ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1818+1819

บทที่ 1818 เจ็บปวดหัวใจหวิวๆ

ลู่อู๋น้อยเป็นถึงสัตว์ธาตุไฟ เดินทางด้านในมาหลายวันแล้ว แต่ขนของมันยังคงมีลักษณะเรียบเนียนเงางามดุจผ้าต่วน

ทว่ามันก็เหน็ดเหนื่อยเช่นกัน ภายในดวงตางดงามคู่นั้นเผยให้เห็นความเหนื่อยล้า

เสาะหาทั้งสี่วันสี่คืน เจ้านายกลับไม่เคยหยุดพักแม้เพียงหนึ่งชั่วยาม! ตามหาอยู่ตลอด! ตามหา! ตามหา!

มันมองไปทางกู้ซีจิ่ว ดวงตาที่อดหลับอดนอนของนางแดงก่ำอยู่บ้าง ทว่านางยังคงแข็งแรงและมีกำลังวังชายิ่งนัก

เธอขบเม้มริมฝีปากแน่น ตอบกลับมาเพียงแค่สามคำเท่านั้น “เดินต่อไป!”

เอาเถิด เห็ดมรรคาม่วงนี้เป็นความหวังเดียวของเจ้านาย นางจะตามค้นหาอย่างสุดชีวิต ดังนั้นเจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋น้อยจึงยอมรับชะตากรรมตามหาเป็นเพื่อนนางต่อไป

เขตหวงห้ามนี้ไม่เพียงแต่มีเปลวไฟพวยพุ่ง ยังมีสัตว์ดุร้ายธาตุไฟบางอย่างที่ไม่รู้จักชื่อ คอยจะกระโดดออกมาทำร้ายคนเป็นครั้งคราว

พวกมันไม่นับว่าร้ายกาจนัก ทว่าค่อนข้างน่ารำคาญ แค่มันกระโดดออกมาก็จะก่อกวนไม่หยุดหย่อน ถึงแม้กู้ซีจิ่วกับสัตว์ทั้งสองจะสังหารพวกมันได้ในที่สุด แต่ก็สิ้นเปลืองพลังกายยิ่งนักจริงๆ…

ภายในนี้ไม่มีกลางวันกลางคืน ทุกช่วงเวลาล้วนแดงฉาน กู้ซีจิ่วอาศัยนาฬิกาที่พกติดตัวคำนวณเวลาดู

เธอน่าจะเดินมาสี่วันกับอีกหนึ่งคืนแล้ว…

ตี้ฝูอีบอกว่าเธออยู่ในนี้ได้เพียงแค่หกวัน หมายความว่าเธอเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวัน ทว่ายังคงไม่มีวี่แววใดๆ

จิตใจของเธอร้อนรุ่มกระวนกระวาย

หัวใจก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ หากว่าเป็นเพียงแค่ความฝันจริงๆ เล่า? เช่นนั้นเธอควรทำอย่างไรดี?

ทั้งที่รอบด้านร้อนยิ่งนัก ทว่ามือและเท้าของเธอกลับเย็นวาบเป็นระลอก หัวใจเป็นกังวลอย่างมิอาจบรรยายได้ จมดิ่งลงสู่เบื้องล่างอย่างไม่หยุดหย่อน…

จู่ๆ ฝีเท้าของเธอก็ชะงักงัน!

เจ้าหอยยักษ์เกือบชนเข้ากับร่างของนาง มันรีบร้อนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “เจ้านาย เป็นอะไรหรือ?”

“ข้า…จู่ๆ ข้าก็เจ็บปวดหัวใจหวิวๆ…” กู้ซีจิ่วเอามือกดทับบนหน้าอกอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าเพริศพริ้งซีดเผือดอย่างรุนแรง

“เจ้านาย ท่านเหนื่อยเกินไปแล้ว ข้าว่าท่านควรพักผ่อนเสียหน่อย ท่านฝืนต่อไปเช่นนี้ไม่ได้แล้ว” เจ้าหอยยักษ์ให้นางพิงเปลือกหอยของมัน

กู้ซีจิ่วขบเม้มริมฝีปาก เป็นเพราะสาเหตุนี้หรือ?

คงจะใช่มั้ง!

อย่างไรเสียเมื่ออยู่ด้านในนี้ เธอไม่เพียงแค่อดหลับอดนอน…

ทว่าเธอไม่อาจหยุดพัก! ถึงแม้จะมีเวลาอีกสองวันหนึ่งคืน เธอก็ไม่อาจนอนหลับได้

เธอส่ายหน้า ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด เธออยากร้องไห้ออกมาอย่างที่มิอาจบรรยายได้ หัวใจไม่เพียงสั่นไหวอย่างรุนแรง อีกทั้งยังรวดร้าวเหมือนดังหดเกร็งเป็นระลอก ประหนึ่งพัวพันยุ่งเหยิงกันไปหมด

เดิมทีเธอต้องการเดินต่อไป ทว่ายามนี้ขาทั้งสองข้างกลับรู้สึกอ่อนยวบ แทบจะยืนไม่อยู่แล้ว! หยาดเหงื่อเย็นไหลรินจากหน้าผากของเธอ เธอล้มลงพิงเปลือกของเจ้าหอยยักษ์ นั่งลงบนพื้นในทันที

“เจ้านาย? เจ้านาย?” เจ้าหอยยักษ์ตื่นตระหนกแล้ว รีบร้อนหนีบนางเข้าภายในเปลือกของตัวเอง ก้อนหินบนพื้นดินล้วนเป็นไฟลุกไหม้ หากเจ้านายนั่งลงไป ไม่แน่อาจถูกแผดเผาก็เป็นได้…

ภายในเปลือกของเจ้าหอยยักษ์ยังคงเย็นอยู่ เจ้าหอยยักษ์หดตัวมันเองกลับเข้าไปในเปลือก มองดูนางอย่างเป็นกังวล “เจ้านาย สีหน้าท่านดูย่ำแย่เหลือเกิน! พักผ่อนสักหน่อยเถิด? สักครึ่งชั่วยามก็ยังดี…เอ๋ เจ้านาย ท่านร้องไห้ด้วยเหตุใด?!

ตัวกู้ซีจิ่วเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่อยากจะร้องไห้! น้ำตาไหลรินอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด

เธอใช้มือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างลวกๆ แล้วส่ายหน้า อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ลำคอราวกับมีไข่เป็ดฟองหนึ่งอุดอยู่ จึงพูดไม่ออก

“เจ้านาย ข้าว่าท่านอาจจะถูกความร้อนเข้าแล้ว…ที่ท่านเคยพูดไว้เรียกว่าอะไรนะ? โรคลมแดด! ท่านต้องเป็นโรคลมแดดแน่นอน!” เจ้าหอยยักษ์แสร้งทำเป็นหมอวินิจฉัยโรค

จากนั้นมันหยิบน้ำผสมน้ำผึ้งขวดหนึ่งออกมาให้นาง “มา เจ้านาย ดื่มเถิด”

กู้ซีจิ่วก็รู้สึกกระหายน้ำอยู่บ้าง จึงรับมาแล้วดื่มอยู่หลายอึก เป็นรสชาติที่ตี้ฝูอีทำขึ้นมา

————————————————————————

บทที่ 1819 ท่านอย่าทิ้งข้าไปนะ…ข้ากลัว…

ดูเหมือนสิ่งที่เขาจัดเตรียมไว้ให้เธอจะครบถ้วนอย่างยิ่งจริงๆ ให้เจ้าหอยยักษ์บรรจุเสบียงอาหารมากมายเอาไว้ด้วย

ไม่กี่วันมานี้หนึ่งคนสองสัตว์ที่อยู่ด้านในไม่เคยต้องอดอยากเลย…

กู้ซีจิ่วมองขวดน้ำผสมน้ำผึ้งขวดนั้น นัยน์ตาแสบเคืองขึ้นมาอีกครั้ง คล้ายว่าจะมีน้ำตาทะลักออกมา!

เธอส่ายหน้า เอนกายพิงเปลือกของเจ้าหอยยักษ์ ปิดตาลงเล็กน้อย

บางทีเธอคงจะเหนื่อยเกินไปจริงๆ แม้แต่อารมณ์ก็เริ่มผันผวนขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เช่นนั้นเธอจะพักผ่อนสักหน่อย งีบสักครึ่งชั่วยามคงดีขึ้น…

ปวดใจ! ปวดใจเหลือเกิน! ปวดใจเสมือนถูกบีบขยำจนเป็นก้อน

นี่เธอเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันหรือ?

เธอนำยารักษาโรคหัวใจของตนออกมาเม็ดหนึ่ง กลืนลงไป จากนั้นก็นั่งพักฟื้นอยู่ตรงนั้น แล้วเผลองีบหลับไปด้วยไม่รู้ตัว…

จากนั้นเธอก็ฝัน…

ทะเลสาบเขียวครามดั่งหยกอยู่ไม่ไกล ต้นไม้ใบหญ้ารอบข้างเรียงรายเป็นระเบียบ หินผาตั้งตระหง่าน

บุปผาแปลกตาสารพัดชนิดเบ่งบานชูช่อ มีเมฆหมอกรายล้อมอยู่รอบข้าง ดั่งตำหนักสระหยกในแดนสวรรค์ก็มิปาน

กู้ซีจิ่วรู้จักสถานที่แห่งนี้ เป็นทิวทัศน์ของสวนดอกไม้หลังวังมรกต

จากนั้น เธอก็เห็นตี้ฝูอี

หัวใจพลันดิ่งวาบในทันใด!

ยามนี้เขานั่งอยู่ใต้หินผา อาภรณ์ขาวเกศาขาว ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดดุจหิมะ

อักษรที่สลักอยู่บนโขดหินด้านหลังเขาคือคำว่า ‘ฟ้ายั่งดินยืน’ ที่กู้ซีจิ่วเคยจารึกไว้

สายตาของกู้ซีจิ่วจ้องนิ่งอยู่ที่เรือนผมเขา ทำไมเส้นผมเขาถึงกลายเป็นสีขาวไปอีกแล้ว?! เกิดอะไรขึ้น?!

เธอเหลียวมองอีกครั้ง เห็นพวกมู่เฟิงทั้งสี่คุกเข่าอยู่ไม่ไกล สายตาล้วนจับจ้องอยู่ที่ร่างตี้ฝูอี ร่างกายแข็งทื่อจนสั่นสะท้านแล้ว หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่ง…

ฉากเช่นนี้…

เธออดไม่ได้ที่จะรีบพุ่งเข้าไปหา “ฝูอี ท่านเป็นอะไร?”

ร่างกายเธอทะลุผ่านร่างของตี้ฝูอีไป เธอผงะทันที หันกลับไป

ตี้ฝูอียังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เขาไม่ได้มองเธอ และไม่ได้มองสี่ทูตที่กำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่งอยู่ เขาแบมือ ก้มหน้ามองสิ่งที่อยู่ในมือ นั่นคือแหวนวงหนึ่ง เป็นแหวนแต่งงานของเธอกับเขา!

ปลายนิ้วลูบไล้ลงบนแหวนเบาๆ ถอนหายใจแผ่วๆ “ซีจิ่ว ขอโทษด้วย…”

หัวใจกู้ซีจิ่วบีบรัดขึ้นมา ราวกับคาดการณ์ได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เธอโผเข้าใส่ร่างเขาอีกครั้ง “ตี้ฝูอี ท่านอย่าทำข้าตกใจสิ…”

ร่างกายเธอทะลุผ่านร่างเขาไปอีกครั้ง เธอซวนเซล้มคว่ำลงบนพื้น

หัวเข่าก็คล้ายจะพลอยเจ็บไปด้วย ทว่าเธอกลับไม่สนใจเรื่องนี้ รีบหันไปมองเขา จากนั้นก็เห็นฉากที่ทำให้หัวใจเธอแตกสลาย

ร่างของตี้ฝูอีมีแสงผุดออกมาเล็กน้อย เท้าของเขาค่อยๆ เลือนหายไป…

“ตี้ฝูอี เจ้ากล้าดับขันธ์รึ! ยังไม่ถึงเวลาเจ้ากล้าดับขันธ์แล้วหรือ!” เบื้องหน้ากู้ซีจิ่วมืดมัว กรีดร้องเสียงแหลม โผเข้าไปอีกครั้ง ทว่ายังคงสัมผัสไม่ได้แม้แต่ชายชุดเขาเช่นเดิม ทะลุผ่านร่างเขาไป…

จากนั้นเธอก็เบิกตามองสองเท้าเขาเลือนหายไป สองขาเลือนหายไป ละอองแสงพร่างพราวไหลทะลักออกมาจากร่างเขามากขึ้นเรื่อยๆ และเลือนหายไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ…

กู้ซีจิ่วร้องไห้โฮออกมา พุ่งไปที่ข้างกายเขาอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว ยื่นมือไปฉุดรั้งแขนเสื้อเขา “ตี้ฝูอี ท่านอย่าทิ้งข้าไปนะ…ข้ากลัว…”

“เจ้านาย? เจ้านาย!” เสียงของเจ้าหอยยักษ์คล้ายจะแว่วสะท้อนดังไปทั่ว

กู้ซีจิ่วสั่นสะท้าน ทุกสิ่งเบื้องหน้าสลายหายไปดั่งหิมะละลาย เธอลืมตาขึ้นมาทันที สบเข้ากับดวงตาที่เป็นกังวลคู่นั้นของเจ้าหอยยักษ์

“เจ้านาย เจ้านาย ท่านฝันร้ายกระมัง? ดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วตั้งสติ หัวใจเต้นกระหน่ำดั่งมิใช่หัวใจตน

เมื่อครู่นั้นคือความฝัน! โชคดีที่เป็นความฝัน!

หัวใจยังคงเจ็บปวดอยู่ เจ็บปวดเสมือนถูกบิดคว้าน เจ็บจนในลำคอขมเฝื่อนอยู่บ้าง

เธอลูบใบหน้าดู ผลคือสัมผัสถูกคราบน้ำเปียกไปทั้งมือ…

—————————————

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset