ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 513 ทำหม้อไฟ / ตอนที่ 514 ลงโทษอย่างไร

ตอนที่ 513 ทำหม้อไฟ  

 

 

 

 

 

“ไม่เพคะ หม่อมฉันชอบมาก ไทเฮาไม่ต้องทรงลำบากเพคะ” อวี้อาเหราปฏิเสธทันที เมื่ออยู่ในสายตาของทุกคน นางจำต้องชิมเนื้อปลา ก็ถือว่าไม่แย่นัก แต่รู้สึกว่าจืดไปหน่อย ไม่มีรสของพริกเลยแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะปรุงตามรสชาติที่ไทเฮาชื่นชอบ เนื่องจากคนมีอายุ คงไม่อาจทานอาหารที่มีรสเผ็ดได้ และอาหารของไทเฮาคงมีการปรุงรสพิเศษ เพื่อให้ดีต่อสุขภาพ  

 

 

เพราะอย่างนั้น อาหารชนิดนี้จึงแทบไม่มีรสชาติเลย   

 

 

จวินไหวโหรวเห็นท่าทีลังเลของนางแล้วก็พูดว่า “คุณหนูรองคงจะไม่คุ้นเคยกับอาหารรสชาติจืดชืดกระมัง?”  

 

 

“อย่างนั้นหรือ เราจะสั่งให้คนปรุงอาหารที่เจ้าชอบก็แล้วกัน” ไทเฮาได้ยินดังนั้น ก็เคร่งเครียดขึ้นมาในทันที  

 

 

อวี้อาเหรารีบส่ายหน้าทันที “ไทเฮาไม่ต้องวุ่นวายหรอกเพคะ แม้ว่าจะจืดชืดไปหน่อย แต่รสชาติดีมาก อาเหราชอบเพคะ แต่ไทเฮาทรงเสวยอาหารรสจืดเช่นนี้ทุกวันเลยหรือเพคะ”  

 

 

“อืม ทำไมหรือ” ไทเฮาพยักหน้า แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยอีกครั้ง  

 

 

อวี้อาเหราจึงอธิบายว่า “รสจืดก็ดีเพคะ เสวยมากๆ จะดีต่อพระพลามัย แต่หากเสวยอาหารรสจืดทุกวันเช่นนี้จะไม่ค่อยมีแรง คงต้องเสวยพริกให้ได้รสชาติบ้าง แต่ไม่ทราบว่าไทเฮาจะทรงโปรดหรือไม่”  

 

 

“รสเผ็ดหรือ?” ไทเฮากล่าวขึ้นมา จากนั้นก็กดเสียงให้ต่ำลง “เราก็อยากกิน แต่หมอหลวงบอกว่าไม่ควร…”  

 

 

“ไม่ควรอย่างไรเพคะ ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็ยังเคยเห็นคนอายุเจ็ดสิบแปดสิบปีกินอยู่ทุกวัน ร่างกายก็แข็งแรงดี แน่นอนว่าพระวรกายของไทเฮานั้นย่อมมีคุณค่ากว่าพวกเขามาก แต่การเสวยอาหารรสเผ็ดนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายนะเพคะ” อวี้อาเหราอธิบายอย่างละเอียด  

 

 

ไทเฮาพูดขึ้นอย่างสนใจ “เช่นนั้นก็ดี ให้ห้องเครื่องทำอาหารรสเผ็ดมาหน่อย”  

 

 

“หากจะทำตอนนี้ก็เกรงว่าไทเฮาจะทรงหิวแย่ คงต้องใช้เวลานาน หากไทเฮาจะไม่ทรงว่าอะไร อาเหราก็พอจะมีวิธี ไทเฮาอาจจะยังไม่เคยเสวยมาก่อน และยังทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถต้มไปได้ในระหว่างที่เสวยเพคะ” อวี้อาเหราว่า แล้วก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล  

 

 

ไทเฮารู้สึกแปลกใจ “ต้มไปด้วยกินไปด้วยหรือ? น่าสนุกยิ่งนัก แม้แต่เราก็ยังไม่เคยทานมาก่อนเลย”  

 

 

“สิ่งนี้เรียกว่าหม้อไฟเพคะ ไทเฮาทรงเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่เพคะ” อวี้อาเหรากล่าว  

 

 

“หม้อไฟหรือ” สีหน้าของไทเฮาแสดงให้เห็นถึงความใคร่รู้  

 

 

ไม่เพียงแค่ไทเฮาเท่านั้น แต่ทุกคนที่อยู่ที่นั่นไม่เคยมีใครได้ยินชื่อหม้อไฟมาก่อนเลย  

 

 

แม้แต่จวินฉางอวิ๋นเองก็ยังรู้สึกสนใจ จึงทอดสายตามองนาง  

 

 

อวี้อาเหรามองไปยังใบหน้าของทุกคน แล้วก็รีบถอนสายตาออก ก่อนพยักหน้าไปทางไทเฮา “ใช่เพคะ คือหม้อไฟ หากไทเฮาทรงเชื่อในตัวอาเหรา ก็ให้หม่อมฉันทำถวายให้ลองชิมเถิดเพคะ ใช้เวลเท่ากับการต้มชาให้ร้อนสักกาก็ใช้ได้แล้ว”   

 

 

ไทเฮาลังเล นางรู้สึกสนใจในคำว่าหม้อไฟที่ออกมาจากปากของอวี้อาเหรา  

 

 

อีกอย่าง ใช้เวลาเพียงชั่วต้มน้ำชาเดือดเท่านั้นเองหรือ? จะเป็นไปได้ได้อย่างไรกัน  

 

 

ทว่าจวินเสวียนจีชะงัก “ไทเฮา คิดว่าคงไม่เหมาะเท่าใดนัก ก่อนหน้านี้คุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องยังต้องร่ำเรียนศิลปะสำหรับสตรีอีก เวลาคงไม่พอ แล้วอีกอย่าง ใช้เวลาเพียงชั่วต้มน้ำชาเดือด จะทำอาหารได้อย่างไร นอกจากผัดผักเท่านั้นที่น่าจะพอไหว”  

 

 

“ไม่ใช่ผัดผักแน่นอน” อวี้อาเหราโต้กลับ แล้วเอ่ยกับไทเฮา “ไทเฮาอยากเสวยอะไร อาเหราก็จะทำถวาย อย่างมากก็ใช้เวลาเพียงเท่ากับการต้มชาจนสุกเท่านั้นเพคะ”  

 

 

“อยากกินอะไรก็จะทำให้หรือ” ไทเฮาแปลกพระทัย แม้แต่พ่อครัวที่ดีที่สุดในโลกก็ยังไม่กล้าที่จะพูดว่าจะทำอาหารออกมาได้เพียงในระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ เพราะต้องรักษารสชาติเอาไว้ จะเป็นไปได้อย่างไร?  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 514 ลงโทษอย่างไร  

 

 

 

 

 

อวี้อาเหรามั่นใจเต็มเปี่ยม “ใช่แล้วเพคะไทเฮา ขอเพียงพระองค์อยากเสวยสิ่งใด ก็ให้นางกำนัลเขียนมาแล้วนำมาให้อาเหรา ก็ทำได้แล้ว หากภายในชั่วต้มชาเดือดยังทำไม่เสร็จ ก็ขอให้ไทเฮาลงโทษเสียเถิดเพคะ”  

 

 

ไทเฮายังคงลังเล จะเป็นไปได้อย่างไร ที่คนจะทำอาหารเสร็จภายในช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป ช่างน่าหัวเราะนักเชียว  

 

 

อวี้อาเหราเห็นว่านางยังคงไม่เชื่อ ดังนั้นจึงหันไปทางที่ทุกคนยืนอยู่ “ไทเฮา องค์รัชทายาท องค์หญิงเสวียนจี และองค์หญิงไหวโหรว ขอเชิญพระองค์เขียนในสิ่งที่อยากเสวยให้หม่อมฉันดูหน่อย หม่อมฉันบอกว่าทำได้ อย่างไรก็ต้องทำได้เพคะ”  

 

 

“ได้ เจ้าพูดเองนะ” จวินฉางอวิ๋นรับคำ เขาเองก็อยากเห็นว่าอวี้อาเหรานั้นกำลังจะเล่นอะไรอยู่กันแน่ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินว่านางทำอาหารเป็น นางเอาแต่รักสบายและใช้ให้คนใช้ทำโน่นทำนี่ให้ จะทำอาหารเสร็จภายในช่วงระยะเวลาต้มน้ำชาเพียงหนึ่งกาได้อย่างไรกัน  

 

 

หากทำไม่ได้ จะได้ใช้โอกาสนี้สั่งสอนนางเสีย เพื่อให้นางชดใช้ตอนที่รังแกเขาเรื่องไข่มุก  

 

 

เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็จดรายชื่อสิ่งที่อยากกินลงไปอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง  

 

 

จวินเสวียนจีเห็นว่าจวินฉางอวิ๋นรับปาก จึงเขียนรายชื่ออาหารที่ตัวเองอยากทานออกไป  

 

 

เมื่อไทเฮาเห็นว่าอวี้อาเหราเชื่อมั่นในตัวเองถึงเพียงนั้น ในใจก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา แล้วให้คนใช้เขียนรายชื่อออกมา  

 

 

หลังจากเขียนเสร็จแล้วก็มอบให้อวี้อาเหรา นางมองกระดาษของไทเฮาก่อน จากนั้นก็พูดออกมาดังๆ “ไทเฮาทรงต้องการเสวยผักกวางตุ้ง และเนื้อปลาสองอย่าง…”  

 

 

ไทเอาพยักหน้า เห็นได้ชัดว่ากลัวนางจะทำออกมาไม่ได้  

 

 

“ไทเฮาโปรดวางพระทัย อาเหราจะต้องทำได้อย่างแน่นอน” อวี้อาเหราเปิดกระดาษแผ่นที่สอง เป็นของรัชทายาท นางอ่านเนื้อความที่อยู่ด้านในออกมาดังๆ “รัชทายาททรงต้องการเสวยเนื้อแพะ เนื้อหมู เนื้อวัว ผักชี มะเขือม่วง กุ้งมังกร…”  

 

 

รวมแล้วมีอาหารอยู่หลายอย่าง แน่นอนว่าต้องตั้งใจที่จะทำให้นางลำบากแน่  

 

 

ในสายตาของพวกเขา มีอาหารที่คนทุกคนอยากกิน แต่ใช้เวลาเพียงชั่วก้านธูปเท่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่อาจทำขึ้นได้ด้วยมือ เพราะฉะนั้นเรื่องที่บอกว่าจะทำอาหารออกมาให้ได้ภายในชั่วระยะเวลาต้มชาเดือดนั้นเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะ นอกจากนางจะเป็นเทพเซียนมาเกิด ที่สามารถเสกทุกอย่างได้ทันใจเท่านั้น  

 

 

จวินเสวียนจีและจวินเสวียนจีเขียนอาหารที่ตัวเองอยากกินมาคนละสองอย่าง ต่อหน้าไทเฮา พวกนางไม่กล้ากลั่นแกล้งอวี้อาเหรา  

 

 

เพราะฉะนั้นจึงเป็นจวินฉางอวิ๋นที่อยากกินอาหารมากที่สุด ไทเฮาได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วอยากกังวลใจ เหตุใดนางจะไม่รู้ว่ารัชทายาทนั้นต้องการที่จะสร้างความลำบากให้นางแน่ๆ แต่ในเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน นางก็ไม่อยากที่จะหักหน้าเขา ได้แต่มองอวี้อาเหราด้วยความกังวล “หากเจ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำแล้ว เราไม่โทษเจ้าหรอก”  

 

 

อวี้อาเหรายังไม่ทันที่จะตอบ จวินฉางอวิ๋นก็หัวเราะด้วยความเย้ยหยัน “ทำไม่ได้อะไรกัน ในเมื่อคุณหนูรองพูดออกมากับปาก แน่นอนว่าจะต้องรักษาคำพูดใช่หรือไม่?”  

 

 

“เพคะ ที่รัชทายาทตรัสมาก็สมเหตุผล แน่นอนว่าจะต้องทำอยู่แล้ว หากทำไม่ได้ ก็เชิญรัชทายาทลงโทษได้ตามใจชอบ ดีหรือไม่?” อวี้อาเหรามีท่าทีเชื่อมั่น เมื่อได้ยินคำปรามาสจากรัชทายาท นางก็โกรธเสียจนต้องวูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขายังนึกว่าจะเอาชนะนางได้อยู่จริงๆ  

 

 

“เช่นนั้นก็ดี เจ้ารีบไปเถิด หากเวลาไม่พอ เราก็รอได้ เจ้าไม่ต้องรีบร้อน” ไทเฮาโบกพระหัตถ์  

 

 

ดังนั้นอวี้อาเหราจึงเดินนำเจาเอ๋อร์เข้ามาในห้องเครื่อง เมี่ยวอวี้เองก็อยู่ในห้องเครื่องพอดี จึงสามารถให้นางช่วยเตรียมวัตถุดิบได้ แต่เจาเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังกลับมีสีหน้าเป็นทุกข์ เมื่อออกมาจากตำหนักของไทเฮาแล้วจึงกล้าพูดกับอวี้อาเหราตรงๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเข้มข้น  

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว… … “คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ “เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น “หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset