วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1060 ประธานโม่เข้มงวดเหลือเกิน

หลังการประชุมจบลง คู่รักตรงเข้าไปในห้องทำงานของโม่ถิง ทันทีที่บานประตูปิดลง ถังหนิงเข้าไปกอดโม่ถิงจากด้านหลัง  

 

 

“อะไรกันครับ” โม่ถิงอยากจะหันกลับไปแต่ถังหนิงรั้งให้เขาอยู่นิ่งๆ  

 

 

“อย่าขยับสิคะ ท่าทางของคุณก่อนหน้านี้มันมีเสน่ห์มากเลยล่ะค่ะ ทำเอาใจฉันสั่นมากจนอยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆ เลยค่ะ”  

 

 

ถังหนิงไม่ค่อยได้พูดคำพูดเช่นนี้บ่อยนัก แต่เมื่อเธอเอ่ยมันออกมามันกลับน่าตราตรึงใจที่สุด โม่ถิงเคยสัมผัสสิ่งเหล่านี้มาเมื่อนานมาแล้ว แม้ทั้งคู่จะเป็นพ่อแม่ลูกสามแล้วหากแต่ก็ยังคงยุ่งกับการทำงานของตัวเอง ดังนั้นนอกจากการให้กำลังใจกันในทุกๆ วัน ก็นับว่านานแล้วที่พวกเขาไม่ได้โอบกอดกันอย่างรักใคร่ขนาดนี้  

 

 

“หือ”  

 

 

“ฉันชอบตอนที่คุณเข้มงวดกับฉัน ชอบเวลาที่คุณออกคำสั่งฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยแล้วก็รู้ว่าต้องไปทางไหนค่ะ” ถังหนิงอธิบายเสียงแผ่วเบา “ถิงคะ ตลอดไม่กี่ปีมานี้ฉันมีชีวิตที่มีความสุขจริงๆ นะคะ”  

 

 

“ผมก็เหมือนกันครับ” โม่ถิงตอบก่อนหันกลับไปล็อกประตูและอุ้มถังหนิงไว้ในอ้อมแขน  

 

 

“ถิง คุณจะทำอะไรน่ะคะ” ถังหนิงตกใจกับการกระทำของโม่ถิงเมื่อเขาวางเธอลงบนโซฟา  

 

 

“คุณคิดว่าอะไรล่ะ ที่นี่ยังไม่มีร่องรอยของคุณเลยนะ” โม่ถิงเอ่ยก่อนจะโน้มตัวมาประกบจูบบนริมฝีปากของเธอ  

 

 

หลังจากยั่วเย้าคนรักของเธอถึงขนาดนั้น เธอไม่ได้กำลังบอกใบ้บางอย่างอยู่หรือ  

 

 

ในเมื่อถังหนิงรุกขนาดนี้ ประธานโม่จะปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดรอดไปได้อย่างไรกัน  

 

 

“ที่เขาบอกว่าผู้ชายชอบฉวยโอกาสน่าจะจริงนะคะเนี่ย”  

 

 

“เป็นเพราะผมรักคุณจนกลายเป็นหมาป่าได้ทุกเมื่อต่างหากล่ะครับ!”  

 

 

ถึงประตูห้องทำงานจะถูกล็อกแล้วและไม่ต้องกังวลว่าใครจะเข้ามาได้… แต่ห้องทำงานของเขาก็ไม่ได้มิดชิดเสียทีเดียว ยังมีส่วนที่เห็นได้จากด้านนอกอยู่ ถังหนิงจึงนึกอายขึ้นมา เธอถึงกับมุดศีรษะของตัวเองเข้าในอ้อมแขนของเขา  

 

 

ด้วยเหตุนี้โม่ถิงจึงอดไม่ได้ที่จะขำออกมา “คุณคิดว่าคนจะไม่รู้ว่าคุณอยู่ในห้องของผมถ้าหลบหัวลงไปเหรอครับ”  

 

 

“พาฉันกลับบ้านทีค่ะ อีกเดี๋ยวเหยียนเอ๋อร์น่าจะตื่นแล้วนะคะ!” ใบหน้าของถังหนิงขึ้นสีแดงระเรื่อ  

 

 

โม่ถิงลุกขึ้นและช่วยเธอจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นจึงพาเธอลงไปทางลิฟต์ส่วนตัวของเขา แต่ก่อนที่เธอจะจากไปเขาได้เอ่ยเตือนข้างหูเธอ “อย่าลืมไปเลือกชุดกับหลงเจี่ยนะครับ คุณไม่ได้ออกงานจริงๆ จังๆ มานานแล้ว เสื้อผ้าที่คุณมีอยู่ที่บ้านมันเก่าหมดแล้วล่ะครับ ซื้อใหม่สักชุดสิครับ”  

 

 

“โอเคค่ะ” ถังหนิงพยักหน้ารับ  

 

 

ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปีและตอนนี้เธอจะทำอะไร ต่อหน้าโม่ถิงแล้วเธอยังคงเป็นเช่นเดิมอย่างครั้งที่แต่งงานกันและอยู่ด้วยกันครั้งแรก เธอมักจะซบลงในอ้อมแขนของเขาอย่างเขินอาย นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป…  

 

 

หลังจากกลับมาถึงบ้าน ถังหนิงทำอย่างที่เขาบอกและเรียกหลงเจี่ยมาเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ทั้งหมดของเธอไปทำความสะอาด  

 

 

ระหว่างนั้นเองที่หลังเจี่ยพลันนึกบางอย่างขึ้นได้ “หลังจากสืบเรื่องสมาคนแฟนๆ อย่างละเอียดแล้ว หัวหน้าสมาคมบอกฉันว่าเธอคิดว่ามีความคิดว่าจะดูว่ามีใครผิดปกติไปบ้างน่ะค่ะ”  

 

 

“ในเมื่อเรารู้แล้วว่าหันซิวเช่อเป็นคนร้ายก็ไม่จำเป็นต้องรีบตามหาหนอนบ่อนไส้ในสมาคนแฟนๆ หรอก ค่อยๆ ก็ได้”  

 

 

“แต่ว่าพี่ชายของหันซิวเช่อกำลังจะเข้าร่วมงานเทศกาลหนังปักกิ่งเหมือนกันนะคะ ถ้าเราเจอหน้าเขาเราน่าจะออกปากเตือนเขาไว้บ้างนะคะ!” หลงเจี่ยเอ่ย “ตอนนี้คุณกลับมาทั้งที เราก็ต้องจัดการให้คุณกลับมาอย่างยิ่งใหญ่สิคะ”  

 

 

…  

 

 

ในขณะเดียวกันพี่ชายของหันซิวเช่อ หันเจี๋ย กำลังเตรียมเสื้อผ้าสำหรับงานนี้เช่นกัน แต่เมื่อเห็นน้องชายของตัวเองยังคงดื้อดึง เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “นายยังพยายามจะเล่นงานถังหนิงอีกเหรอ”  

 

 

“พี่ครับ ผมเองก็อยากไปงานเทศกาลหนังเหมือนกันนี่”  

 

 

“ตอนนี้สถานะของนายมันลำบากไม่น้อยเลยนะ ทำไมถึงอยากไปอีกล่ะ อยากจะถูกถังหนิงจับได้แล้วถูกบังคับให้คุกเข่าต่อหน้าเธอหรือยังไง” หันเจี๋ยถามขณะที่ปรายตามองน้องชายตัวเอง  

 

 

“ผมจะไม่โผล่หน้าไปให้คนอื่นเห็นหรอกครับ แค่จะไปเดินรอบๆ งานเท่านั้นแหละ อย่างที่พี่รู้นั้นแหละว่าผมไม่ได้ออกไปข้างนอกมานานแล้ว”  

 

 

“นายรนหาที่เองไม่ใช่เหรอ” หันเจี๋ยสวนเข้าให้ สุดท้ายเขาก็อดที่จะบ่นหันซิวเช่อออกมาไม่ได้ “นายจะมาขับรถให้ฉันก็ได้ แต่ห้ามให้ใครเห็นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเราได้เป็นตัวตลกในสายตาทุกคนอีกแน่!”  

 

 

“โอเคครับ” หันซิวเช่อพยักหน้ารับ  

 

 

“อีกอย่างนายก็เห็นตัวอย่างหนังใหม่ของถังหนิงแล้วใช่ไหม”  

 

 

“ครับ เห็นแล้ว” หันซิวเช่อตอบ “แต่จากฝีมือของบุคลากรในจีน ไม่มีทางที่จะทำได้ถึงมาตรฐานอย่างในตัวอย่างหนังของเธอหรอก เธอต้องจ้างคนจากฮอลลีวูดมาแน่ๆ เธอหลอกคนอื่นได้แต่หลอกผมไม่ได้หรอก!”  

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น หันเจี๋ยถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย เขาจึงพยายามยืนกรานในสิ่งที่ได้ยินมา “นายจะบอกว่าถังหนิงได้รับความช่วยเหลือจากวงการฮอลลีวูด แต่เธอก็ยืนยันว่าเทคนิคพิเศษทั้งหมดถูกสร้างโดยทีมงานจากจีนนะ”  

 

 

“พี่ไม่เชื่อผมเหรอ”  

 

 

หันเจี๋ยหยิบเนกไทมาสวมขณะที่บอกกลับ “บางทีนายอาจจะพูดถูกก็ได้!”  

 

 

หากเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็สามารถเปิดเผยข้อมูลนี้กับผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่กำลังจะออกฉายแล้วปั่นหัวพวกเขาได้  

 

 

“ฉันจะหาทางขุดคุ้ยเรื่องนี้เอง ในระหว่างนี้นายต้องรับปากว่าจะไม่มีใครที่งานเทศกาลหนังจำนายได้”  

 

 

“ผมขอสาบานเลย!” หันซิวเช่อเอ่ยพลางยกมือขึ้นมา  

 

 

หันเจี๋ยไม่อาจปฏิเสธน้องชายตัวเองได้ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้าตอบตกลง  

 

 

อย่างไรก็ตามพี่น้องแสนร้ายกาจนี้จะสร้างเรื่องที่น่าระทึกใจอะไรให้กับถังหนิงที่งานเทศกาลภาพยนตร์กัน  

 

 

ในขณะเดียวกันทีมงานฝ่ายตัดต่อของถังหนิงไม่รู้ว่าผลงานของตัวเองนั้นถูกกังขาและสงสัยว่าได้รับการช่วยเหลือจากวงการฮอลลีวูด พวกมันถือเป็นคำชมหรือคำต่อว่ากันล่ะ  

 

 

…  

 

 

ก่อนที่เทศกาลภาพยนตร์จะเริ่มขึ้น ไห่รุ่ยเร่งมือกับตัวอย่างที่สองของ  มดราชินี  

 

 

เทียบกับตัวอย่างภาพยนตร์ครั้งก่อน ตัวอย่างชิ้นนี้มีฉากที่น่าระทึกใจขึ้นมาก ครั้งนี้โม่ถิงตั้งใจว่าจะช่วยให้ถังหนิงเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จักด้วยการร่วมมือกับการโฆษณาที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้คนทั่วไปได้เห็นตัวอย่างหนังด้วยไม่ใช่เพียงแค่คอภาพยนตร์  

 

 

ด้วยการมาถึงของ มดราชินี  ถังหนิงตกเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง แม้ว่าตลอดช่วงที่เธอหายหน้าไปจะมีศิลปินหน้าใหม่มากมายปรากฏตัวขึ้น ทว่าเธอก็ไม่เคยถูกลืมไปจริงๆ แต่อย่างใด วงการบันเทิงนั้นเปิดกว้างอยู่เสมอ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะกลายเป็นคนที่สองที่จะทำได้อย่างถังหนิง  

 

 

“ฉันช่วยคุณเตรียมชุดสำหรับงานเทศกาลหนังเอาไว้แล้ว คุณชอบไหมคะ” หลงเจี่ยตั้งใจเตรียมชุดที่ส่งตรงมาจากฝรั่งเศส เธอคิดว่าอย่างน้อยถังหนิงน่าจะหันมามองสักครั้งหนึ่ง แต่เธอกลับไม่ได้สนใจการเดินพรมแดงแม้แต่น้อย  

 

 

“วางเอาไว้เลย เดี๋ยวฉันค่อยลอง”  

 

 

“งานเทศกาลหนังมีวันพรุ่งนี้แล้ว รีบลองก่อนเถอะค่ะจะได้แก้ทันถ้ามีตรงไหนไม่พอดี  

 

 

“การปรากฏตัวของคุณจะต้องเป็นเรื่องใหญ่โตแน่เลยค่ะ…” หลงเจี่ยลากถังหนิงเข้ามาในห้องแต่งตัว กระนั้นเธอก็คงนึกไม่ถึงว่าชุดที่เธอสั่งมาไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก  

 

 

แน่นอนว่าอะไรคือสิ่งที่น่าอึดอัดใจที่สุดในหมู่คนดัง แต่งตัวชนกันอย่างไรล่ะ…  

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset