ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ) – ตอนที่ 14 เอาแต่ใจ

นางบิดกายให้พ้นอ้อมกอดเขาเทพอัคคีไม่อยากลงมือกับนางให้หนักเพราะได้รับปากราชาเหมันต์เอาไว้ เขาจึงทำได้แต่รวบร่างของนางไม่ให้ดิ้นรนตั้งใจพากลับไปยังตำหนักสุริยันต์แล้วค่อยกำราบนางทีหลัง

เป่ยฟางหรงพยายามหลบหลีกแต่ฝ่ามือเย็นอีกทั้งไอเย็นทั้งหลายของนางย่อมใช้ไม่ได้ผลกับเทพอัคคี หากเป็นผู้อื่นคงได้แข็งตายไปแล้ว

สู้กันไปสู้กันมาเจ้ารัดข้า ข้ารัดเจ้าอย่างแนบสนิท ทั้งถงถงและหยีจวนที่มองดูพวกเขาอยู่ถึงกับหน้าแดง

“ถ้าพวกท่านจะกอดรัดกันเช่นนี้ก็ขึ้นเตียงให้จบ ๆ ไปเถิด”

ในที่สุดถงถงก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว บัดนี้ไม่ใช่แค่มีถงถงและหยีจวนเท่านั้น บรรดาเทพหลายองค์ก็แอบลอบดูอยู่ห่าง ๆ เห็นการต่อสู้ที่ค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัวเช่นนั้นต่างก็ใจเต้นใบหน้าแดงก่ำ

“ข้าอยากเป็นฝ่าบาทน้อยนางนั้นเหลือเกิน ได้ตกอยู่ในอ้อมกอดของเทพอัคคีเช่นนั้นแม้วิญญาณสลายก็คุ้มแล้ว”

“ดูเทพอัคคีสิช่างดุดันสมคำร่ำลือเสียจริง”

ในที่สุดเป่ยฟางหรงก็เป็นฝ่ายแพ้ เทพอัคคีพาร่างของนางมายังตำหนักสุริยันทันใด เขามัดนางไว้ด้วยเชือกอัคคีจนนางดิ้นไม่หลุด หลังจากนั้นก็จับนางโยนเอาไว้ที่ตำหนักหลังห้ามผู้ใดเข้าใกล้จนกว่านางจะสงบจิตใจ

“เจ้าเทพบ้าปล่อยข้านะ ปล่อยข้าหยีจวนช่วยข้าด้วยแก้มัดให้ข้าที”

หยีจวนถูกถงถงกักตัวเอาไว้ เขาเพียงแต่แตะโดนขนของถงถงกิเลนไฟร่างก็ละลายแล้วจึงไม่มีปัญญาที่จะช่วยฝ่าบาทน้อยของเขา ได้แต่น้ำตาตกมองนางอย่างห่วงใยอยู่ห่าง ๆ

“ฝ่าบาทน้อยข้าไม่ไปที่ใดจะนั่งเฝ้าท่านอยู่ตรงนี้”

“เจ้าไม่ไปข้าก็ไม่ไป” ถงถงเอ่ยจบแล้วหมอบอยู่ข้าง ๆ หยีจวน

หยีจวนขยับออกห่างกิเลนไฟอีกหน่อยด้วยกลัวว่าตนเองจะถูกหลอมละลายหากเผลอโดนสัตว์เทพตัวนั้นเข้า เขานั่งเฝ้าเป่ยฟางหรงฟังนางกรีดร้องจนนางหลับไปในที่สุด

“ฝ่าบาทน้อยที่น่าสงสารของข้า”

“น่าสงสาร นางน่ะนะน่าสงสารหูข้าแทบแตกแล้วเพราะเสียงกรีดร้องของนางเจ้านี่ช่างเป็นทาสที่ซื่อสัตย์เสียจริงทนนางผู้นี้ได้อย่างไร ถ้านางไม่ใช่ลูกศิษย์ของเจ้านายข้านะ ข้าไม่มีทางไว้หน้านางเป็นอันขาดคงเผานางตายไปตั้งนานแล้ว”

“เจ้าบังอาจ”

“ทำไมเจ้าจะทำไม” ถงถงจ้องเขาหยีจวนได้แต่กัดฟันถอยอย่างไรเขาก็เป็นแค่น้ำแข็งก้อนหนึ่งจะสู้กิเลนไฟที่มีไฟโลกันตร์อยู่รอบกายได้อย่างไร

ทางฝ่ายราชาเหมันต์ได้เดินทางมาถึงแดนสวรรค์แล้ว เขาเห็นฤทธิ์เดชที่บุตรสาวก่อไว้ก็ได้แต่น้ำตาตก กล้ำกลืนความเสียใจช่วยสลายพลังน้ำแข็งปลดปล่อยเทพเซียน หลังจากนั้นก็ติดตามนางไปที่ตำหนักสุริยันต์ของเทพอัคคี

เทพอัคคีมองเขาอย่างเห็นใจ อย่างไรเสียเขาก็นับถือราชาเหมันต์เป็นอย่างมาก เรื่องใดที่พอจะช่วยเหลือได้เขาก็จะพยายามทำเต็มที่

“ท่านราชาเหมันต์ไม่ต้องกังวลข้าเป็นอาจารย์ของนางอย่างไรเสียก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ท่านกลับไปก่อนเรื่องอื่นข้ารับผิดชอบเอง”

“แล้วนางเล่า”

“วางใจเถิดอย่างไรนางก็เป็นศิษย์ของข้าข้าย่อมไม่ปล่อยให้นางได้รับอันตรายแน่นอน”

“ข้าคงต้องไปพบองค์เง็กเซียนเพื่อขอขมาแทนนางแล้ว ฝากซ่างเสินดูแลและกำราบนางด้วยข้ายอมรับว่าข้าด้อยสามารถไม่สามารถดูแลนางได้จริง ๆ จิตมารในกายนางเข้มแข็งนักเกรงว่าหากไม่มีท่านสามโลกคงไม่พ้นภัยพิบัติเป็นแน่”

“ความจริงจิตมารของนางยังคงสงบ” เทพอัคคีเอ่ยขึ้น

“แล้วเหตุใดนางจึงก่อเรื่องถึงขั้นนี้เล่าหากไม่ใช่เพราะจิตมารในกาย”

“นางแค่ถูกเลี้ยงดูและตามใจมากไปหน่อยจึงเกิดความ ดื้อรั้นเช่นนี้”

“แค่ก แค่ก ” องค์ราชาถึงกับสำลักเมื่อถูกเทพอัคคีตำหนิโดยตรงเช่นนี้

“เช่นนั้นข้าก็รบกวนท่านแล้ว”

กล่าวจบราชาผู้เลี้ยงดูบุตรสาวจนเสียนิสัยก็หายตัวไปทันใด

ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)กลีบบุปผาร่วงโรยโบกโบยพัดผ่าน ดอกไม้สวรรค์เบ่งบานพลอยทำให้ใจสดใส เสียงเพลงหวานกังวานดังเป็นสาย ยามนางสวรรค์เยื้องกรายเต้นรำกลิ่นหอมกรุ่นโชยพาใจสั่นไหว เงาสูงร่างหนึ่งนั่งโดดเด่นงามสง่าในอาภรณ์สีแดงเพลิงสะดุดตา ทำให้เซียนสาวน้อยใหญ่ทั้งชั้นต่ำชั้นสูงต่างลอบมองด้วยใบหน้าแดงซ่าน หลี่จิ้งหาได้สนใจผู้ใดการมาร่วมงานเลี้ยงในครานี้ก็เพราะคิดจะผ่อนคลายหลังจากกลับมาจากสยบปีศาจกระทิง แต่เมื่ออยู่ในงานกลับพบว่าที่นี่ยิ่งน่าเบื่อหน่ายยิ่งกว่าการสังหารปีศาจเสียอีก เบื้องหน้าของเขาคือธิดาสวรรค์ผู้งดงามกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อย กระทั่งหลายนางแอบลอบส่งสายตาให้เขาหลี่จิ้งได้แต่ส่ายหน้าหลบสายตานางเหล่านั้น สูงขึ้นไปคือองค์เง็กเซียน ด้านข้างคือสหายเทพจี้กงที่ขยันเอ่ยวาจาอีกทั้งยังขยันยกจอกสุรายิ่งกว่าผู้ใดในงาน “หลี่จิ้งซ่างเสิน*สุราไม่ถูกปากหรืออย่างไร ถึงได้ทำท่าทางเบื่อหน่ายเช่นนั้น”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset