วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 707 ผิดหวังในตัวฉันจริงหรือ

แม้ถังหนิงจะพูดให้เธอเข้าใจง่ายขึ้น แต่ต้วนจิ่งหงก็อดคิดถึงมิตรภาพกับซ่งซินไม่ได้เมื่อถูกขอให้เป็นพยานยืนยันความผิดของซ่งซิน แม้ว่าเธอจะไม่อยากอ่อนไหวจนเกินไป แม้ว่าเธอจะเกือบเสียขาทั้งสองข้าง แต่เธอก็ยังไม่อยากทำ บางครั้งคนเราก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับตัวเอง

 

 

ถึงอย่างนั้นก็มีหลายครั้งที่ต้วนจิ่งหงยินดีที่จะถลกหนังซ่งซินทั้งเป็นแล้วเลาะเอ็นทุกเส้นออกมาจากร่างของเธอ

 

 

ถังหนิงชำเลืองมองต้วนจิ่งหง หลังจากที่เห็นความรู้สึกสับสนในดวงตาหญิงสาว เธอก็ถอนหายใจออกมา “ดูเหมือนว่าเธอยังต้องการเวลาเพื่อคิดทบทวนสินะ แต่ฉันขอเตือนว่าทุกอย่างที่ซ่งซินทำลงไปจะถูกเปิดโปงในไม่ช้าก็เร็ว” ถังหนิงยืนขึ้นจากโซฟาเพื่อจะจากไป ทว่าก่อนที่เธอจะเดินถึงประตู ต้วนจิ่งหงก็พลันเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณเกลียดซ่งซินแค่ไหนคะ”

 

 

“ฉันจะทำให้เธอเห็นด้วยการกระทำของฉัน” ถังหนิงตอบโดยไม่หันกลับมามองก่อนจะเดินออกจากห้องไป

 

 

ต้วนจิ่งหงค่อยๆ ผ่อนคลายลง ตอนนั้นเองที่เธอตระหนักได้ว่าเธอกลัวถังหนิงและหวั่นวิตกแค่ไหนเวลาอยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงคนนี้…

 

 

ระหว่างทางกลับบ้าน โม่ถิงสวมกอดถังหนิงและคุ้มกันท้องของเธออย่างหวงแหนด้วยความกลัวว่าหญิงสาวจะบาดเจ็บจากแรงกระแทกเบาๆ

 

 

“เจรจากับต้วนจิ่งหงไม่สำเร็จเหรอครับ”

 

 

“ค่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าต้วนจิ่งหงยังไม่หมดศรัทธาในตัวซ่งซิน” ถังหนิงตอบ “ดีนะคะที่เธอยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่”

 

 

“ต้วนจิ่งหงมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ซ่งซินอาจจะไม่มีก็ได้!”

 

 

หากซ่งซินมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เธอคงไม่คิดแผนการที่ไร้มุษยธรรมมาได้มากมายเช่นนี้ ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ เธอไม่แสดงความเมตตาต่อเด็กหรือคนชราเลยด้วยซ้ำ

 

 

“ไม่ช้าก็เร็วต้วนจิ่งหงจะเป็นพยานยืนยันความผิดของซ่งซินอย่างแน่นอนค่ะ” ถังหนิงมั่นใจในเรื่องนี้ แม้ว่าบทสนทนาของเธอกับต้วนจิ่งหงจะไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น แต่เธอก็รู้ว่าที่ต้วนจิ่งหงยังเงียบอยู่นั้นเป็นเพราะหญิงสาวยังถูกทำร้ายไม่มากพอ ดังนั้นถังหนิงจึงจะปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กันเอง ไม่สิ ความจริงคือเธอจะปล่อยให้ซ่งซินวางแผนโจมตีต้วนจิ่งหงต่อไปต่างหาก

 

 

 

 

นับตั้งแต่ไปค้างคืนที่รีสอร์ตวิลเลจพร้อมอาหารเช้าที่เพื่อนของอันจื่อเฮ่าเป็นเจ้าของ เฉินซิงเยียนก็ ‘กลับบ้าน’ หลังจากเลิกงานบ่อยขึ้นมาก ภายใต้สถานการณ์ปกติ อันจื่อเฮ่าจะจงใจอยู่ที่กองถ่ายเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าในการถ่ายทำภาพยนตร์ อันดับแรก เขาจำเป็นต้องจับตาดูหลิงหลงเผื่อว่าเธอจะมีเล่ห์กลอะไรอีก แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ มันทำให้เขาพาเฉินซิงเยียนตรงดิ่งไปที่รีสอร์ตวิลเลจหลังจากการถ่ายทำเสร็จสิ้นได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะรับมือกับเรื่องงาน ทำอาหาร หรือมองไปยังท้องฟ้ากว้าง ตราบใดที่พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกัน ทั้งคู่ก็พอใจแล้ว เพราะถึงอย่างไร นี่ก็เป็นความสัมพันธ์ครั้งแรกของเฉินซิงเยียน หญิงสาวอยากตัวติดกับเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหากทำได้ และเพราะความรักใคร่ของเธอ อันจื่อเฮ่ารู้สึกเด็กลงเยอะเลยทีเดียว…

 

 

ขณะเดียวกัน หลังจากที่หลิงหลงหลอกเฉินซิงเยียน คนในกองถ่ายก็แสร้งทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าพวกเขากลับช่วยเฉินซิงเยียนหาโอกาสสร้างปัญหาให้หลิงหลง

 

 

เป็นผลให้หลิงหลงได้สัมผัสความรู้สึกสิ้นหวังจากการถูกทิ้งให้อยู่บนภูเขาเพียงลำพัง และเพื่อยกระดับความน่าเวทนาของหลิงหลง ก่อนที่คนในกองจะวางแผนหลอกเธอ พวกเขาถึงกับทำให้แน่ใจว่าวันนั้นจะเป็นวันที่ฝนตก

 

 

คืนนั้นหลิงหลงตั้งใจกลับมาร้องไห้ฟูมฟายใส่ผู้กำกับ แต่มีคนบอกเธอว่าผู้กำกับกำลังทานอาหารค่ำอยู่กับคนของไห่รุ่ย

 

 

ไห่รุ่ย…

 

 

ไม่บอกก็รู้ว่าโม่ถิงมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องสาวของเขาอย่างแน่นอน

 

 

“ท่านประธานโม่ของเรามีน้องสาวเพียงแค่คนเดียว ถ้าเธอถูก ‘ใครก็ไม่รู้’ มารังแกเช่นนี้ แล้วความภาคภูมิใจของเขาล่ะ”

 

 

“ทางเราจะจัดการกับเรื่องนี้ครับ” ผู้กำกับตอบอย่างขอโทษขอโพย “เราจะดูแลซิงเยียนให้ดี บอกท่านประธานโม่ด้วยครับว่าไม่ต้องเป็นห่วง”

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมขอฝากเฉินซิงเยียนไว้ที่คุณด้วยนะครับ…”

 

 

ตอนนั้นเองที่หลิงหลงแอบฟังอยู่หน้าประตู หลังจากที่รู้ว่าผู้กำกับคุยอะไรกับไห่รุ่ย เธอก็ไม่กล้าแกล้งเฉินซิงเยียนอีกต่อไปแล้ว แม้สาธารณชนจะลือกันว่าเฉินซิงเยียนคือน้องสาวของโม่ถิง โม่ถิงก็ไม่เคยยอมรับ ดังนั้นหลิงหลงจึงเสี่ยงโชคต่อ แต่ตอนนี้…

 

 

…ถึงใครจะมามอบความกล้าให้เธออีกสักสิบเท่า เธอก็คงกลัวเกินกว่าจะเป็นปรปักษ์กับเฉินซิงเยียนอีก

 

 

เฉินซิงเยียนไม่รู้เลยว่าโม่ถิงส่งคนมาช่วยเธอ ตั้งแต่เริ่มคบหากับอันจื่อเฮ่า นอกเหนือจากจดจ่อกับการถ่ายทำแล้ว หญิงสาวก็ใช้เวลาที่เหลือร่วมกับเขา ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนของวัน อย่างเดียวที่หญิงสาวคิดมีเพียงแค่วิธีเข้าใกล้และขโมยจูบจากชายหนุ่ม

 

 

คืนนั้น คู่รักไปพักผ่อนอยู่ที่รีสอร์ต อันจื่อเฮ่ากำลังช่วยเฉินซิงเยียนอ่านบทของเธอ แต่ใจของยัยตัวแสบกลับอยู่ที่อื่น

 

 

“ฟังอยู่หรือเปล่า” อันจื่อเฮ่าเงยหน้าขึ้นมาและสังเกตเห็นว่าเฉินซิงเยียนกำลังจ้องเขาอยู่ ดังนั้นเสียงของชายหนุ่มจึงฟังดูโกรธเล็กน้อย

 

 

“ถ้านายจูบฉัน ฉันจะจำบทของทั้งซีนนี้เลย”

 

 

อันจื่อเฮ่าสูดหายใจเข้าลึก เมื่อเห็นว่าใจของเฉินซิงเยียนอยู่ที่อื่น ชายหนุ่มก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้ “ฉันพยายามที่จะสนับสนุนเธอเป็นอย่างมากเลยนะ ทำไมเธอถึงจริงจังกว่านี้ไม่ได้ล่ะ รู้ไหมว่ามีคนอีกมากมายแค่ไหนที่ฝันจะโชคดีอย่างเธอ”

 

 

“อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว ความฝันของฉันคือการได้เป็นสตันต์ แน่นอนว่านั่นมันเป็นอดีตไปแล้วเพราะตอนนี้คุณคือความสนใจเพียงอย่างเดียวของฉัน…” เฉินซิงเยียนตอบ

 

 

“นั่นก็เพราะเธอยังเด็กและความคิดยังไม่เป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มที่ยังไงล่ะ ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าการคบกับเธอเร็วแบบนี้เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่”

 

 

หลังจากได้ยินประโยคนั้น ท่าทีของเฉินซิงเยียนก็พลันเปลี่ยนไปทันที มันเหมือนกับว่าเธอถูกบางสิ่งต่อยเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว

 

 

“ตอนที่อยู่กับฉัน นายพักเรื่องงานเอาไว้ก่อนไม่ได้เหรอ ใช่ว่าฉันไม่ทำตามที่นายขอให้ฉันทำสักหน่อย…”

 

 

อันจื่อเฮ่าเข้าใจอารมณ์โกรธของเฉินซิงเยียน ดังนั้นเขาจึงไม่เถียงกลับ ชายหนุ่มเพียงแต่พยักหน้า “ฉันจะไม่พูดเรื่องงานอีกแล้ว เข้านอนกันเถอะ”

 

 

“นายจะนอนกับฉันไหม”

 

 

“เฉินซิงเยียน รู้ไหมว่าตัวเองอายุเท่าไหร่” อันจื่อเฮ่าเอ่ยถาม

 

 

เฉินซิงเยียนฉวยโอกาสนี้นอนลงบนร่างของอันจื่อเฮ่าและขโมยจูบจากเขาก่อนจะเขยิบหนีไปอย่างรวดเร็ว อันจื่อเฮ่าทำตัวไม่ถูก ดังนั้นหลังจากที่กล่อมให้เธอหลับได้แล้ว ชายหนุ่มจึงไปหยิบผ้าห่มมานอนบนโซฟา ทว่าหลังจากที่ปิดไฟ เฉินซิงเยียนก็พลันเอ่ยถามขึ้นมาว่า “นายจะเซ็นสัญญากับศิลปินคนอื่นไหม ยกตัวอย่างเช่น คนอย่างแอนนี่”

 

 

“ไม่แน่ใจ” อันจื่อเฮ่าตอบ

 

 

“ถ้านายมีซูเปอร์สตาร์อยู่ในมือสักคน นายจะล้มเลิกความคิดที่จะเซ็นสัญญากับคนอื่นไหม”

 

 

“ก็อาจจะ”

 

 

“อันจื่อเฮ่า นายผิดหวังในตัวฉันจริงๆ เหรอ”

 

 

ครั้งนี้อันจื่อเฮ่าไม่ได้ตอบ ชายหนุ่มนั้นผล็อยหลับไปแล้ว ทว่าเฉินซิงเยียนยังคงนอนไม่หลับอยู่บนเตียง หญิงสาวรู้สึกผิดหวังในตัวเองเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่เธอเกิดมาอย่างไร้ความหักห้ามใจ หากความรักมาอยู่ตรงหน้าแล้ว หญิงสาวจะไม่คิดมากเกินไป…

 

 

ขณะเดียวกัน อันจื่อเฮ่าเองก็มีแรงกดดันของเขาอยู่ เพราะถึงอย่างไร เฉินซิงเยียนก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือน้องสาวของโม่ถิง

 

 

แล้วโม่ถิงเป็นคนอย่างไรงั้นเหรอ อันจื่อเฮ่านั้นรู้ดียิ่งกว่าใครว่าน้องสาวของโม่ถิงไม่ใช่คนที่ใครจะคบด้วยก็ได้ โดยเฉพาะในตอนที่เธอยังอายุไม่ถึงยี่สิบปี

 

 

ชายหนุ่มต้องการแสดงผลลัพธ์บางอย่างให้โม่ถิงเห็นเหลือเกิน อย่างน้อยก็เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควรที่จะคบกับน้องสาวของเขา ทว่ายัยตัวแสบที่นอนอยู่บนเตียงกลับไม่ค่อยให้ความร่วมมือเอาเสียเลย

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset