ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 141 ปล่อยให้ถอนตัวไปทั้งคู่เลย / ตอนที่ 142 รูปพวกนั้นมันแหกตา

ตอนที่ 141 ปล่อยให้ถอนตัวไปทั้งคู่เลย
 
 
เจี่ยงซือเฟยมองเล็บมือของตนอย่างไม่แยแส “งั้นฉันถอนตัวด้วยคนดีมั้ยนะ”
 
 
‘หลินเยียนกล้ามีเรื่องกับฉันเหรอ ฉันน่ะมีวิธีเขี่ยหล่อนทิ้งได้เป็นพันๆ วิธีเลยย่ะ’  เจี่ยงซือเฟยคิดในใจ
 
 
หลินเยียนจะไม่ได้มีโอกาสโต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว…
 
 
ในเวลานั้นเอง ตัวตัวแอบกระทืบเท้าด้วยความโกรธจัด
 
 
พวกเธอซวยสุดๆ!
 
 
ดาราเจ้าของรางวัลอย่างเจี่ยงซือเฟยรวมหัวกับเฮ่อซานซานและเว่ยสวีเฟิงสามารถกดดันทีมงานได้ถึงขนาดนี้เลย!
 
 
แล้วทีมงานจะบีบบังคับให้หลินเยียนถอนตัวเหมือนกันหรือเปล่านะ
 
 
เธอควรจะรีบกลับไปหาพี่เยียนเดี๋ยวนี้เลย…
 
 
เฝิงอันหวารีบปลอบโยนเหล่าดาราหญิง “สาวๆ ใจเย็นก่อนนะครับ อย่าเพิ่งวู่วามไป ยังไงเราก็ต่อรองกันได้ครับ เราไม่ได้ยืนกรานว่าจะให้หลินเยียนอยู่…”
 
 
เว่ยสวีเฟิงที่อารมณ์เสียเป็นทุนเดิมจำต้องอดทนอดกลั้นกับการพูดพล่ามไม่หยุดหย่อน คิ้วของเขาขมวดจนเกือบจะเป็นปมเดียวกัน และเขาก็ดูเหมือนจะหมดความอดทนได้ทุกเมื่อ
 
 
บ้าบอชะมัด เขาแค่ต้องการให้หลินเยียนไสหัวไปให้พ้นๆ หน้า ทำไมถึงมีแต่เรื่องน่าหงุดหงิดขนาดนี้
 
 
หลินเยียนกล้านำชื่อของเขาไปใช้สร้างข่าวฉาวและเที่ยวป่าวประกาศว่าเธอเป็นแฟนของเขา หนำซ้ำยังกุข่าวลือว่าเขาหลงรักเธอจนหัวปักหัวปำอีกต่างหาก!
 
 
เธอเห็นเขาเป็นตัวตลกชัดๆ!
 
 
และนอกจากจะเขี่ยเธอออกจากหนังเรื่องนี้แล้ว เขาจะต้องเขี่ยเธอออกจากวงการบันเทิงให้จงได้!
 
 
‘โอ๊ย! ทุกคนหนวกหูเป็นบ้า! หยุดพูดซะที! ’ เว่ยสวีเฟิงคิดในใจ
 
 
เว่ยสวีเฟิงเตะโต๊ะกาแฟ เขาพร้อมที่จะระเบิดโทสะแล้ว…
 
 
ในทันใดนั้นเอง เขากวาดสายตามองผ่านกลุ่มคนที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ และจับจ้องที่สิ่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
 
 
ประตูห้องเปิดผางออก หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านใน
 
 
เธอสวมเดรสคลาสสิกสีดำที่ประดับด้วยขนนกสีดำเช่นกัน ชายกระโปรงตกแต่งด้วยพู่เล็กๆ สีดำที่ดูสวยงาม ลำคอเรียวระหงของเธอประดับด้วยโชคเกอร์ลูกไม้ สไตลิสต์ทำผมความยาวระดับเอวของเธอให้กลายเป็นทรงม้วนหลวมๆ
 
 
หญิงสาวดูถือตัวและเงียบขรึม ดวงตาของเธอส่องประกายราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ส่วนริมฝีปากที่บอบบางของเธอมีสีระเรื่อราวดอกป็อปปี้ที่บานสะพรั่ง และดูราวกับว่ามีดอกพลับพลึงสีแดงกำลังเบ่งบานอยู่ใต้เท้าในขณะที่เธอเดิน…
 
 
ความงามของเธอทำให้เว่ยสวีเฟิงใจสั่นระรัว…
 
 
ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่ามีศรรักปักอกเข้าอย่างจัง ความคิดต่างๆ ไหลท่วมท้นในหัวของเขาทันที…
 
 
เขาจะจดจำผู้หญิงคนนี้ได้ไปอีกนับพันปี…
 
 
เควินวิ่งตามหญิงสาวเข้ามาในห้องพร้อมกับถือแปรงแต่งหน้าไว้ในมือ “หลินเยียน หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันยังแต่งหน้าเธอไม่เสร็จนะ! ยังไม่ได้เซ็ตเครื่องสำอางเลย!”
 
 
หลินเยียน?
 
 
ผู้หญิงคนนี้คือ…หลินเยียน?
 
 
เฝิงอันหวา เฮ่อซานซาน และทุกคนในห้องที่กำลังโวยวายเสียงดังไม่ทันได้สังเกตว่าหลินเยียนอยู่ด้านหลังพวกเขา
 
 
ในที่สุด เฝิงอันหวายอมยกธงขาวและตัดสินใจว่าจะสั่งให้หลินเยียนถอนตัว เขาจำเป็นต้องทำเพราะไม่รู้ว่าเว่ยสวีเฟิงผู้เอาแต่ใจตัวและเจ้าอารมณ์จะสร้างความวุ่นวายให้กับกองถ่ายรึเปล่า
 
 
เฝิงอันหวาเดินรี่เข้าไปหาเว่ยสวีเฟิงเพื่อประกาศว่า “เนื่องจากคุณเจี่ยงและคุณเฮ่อขู่ว่าจะถอนตัวจากกองถ่ายหนังของเรา ผมเลยไตร่ตรองดูอย่างดีแล้วนะครับ ทั้งคู่ไม่ได้ผิดซะทีเดียว และในเมื่อทุกคนยืนกรานอย่างนั้น…เราก็ควรจะ…”
 
 
เฝิงอันหวายืนอยู่หน้าเว่ยสวีเฟิงพอดิบพอดี เขาจึงเผลอบดบังทัศนียภาพของเว่ยสวีเฟิงโดยไม่ตั้งใจ
 
 
เว่ยสวีเฟิงปัดเฝิงอันหวาออกไปให้พ้นทางก่อนจะโพล่งออกมาอย่างหมดความอดทน “งั้นก็ให้ถอนตัวไปเลย ทั้งคู่นั่นแหละ!”
 
 
เฝิงอันหวาตอบ “โอเค!”
 
 
แต่แล้วจู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ…
 
 
“เอ่อ…หือ?”
 
 
ทั้งคู่? หมายถึงเจี่ยงซือเฟยกับเฮ่อซานซาน?
 
 
ไม่ได้หมายถึงหลินเยียนใช่ไหม?
 
 

 
 
ตอนที่ 142 รูปพวกนั้นมันแหกตา
 
 
“คุณชายเว่ย คือ…”
 
 
เฝิงอันหวามองเว่ยสวีเฟิงอย่างงงงวย เมื่อครู่นี้เขาหูฝาดไปรึเปล่านะ
 
 
ไม่ใช่ว่าเว่ยสวีเฟิงอยากให้หลินเยียนถอนตัวหรอกหรือ? เอ หรือว่าเขาจะหมายถึงเฮ่อซานซานกับเจี่ยงซือเฟยกันแน่?
 
 
ทำไมคำสั่งของเขาถึงฟังดูแปลกประหลาดจัง
 
 
เฮ่อซานซานและเจี่ยงซือเฟยได้ยินเว่ยสวีเฟิงไม่ชัด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายนัก พวกเธอต่างคิดว่าเว่ยสวีเฟิงออกคำสั่งให้ไล่หลินเยียนไปจากกองถ่าย
 
 
เฝิงอันหวาตัดสินใจถามเว่ยสวีเฟิงอย่างระแวดระวังอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเว่ยสวีเฟิงจะใจจดใจจ่อกับบางอย่างที่อยู่ด้านหลังเขามากกว่า
 
 
“นั่น…นั่น…หลินเยียนเหรอ”
 
 
เว่ยสวีเฟิงจ้องหญิงสาวตาเป็นมัน อารมณ์มากมายพลุ่งพล่านอยู่ในแววตาของเขาราวกับลูกคลื่น
 
 
แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบหลินเยียนตัวจริงมาก่อน แต่เขาเคยเห็นรูปภาพของหลินเยียนมาแล้วหลายครั้ง คนๆ นี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือคนเดียวกับที่อยู่ในรูปถ่ายจริงหรือ?
 
 
รูปพวกนั้นมันแหกตากันทั้งเพ!
 
 
เฝิงอันหวา เจียงอีหมิง และคนอื่นๆ มองตามสายตาของเว่ยสวีเฟิงก่อนจะหันไปมองที่จุดเดียวกัน
 
 
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยอารามตกใจ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นให้ความรู้สึกราวกับหลินเพียนรั่วตัวจริงได้หลุดมาจากในนิยาย!
 
 
นอกจากความสวยของเธอแล้ว ออร่าที่ไม่เหมือนใครของเธอยังทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้เห็นดอกกุหลาบแสนงดงามที่มีหนามแหลมคมซึ่งเบ่งบานอยู่ในคืนที่เหน็บหนาว เธอดูสง่างามแต่กลับเย็นชาห่างเหิน
 
 
สิ่งที่ดึงดูดใจทุกคนมากที่สุดคือท่าทีมั่นอกมั่นใจ หยิ่งผยอง และไม่ครั่นคร้ามของหญิงสาว หากแต่เธอกลับดูหงอยเหงาอยู่ภายใน
 
 

 
 
เจียงอีหมิงรู้สึกประทับใจมากจนเกือบน้ำตาไหลออกมา!
 
 
หลินเพียนรั่ว! หลินเยียนสามารถทำให้ตัวละครตัวนี้มีชีวิตขึ้นมาได้จริงๆ!
 
 
เขาไม่ได้คาดหวังมาก่อนว่าหลินเยียนจะดูเหมือนกับตัวละครตัวนี้ทุกกระเบียดนิ้วทั้งการแต่งหน้าและการแต่งตัว เธอได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหลินเพียนรั่วอย่างสมบูรณ์แบบผ่านทั้งทางออร่าและการแสดงออกของเธอ
 
 
สารพัดอารมณ์ท่วมท้นอยู่ในจิตใจของเจียงอีหมิง แต่เขากลับเศร้าจนคอตกในวินาทีถัดมา
 
 
แต่เว่ยสวีเฟิง…
 
 
เจียงอีหมิงรู้ดีว่าเขาต้องสู้เพื่อหลินเยียนอีกครั้ง ไม่ว่าเขาจะมีโอกาสน้อยเพียงใดก็ตาม
 
 
เจียงอีหมิงเดินรี่เข้าหาเว่ยสวีเฟิงในทันที “คุณชายเว่ย หลินเยียนน่ะ…”
 
 
เว่ยสวีเฟิงที่ตกอยู่ในภวังค์มานานสะดุ้งเฮือกจนได้สติกลับมา เขาเมินเจียงอีหมิงแล้วคว้าคอเสื้อของเฝิงอันหวาเพื่อดึงตัวโปรดิวเซอร์เข้ามาใกล้ก่อนจะขู่คำรามด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว “ห้ามพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้องนี้ให้เธอได้ยินเด็ดขาด!”
 
 
เจียงอีหมิงสับสน “อืม…ตามไม่ค่อยทันแล้วแฮะ คุณชายเว่ยพูดเรื่องอะไรน่ะ”
 
 
เฝิงอันหวาถามกลับ “เธอ?”
 
 
เว่ยสวีเฟิงตะโกนลั่นเมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง “หลินเยียนไง!”
 
 
เจียงอีหมิงเอ่ย “หมายความว่ายังไง? เราต้องปิดเรื่องอะไรไม่ให้เธอรู้?”
 
 
“ฉัน…” เว่ยสวีเฟิงกำลังโกรธจัดถึงขนาดที่จะปะทุลาวาออกมาได้ทุกเมื่อ
 
 
เฝิงอันหวาเหลือบมองหลินเยียนแล้วก็เข้าใจทุกอย่างได้ในทันที เขารีบขัดจังหวะ “โอ้! เข้าใจแล้วครับ! คุณชายเว่ย ไม่ต้องห่วงครับ! เราจะไม่พูดแน่นอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเนอะเมื่อกี้นี้! คุณชายเว่ยไม่ได้โมโหอะไรหลินเยียนเลยนะครับ เราแค่คุยกันเรื่องความคืบหน้าของหนังน่ะ!”
 
 
เว่ยสวีเฟิงสงบลงและดูก้าวร้าวน้อยลงเล็กน้อย เขาจัดคอเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะบ่นว่า “ยังดีที่แถวนี้มีคนฉลาดอยู่บ้าง”
 
 
เฝิงอันหวาตกใจที่เขาสามารถแปลความนัยของเว่ยสวีเฟิงออก เขาเหลือบมองหลินเยียนอีกครั้งก่อนจะพูดอย่างสุขุมว่า “คุณชายเว่ยครับ ผมจะขอแนะนำให้รู้จักคุณหลินเยียนที่จะมารับบท…คู่กันกับคุณ!”
 
 
“ด่วนเลย!” เว่ยสวีเฟิงจ้องโปรดิวเซอร์เอาเป็นเอาตาย
 
 
“ครับ ครับ ครับ…ได้เลยครับ!” เฝิงอันหวาหันหลังกลับเพื่อเดินนำทางเขาไปหาหลินเยียน
 
 
เว่ยสวีเฟิงกำลังจะก้าวขาออกเดินตามไป แต่จู่ๆ เขาก็หยุดกึกในพริบตาต่อมา ความกังวลสั่นไหวอยู่ในแววตาของเขา “ฉันดูเป็นไงบ้างเนี่ย”

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ

หลินเยียน นักกีฬาแข่งรถแนวหน้าของวงการต้องถึงคราวตกต่ำเพราะข่าวฉาวที่ถูกจัดฉากขึ้น มิหนำซ้ำแฟนหนุ่มที่ทำให้เธอต้องก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อสนับสนุนเขายังหักหลังนอกใจไปคบกับน้องสาวของเธอเองอีกด้วย! แต่แล้วโชคชะตาก็ดลบันดาลให้เธอก็ได้พบกับ เผยอวี้เฉิง ประธานเครือบริษัทข้ามชาติเจเอ็ม คอร์เปอเรชัน ที่ทั้งเดาอารมณ์ยาก เย็นชาและไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใคร วันดีคืนดีจู่ๆ เขาก็เกิดสูญเสียการควบคุมตัวเองไปดื้อๆ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะพาเขากลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้ การพบกันครั้งแรกของเธอและเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ ทว่าเธอกลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเธอและเขาเคยพบกันมาก่อนหน้านี้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเธอก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะ ‘ลืมเลือน’ เขาไปด้วยตัวเอง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset