วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 913 ไม่ได้ตบเฉยๆ

ครั้งนี้ซย่าหันโม่คงนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำให้หลินเฉี่ยนบาดเจ็บถึงขนาดนี้

 

 

ไม่ว่าพวกเธอจะมีเรื่องบาดหมางกันแค่ไหน เธอก็ไม่ควรทำเมินเฉยใส่หลินเฉี่ยน ยิ่งหลินเฉี่ยนต้องมาบาดเจ็บเพราะเธออย่างนี้

 

 

ระหว่างทางมาที่พิพิธภัณฑ์ คิ้วของหลี่จิ่นขมวดมุ่น เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้กำลังอารมณ์เดือดดาลอยู่… เพราะสำหรับเขาไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปมากกว่าหลินเฉี่ยน เธอเป็นเหมือนอัญมณีล้ำค่าของเขา แต่คนที่มีค่าสำหรับเขาต้องถูกซย่าหันโม่ปฏิบัติเช่นนี้ใส่…

 

 

ที่แย่ที่สุดคือเขาไม่อาจพาเธอไปโรงพยาบาลเพราะรู้ว่าหากไม่ยอมให้เธอได้พูดสิ่งที่ต้องการ… เธอคงจะเสียใจไปตลอดชีวิต

 

 

ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะมาถึงพิพิธภัณฑ์ หลี่จิ่นจึงใช้ยาที่เก็บเอาไว้ในรถช่วยทำแผลให้เธอก่อนที่จะประคองเธอไปทางทีมงาน

 

 

เธอมาถึงในขณะที่แขกรับเชิญกำลังพักผ่อนอยู่ เมื่อเห็นหลินเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บ พวกเขารีบกรูกันเข้ามาหาเธอ แน่นอนว่ารวมถึงซย่าหันโม่ด้วย

 

 

“หลินเฉี่ยน เกิดอะไรขึ้นกับคุณน่ะ”

 

 

“หลินเฉี่ยน”

 

 

หลินเฉี่ยนมองไปที่ทุกคนก่อนเลื่อนสายตาไปหาซย่าหันโม่ “คุณคิดจะโทรหาฉันตอนที่ตัดสินใจย้ายสถานที่ถ่ายทำบ้างไหมคะ คนอื่นฉันอาจจะไม่สนใจ แต่ฉันเป็นผู้จัดการของคุณนะ ไม่กังวลที่ไม่เห็นฉันบ้างเลยเหรอคะ”

 

 

“ฉันคิดว่าคุณมีบางอย่างต้องไปจัดการค่ะ ฉันเลยออกมาก่อน…”

 

 

“ฉันไม่ได้คิดจะออกมาโดยไม่บอกคุณเลยนะ ใช่ไหม คุณซย่า”

 

 

ซย่าหันโม่พลันหันไปอีกทาง

 

 

เมื่อเห็นดังนั้น หลินเฉี่ยนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะออกมา

 

 

“ซย่าหันโม่ ฉันไม่เคยทำอะไรผิดกับคุณเลยนะ ฉันมีเรื่องต้องพูดกับคุณเป็นการส่วนตัว ทุกคนช่วยหลีกไปและให้พื้นที่เราหน่อยได้ไหมคะ ตอนนี้ฉันบาดเจ็บอยู่ ขยับไปไหนไม่ได้ค่ะ” หลินเฉี่ยนมองทุกคนด้วยความกรุ่นโกรธและเกลียดชัง ทำให้พวกเขาถอยออกไปอย่างไม่รู้ตัว

 

 

เธอจ้องมองซย่าหันโม่และว่าสวนขึ้น “พักหลังมานี้เรามีปัญหากันไม่ใช่เหรอคะ คุณเคยสงสัยไหมว่าฉันได้ยินอะไรที่ลานจอดรถ ฉันได้ยินโจวชิงคุยกับเพื่อนของเขา ที่ลูกชายของผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ต้องสูญเสียแขนไปก็เป็นความคิดของเขา…

 

 

“ฉันถึงไม่อยากให้พวกคุณสนิทสนมกันไงคะ

 

 

“เพราะผู้ชายคนนั้น คุณก็ลืมสิ่งที่เราฝ่าฟันมาด้วยกัน คุณคิดว่าฉันจะมีเจตนาซ่อนเร้นอะไรในตัวคุณงั้นเหรอคะ

 

 

“เมื่อกี้นี้มีคนบอกว่าคุณหายตัวไปและบอกให้ฉันไปตามหาคุณ รู้ตัวอีกทีก็มีคนมาช่วยฉันแถวๆ กรงหมาแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังโดนฝูงหมาขย้ำเป็นชิ้นๆ คุณทำอะไรอยู่คะ ต่อให้คุณไม่ตามหาฉัน อย่างน้อยคุณก็น่าจะโทรหาฉันบ้างสิ…

 

 

“ในฐานะผู้จัดการของคุณ ฉันได้ทำสิ่งที่ควรทำไปหมดแล้วค่ะ…

 

 

“ซย่าหันโม่พรุ่งนี้คุณเตรียมหาผู้จัดการคนใหม่ได้เลย ถึงยังไงคุณก็ตั้งใจจะทำอย่างนั้นแต่แรกอยู่แล้วนี่คะ”

 

 

พูดจบหลินเฉี่ยนก็หันหลังเดินจากไป ทว่าอยู่ๆ ซย่าหันโม่ก็เอ่ยขึ้น “พี่โจวบอกสิ่งที่คุณพูดกับฉันในวันนี้แล้วล่ะค่ะ หลินเฉี่ยน เป็นเพราะคุณคอยบงการฉันไม่ได้เลยต้องทำเรื่องน่าสมเพชแบบนี้ใช่ไหม

 

 

“คุณคือคนที่เปิดเผยเรื่องของฉันกับพี่โจวไม่ใช่เหรอคะ

 

 

“ถ้าคุณอยากจะไปก็ไปเลยค่ะ ฉันเตรียมคนมาแทนที่คุณแล้ว…ฉันจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้กับพี่หนิงเอง”

 

 

ทันทีที่รับรู้สิ่งที่หลินเฉี่ยนพูด กลายเป็นว่าพวกเธอได้แตกหักกันไปเสียแล้ว

 

 

ก่อนที่หลินเฉี่ยนจะหันจากไป ซย่าหันโม่ว่าสำทับ “อย่างที่พี่โจวว่าไว้จริงๆ คุณเป็นแค่ผู้จัดการหน้าใหม่และฉันเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง คุณคิดว่าพี่หนิงจะเลือกใครล่ะคะ”

 

 

ในจังหวะที่หลินเฉี่ยนชะงักฝีเท้าและกำลังจะหันกลับไป เสียงกังวานดังก้องขึ้นเบื้องหลังพวกเขา “ฉันจะบอกให้เองว่าฉันจะเลือกใคร”

 

 

“ถังหนิงนี่นา…”

 

 

“ทำไมถังหนิงถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

 

 

“ถังหนิง…”

 

 

ทุกคนต่างอึ้งไปกับการปรากฏตัวของถังหนิงและโม่ถิง ไม่นานถังหนิงก็มายืนต่อหน้าหญิงสาวทั้งสองคน

 

 

ซย่าหันโม่มองถังหนิงก่อนปรายตามองหลินเฉี่ยน คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

 

 

หากแต่ในตอนที่ซย่าหันโม่กำลังลอยหน้าลอยตาอย่างสบายใจ ถังหนิงก็ตบหน้าเธอเข้าฉาดใหญ่

 

 

เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังก้องไปทั่ว…

 

 

“ฉันทนกับคนที่ไม่รู้คุณคนไม่ได้ เห็นกันอยู่ว่าตอนนี้เราไม่ใช่พวกเดียวกันแล้ว ดังนั้น ซย่าหันโม่ จำเอาไว้ว่าฉันไม่ได้ตบเธอเฉยๆ หรอกนะ”

 

 

สิ้นประโยค ถังหนิงช่วยหลี่จิ่นประคองหลินเฉี่ยนเดินออกไป “ไปกันเถอะ…”

 

 

ซย่าหันโม่ถึงกับตกตะลึง ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เธอนึกว่าถังหนิงจะเลือกเธอเสียอีก…

 

 

“ถังหนิง… ทำไมล่ะ ฉันเป็นคนดังนะคะ…”

 

 

“ฉันทำให้เธอมีชื่อเสียงได้ฉันก็ลากเธอลงนรกได้เหมือนกัน! เธอทอดทิ้งคนที่คอยปกป้องเธอเพื่อผู้ชายคนเดียวที่เธอไม่ได้รู้จักเขาดีด้วยซ้ำ ซย่าหันโม่ เธอไม่คู่ควรกับความทุ่มเทของเราอีกต่อไปแล้ว ฉันจะส่งเอกสารยกเลิกสัญญาไปให้พรุ่งนี้ และพี่ชายของเธอที่ฉันดูแลอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของฉันอีกแล้ว”

 

 

พูดจบถังหนิงก็พาหลินเฉี่ยนออกไป อย่างไรก็ตามโจวชิงที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ก้าวออกมาช่วยแฟนสาวของเขา “ถังหนิง ผมว่าเราอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับ”

 

 

ถังหนิงหันไปเหยียดยิ้มใส่เขา “โจวชิง ดูทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณสิคะ ทั้งเจ้าของไห่รุ่ย นายใหญ่ของจู้ซิงมีเดีย และนายพลจากกองทัพอากาศ… แต่คุณกลับเลือกพนันข้างซย่าหันโม่ การตัดสินใจของคุณนี่ช่างโง่เง่าสิ้นดี”

 

 

“ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไร ทำไมคุณถึงทิ้งศิลปินของตัวเองล่ะ หันโม่ทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอครับ”

 

 

“เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอแต่เป็นคนอกตัญญูค่ะ” ถังหนิงยืนกราน “จู้ซิงมีเดียไม่สนับสนุนคนทรยศค่ะ”

 

 

สิ้นคำ ถังหนิงหันกลับไป “หลินเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ ดังนั้นฉันจะไม่มายืนต่อปากต่อคำกับคุณหรอกนะคะ ครั้งหน้าที่เราเจอกัน ก็มาดูว่าใครที่จะได้แต้มต่อกว่าแล้วกันค่ะ โจวชิง ถ้าฉันไม่ทำลายคุณก็อย่ามาเรียกนามสกุลฉันว่าถังเลย!”

 

 

หลังจากนั้นถังหนิงและคนอื่นๆ ออกไปจากสถานที่ถ่ายทำ ทิ้งทุกคนให้อยู่เบื้องหลังด้วยสีหน้าว่างเปล่า

 

 

ซย่าหันโม่ลุกขึ้นมาได้อีกครั้งเพราะถังหนิง หากแต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอได้มาแตกหักกันต่อหน้าพวกเขาทุกคน และชนวนเหตุของความบาดหมางก็คือผู้จัดการของซย่าหันโม่ หลินเฉี่ยน!

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่น่างุนงงที่สุดคือการที่ทำไมถังหนิงจึงพลอยเกลียดชังโจวชิงไปด้วย

 

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย”

 

 

“จู้ซิงมีเดียทิ้งซย่าหันโม่แล้วเหรอ แล้วการถ่ายทำจะไปต่อยังไงล่ะ”

 

 

“ใครจะไปรู้ล่ะ”

 

 

เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน ซย่าหันโม่ไม่ได้มีท่าทีตอบโต้แต่อย่างใด พูดกันตามจริงเธอนึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะตอกกลับรุนแรงถึงเพียงนี้

 

 

โจวชิงคาดเดาเรื่องถังหนิงผิดไปถนัด เพราะถังหนิงไม่ใช่คนที่จะสนใจแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง

 

 

“หันโม่ เธอโอเคหรือเปล่า” โจวชิงเห็นว่าเธอไม่มีทีท่าอะไร เขาจึงรีบวิ่งไปประคองเธอไว้

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ปริปากออกมาสักคำ เธอคิดว่าท่าทางเอาจริงเอาจังของถังหนิงเป็นเรื่องล้อเล่น…

 

 

หากหลินเฉี่ยนไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเธอทำอะไรผิดไปล่ะ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset