ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 537 ท้องแตกตาย / ตอนที่ 538 เสียจูบแรกไปแล้ว

ตอนที่ 537 ท้องแตกตาย  

 

 

 

 

 

“ท่านยังมีใจถามหาประโยชน์จากน้องสาวของท่านอีกหรือ?” ฉู่เกอถามขึ้นอย่างเจ็บปวดใจ ราวกับฉู่ป๋ายทำให้นางเจ็บปวดรวดร้าวมากที่สุด  

 

 

เคยเห็นพี่ชายที่หน้าด้านหน้าทนถึงเพียงนี้หรือไม่? จะเรียกว่าคนหน้าหนาหน้าทนก็ย่อมได้  

 

 

เมื่อเห็นอวี้อาเหราอุ่มเจ้าแมวอ้วนเอาไว้ นางใช้มือลูบขนแมวนุ่มๆ ราวกับไม่รู้สึกถึงความไม่น่าอภิรมย์ในบรรยากาศ นางก็อิจฉาเสียจนแทบจะขบฟันแน่น ฉู่ป๋ายใช้วิธีใดกันถึงสามารถทำให้สัตว์ป่าเช่นนั้นกลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่องได้ในชั่วข้ามคืน? นางคิดอยู่เป็นนาน แต่ก็คิดไม่ออกเสียที จึงได้แต่โทษตัวเองที่หัวไม่ดีเหมือนคนอื่นเขา  

 

 

นางยิ่งโกรธและยิ่งเสียใจมากขึ้นกว่าเดิม  

 

 

อยากจะเอาแมวตัวนั่นไปต้มกินเสียยิ่งนัก ลองอวดเก่งต่อไปสิ  

 

 

แต่เมื่อสังเกตสายตาแสนอันตรายของฉู่ป๋ายแล้ว นางก็จำต้องล้มเลิกความคิด หากจะเอาแมวของเขาไปตุ๋นกินจริงๆ คนที่จะถูกตุ๋นเป็นคนต่อไปก็คงจะเป็นนางนี่เอง  

 

 

ในใจของอวี้อาเหรากำลังอยู่ในความแปลกประหลาดว่าฉู่ป๋ายทำเช่นไร เจ้าแมวอ้วนตัวนี้ถึงได้เชื่อฟังถึงเพียงนี้ นางไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีคนที่เกิดมาเป็นที่รักใคร่ของสัตว์ร้าย ไม่ผิด จะต้องเป็นอย่างนั้นแน่!  

 

 

เมื่อนางกำลังจะเอ่ยปากถามนั้นก็เห็นใบหน้าของฉู่ป๋าย นางก็รู้สึกว่าไม่ควรถามออกไป เพราะถึงถามก็คงจะสูญเปล่า เขาคงไม่บอกความจริงให้นางทราบหรอก  

 

 

เจ้าแมวอ้วนจ้องมองปลาที่อยู่บนโต๊ะแน่นิ่ง นางจึงหยิบตะเกียบที่ฉู่ป๋ายใช้เมื่อครู่นี้ แล้วคีบปลาป้อนใส่ปากของมัน ยามที่มันกลืนปลาลงท้องนั้น ก็ถือว่าสุภาพเลยทีเดียว เพราะมันยังยอมเคี้ยวบ้าง เมื่อเทียบกับเมื่อครู่นี้ที่มันกลืน่ลงท้องไปอย่างตะกละตะกลาม ก็ถือว่ามีวิวัฒนาการอย่างดี  

 

 

ฉู่เกอมองอวี้อาเหราป้อนอาหารให้แมวอย่างมีความสุข จึงนั่งหน้าบึ้ง แล้วมองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเห็นว่ามีอาหารเพียงสองสามอย่างเท่านั้น เมื่อรวมเข้ากับชามใส่ปลาของเจ้าแมวอ้วนก็มีสี่อย่าง และยังมีอาหารอีกสองสามอย่างที่ยังไม่ได้นำมาขึ้นโต๊ะ จึงหันไปว่าใส่สาวใช้ด้านหลังอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก “เหตุใดยังไม่เอาอาหารขึ้นโต๊ะอีก? เราหิวจะตายอยู่แล้ว!”  

 

 

อวี้อาเหรามอง “ไม่ต้องรีบหรอก”  

 

 

“ก็ท่านมีเจ้าแมวอ้วนให้เล่น แน่นอนว่าคงไม่รีบหรอก” ฉู่เกอว่าอย่างไม่พอใจ  

 

 

อวี้อาเหราสัมผัสถึงความอิจฉาของนางได้จากน้ำเสียง จึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าเลิกพูดมากเสียที มาป้อนข้าวเจ้าแมวอ้วนตัวนี้เถิด”  

 

 

“ได้หรือ?” ฉู่เกอยินดียิ่งนัก  

 

 

“แน่นอนว่าได้สิ” อวี้อาเหรายิ้มแล้วพยักหน้า  

 

 

เมื่อฉู่เกอกำลังเตรียมตัวลุกขึ้นจะเดินไปหา แต่ก็ชะงักการกระทำเสียก่อน “แต่ว่า มันจะข่วนข้าน่ะสิ!”  

 

 

ท่าทีของอวี้อาเหราเปลี่ยนไปเป็นรำคาญใจแทน “แล้วเจ้าจะป้อนหรือไม่ป้อนเล่า”  

 

 

“ไปแล้วๆ” ฉู่เกอถอนหายใจ เพื่อที่จะได้สัมผัสเจ้าแมวอ้วน นางก็ทำได้เพียงก้าวเข้าไปหา เมื่อผ่านไปสักครู่ มือสั่นเล็กน้อยของนางก็คีบเนื้อปลาขึ้นมา แล้วค่อยๆ ยื่นใส่ปากเจ้าแมวอ้วนด้วยความระมัดระวัง เมื่อมันเห็นว่าเนื้อปลาอยู่ตรงหน้าก็ไม่สนใจอะไรอีก กลืนลงท้องไป ราวกับไม่กลัวว่าอาหารตรงหน้าจะมีพิษหรือไม่  

 

 

แต่ก็อย่างว่า แม้เจ้าแมวจะฉลาดเพียงใด รู้ประสาปานใด ก็คงไม่อาจมีจิตใจบิดเบี้ยวคดโกงได้เท่ามนุษย์ไปได้  

 

 

หลังจากป้อนอาหารให้แมวแล้ว ฉู่เกอก็ตื่นเต้นดีใจ และป้อนปลาตัวใหม่ส่งให้ราวกับเป็นของมีค่า  

 

 

ซึ่งทุกครั้งเจ้าแมวอ้วนก็เอาแต่กลืนลงท้อง ไม่มีคายออกมาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นฉู่เกอจึงเอาแต่ป้อนไม่หยุด เมื่อป้อนตัวหนึ่งหมดก็คีบตัวใหม่ให้ เจ้าแมวอ้วนก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับกลืนกินต่อไป ท้องของมันเหมือนถังขยะไม่มีผิด ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันก็กลืนลงท้องไปจนหมด  

 

 

อวี้อาเหราเห็นฉู่เกอเร่งมือให้เร็วขึ้นไปอีก ก็รีบร้องห้าม “เจ้าจะป้อนมันจนท้องแตกตายหรืออย่างไร”  

 

 

ฉู่เกอจึงต้องหยุดมือ แล้วมองเจ้าแมวด้วยความจนใจ ยิ้มไม่หุบ เจ้าตัวน้อยนี่กินเร็วเสียจริงๆ!  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 538 เสียจูบแรกไปแล้ว  

 

 

 

 

 

ยามที่นางกำลังป้อนแมวอยู่นั้น กับข้าวก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะอีกเจ็ดแปดอย่าง เจ้าแมวอ้วนก็กินจนอิ่มแล้ว ดังนั้นจึงกลิ้งตัวออกจากตักของอวี้อาเหรา แล้วนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น หลังจากที่กลิ้งตกลงมาแล้วก็ทำสีหน้าสะลึมสะลือ ราวกับเพิ่งตื่นจากการนอนกลางวัน เจ้าตัวเล็กนั่งนิ่งๆ อยู่เป็นนาน จึงค่อยยืนขึ้นมา เพื่อเข้าไปหาเบาะรองนั่งนุ่มๆ ลากเข้าไปใกล้กองไฟแล้วนอนหลับ  

 

 

กินอิ่มแล้วก็นอนหลับ เหมือนหมูไม่มีผิด ถึงได้ตัวอ้วนกลมเหมือนลูกบอลเช่นนี้  

 

 

เป็นอย่างนี้น่ะสิถึงได้อ้วน!  

 

 

อวี้อาเหราและฉู่เกอจึงหัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  

 

 

เจ้าแมวน้อยเหมือนกินเยอะเกินไป มันหาวออกมา อวี้อาเหราเห็นแล้วก็รู้สึกขบขันยิ่งนัก แล้วออกคำสั่งกับเจาเอ๋อร์ว่า “เจ้าไปเอาน้ำมาให้แมวตัวนั้นดื่มหน่อยเถิด”  

 

 

“บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์ตื่นกลัว เพราะกลัวว่าแมวตัวนั้นจะข่วนเข้าที่ใบหน้าของตัวเองเข้า คงจะเสียโฉมกันพอดีน่ะสิ  

 

 

อวี้อาเหราไม่แม้แต่จะลังเล “รีบไปสิ”  

 

 

“ก็ได้เจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์ก้มหน้าลงอย่างยินยอมเสี่ยงตายที่จะนำน้ำมาให้เจ้าแมวอ้วนดื่ม จากนั้นก็เหม่อมองเงาร่างของอวี้อาเหรา ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์เศร้า เหตุใดถึงใช้นางเสียเล่า ทำไมไม่ให้เมี่ยวอวี้ทำงานเสี่ยงอันตรายพรรค์นี้กัน?  

 

 

อวี้อาเหรากินข้าว ถอนสายตากลับมา แล้วหันหลังให้เจ้าแมวอ้วนตัวนั้น  

 

 

ฉู่เกอพุ้ยข้าวเข้าปาก แล้วจึงหันมามองอวี้อาเหราและฉู่ป๋าย แล้วจึงนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ เช่นนั้นจึงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “วันนี้เหตุใดเห็นฉู่ฉู่ไปลากท่านกลับมาได้ แล้วพี่เหราเอ๋อร์…ดูแล้วมีท่าทีแปลกๆ พวกท่านทำอะไรกันในรถม้าหรือเปล่า”  

 

 

“ยามกินข้าวห้ามพูด” ฉู่ป๋ายว่าขึ้นอย่างไม่พอใจ แล้วมองมาด้วยสายตาเอาจริงเอาจัง  

 

 

นางช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่หัวไวยิ่งนัก คงจะรู้อยู่แล้วสินะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพียงแต่ตั้งใจที่จะถามขึ้นมาเท่านั้น เพื่อให้คนทั้งสองรู้สึกอึดอัดใจและเสียหน้า เขาก็ไม่ยอมเดินไปตามหมากของนางเด็ดขาด  

 

 

สีหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกก็ยังคงไร้อารมณ์อยู่เช่นเดิม ก้มหน้าก้มตาทานอาหารไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย  

 

 

แต่เมื่ออวี้อาเหราได้ยินคำนางเช่นนั้นใบหน้าก็แดงซ่าน จะไม่ให้นางอับอายได้อย่างไร?  

 

 

นางเผลอเหลือบมองใบหน้าของฉู่ป๋ายอย่างไม่ตั้งใจ จากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากของเขา ท่ามกลางสีขาวซีดนั้นมีสีแดงเรื่อ ทั้งแวววาวและอิ่มเต็ม จนแทบจะรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มยามที่ริมฝีปากของเขาทาบทับลงบนริมฝีปากของนางได้ ราวกับกินก้อนวุ้นลงไปทั้งก้อน  

 

 

เมื่อก่อนเคยได้ยินว่ารสจูบนั้นเหมือนก้อนวุ้น ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากผ่านการจูบมาได้หนึ่งครั้ง นางก็เข้าใจขึ้นมาอย่างถ่องแท้แล้วว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ความรู้สึกเช่นนี้ ช่างหอมหวานยิ่งนัก  

 

 

นางคิดขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่  

 

 

ทว่าเมื่อผ่านไปสักครู่ อวี้อาเหราก็หยิกเนื้อตัวเอง พยายามที่จะพาสติของตัวเองกลับคืนมา  

 

 

นางกำลังหวนคิดถึงเรื่องราวพรรค์นั้น น่าขายหน้ายิ่งนัก!  

 

 

นางถูกจูบโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังถูกลากกลับมาอย่างแปลกประหลาด ราวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนทั้งสองนั้นพร่ามัวไม่ชัดเจนไปเสียทั้งหมด  

 

 

อวี้อาเหรามองไปทางชามข้าวยังเห็นเป็นหน้าฉู่ป๋าย ทันใดนั้นก็เบนสายตาไปทางอื่น  

 

 

บ้าไปแล้วหรืออย่างไร!  

 

 

นางส่ายหน้า เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น นางเพียงถูกจูบเท่านั้นมิใช่หรือ? ต้องบอกว่าถูกกัดถึงจะถูก! ทว่านั่นคือจูบแรกของนาง แต่กลับเสียไปโดยที่ไม่รู้ตัว ยากเหลือเกินที่จะยอมรับ ฉู่ป๋ายจูบนางแล้ว แต่กลับพูดเช่นนี้กับนางน่ะหรือ?  

 

 

โดยเนื้อแท้แล้ว อวี้อาเหรายังเป็นหญิงที่หัวโบราณอยู่มากทีเดียว  

 

 

จูบแรกหายไปเช่นนี้หรือ? นางอุตส่าห์เก็บเอาไว้ทั้งจากชีวิตเดิมและชีวิตใหม่ เมื่อเสียไปเช่นนี้ช่างขาดทุนนัก จะเอากลับคืนมาได้อย่างไรกัน? จะเป็นไปได้หรือ? มันไม่ใช่เงิน และยังไม่ใช่ผักกาดหรือหัวมันหัวเผือกเสียด้วย  

 

 

 

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว… … “คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ “เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น “หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset