วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 696 เธอเองก็อยากเห็นโชคชะตาของซ่งซินเช่นกัน!

ฟังอวี้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาจำเป็นต้องรู้ความจริง ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรหาถังหนิง ทว่าถังหนิงอยู่ที่ไห่รุ่ยพอดี “ถ้ามีคำถามล่ะก็ มาถามฉันที่ห้องทำงานสิ”

 

 

ฟังอวี้กดวางสายแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของประธานบริษัท ทันทีที่เขาเห็นถังหนิงนั่งอย่างปลอดภัยอยู่บนโซฟาและไม่เห็นสุนัขตัวนั้นอีกแล้ว สายตาของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความสับสน

 

 

“สุนัขตัวนั้นทำร้ายคน เราก็เลยส่งมันไปที่อื่นแล้วน่ะ” ถังหนิงชี้แจงอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ” ฟังอวี้เอ่ยถามโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “อย่างน้อยคุณก็ควรบอกผมหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

 

“นายไม่คิดเหรอว่าภาพนี้มันดูคุ้นๆ” ถังหนิงมองหน้าฟังอวี้อย่างจริงจัง

 

 

ฟังอวี้จ้องหน้าถังหนิงอยู่หลายนาที ความเป็นไปได้ที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้พลันแล่นเข้ามาในหัวของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงเอ่ยถามว่า “นี่มันไม่เกี่ยวกับฮั่วจิงจิงใช่ไหมครับ”

 

 

“นี่คือสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นติดค้างจิงจิง ขาและอาชีพของเธอ แม้ว่าเธอจะเทียบเคียงกับจิงจิงไม่ได้ แต่มันคือการชดใช้ของเธอสำหรับตอนนี้” ถังหนิงกล่าวนิ่งๆ ทว่าฟังอวี้ไม่เข้าใจความเย็นชาในดวงตาของเธอเลย “ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมากหรอก ก็แค่อยากจะตาต่อตาฟันต่อฟันกับเธอเท่านั้น แต่เธอยังติดค้างอยู่อีกเรื่องหนึ่ง เร็วๆ นี้ฉันจะส่งมันไปให้เธอในนามของจิงจิงเอง”

 

 

“การบาดเจ็บของจิงจิงไม่ใช่อุบัติเหตุเหรอครับ”

 

 

“แน่นอนว่าไม่ มีคนเห็นกับตาว่าต้วนจิ่งหงอยู่แถวๆ อะพาร์ตเมนต์ของนายในคืนที่ฮั่วจิงจิงได้รับบาดเจ็บ บนโลกใบนี้ ถ้ามีใครทำอะไรลงไป มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย” ถังหนิงตอบก่อนจะมองฟังอวี้ด้วยสีหน้ามืดมน “นายเป็นสามีของฮั่วจิงจิง ถ้านายรู้เรื่องนี้ล่วงหน้า นายคงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ไหนจะเรื่องที่มันเป็นศึกระหว่างผู้หญิงอีก ดังนั้นฉันจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องให้นายเข้ามาพัวพันด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรับมือกับมันโดยไม่ปรึกษานายก่อน โดยเฉพาะตอนที่ฉันเองก็อยากได้รับการชดใช้ด้วยเหมือนกัน”

 

 

ฟังอวี้พลันพูดไม่ออก เขาตกใจกับความจริงเพราะเขารู้สึกว่าหัวใจมนุษย์นั้นช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน

 

 

แน่นอนว่าเขาไม่มีวันสงสารต้วนจิ่งหง ไม่อย่างนั้นแล้วภรรยาผู้บริสุทธิ์ของเขาล่ะ

 

 

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมคือคนสุดท้ายที่รู้…”

 

 

“ไม่หรอก จิงจิงเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”

 

 

ฟังอวี้ไม่พูดอะไรอีก เพราะเขารู้ว่าทุกอย่างที่ถังหนิงทำลงไปนั้นก็เพื่อช่วยให้ฮั่วจิงจิงได้แก้แค้น

 

 

ในตอนท้าย ฟังอวี้จำไม่ได้ว่าเขาออกมาจากห้องทำงานของโม่ถิงตอนไหน อย่างเดียวที่เขาจำได้คือ ก่อนที่เขาจะออกมา โม่ถิงบอกกับเขาว่า “เตรียมโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ด้วย เนื่องจากวันปล่อยฉายถูกเลื่อนออกไป เราจึงจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด”

 

 

จากนั้นฟังอวี้ก็เดินทางไปเยี่ยมต้วนจิ่งหงที่โรงพยาบาลในนามของไห่รุ่ย หลังจากที่คนเยี่ยมไข้คนอื่นๆ อวยพรเธอเสร็จ ฟังอวี้ก็ขออยู่กับต้วนจิ่งหงเพียงลำพังสักพักหนึ่ง

 

 

ต้วนจิ่งหงไม่รู้ว่าฟังอวี้ต้องการคุยเรื่องอะไร บางทีเขาอาจจะแค่อยากบอกให้เธอไม่ฉุดซ่งซินลงไปด้วยหรืออะไรอย่างนั้น ทว่าหญิงสาวต้องประหลาดใจเมื่อฟังอวี้เอ่ยถามว่า “มันเป็นความคิดของคุณหรือซ่งซินครับ”

 

 

ต้วนจิ่งหงตัวแข็งทื่อ เธอไม่แน่ใจนักว่าฟังอวี้พยายามจะถามอะไร

 

 

“ใช้ให้หมาดุตัวหนึ่งมาโจมตีจิงจิง เป็นความคิดของคุณหรือซ่งซิน”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อจิงจิง ต้วนจิ่งหงก็ประสานมือขึ้นด้วยความประหม่าแล้วส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ค่ะ”

 

 

“ผมมั่นใจว่าคุณรู้ว่าตัวเองมาลงเอยแบบนี้ได้ยังไง ผมอยากทราบว่าใครคือคนบงการ ตอบผมสิ”

 

 

ฟังอวี้แสดงตนอย่างชัดเจน ต้วนจิ่งหงลงเอยด้วยสภาพเช่นนี้เพราะมันถูกวางแผนเอาไว้และมันก็ไม่ใช่อุบัติเหตุ

 

 

แต่มันคือการเอาคืน!

 

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ดวงตาต้วนจิ่งหงก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ในเมื่อซ่งซินคิดถึงแต่ตัวเอง งั้นเธอก็จะทิ้งปัญหาเอาไว้ให้ซ่งซินรับมือเพียงลำพัง “ซ่งซินค่ะ”

 

 

“ไม่มีใครเตือนคุณเหรอว่าอย่าไปแหย่ถังหนิง ผมเคยเห็นคนที่มั่นใจจนเกินตัวมามากมาย แต่ชะตาของพวกเขาน่ะ…คุณดูด้วยตัวเองยังได้เลย…” น้ำเสียงฟังอวี้เยือกเย็นดุจน้ำแข็ง “ผมได้ยินมาว่าคุณกับซ่งซินแตกหักกันแล้ว คิดถึงสิ่งที่คุณทำเพื่อเธอแล้วดูวิธีที่เธอปฏิบัติกับคุณเป็นการตอบแทนสิ ผมพูดได้อย่างเดียวเลยว่าหว่านพืชยังไงย่อมได้ยังงั้น!”

 

 

ต้วนจิ่งหงไม่สามารถตอบโต้ได้เลย เพราะถึงอย่างไรทุกอย่างที่ฟังอวี้พูดก็คือความจริง

 

 

ผู้คนบนโลกใบนี้ช่างน่าหวาดกลัว เหมือนกับซ่งซินและถังหนิง

 

 

ซ่งซินไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลในการทำร้ายใครสักคน มันอาจเป็นแค่เพราะเธอไม่ชอบหน้าคนคนนั้น

 

 

ทว่าบนโลกนี้ก็ยังมีคนอย่างถังหนิงที่มักจะให้ผู้คนชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเสมอ เธอไม่เคยเย้าแหย่คนอื่นๆ แต่เธอก็ได้แก้แค้นทุกครั้ง

 

 

เมื่อนำผู้หญิงทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกันแล้ว เธอชอบวิธีการของถังหนิงมากกว่า อย่างน้อย…

 

 

…ถังหนิงก็มีบรรทัดฐานของเธอ

 

 

“ฉันรู้ว่าฮั่วจิงจิงคือภรรยาของคุณ ถ้าคุณอยากจะแก้แค้นละก็ มาทำฉันเลย ฉันรับมือไหว”

 

 

“ไม่จำเป็นครับ คุณเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น อีกอย่างคุณก็ชดใช้มาพอแล้วด้วย” ฟังอวี้พยายามจะพูดว่าคนที่สำคัญที่สุดในเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นซ่งซิน

 

 

ถึงกระนั้น ฟังอวี้ก็ยังทิ้งของของขวัญเล็กๆ เอาไว้ให้ต้วนจิ่งหงขณะที่จากมา

 

 

โรงพยาบาลที่เคยปลอดภัยในตอนแรกนั้นพลันเต็มไปด้วยนักข่าวมากมาย เมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง ศักดิ์ศรีเสี้ยวสุดท้ายของต้วนจิ่งหงนั้นก็ได้หมดลง…

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ซ่งซินนั้นหวาดกลัวจนไม่กล้าสูดหายใจเข้าลึกๆ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือซ่อนตัวอยู่ในบ้าน เธอหวาดกลัวเกินกว่าจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของต้วนจิ่งหง

 

 

หลังจากเหตุการณ์ของต้วนจิ่งหง งานของซ่งซินจึงถูกพักไปชั่วคราว ไห่รุ่ยเองก็ไม่มีเจตนาที่จะจัดผู้จัดการคนใหม่ให้เธอเช่นกัน ดังนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันของเธอจึงหยุดนิ่ง

 

 

ซ่งซินรอจนกระทั่งสถานการณ์ซาลงก่อนจะนั่งคิดถึงเรื่องต้วนจิ่งหงในที่สุด จากความเข้าใจของเธอ ต้วนจิ่งหงไม่ใช่คนโง่เช่นนั้น

 

 

ทว่าในช่วงเวลาที่เร่งรีบนั้น หญิงสาวเพียงแต่จดจ่ออยู่กับการตัดขาดกับต้วนจิ่งหงและไม่ได้ถามถึงเหตุการณ์นั้นโดยละเอียด แม้ว่าไห่รุ่ยจะประกาศผลการสืบสวนแล้ว พวกเขากลับไม่เคยเอ่ยถึงเจตนาของต้วนจิ่งหงเลย

 

 

หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ ซ่งซินก็โทรหาต้วนจิ่งหง “จิ่งหง คิดยังไงฉันก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนใครบางลอบวางแผนทำร้ายเรา”

 

 

ต้วนจิ่งหงถือโทรศัพท์ไว้แล้วแสยะยิ้ม “ฉันก็แค่ไม่ระวังให้มากพอ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ…”

 

 

หญิงสาวบอกไม่ได้และจะไม่บอกซ่งซินว่าถังหนิงรู้เรื่องเล่ห์กลของซ่งซินแล้ว เธออยากเห็นถังหนิงค่อยๆ กลืนกินซ่งซินไปทั้งตัว

 

 

ซ่งซินคิดว่าเธอเป็นอัจฉริยะ เธอคิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน ใครจะไปคิดล่ะว่าเธอเป็นได้แค่อีกาที่สะกดรอยตามพญาหงส์เมื่อได้เผชิญหน้ากับถังหนิง

 

 

เธอจินตนาการไม่ออกหรอกว่าถังหนิงอีคิวสูงแค่ไหนและเธอก็คงไม่อยากจะเดาหรอกว่าถังหนิงรู้มากแค่ไหน…

 

 

“จิ่งหง เธอต้องบอกความจริงกับฉันนะ นั่นเป็นทางเดียวที่ฉันจะสามารถรับรองความปลอดภัยของเราทั้งสองคนได้”

 

 

เธอแค่กำลังปกป้องตัวเองเท่านั้นแหละ ซ่งซินคิดกับตัวเอง

 

 

“ไม่มีอะไรมากกว่านี้จริงๆ ฉันก็แค่ถูกความโลภเข้าครอบงำชั่ววูบ ฉันเหนื่อยแล้วนะ ขอไปพักผ่อนก่อนนะ” ต้วนจิ่งหงกล่าวก่อนจะกดวางสาย

 

 

ซ่งซิน…

 

 

จากนี้ไป เธอต้องจัดการกับทุกๆ เรื่องด้วยตัวเอง

 

 

หลายๆ ครั้งที่ต้วนจิ่งหงรู้สึกเกลียดซ่งซิน หลังจากที่เธอทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ซ่งซินไปนั้น ผลลัพธ์มันเป็นอย่างไรล่ะ

 

 

เธอเองก็อยากเห็นโชคชะตาของซ่งซินเช่นกัน!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset