วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 774 ถ้าพวกมันคิดจะเก็บเด็กไว้ละก็ ฝันไปเถอะ!

ตอนนั้นเอง ไป๋หลินหลินเดินทอดน่องออกจากห้องนอนและพูดกับไป๋อวี๋ “พี่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ”

 

 

“หุบปากไปเลย! แกไม่มีสิทธิ์มาพูดอะไรทั้งนั้น” ไป๋อวี๋ตวาด

 

 

“เจฟอยากจะเป็นพ่อคนมาตั้งนานแล้ว แต่พี่กลับไม่เคยมีลูกให้เขาเพราะเห็นแก่อาชีพของตัวเอง แต่ยังไงตอนนี้มันก็ไม่สำคัญแล้วเพราะเขามีฉัน พี่ก็ไปทำอาชีพของพี่ส่วนฉันจะดูแลเขาเอง” ไป๋หลินหลินกล่าวพลางเอนตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเจฟและแสดงให้เห็นถึงความอาจหาญของเธอ

 

 

ไป๋อวี๋จ้องมองไป๋หลินหลินอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เธอจะตะโกนออกมาผ่านฟันที่ขบแน่น “นังโสเภณี!”

 

 

“เซ็นใบหย่าซะ!” เจฟยื่นใบหย่าใส่หน้าไป๋อวี๋อีกครั้งและบังคับมือของเธอไปยังจุดที่จำเป็นต้องเซ็น

 

 

“ไสหัวไปเลยไอ้พวกสำส่อน พวกแกสองคนมันหมาสกปรก พวกแกมันไม่ใช่คน!” ไป๋อวี๋กรีดร้องเสียงดังลั่นพลางฉีกใบหย่าออกเป็นชิ้นๆ และปาปากกาในมือทิ้ง

 

 

“ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องเซ็นอยู่ดีนั่นแหละ” เจฟมองหน้าไป๋อวี๋อย่างใจเย็นก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนพร้อมไป๋หลินหลินในอ้อมแขนต่อหน้าต่อตาไป๋อวี๋

 

 

ไป๋อวี๋ขว้างปาสิ่งของใส่ประตูอย่างเกรี้ยวกราด ความเกลียดชังในใจเธอมันพุ่งทะลุขีดจำกัดไปแล้ว

 

 

เธอไม่เคยจินตนาการเลยว่าเรื่องราวในละครน้ำเน่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอ เมื่อเป็นเรื่องของคนอื่น ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะมองมันเป็นเรื่องตลก แต่พอเกิดขึ้นกับตัวเอง เธอกลับอยากจะฆ่าคนสองคนที่อยู่ในห้องนอนนั้นให้ตายจนใจจะขาด

 

 

พวกชั้นต่ำ!

 

 

ถ้าพวกมันคิดจะเก็บเด็กไว้ละก็ ฝันไปเถอะ!

 

 

เธอรู้จักไป๋หลินหลินดีกว่าใครทั้งนั้น เด็กนั่นยังเด็ก ทำตัวเหลวไหลและชอบเรียกร้องความสนใจ ดังนั้นการทำให้ไป๋หลินหลินแท้งจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เมื่อคิดเช่นนั้น ไป๋อวี๋หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและโทรหาคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง

 

 

 

 

ไม่นานนัก ไป๋หลินหลินก็ได้รับโทรศัพท์เชิญให้ไปร่วมการออดิชั่น

 

 

การออดิชั่น!

 

 

ไป๋หลินหลินไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครยังจำเธอได้อีก

 

 

ดังนั้นเธอจึงบอกกับเจฟด้วยน้ำเสียงมีความสุข “ที่รัก ฉันจะไปร่วมงานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้เพราะผู้กำกับเชิญฉันไปแสดงในหนังของเขา”

 

 

ทันทีที่เจฟได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบดุอีกฝ่ายทันที “เธอกำลังท้องอยู่นะ เธอจะไปถ่ายหนังอะไรได้ยังไง”

 

 

“ถังหนิงเองก็แสดงละครตอนท้องเหมือนกัน แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะดูแลลูกของเราอย่างดีเลย ให้ฉันไปเจอผู้กำกับเถอะนะ ถึงมันจะเป็นแค่การพบกันแบบสั้นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฝันของฉันเป็นจริง” ไป๋หลินหลินพนมมืออ้อนวอนอย่างจริงใจ “ฉันสัญญา ฉันจะไม่รับงานนี้ ฉันแค่จะไปงานเลี้ยงเท่านั้น แค่ได้รู้ว่ายังมีใครจำได้ก็พอแล้ว”

 

 

“หลังจากเราย้ายไปอเมริกาแล้ว สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคือคลอดลูกเท่านั้น หลังจากนั้นฉันจะหาอะไรให้เธอแสดงแล้วทำให้เธอดังเอง ทำไมเธอต้องมาใจร้อนตอนนี้ด้วย”

 

 

ถึงเจฟจะชอบร่างกายอันอ่อนเยาว์ของไป๋หลินหลิน แต่บ่อยครั้งที่ความคิดของเธอทำให้เจฟต้องทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด

 

 

“ที่รัก… ให้ฉันไปเถอะนะ…”

 

 

“ตามใจ” เจฟถอดใจพลางเปิดประตูออกไปจากห้อง แต่กระนั้นไป๋หลินหลินไม่รู้เลยว่าเธอได้ตกหลุมพรางของไป๋อวี๋เข้าให้แล้ว

 

 

ดังนั้นบ่ายวันต่อมา ขณะที่ไป๋หลินหลินกำลังจะเดินทางออกจากบ้าน เธอจงใจพูดโอ้อวดต่อหน้าไป๋อวี๋ “ตอนนี้ฉันว่าคงไม่มีใครอยากทำงานกับพี่สาวของฉันหรอกจริงไหม เพราะภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบมันถูกทำลายไปแล้วนี่นา

 

 

“แต่ฉันจะทำยังไงดีล่ะพี่ ผู้กำกับฉินเชิญฉันไปออดิชั่นด้วยล่ะ ถึงจะเป็นแค่บทเล็กๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีโอกาสห้าสิบห้าสิบในขณะที่พี่ไม่มีเลยนี่นะ” ไป๋หลินหลินเดินวนไปมาต่อหน้าไป๋อวี๋ขณะที่เธอมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “โทษทีนะพี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแยกทุกอย่างมาจากพี่ แต่ฉันชอบพี่เขยมากเลย ฉันว่าพี่ควรจะปล่อยวางซะนะ

 

 

“ไม่งั้น… พี่จะต้องน่าสมเพชมากกว่าตอนนี้อีก ฉันรับประกันได้เลย”

 

 

พูดจบ ไป๋หลินหลินก็เดินทางออกจากบ้านไป ขณะเดียวกันสายตาของไป๋อวี๋มองตามไป๋หลินหลินไปอย่างมีนัย…

 

 

เจฟไม่มีวันหยุดไป๋หลินหลินได้ เพราะถ้าเขาทำเช่นนั้น ทั้งสองจะต้องทะเลาะกัน นี่คือสิ่งหนึ่งที่เขาไม่มีวันเข้าใจผู้หญิง แม้ไป๋หลินหลินจะกำลังตั้งท้อง เธอก็ยังอยากจะไปร่วมงานเลี้ยง

 

 

ผู้กำกับฉินชื่นชมไป๋อวี๋ ดังนั้นเขาจึงทำสิ่งนี้เพื่อเธอและเชิญไป๋หลินหลิน ซึ่งในงานนอกจากเขาแล้วยังมีทีมงานอีกจำนวนหนึ่งด้วย

 

 

ไป๋หลินหลินรู้สึกราวกับตัวเองมีคุณค่าและคิดจริงๆ ว่ามีคนบางคนต้องการเธอไปถ่ายทำในหนังของพวกเขา ดังนั้นต่อให้พวกเขาบังคับให้เธอดื่ม เธอก็รับทุกแก้วที่ยื่นให้เธอ นั่นเป็นเพราะเธอไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องที่เธอกำลังตั้งท้อง หากพวกเขารู้ ไม่เพียงแต่เธอจะเสียโอกาสในการออดิชั่น แต่พวกเขาจะหันหลังให้และเขี่ยเธอทิ้งในทันที

 

 

ด้วยเหตุนี้ ในคืนนี้ไป๋หลินหลินจึงดึ่มเหล้าไปจำนสนมากและกลับถึงบ้านพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นคลุ้ง

 

 

เจฟเดือดดาลขึ้นมาในทันทีขณะที่เขาคว้าข้อมือของไป๋หลินหลินและถาม “เธอไปกินเหล้ามางั้นเหรอ”

 

 

“ฉันดื่มไปนิดเดียวเอง…” ไป๋หลินหลินพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงรำคาญ แต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เจฟก็ตบเข้าที่ใบหน้าของเธอ

 

 

“ให้ตายสิยัยบ้าเอ๊ย เธอท้องแล้วยังไปกินเหล้าอีกเนี่ยนะ คิดไม่เป็นหรือยังไง”

 

 

“ฉันกินเหล้าแล้วมันยังไง เด็กก็ยังปลอดภัยดีไม่ใช่เหรอ”

 

 

เจฟหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขาพลันตระหนักได้ว่าทั้งสองพี่น้องไป๋ไม่ว่าจะเป็นคนพี่หรือคนน้องก็ล้วนแต่ไม่ธรรมดาทั้งนั้น

 

 

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่สนใจไป๋หลินหลิน แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไป๋หลินหลินพลันกุมที่ท้องของเธอและเริ่มร้องออกมา “เจฟ เจฟ… ฉันเจ็บท้อง…”

 

 

เจฟก้มลงมองไป๋หลินหลินและตระหนักได้ว่าเธอกำลังนั่งอยู่กลางกองเลือด

 

 

จากที่เห็น เด็กได้จากไปแล้ว

 

 

เด็กน้อยยังไม่ทันได้เติบโตเป็นรูปร่างแล้วยัยสารเลวนี่กลับออกไปดื่ม…

 

 

เธอสมควรได้รับความเจ็บปวดนี้แล้วไม่ใช่หรือ

 

 

“เจฟ ช่วยฉันด้วย… ฉันเจ็บ”

 

 

กระนั้นเจฟกลับไม่ทำอะไรพลางปัดมือไปมาพร้อมกล่าว “ช่วยเธองั้นเหรอ เธอจะไปโทษใครได้ที่ดันออกไปดื่มทั้งที่ตัวเองกำลังท้องอยู่ล่ะ นังสารเลวเอ๊ย เธอมันก็เหมือนกับพี่สาวของเธอ พวกเธอมันอีตัว ในเมื่อไม่ฟังที่ฉันพูด ฉันก็จะไม่ช่วยอะไรเธอทั้งนั้น ดูแลตัวเองไปก็แล้วกัน!”

 

 

หลังพูดจบเจฟเดินออกจากห้อง ปล่อยให้ไป๋หลินหลินนั่งกองอยู่กับพื้นและร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

 

 

จากนั้นไป๋อวี๋ปรากฏตัวที่ประตูทางเข้า ทันทีที่ไป๋อวี๋เห็นฉากตรงหน้า รอยยิ้มก็เผยขึ้นบนใบหน้าของเธอ

 

 

“พี่… ช่วยด้วย ช่วยฉันที”

 

 

“แน่นอน ฉันจะช่วยเธอ แต่ก่อนเธอฉันต้องการให้เธอได้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดนี้เสียก่อน…” ไป๋อวี๋ยืนกอดอกเงียบอยู่ที่ประตูทางเข้าจนกระทั่งไป๋หลินหลินหมดสติไปเพราะความเจ็บปวด เมื่อนั้นเธอจึงโทรเรียกรถพยาบาล

 

 

หลังจากนั้น ไป๋หลินหลินถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล แน่นอนว่าไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอกลับดึงดูดนักข่าวจำนวนมหาศาล

 

 

คราวนี้ไป๋อวี๋ไม่เลี่ยงที่จะตอบคำถามอีกแล้ว เธอเลือกที่จะตอบนักข่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

 

เธอไม่เก็บทุกอย่างมาคิดและก้าวย่างอย่างระวังเหมือนดั่งในอดีต คราวนี้เธอตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset