ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1382+1383

บทที่ 1382+1383

บทที่ 1382 หุนหันพลันแล่นคือปีศาจ! เฮ้อ!

การเคลื่อนไหวของตี้ฝูอีเบามากพอแล้ว ทว่ายังทำให้หน้าผากเธอมีเหงื่อออก ยามที่ตี้ฝูอีพันแผลให้ มือของเธอจึงกระตุกโดยไม่รู้ตัว ส่งเสียงแหบแห้งแผ่วเบา “เจ็บ…”

การเคลื่อนไหวมือของตี้ฝูอีเบายิ่งขึ้น “รู้จักเจ็บแล้วหรือ?”

นางใช้มือจับวงกบประตูเช่นนั้นช่างเหมือนยื่นมือเข้าไปในรังผึ้งเพื่อจับผึ้ง คนอื่นถูกต่อยนิดเดียวก็วิ่งหนีไปนานแล้ว! แต่นางกลับจับรังผึ้งไว้ไม่ปล่อย…ช่างกล้าหาญชาญชัยเป็นที่สุด!

กู้ซีจิ่วหลับตาลง สงบจิตใจที่ตื่นตระหนกเกินไปจนสับสนยิ่งนัก จากนั้นจึงรู้สึกโกรธขึ้นมา!

เธอไม่สนใจความเจ็บปวด ยกมือที่เพิ่งพันแผลเรียบร้อยคว้าสาบเสื้อเขา ดวงตาดำขลับมีความโกรธลุกโชน “ตี้ฝูอี ต่อไปท่านไม่อาจทอดทิ้งข้าได้อีก! หากรอดก็รอดด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน! หากท่านทอดทิ้งข้าอีก…หากท่านทอดทิ้งข้าเช่นนี้อีก ข้า…ข้าจะเกลียดท่านชั่วชีวิต! ไม่มีทางยกโทษให้ท่านอีก!”

ตี้ฝูอีนำมือเล็กของนางที่พันแผลดั่งหัวผักกาดมาวางไว้บนฝ่ามือตัวเอง ถอนใจเบาๆ “ซีจิ่ว เจ้าต้องเชื่อใจข้า”

“หืม?” กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้นสูง

“เจ้าไม่วางใจความสามารถของข้าขนาดนั้นเลยหรือ? ข้าทำการสิ่งใดล้วนมีกระบวนท่าไม้ตายเสมอ บางครั้งก็ไม่ทันได้อธิบาย ต่อไปหากพบเจอสถานการณ์เช่นนี้อีก เจ้าหนีออกไปก่อนพอ ข้ามีวิธีหลบเลี่ยงของข้าเอง…”

กู้ซีจิ่วทอดถอนใจ ใช่สิ เขาเป็นถึงเทพของทวีปนี้ จะเป็นอะไรไปได้อย่างไร? เหมือนตัวเองจะตอบสนองมากเกินไปหน่อย

แต่เมื่อกี้เธอหวาดกลัว กลัวเขาจะออกมาไม่ได้อีก กลัวเขาจะจากเธอไป…

เป็นเพราะใส่ใจมากเกินไปถึงได้เป็นทุกข์ร้อนใจขนาดนี้ใช่หรือไม่?

เจ้าหอยยักษ์พูดเกินความจริงอยู่ด้านข้าง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ต่อไปท่านอย่าทำแบบนี้อีก ท่านรู้ดีว่าตัวเองตายไม่ได้ แต่เจ้านายข้าไม่รู้นี่ เมื่อสักครู่นางเหมือนเป็นบ้าไปแล้ว ข้าเป็นกังวลจริงๆ ว่าหากท่านยังไม่ออกมาอีก นางต้องโขกศีรษะตายอยู่ตรงนี้แน่…”

ใบหน้ากู้ซีจิ่วแดงในที่สุด ยกเท้าถีบเจ้าหอยยักษ์ไปหนึ่งที “ไสหัวไป! เจ้านั่นแหละเหมือนบ้าไปแล้ว!”

เธอสงบจิตใจลงแล้ว และหวนคิดถึงการกระทำของตัวเองเมื่อสักครู่ รู้สึกว่าค่อนข้างน่ากลัว ตอนนั้นเธอถูกความหวาดกลัวที่จะสูญเสียเขาเข้าครอบงำ ไม่สนใจสิ่งใด เกือบจะทำลายล้างโลกใบนี้แล้ว…

ตัวเธอเองก็นึกไม่ถึงว่าจะมีช่วงที่หุนหันพลันแล่นขนาดนี้

หุนหันพลันแล่นคือปีศาจ! เฮ้อ!

เธอมองเขตแดนนั้นด้วยความรู้สึกผิด เคราะห์ดีที่ดูเหมือนเขตแดนจะไม่ได้รับความเสียหาย มิเช่นนั้นเธอจะกลายเป็นคนบาปของทวีปนี้ หากมันถูกเธอทำลายลงจริงๆ!

ในที่สุดบรรยากาศตึงเครียดก็คลี่คลายลง ถึงแม้ครั้งนี้ทุกคนจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ทว่าโชคดีที่แค่ตื่นตระหนก ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่ฝ่าพายุคลื่นลมต่างๆ มามากมาย ย่อมสงบจิตใจลงได้ ทุกคนกลับมาพูดคุยหัวเราะกันเหมือนเดิม รักษาบาดแผล นั่งสมาธิ คุยเล่นกันไป

ครานี้ทุกคนบาดเจ็บกันถ้วนหน้าไม่มากก็น้อย เนื่องจากนิ้วมือกู้ซีจิ่วบาดเจ็บ หน้าที่รักษานี้ย่อมต้องตกเป็นของหลัวจั่นอวี่

เดิมทีกู้ซีจิ่วอยากหาก้อนหินสักก้อนฟื้นฟูพลังด้วยตัวเอง เมื่อครู่เธอยุ่งวุ่นวาย รีบร้อนจนไม่รู้สึกอะไร ยามนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงก็รู้สึกเจ็บปวดกระดูกจนทนไม่ไหว อยากจะหาสถานที่พักพิงอยู่บ้าง

เธอยังโกรธตี้ฝูอี ไม่อยากอยู่ใกล้เขา ทว่าตี้ฝูอีกลับไม่พูดไม่จาดึงเธอไว้ในอ้อมกอด และกดจุดฝังเข็มให้เธอ

กู้ซีจิ่วดิ้นรนในอ้อมกอดเขา “ไม่ต้องมาสนใจข้า! คนหลอกลวง!”

ตี้ฝูอีกอดนางไว้ “ขอโทษ” เขาทำให้นางตกใจจริงๆ ในสถานการณ์เช่นนั้นไม่มีทางแบ่งสมาธิไปได้เลย

——————————————————

บทที่ 1383 ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าเอง ไม่โกรธแล้วดีไหม? หืม?

ในสถานการณ์เช่นนั้นไม่มีทางแบ่งสมาธิไปได้เลย ย่อมไม่สามารถอธิบายให้นางเข้าใจอย่างละเอียดได้ ส่วนนางก็ดึงดันที่จะอยู่กับเขาให้ได้ เขาจึงทำได้เพียงหลอกนาง อาศัยช่วงที่นางเผลอโยนนางออกมา…

อันที่จริงกู้ซีจิ่วทราบว่าในสถานการณ์เช่นนั้นไม่เอื้อต่อการอธิบาย เพียงแต่รู้สึกว่าในใจยังมีเพลิงโทสะปะทุอยู่

เธอจ้องตาเขา “วรยุทธ์ของข้าในยามนี้น่าจะยืนเคียงข้างท่านร่วมหัวจมท้ายกับท่านได้แล้วกระมัง? เหตุใดท่านต้องโยนข้าออกมาก่อนด้วย?”

ในเมื่อเขาอยากล่อสัตว์ร้ายไปแล้วค่อยเปิดประตูมิติอีกครั้ง ก็ร่วมมือกับเธอได้นี่ เขาโยนเธอออกมาเช่นนี้แล้วเหลือตัวเองไว้ เขาไม่คิดบ้างหรือว่าเธอจะกังวลใจมากแค่ไหน?

ตี้ฝูอีลูบหัวเธอเบาๆ “เคยชินไปแล้วน่ะ”

เคยชินที่ต้องปกป้องนางก่อน เคยชินที่ต้องให้นางอยู่ในจุดที่ปลอดภัยก่อน

เนื่องจากอย่างไรเสียเมื่อครู่เขาก็ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อยเช่นกัน เป็นการอาศัยประสบการณ์เนิ่นนานปีเดิมพันดูเท่านั้น

โชคดีที่เขาชนะเดิมพัน มิเช่นนั้นนางคง…

เขาหลุบตามองนางที่อยู่ในอ้อมแขน ดวงหน้าน้อยๆ ของนางยังคงซีดเผือดอยู่ ถึงแม้นางจะพยายามสงบเยือกเย็น แต่ร่างกายยังสั่นสะท้านอยู่บ้าง เห็นทีว่าเมื่อครู่จะขวัญเสียจริงๆ

กู้ซีจิ่วกลับขมวดคิ้วแวบหนึ่ง แทบจะเดือดดาลแล้ว “เคยชินอะไร? เคยชินกับการหลอกข้าน่ะหรือ? ตี้ฝูอี ท่านเสพติดการหลอกลวงข้าไปแล้วกระมัง?! ข้าจะบอกไว้นะ ครั้งหน้าถ้าท่านหลอกข้าอีก แม้ว่าท่านมีเจตนาดี แม้ว่าจะทำเพื่อข้า ข้าก็จะเลิกกับท่าน ไม่อยู่กับท่านอีกต่อไปแล้ว!” เธอชิงชังการหลอกลวงมากที่สุด ทว่าเขาก็ชอบท้าทายขีดจำกัดของเธออยู่เสมอ

ตี้ฝูอีจุมพิตหน้าเธอทีหนึ่ง “ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าเอง ไม่โกรธแล้วดีไหม? หืม?”

“เฮอะ!” กู้ซีจิ่วสะบัดหน้าหนี ดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนเขาอีกครั้ง “ท่านปล่อยข้าก่อน”

ตี้ฝูอีจุมพิตริมฝีปากเธอ ทำหน้าหนา “ไม่ปล่อย!”

กู้ซีจิ่วทำอะไรไม่ถูกแล้ว

คนห้อมล้อมมากมายปานนี้ เขาทั้งกอดทั้งจูบเธออย่างโจ้งแจ้งถึงเพียงนี้จะดีจริงๆ น่ะหรือ?

เธออดไม่ได้ที่จะกวาดตามองรอบข้างแวบหนึ่ง คนอื่นๆ ยังคงรู้ความยิ่งนัก หลีกห่างจากพวกเขาเล็กน้อยด้วยตัวเอง

ทุกคนรอดชีวิตจากความตายแล้ว และเหนื่อยล้ากันแทบตาย ยามนี้จึงก่อกองไฟขึ้นบนที่โล่งผืนหนึ่ง แล้วนั่งล้อมวงพักผ่อนสนทนากัน

ที่นี่คือยอดเขาที่เจ็ด มีสัตว์ดุร้ายมากมายเช่นกัน อันที่จริงก็อันตรายอย่างยิ่ง เพียงแต่วรยุทธ์ของทุกคนสูงส่ง อีกทั้งมีลู่อู๋น้อยอยู่ที่นี่ สัตว์ร้ายอื่นๆ ไม่กล้ากล้ำกราย

ก่อนหน้านี้กู้ซีจิ่วทุ่มเทที่สุด ย่อมเหนื่อยล้าที่สุดเช่นกัน อีกทั้งได้รับความตกใจถึงเพียงนั้น ยามนี้แข้งขาจึงอ่อนเปลี้ย ต้องการพักผ่อนอย่างยิ่ง

บัดนี้ซุกอยู่ในอ้อมอกของตี้ฝูอี สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคยบนร่างเขา ในที่สุดเธอก็รู้สึกสงบใจแล้ว

เธอยังคงมีเหตุผลอยู่ เขาขออภัยอยู่ตลอดเธอจึงไม่อาจทำตัวขวางโลกไร้เหตุผลได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอระบายโทสะใส่เขาไปแล้ว ยามนี้เขาออกมาได้อย่างปลอดภัย เช่นนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว

“ง่วงหรือ? เจ้าพักผ่อนก่อนสักหน่อยสิ” ตี้ฝูอีโอบเธอไว้ในท่าอุ้มเจ้าหญิง เสื้อคลุมของเขาหลวมกว้าง อยู่ในอ้อมแขนเขาแล้วสบายยิ่งนัก

อันที่จริงเธอยังคงฉงนอยู่บ้าง “ประหลาดนัก ก่อนหน้านี้ที่ประตูบานนั้นข้าคิดจะใช้วิชาเคลื่อนย้าย ผลคือใช้ไม่ได้ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าตอนสู้กับสัตว์ร้ายข้ายังใช้ได้อยู่เลย…” มิเช่นนั้นในตอนสุดท้ายเธอคงใช้วิชาเคลื่อนย้ายกอดตี้ฝูอีแล้วพาเข้าประตูไปแล้ว และไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวนกับเรื่องนี้

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “มีสาเหตุมาจากประตูบานนั้น มิเช่นนั้นข้าคงเตือนให้เจ้ากอดข้าแล้วพาหนีเช่นกัน”

“ที่แท้ท่านก็ยังเปิดประตูบานนั้นด้วยตัวเองได้ ประตูที่ท่านเปิดแตกต่างกับประตูที่ข้าเปิด…”

ตี้ฝูอีถอนใจเบาๆ “โง่งม วิธีเปิดประตูเป็นข้าที่สอนให้เจ้า ข้าย่อมเปิดได้อยู่แล้ว ส่วนที่ว่าแตกต่างกัน…เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าคือเทพ?”

——————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset