ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ) – ตอนที่ 4 อาจารย์ของฝ่าบาทน้อย

เดิมทีเทพเซียนเหล่านี้เพิ่งกลับมาจากการละลายหิมะต่างหากยังไม่ทันได้แยกย้ายเทพหยีหนิงก็ปรากฏกายแล้ว เมื่อสักครู่เจ้านายของตนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟเพราะคิดว่าเทพหยีหนิงจะนำราชโองการมาสั่งงานเขาอีก

พอรู้ว่าอาจจะได้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันล้ำค่าเพื่อบำเพ็ญตบะสีหน้าพลันเปลี่ยนราวกับคนละคนยังมีเรื่องโกหกพกลมพวกนี้อีก ดูท่าว่าเจ้านายกำลังเรียนรู้สิ่งที่ไม่ดีมาจากมนุษย์และปีศาจเหล่านั้น เช่นนี้ควรให้เขารีบกักตนโดยไวเพื่อให้หลุดพ้นจากกิเลสที่เริ่มเกาะกินในใจ

เขาซึ่งเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์รู้สึกรับไม่ได้เสียจริงที่ท่านเทพผู้สูงส่งของเขากลายเป็นคนเช่นนี้

“เช่นนั้นไม่เสียเวลาแล้วข้าขออัญเชิญราชโองการเลยแล้วกัน” กล่าวจบเทพหยีหนิงกระแอมเสียงดังยืดอก วางมาดให้ดูองอาจยิ่งขึ้น เขายื่นมือทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะพลันปรากฏพระราชโองการสีทองฉบับหนึ่งในมือของเขา เทพอัคคีและเทพเซียนบริวารต่างคุกเข่าประสานมือ

หลังอ่านราชโองการเสร็จสิ้นเทพอัคคียังคงคุกเข่าอยู่เช่นนั้น เทพหยีหนิงเห็นแล้วพลันนึกสงสัยจึงเดินเข้าไปใกล้หวังช่วยพยุงให้เขาลุก เพียงแต่สัมผัสร่างของเทพผู้นั้นพลันรู้สึกราวกับว่ามือของตนเองกำลังถูกเผาไหม้กลายเป็นผง

“โอ๊ย โอ๊ย” เทพหยีหนิงลืมตนไม่สนใจท่าทางองอาจเขากระโดดโลดเต้นโดยทันใด

“แย่แล้ว แย่แล้วนายท่านของข้ากำลังโกรธแย่แล้ว”

เทพหยีหนิงยังคงสะบัดมือที่ร้อนราวกับถูกไฟเผานั่น ข่มความเจ็บเอาไว้แล้วเอ่ยถาม

“กิเลนไฟเจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“เฮ้ยพวกท่านกลับไปก่อนเถิดก่อนที่ร่างของพวกท่านจะถูกเผาเป็นเทพย่างไฟ รีบกลับไปเร็ว”

น้ำเสียงหวาดผวาของกิเลนไฟทำให้เทพแต่ละองค์ลนลานกลับไปอย่างว่องไว ละทิ้งความสง่าผ่าเผยของเทพเซียนชั้นสูงไปอย่างสิ้นเชิง

“ได้อย่างไรกว่าจะให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แก่ข้าเป็นรางวัลก็ต้องแลกด้วยการเป็นอาจารย์ของเจ้ามารน้อยนั่น ตั้งแต่นางลืมตาก็ทำข้าเดือดร้อนมาครานี้ยังให้ข้าขัดเกลานางอีก เง็กเซียนฮ่องเต้ข้าบังอาจถามท่าน เทพผู้อื่นบนแดนสวรรค์ขาดแคลนหรือไรถึงต้องผลักภาระมาที่ข้า สั่งสอนนางไม่ว่าข้าต้องลงไปแดนมนุษย์กับนางเพื่อช่วยนางฝึกจิตใจอีกท่านไม่คิดว่าเสมือนท่านกำลังลงโทษข้าผู้ซึ่งไม่ได้กระทำความผิดหรอกหรือ?”

หลังจากระบายโทสะด้วยการเผาตำหนักสุริยันเรียบร้อยเทพอัคคีย้ายร่างตนเองมาปรากฏต่อหน้าเง็กเซียนฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว

เง็กเซียนฮ่องเต้ทำใจดีสู้เสือยิ้มให้เขาพร้อมกับเอ่ยอย่างใจเย็น

“เฮ้ย ความจริงข้าก็ลำบากใจยิ่งแต่จะให้ทำเช่นไรได้เล่าในเมื่อมองไม่เห็นผู้ใดแล้วนอกจากท่าน มารน้อยนั่นเติบโตขึ้นมาในร้อยปีนี้ทำคนกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็งไปแล้วกี่คนท่านไม่รู้หรือ ยามนางโกรธนั้นพลังรุนแรงมากกระทั่งพ่อแม่ของนางยังต้านพลังของนางไม่ได้โดนแช่แข็งไปก็หลายคราดีที่พลังของพวกเขาสูงส่งจึงสามารถละลายตนเองได้แต่หากเป็นเซียนผู้น้อยล่ะก็คงยากจะแก้ไข ยิ่งนางเติบใหญ่นางยิ่งควบคุมพลังไม่ได้ ข้าก็มองไม่ออกว่าจะเป็นผู้ใดที่อยู่ใกล้นางแล้วจะปลอดภัยอีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือสามโลกขัดเกลาให้นางเป็นคนดีละทิ้งใจมารไปได้”

“ที่ท่านกล่าวมายืดยาวทั้งหมดนี้อีกทั้งส่งขบวนเทพไปมากมายก็เพื่อมัดข้าไม่ให้ดิ้นหลุดใช่หรือไม่”

องค์เง็กเซียนส่ายพระพักตร์พร้อมกับแสร้งถอนหายใจออกมา

“ทั้งหมดล้วนเป็นลิขิตสวรรค์อีกทั้งข้าได้ปรึกษาองค์ยูไลแล้วอย่างไรเสียก็หนีไม่พ้นได้ ถือว่าท่านได้ทำประโยชน์แก่สามโลกดีกว่าต้องมาสู้รบกันในกาลข้างหน้าเรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้จะดีหรือไม่”

การฝ่าฝืนคำสั่งสวรรค์มีโทษสถานหนักคือต้องรับทัณฑ์สายฟ้าถึงสิบครั้งเป็นเทพธรรมดาโดนสายฟ้าฟาดไม่ถึงครึ่งก็วิญญาณแตกสลายแล้วถูกบีบบังคับเช่นนี้เทพอัคคีก็ไม่รู้จะทำเช่นไร

ปกติเขาเป็นเทพแห่งไฟเรื่องความใจร้อนนั้นนับเป็นที่หนึ่งแล้วเขาจะอดทนฝึกสอนคนได้อย่างไร เพียงแค่คิดก็หงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง

กระทั่งกลับจากตำหนักเง็กเซียนเขาจึงขี่ก้อนเมฆมายังแดนเหมันต์พร้อมด้วยสัตว์เลี้ยงคู่ใจกิเลนไฟถงถง ด้วยพลังอันแข็งแกร่งไม่นานก็มาถึงที่นี่ดินแดนที่เหน็บหนาวเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ทุกสิ่งที่นี่ดูสงบเงียบประดุจดินแดนที่ร้างผู้คน

เมื่อเหยียบย่างเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้เขาพลันปะทะกับพลังน้ำแข็งเข้าอย่างจังแต่มีหรือเขาจะใส่ใจคงมีเพียงเขาและกิเลนไฟเท่านั้นที่สามารถเดินฝ่าพลังอันรุนแรงนี้ได้โดยไม่ถูกเกล็ดน้ำแข็งแทงขั้วหัวใจ

“เทพอัคคีที่แท้เป็นท่าน”

ราชาแห่งแดนเหมันต์ปรากฏกายต่อหน้าเขาพร้อมด้วยใบหน้ายินดียิ่ง ความจริงเรื่องนี้ทั้งเขาและเง็กเซียนต่างรู้ดีว่าองค์หญิงน้อยมีปฐมวิญญาณของจอมมารและตั้งใจจะข่มจิตมารเอาไว้ด้วยตบะแห่งความดีเพื่อไม่ให้บุตรสาวเติบใหญ่มาเป็นภัยต่อสามภพจำเป็นต้องฝึกฝนนางให้ดี เมื่อนางอายุครบ

ดังนั้นเรื่องที่เทพอัคคีต้องกลายมาเป็นอาจารย์จำเป็นขององค์หญิงน้อยจึงได้ตกลงกันเองตั้งแต่นางถือกำเนิดหลังจากนางแช่แข็งสามภพแล้ว

เทพอัคคีทำความเคารพองค์ราชาแห่งแดนเหมันต์อย่างนอบน้อม

“หลี่จิ้งคำนับองค์ราชา”

“เกรงใจไปแล้วท่านคืออาจารย์ของบุตรสาวของข้าต่อไปต้องรบกวนท่านแล้ว”

เทพอัคคีหน้าบึ้งขึ้นทันใดหากเพราะไม่ใช่คนผู้นี้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเง็กเซียนเขาจะลำบากเพียงนี้หรือ

ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)กลีบบุปผาร่วงโรยโบกโบยพัดผ่าน ดอกไม้สวรรค์เบ่งบานพลอยทำให้ใจสดใส เสียงเพลงหวานกังวานดังเป็นสาย ยามนางสวรรค์เยื้องกรายเต้นรำกลิ่นหอมกรุ่นโชยพาใจสั่นไหว เงาสูงร่างหนึ่งนั่งโดดเด่นงามสง่าในอาภรณ์สีแดงเพลิงสะดุดตา ทำให้เซียนสาวน้อยใหญ่ทั้งชั้นต่ำชั้นสูงต่างลอบมองด้วยใบหน้าแดงซ่าน หลี่จิ้งหาได้สนใจผู้ใดการมาร่วมงานเลี้ยงในครานี้ก็เพราะคิดจะผ่อนคลายหลังจากกลับมาจากสยบปีศาจกระทิง แต่เมื่ออยู่ในงานกลับพบว่าที่นี่ยิ่งน่าเบื่อหน่ายยิ่งกว่าการสังหารปีศาจเสียอีก เบื้องหน้าของเขาคือธิดาสวรรค์ผู้งดงามกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อย กระทั่งหลายนางแอบลอบส่งสายตาให้เขาหลี่จิ้งได้แต่ส่ายหน้าหลบสายตานางเหล่านั้น สูงขึ้นไปคือองค์เง็กเซียน ด้านข้างคือสหายเทพจี้กงที่ขยันเอ่ยวาจาอีกทั้งยังขยันยกจอกสุรายิ่งกว่าผู้ใดในงาน “หลี่จิ้งซ่างเสิน*สุราไม่ถูกปากหรืออย่างไร ถึงได้ทำท่าทางเบื่อหน่ายเช่นนั้น”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset