ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 327 จิตวิญญาณของหนังเรื่องนี้ / ตอนที่ 328 มาโดยไม่ได้รับเชิญ

ตอนที่ 327 จิตวิญญาณของหนังเรื่องนี้

 

 

เมื่อเผยหนานซวี่ได้ยินคำพูดของเจี่ยงซือเฟย ใบหน้าปราศจากความรู้สึกใดๆ แค่เผยรอยยิ้มบางๆออกมาเท่านั้น

 

 

ตอนนี้เจี่ยงซือเฟยไม่เหมือนก่อน เป็นเด็กใหม่ที่เอเจนซี่ของหลินซูหย่าดันอยู่ ทุ่มเททรัพยากรให้ทุกอย่างเหมือนไม่อยากได้เงินอย่างนั้น

 

 

เฝิงอันหวาให้ความสำคัญกับศักยภาพของเธอ ดังนั้นจึงให้ความสำคัญเธอเป็นธรรมดา พูดชมสารพัดอย่าง “ด้านราชาภาพยนตร์เผยพวกเราไม่ต้องพูดอะไรให้มากความอีก ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการแสดงหรือความสามารถต่างอยู่ในระดับสุดยอด แต่เจี่ยงซือเฟยเธอเองก็มีอนาคตสดใสเหมือนกัน อายุยังน้อยก็ได้รางวัลใหญ่ตั้งมากมายขนาดนี้แล้ว ในวงการไม่มีใครไม่ยอมรับความสามารถของเธอ!

 

 

ฝีมือการแสดงของเธอ เมื่อดูนักแสดงหญิงทั่วทั้งวงการแล้ว มีแค่ไม่กี่คนที่สู้เธอได้ มีความสวยและความสามารถพอๆ กัน เธอเหมือนราชาภาพยนตร์เผย เป็นจิตวิญญาณของหนังเรื่องนี้ของพวกเราเชียวนะ…”

 

 

เฝิงอันหวาคลุกคลีอยู่ในวงการมานานหลายปี เจอคนคุยภาษาคน เจอผีคุยภาษาผี ทุกประโยคล้วนกระแทกใจเจี่ยงซือเฟย ทำให้เจี่ยงซือเฟยหัวใจเบิกบาน

 

 

เพียงแต่เจี่ยงซือเฟยยังคงแสดงสีหน้าถ่อมตัว เธอตอบกลับไปว่า “โปรดิวเซอร์เฝิง คุณชมเกินไปแล้วค่ะ ฉันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ สิ่งที่ต้องเรียนรู้มีไม่หมดไม่สิ้น ฉันแน่วแน่มาตลอดว่าขอแค่มีพื้นฐานมั่นคง ใช้ความสามารถก้าวเดินถึงจะเดินได้ยาวไกลค่ะ”

 

 

ขณะที่เจี่ยงซือเฟยพูดประโยคนี้ สายตาก็ไปอยู่ที่หลินเยียนคล้ายจะมีอะไรแต่ก็คล้ายไม่มี

 

 

เฮ่อซานซานที่อยู่ด้านข้างเมื่อได้ยินประโยคนี้ก็รีบพูดสำทับขึ้นมาทันที “พี่ซือเฟย พี่พูดถูกต้องเหลือเกินค่ะ คนในวงการบันเทิงอย่างพวกเราควรมีความเป็นศิลปินเหมือนพี่มากสักหน่อยถึงจะถูก

 

 

แต่น่าเสียดายนะคะ คนบางคนความสามารถอะไรก็ไม่มี ฝีมือในการทำงานก็แย่จะตายอยู่แล้ว วันๆเอาแต่สร้างกระแสสร้างข่าวฉาว ไม่อย่างงั้นคงอยู่ต่อไปไม่ได้

 

 

ได้ยินว่าวันนี้แสดงฉากง่ายๆ กับราชาภาพยนตร์เผยเสียไปหลายสิบครั้ง ทำเอาทุกคนได้แต่ต้องทำงานล่วงเวลากับเธอ ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง ช่างลดเกรดของกองถ่ายเราซะจริงเชียว…”

 

 

คำพูดนี้ของเฮ่อซานซานหมายถึงใคร ทุกคนย่อมรู้แก่ใจดี

 

 

กองถ่ายแยกกองกันถ่ายมาตลอด การถ่ายทำช่วงนี้ของหลินเยียน มีแค่คนที่กองแยกถึงจะรู้ ดาราที่เคยเห็นฝีมือการแสดงของหลินเยียน รวมทั้งเคยแสดงร่วมกับหลินเยียนก็มีไม่มาก

 

 

ดังนั้นจึงมีคนที่โต๊ะจำนวนไม่น้อยที่มีท่าทีรังเกียจและดูถูกหลินเยียน

 

 

เพียงแต่พวกของเจียงอีหมิง เว่ยสวีเฟิง และเผยหนานซวี่กลับรู้ดี โดยเฉพาะเว่ยสวีเฟิงซึ่งเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของหลินเยียนคนนี้

 

 

พอได้ยินคำพูดนี้ของเฮ่อซานซาน เว่ยสวีเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบจะสัมผัสไม่ได้ขึ้นมาทันที

 

 

ถึงแม้เขาจะเกลียดหลินเยียนมาก แต่ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่าฝีมือการแสดงของเธอนั้นไร้ที่ติ

 

 

กระทั่งพูดได้ว่าการแสดงร่วมกับหลินเยียนถือเป็นครั้งที่เขาผ่อนคลายมากที่สุดนับตั้งแต่ถ่ายหนังมา

 

 

เพียงแต่วันนี้ที่กองถ่ายมีข่าวลือว่าฉากที่แสดงกับเผยหนานซวี่เสียหลายสิบครั้ง เรื่องนี้กลับทำให้เขารู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง

 

 

ถึงอย่างไรฉากที่หลินเยียนแสดงกับเขาส่วนใหญ่หรือกระทั่งว่าเทคเดียวผ่านทั้งหมด มิหนำซ้ำพรสวรรค์และความสามารถในการเรียนรู้ของเธอก็น่าตื่นตระหนก ต่อให้ถ่ายเสียก็จับความรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว แล้วทำไมพอแสดงกับเผยหนานซวี่แล้วถึงได้ถ่ายเสียมากขนาดนี้?

 

 

สุดท้ายก็คงเพราะไม่ได้เป็นนักเรียนการแสดง ดังนั้นจึงคาดว่าแสดงออกมาได้ไม่ค่อยแน่นอนกระมัง…

 

 

ส่วนเผยหนานซวี่ย่อมไม่พูดในเวลานี้แน่นอน หากเขาเอ่ยปากช่วยพูดให้หลินเยียน รังแต่จะสร้างความยุ่งยากให้หลินเยียนเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

 

 

แถมไม่ต้องพูดให้มากความด้วยซ้ำ รอให้หนังเข้าฉาย การแสดงของหลินเยียนเป็นอย่างไร พวกเขาก็จะได้เห็นเอง

 

 

ถึงบทของหลินเยียนจะมีไม่มาก แต่ด้วยประสบการณ์ของเขา กล้าพูดตัดสินได้เลยว่าตัวละครที่อาจดังมากที่สุดในหนังเรื่องนี้คือหลินเผี่ยนรั่วที่หลินเยียนแสดง

 

 

กลับเป็นเจี่ยงซือเฟยที่ถูกเฝิงอันหวาชมซะเลิศเลอคนนั้นเสียอีก ซึ่งที่จริงแล้วการแสดงของเธอไม่คู่ควรกับสมญานามราชินีภาพยนตร์ของเธอเลยจริงๆ

 

 

มีคำพูดประโยคหนึ่งของเจี่ยงซือเฟยที่พูดไว้ไม่มีผิด สิ่งสำคัญที่สุดก็คือฝีมือการแสดงและความสามารถอยู่ดีนั่นแหละ

 

 

 

 

ตอนที่ 328 มาโดยไม่ได้รับเชิญ

 

 

เสียงจานชามช้อนส้อมดังอยู่ที่โต๊ะอาหาร

 

 

ที่นั่งข้างเผยหนานซวี่นี้ช่างสะดุดตาเสียเหลือเกิน หลินเยียนทำได้แค่ก้มหน้าก้มตา พยายามทำให้รู้สึกว่ามีตัวเองอยู่ตรงนั้นน้อยที่สุด

 

 

เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยไปจนดึก ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่กองถ่ายคนหนึ่งก็ผลักประตูเข้ามา จากนั้นก็กระซิบอะไรบางอย่างข้างใบหูเฝิงอันหวา

 

 

“อะไรนะ หลินซูหย่ามาอย่างงั้นเหรอ?” พอเฝิงอันหวาได้ยินก็ตกใจเล็กน้อยทันที รีบลุกขึ้นไปต้อนรับ

 

 

ระหว่างที่สนทนากันอยู่นั้น ประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกคนผลักเข้ามา หลินซูหย่าซึ่งอยู่ในชุดเดรสกระโปรงสั้นหรูหราที่เปล่งประกายสะดุดตาก็เดินเข้ามา

 

 

“คุณหลิน!”

 

 

“โอ้โห! หลินซูหย่า!”

 

 

“พี่คะ!”

 

 

พริบตาที่เห็นหลินซูหย่า ทุกคนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงพลันส่งเสียงทักทายด้วยความกระตือรือร้น

 

 

ใบหน้าที่บึ้งตึงมาตลอดของหันอี้เซวียนก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที ภายในชั่วเสี้ยววินาทีที่เห็นคนเดินเข้ามา

 

 

เฮ่อซานซานเข้าไปต้อนรับด้วยความดีใจ คล้องแขนหลินซูหย่าด้วยความกระตือรือร้น “พี่คะ พี่มาได้ยังไงคะ”

 

 

หลินซูหย่ากล่าวระคนหัวเราะ “วันนี้มาร่วมงานเลี้ยงกินข้าวที่นี่พอดี ต่อมาพอได้ยินว่าพวกพี่อี้เซวียนก็กินข้าวอยู่ที่นี่ด้วยเลยมาโดยไม่ได้รับเชิญน่ะ!”

 

 

พอพูดจบก็มองเฝิงอันหวากับเจียงอีหมิง “ขอโทษที่รบกวน โปรดิวเซอร์เฝิงกับผู้กำกับเจียงคงไม่ถือสานะคะ!”

 

 

เฝิงอันหวาเอ่ยปากด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มทันที “ซูหย่า เธอพูดอะไรกันน่ะ! รับเชิญไม่รับเชิญอะไรกัน! เธอมาได้ ถือเป็นเกียรติของกองถ่ายเรามากเลยนะ! เร็ว รีบนั่งเร็ว!”

 

 

พอพูดจบก็สั่งคนไปบอกพนักงานบริการให้เตรียมอุปกรณ์เพิ่มขึ้นอีกชุดหนึ่ง

 

 

เจี่ยงซือเฟยที่นั่งอยู่ด้านข้างหันอี้เซวียนก็ยืนขึ้นอย่างรู้ตัว “ซูหย่า มานั่งตรงนี้เถอะ!”

 

 

หันอี้เซวียนลุกขึ้นแล้วเดินไปทางหญิงสาว จูงมือเธอไปที่เก้าอี้แล้วนั่งลงด้วยความเอาใจใส่ เสียงอ่อนโยนดั่งสายน้ำขึ้นมาทันที “บอกว่ายุ่งไม่ใช่เหรอ?”

 

 

“ต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ยังสำคัญไม่เท่าพี่อี้เซวียนหรอกค่ะ!” หลินซูหย่าพูดเสียงหวานเยิ้ม ทำให้คนที่อยู่ภายในห้องส่งเสียงร้องออกมาทันที

 

 

คำพูดของหลินซูหย่าทำให้หันอี้เซวียนมีความสุขมาก ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่

 

 

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เห็นเขาเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดเสมอ มักใช้สายตาต้องการที่พึ่งพิงแหงนมองดูตนเอง ทั้งโลกมีแต่เขาอยู่เต็มไปหมด เมื่อหลินซูหย่าพูดจบก็มองเว่ยสวีเฟิงด้วยความสนิทสนม “เว่ยสวีเฟิง กำลังรอเพลงของคุณอยู่นะคะ! ต้องเพราะมากแน่เลย!”

 

 

เว่ยสวีเฟิงตีหน้าขรึมมาทั้งคืน เมื่อเจอหลินซูหย่าก็ค่อยๆ อ่อนลงหลายส่วน “ขอบคุณครับ”

 

 

ที่โต๊ะอาหาร หลินซูหย่าเฉกเช่นปลาที่ได้น้ำก็ว่าได้

 

 

หญิงสาวทั้งจริงใจและสนิทสนมราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน การพูดจาและการกระทำทั้งสูงส่งและสง่างาม ไม่ว่าใครต่างก็ชื่นชอบเธอมาก ไม่เพียงคุณชายเว่ยที่โหดร้ายป่าเถื่อนที่ยังมีสีหน้าอ่อนโยนอย่างหาได้ยากยิ่งเท่านั้น แม้แต่คุณชายเพลย์บอยอย่างเฉินเจามู่เองก็ยังมีท่าทีเอาใจใส่ต่อหญิงงามอีกด้วย

 

 

สายตาหันอี้เซวียนแทบจะเปี่ยมล้นไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู

 

 

“ใช่แล้วล่ะ พี่คะ พี่มาร่วมงานเลี้ยงอะไรเหรอคะ” เฮ่อซานซานถาม

 

 

หลินซูหย่าทัดปอยผม ดวงตาฉายแววภาคภูมิใจ “คนที่นัดคืนนี้คือผู้กำกับการ์เซีย”

 

 

เมื่อเฮ่อซานซานได้ยินก้มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมาทันที “โอ้โห! ผู้กำกับฮอลลีวูดชื่อดังคนนั้นใช่รึเปล่าคะ ได้ยินว่าช่วงนี้เขาถ่ายทำหนังที่เกี่ยวกับการแข่งรถเรื่องหนึ่ง พี่ พี่จะถ่ายหนังกับผู้กำกับการ์เซียเหรอคะ”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเฮ่อซานซาน คนอื่นที่อยู่ตรงโต๊ะต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจ

 

 

การ์เซียเป็นผู้กำกับแถวหน้าของฮอลลีวูด ทำให้ดาราดังมาแล้วมากมาย ดาราในวงการบันเทิงจีนแทบจะทุกคนรู้สึกว่าการได้ร่วมแสดงในหนังของเขาถือเป็นเกียรติอันสูงสุด

 

 

แต่หลินซูหย่ากลับยิ้มแย้มไม่พูดไม่จา เจี่ยงซือเฟยที่อยู่ด้านข้างจึงช่วยตอบแทน “หนังเรื่องนี้กำหนดตัวไว้ตั้งแต่แรกแล้ว คุณหลินจะแสดงเป็นหนึ่งในตัวละครที่สำคัญมากในนั้น แถมตัวละครตัวนี้ผู้กำกับการ์เซียกำหนดตัวเป็นการภายในด้วยตัวเองด้วยนะ”

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ
Status: Ongoing
หลินเยียน นักกีฬาแข่งรถแนวหน้าของวงการต้องถึงคราวตกต่ำเพราะข่าวฉาวที่ถูกจัดฉากขึ้น มิหนำซ้ำแฟนหนุ่มที่ทำให้เธอต้องก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อสนับสนุนเขายังหักหลังนอกใจไปคบกับน้องสาวของเธอเองอีกด้วย! แต่แล้วโชคชะตาก็ดลบันดาลให้เธอก็ได้พบกับ เผยอวี้เฉิง ประธานเครือบริษัทข้ามชาติเจเอ็ม คอร์เปอเรชัน ที่ทั้งเดาอารมณ์ยาก เย็นชาและไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใคร วันดีคืนดีจู่ๆ เขาก็เกิดสูญเสียการควบคุมตัวเองไปดื้อๆ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะพาเขากลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้ การพบกันครั้งแรกของเธอและเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ ทว่าเธอกลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเธอและเขาเคยพบกันมาก่อนหน้านี้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเธอก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะ ‘ลืมเลือน’ เขาไปด้วยตัวเอง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset