข้ากับพลังวิญญาณในตัวเธอ…

หลังจากเธอฝึกฝนหนึ่งชั่วยาม เหงื่อออกโซมกาย ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง

เธอในตอนนี้ย่อมมีประสาทสัมผัสไวต่อพลังวิญญาณยิ่งนัก เมื่อสัมผัสถึงการเพิ่มขึ้นของพลังวิญญาณ หัวใจพลันสั่นไหว เอ่ยถามทันที “คงไม่ได้…นี่ข้าคงไม่ได้รวบรวมพลังหยางไปเติมเต็มพลังหยินกระมัง?”

ตี้ฝูอีแน่นิ่ง

เขาไม่พูดไม่จาพลันสะบัดมือ กู้ซีจิ่วโบยบินดังขี่หมอกเมฆา ร่วงหล่นลงไปในทะเลสาบน้อยดังจ๋อม

กู้ซีจิ่วว่ายน้ำเป็น ไม่นานเธอก็ปรากฏกายขึ้นจากผิวน้ำ เหลือบมองบางคนที่ยังนั่งสมาธิอยู่บนเตียง “ตี้ฝูอี!”

ตี้ฝูอีแย้มยิ้มมองดูนาง “เจ้าอยากอาบน้ำไม่ใช่หรือ? ยามนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดแล้ว”

กู้ซีจิ่วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าก็เริ่มอาบน้ำแล้ว เมื่อสักครู่เธอยังปวดเมื่อยร่างกายอย่างหนัก แม้แต่นิ้วมือยังไม่อยากกระดิก แต่หลังจากฝึกฝนหนึ่งชั่วยาม ไม่เพียงแต่พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นไม่น้อย ความปวดเมื่อยร่างกายล้วนจางหายไป จนถึงขั้นรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก รู้สึกเบาหวิวดังได้ขึ้นสวรรค์

น้ำในสระนี้ทั้งอุ่นและนุ่มลื่นดังผ้าแพร แช่น้ำแล้วสบายตัวยิ่งนัก สิ่งที่ทำให้เธอยิ่งสุขใจก็คือ เมื่อแช่น้ำราวกับมีพลังวิญญาณจำนวนมากไหลเวียนรอบกายเธอ…

มือทั้งสองของเธอประคองน้ำขึ้นมาดูอย่างประหลาดใจ น้ำสีเขียวดังมรกต เมื่อเธอประคองมันขึ้นมาก็รับรู้ได้ว่าภายในมีพลังวิญญาณไหลเวียนอยู่ น้ำพุร้อนนี้เป็นน้ำพุวิญญาณกระมัง?

“นี่คือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งหมดในร่างกายเจ้าได้ เพิ่มสมรรถภาพของร่างกาย ทำให้กลายเป็นคนใหม่ เจ้านั่งสมาธิในนั้นโดยใช้วิธีที่ข้าเพิ่งสอนเจ้า เจ้าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่า” เสียงของตี้ฝูอีดังขึ้นอีกครั้ง

มิน่าเล่า เขาถึงฟื้นฟูได้รวดเร็วปานกินลูกกลอนสวรรค์! สถานที่เช่นนี้ช่างดีงามตามหลักฮวงจุ้ย!

ดังนั้นกู้ซีจิ่วจึงละทิ้งความไม่พอใจที่เขาโยนเธอลงน้ำมาเมื่อสักครู่ เริ่มปรับลมปราณนั่งสมาธิในนี้ พลังวิญญาณที่เดิมทีไหลเวียนภายในน้ำพุร้อนแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังและภายในเส้นเลือด ลามไปตามแขนขาและกระดูกทั้งหมด ค่อยๆ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างช้าๆ…

————————————————————————————

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset