วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 756 ในที่สุดก็มีสิ่งที่ประธานโม่ทำไม่ได้

ไม่นานหลังจากนั้น ไห่รุ่ยก็ประกาศว่า ‘หวงเฟยยอดสตรี’ กำลังจะทำการออดิชั่นบทนักแสดงนำชาย โม่ถิงนั่นเป็นประธานบริษัทของไห่รุ่ย ดังนั้นคำตัดสินของเขาจึงเด็ดขาดและถือเป็นที่สุด นอกจากหลินเซิงและเป่ยเฉินตงแล้ว ยังมีนักแสดงชายอีกสองคนที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมในปักกิ่งนั่นคือหลงซิงและลู่อี่หลิง

 

 

ชายทั้งสองมักจะได้รับการเสนอชื่อว่าเป็นนักแสดงยอดเยี่ยม ดังนั้นหน้าที่ของโม่ถิงคือการเลือกคนที่เหมาะสมกับบทนี้มากที่สุดระหว่างสองคนนี้

 

 

แน่นอนว่าโม่ถิงดูจะเอนเอียงมาทางหลงซิงมากกว่า โม่ถิงมักจะให้ความสำคัญกับความสามารถของคนคนนั้นมากกว่าหน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอก แต่ถ้าถังหนิงเกิดสามารถปลุกสามารถในการแสดงของลู่อี่หลิงได้ในระหว่างการแสดงด้วยกันล่ะ

 

 

โชคร้ายที่เมื่อถึงวันออดิชั่น ทั้งหลงซิงและลู่อี่หลิงกลับไม่ปรากฏตัวทั้งคู่

 

 

คนหนึ่งปฏิเสธเนื่องจากตารางงานเต็มแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพักงานนานหกเดือนเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ

 

 

ตัวเลือกสองอันดับแรกหาข้ออ้างที่จะไม่ร่วมงานกับไห่รุ่ยได้สำเร็จ!

 

 

แม้แต่ตอนที่ผู้จัดการของทั้งคู่เดินทางมาที่บริษัทเพื่อให้คำอธิบาย พวกเขาก็ยังดูหมดหนทาง “หลงซิงเปลี่ยนตารางงานมาไม่ได้จริงๆ ครับ พวกเราต้องขอโทษจริงๆ นะครับผู้ช่วยลู่เช่อ หลงซิงอยากจะเล่นละครเรื่องนี้ แต่ในฐานะศิลปิน เขาไม่สามารถกลับคำแล้วปฏิเสธงานที่ตกลงไว้กับที่อื่นแล้วได้ เพราะฉะนั้น…”

 

 

“ผู้ช่วยลู่คะ นี่คือผลตรวจร่างกายของลู่อี่หลิงค่ะ กระเพาะอาหารและตับของเขากำลังแย่เนื่องจากการทำงานหนักเกินไป ทำให้เอเจนซี่ของเราต้องให้เขาพักงานนานหกเดือน เพราะถึงยังไงสุขภาพก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเราต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำเช่นนี้นะคะ”

 

 

แม้ลู่เช่อจะไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมชายทั้งสองถึงปฏิเสธไห่รุ่ย แต่เขาก็ไม่คิดจะเปิดโปงคำโกหกที่อยู่เบื้องหลังข้อแก้ตัวเหล่านั้น เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้เรื่องราวที่แท้จริงอยู่ดี

 

 

“ท่านประธานครับ เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ บรรดาผู้จัดการของทั้งสองคนมากล่าวคำขอโทษคนแล้วคนเล่า จากที่ดู พวกเขาไม่มีเจตนาที่จะเป็นปรปักษ์กับไห่รุ่ยแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น” ลู่เช่อวางข้อมูลบางส่วนลงบนโต๊ะทำงานของโม่ถิงและกล่าวต่อ “ผมตรวจสอบข้อมูลพวกนี้แล้วและยืนยันว่าสิ่งที่ผู้จัดการพวกนั้นพูดเป็นความจริงครับ ถึงพวกเราจะรู้ดีว่าเอกสารพวกนี้สามารถปลอมขึ้นมาได้ก็ตาม”

 

 

“รวบรวมรายชื่อนักแสดงชายมาให้ฉันใหม่ แล้วลดเงื่อนไขลงด้วย” โม่ถิงออกคำสั่งโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง

 

 

“ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่นักแสดงเลือดใหม่ๆ ที่มีประสบการณ์มีไม่มากพอมาแทนที่นักแสดงหน้าเก่าที่อยู่มานานหลายปี อาจจะต้องเอาเป่ยเฉินตงกับหลินเซิงกลับมาพิจารณาอีกครั้ง แต่ทั้งสองคนเคยร่วมงานกับคุณผู้หญิงมาแล้วและเป่ยเฉินตงเองก็ใส่ชุดแนวย้อนยุคไม่ขึ้นนัก ถ้าเราเอาจุดนี้มาพิจารณาก็ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีนักแสดงคนไหนที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรับบทนี้ได้เลยนะครับ”

 

 

“ในวงการใหญ่ขนาดนี้เรายังไม่สามารถหานักแสดงชายที่มีคุณภาพได้สักคนเลยเหรอ…”

 

 

“พวกนักแสดงที่ไม่ได้ดังมากแต่ภายนอกดูโดดเด่นก็มีอยู่ครับ แต่พอเป็นนักแสดงที่ดูแล้วไม่มีวี่แววจะดังได้ ผมก็ไม่อยากเสี่ยง” ลู่เช่อยื่นข้อมูลของศิลปินคนอื่นๆ ให้โม่ถิง “ถ้าประธานมีเวลาค่อยดูก็ได้ครับ”

 

 

ใช้เวลาไม่นานถังหนิงก็ได้ยินข่าวเรื่องที่ผู้สมัครบทพระเอกสองคนไม่มาร่วมการออดิชั่น แต่คนพวกนั้นคิดว่าไห่รุ่ยเป็นใครอย่างนั้นหรือ มีใครกล้าปฏิเสธไห่รุ่ยอย่างนั้นหรือ เห็นได้ชัดว่ามีคนเจตนาไม่ดีจงใจยื่นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจกว่าให้ทั้งสองคนนั้น

 

 

ยังจะมีเหตุผลอะไรอีกที่จะขัดขวางการออดิชั่นบทนักแสดงนำชายของละครเรื่องนี้ ส่งผลให้ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ยังไม่อาจหานักแสดงชายในวงการที่คู่ควรกับมาตรฐานระดับสูงของละครเรื่องนี้ได้เป็นการชั่วคราว

 

 

ทุกคนต่างรู้ดีว่าการคัดเลือกนักแสดงที่ดีให้เหมาะสมกับบทที่ดีนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญ มันเป็นหนี่งในปัจจัยที่ตัดสินความสำเร็จของละครสักเรื่องหนึ่ง…

 

 

หลังถังหนิงกล่อมลูกชายทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้ว เธอก็หยิบบทละคร ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ขึ้นมาดู อันที่จริงการที่สิ่งต่างๆ ดำเนินมาถึงจุดนี้นับเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ…

 

 

 

 

ทุกอย่างเริ่มขึ้นนับตั้งแต่ตอนที่ไป๋อวี๋ได้ยินมาว่าหลงซิงและลู่อี่หลิงมีความเป็นไปได้ที่จะได้ร่วมงานกับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’

 

 

ในเมื่อโม่ถิงและถังหนิงหมายตาชายสองคนนี้ เธอจะต้องหาวิธีเอาตัวพวกเขามา

 

 

ดังนั้นเธอจึงไปพบกับหลงซิงและลู่อี่หลิงทีละคนและใช้คำพูดของเธอในการหลอกล่อพวกเขา

 

 

“ละครเรื่อง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เป็นละครที่เน้นบทนางเอกนะ สุดท้ายถังหนิงก็จะกลายเป็นคนเดียวที่ได้เฉิดฉาย ในขณะที่คุณจะเสียเวลาเปล่า มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรให้คุณมีโอกาสชนะรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมมเลยสักนิด คุณก็รู้นี่ว่าถังหนิงเป็นสมบัติล้ำค่าของโม่ถิง ถ้าคุณร่วมงานกับละครเรื่องนี้ คุณคิดเหรอว่าคุณจะมีสิทธิ์อะไรเหลือในกองถ่ายบ้าง

 

 

“กลับกัน ถ้าคุณเซ็นสัญญากับเอเจนซี่ฉัน ทุกอย่างจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะถังยังไงเราก็มีพื้นเพอยู่ที่ฮอลลีวูด ถ้าคุณร่วมงานกับเรา เราจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคุณกับตลาดระดับโลก คุณคิดว่าไห่รุ่ยสามารถทำอะไรแบบนั้นให้คุณได้หรือเปล่า”

 

 

แม้สิ่งที่ไป๋อวี๋ทำจะเป็นการกระทำที่สกปรกอย่างที่สุด ทั้งหลงซิงและลู่อี่หลิงต่างต้องยอมรับว่าการวิเคราะห์ของไป๋อวี๋นั่นไม่มีอะไรผิด

 

 

ใช่ พวกเขาอาจจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากการร่วมงานกับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ แต่… พวกเขาก็เป็นคนที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วนี่ สิ่งที่พวกเขาต้องการในตอนนี้คือการได้รับการยอมรับและการทำงานในต่างประเทศเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะดึงพวกเขาไปอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ หลังจากการร่วมงานกับต่างประเทศและกลับมายังจีนพวกเขาจะได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก เมื่อถึงเวลาคงยากที่จะจินตนาการว่าอาชีพนักแสดงของพวกเขาจะก้าวหน้าไปถึงขั้นไหน

 

 

ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะปฏิเสธการร่วมออดิชั่นของ ‘หวงเฟยยอดสตรี’

 

 

ทำให้ไห่รุ่ยไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับบทนักแสดงนำชายอีกต่อไป

 

 

โม่ถิงกับถังหนิงต่างเป็นพวกรักความสมบูรณ์แบบ ต่อให้พวกเขาไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากการเลือกนักแสดงเกรดรองลงมา พวกเขาก็จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์แบบมากกว่าจะเลือกคนก็ได้มาแบบสุ่มๆ เพื่อรับบทนี้

 

 

 

 

โม่ถิงเดินทางกลับมาถึงบ้านตอนหนึ่งทุ่ม ก็พบว่าถังหนิงกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว เขารีบเดินเข้าไปหาเธอและโอบกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังทันที

 

 

“ทำไมคุณดูเหนื่อยจังคะ คุณกลัวว่าฉันจะไม่มีใครมาแสดงบทพระเอกด้วยงั้นเหรอ”

 

 

“ไห่รุ่ยยังไม่ถึงจุดที่ไม่สามารถหาพระเอกได้หรอกครับ” โม่ถิงตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

 

 

“งั้นทำไมคุณถึงดูไม่มีความสุขแบบนี้ล่ะ”

 

 

“ผมอยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณ”

 

 

ฉับพลันถังหนิงวางหม้อในมือลงแล้วหันกลับมาสบตาโม่ถิง “ถ้าคุณต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดกับฉันจริงๆ ฉันคิดว่าฉันมีคนที่เหมาะสมที่สุดในใจอยู่แล้ว ฉันแค่ไม่แน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วยหรือเปล่า”

 

 

โม่ถิงมองลึกเข้าไปในดวงตาทั้งสองข้างของถังหนิงและพอจะเดาคร่าวๆ ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังคิดอยู่ได้ “ผมแสดงไม่ได้หรอกนะ”

 

 

“อย่ามาโกหก คุณปู่บอกฉันมาตั้งนานแล้วว่าคุณแสดงได้…” ถังหนิงรีบโต้แย้ง “ฉันคุยกับคุณปู่แล้ว ถ้าคุณต้องการจะแสดงละครเรื่องนี้ คุณปู่จะกลับมาบริหารไห่รุ่ยให้ชั่วคราว คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการบริหารงานของไห่รุ่ย”

 

 

“ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องทำอะไรแบบนี้ หัวใจผมมันกำลังต่อต้าน” โม่ถิงตอบอย่างซื่อตรง

 

 

ท้ายที่สุด ถังหนิงก็พยักหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณไม่อยากเล่นก็ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ เราจะหาคนอื่นแทน ฉันแค่คิดว่ามันน่าเสียดาย ฉันแน่ใจว่าคุณจะต้องสร้างความประหลาดใจให้ทุกคนในชุดย้อนยุคแน่ๆ น่าเสียดายที่คุณไม่ชอบ”

 

 

โม่ถิงไม่พูดอะไรพลางกุมมือของถังหนิงแน่นขึ้น

 

 

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆ นะคะ เป็นความผิดของฉันเองที่บังคับให้คุณทำอะไรที่คุณไม่อยากทำ”

 

 

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ เอาอย่างนี้ไหม ผมสัญญาว่าถ้าเราหาพระเอกไม่ได้จริงๆ ผมจะเป็นตัวสำรองให้”

 

 

“คุณจะเอาตัวเองมาเป็นตัวสำรองได้ยังไง…” ถังหนิงปฏิเสธ

 

 

“แต่ผมแสดงไม่ได้จริงๆ …”

 

 

ถังหนิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันคิดว่าในที่สุดก็มีสิ่งที่ท่านประธานโม่ทำไม่ได้แล้ว…”

 

 

แต่ลึกๆ แล้ว… เธอไม่เชื่อเขาเลยสักนิด!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset