วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 729 ต้วนจิ่งหงจะต้องไปกับฉัน

“ซ่งซินเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงและไร้มนุษยธรรม ถึงตอนนี้ฉันจะพิการมาได้สองสามปีแล้ว ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันก็ยังคงเป็นการได้เห็นซ่งซินถูกส่งเข้าคุกด้วยตาของตัวเอง!”

 

 

คำพูดของซ่งเซียวเซียวนั้นทั้งชัดเจนและหนักแน่น แฝงไปด้วยความรู้สึกเกลียดชังอย่างที่สุด

 

 

ความรู้สึกของเธออยู่ในระดับเดียวกับของถังหนิง การที่ฮั่วจิงจิงได้รับบาดเจ็บและการที่เธอเกือบต้องแท้งลูก ถังหนิงจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต

 

 

ดังนั้นเธอและซ่งเซียวเซียวจึงหมายตาไปที่เป้าหมายเดียวกัน

 

 

ซ่งซินจะไม่มีโอกาสรอดพ้นจากกฎหมายได้อีก

 

 

แม้ผู้ชมจะดูผ่านโทรทัศน์แต่ทุกคนสามารถรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของซ่งเซียวเซียว โดยเฉพาะเมื่อเขามองไปตรงพื้นที่ว่างซึ่งเคยเป็นที่ที่ขาซ้ายของเธอเคยอยู่ อยู่ๆ ทุกคนก็ได้รับรู้การกระทำอันโหดเ**้ยมของซ่งซิน…

 

 

 

 

ซ่งซินไม่ได้คาดคิดว่าไห่รุ่ยจะขุดเรื่องเก่ามาใช้เป็นไพ่ตาย เธอตระหนักได้ว่าเธออ่อนต่อโลกเกินไป ปรากฏว่าแม้พวกเขาจะไม่ใช้คำกล่าวหาของต้วนจิ่งหง ไห่รุ่ยก็ยังสามารถทำลายเธอได้อยู่ดี เพราะเธอทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมายเกินไป

 

 

ไม่นานนัก ซ่งซินได้รับโทรศัพท์จากทนายความของเธอบอกเธอว่าครั้งนี้เขาไม่อาจช่วยประกันตัวเธอได้ จากนั้นเขาจึงบอกให้เธอหนีไปต่างประเทศเพื่อซ่อนตัวโดยเร็วที่สุด

 

 

แต่ซ่งซินไม่ต้องการยอมรับความพ่ายแพ้! เธอจะแพ้แบบนี้ได้ยังไงกัน เธอไม่มีทางแพ้

 

 

กระนั้นเธอก็ไม่อาจขัดขืนไม่ให้ตำรวจพาตัวเธอกลับไปยังห้องเดิมและพบกับเจ้าหน้าที่คนเดิมที่สถานีตำรวจได้ “คุณซ่ง เราพบกันอีกแล้วนะ คราวนี้คุณจะใช้ใครเป็นโล่อีกล่ะ”

 

 

เช่นเดียวกันครั้งก่อน ซ่งซินไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดูเหมือนเธอจะกำลังรอผู้อาวุโสซ่งเพราะเขาคือโอกาสสุดท้ายของเธอ

 

 

แต่ในความเป็นจริงนั้น หลังจากที่ผู้อาวุโสซ่งฟื้นคืนสติหลังจากการผ่าตัดและได้เห็นข่าว เขาเพียงแค่ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นหมดไปกับการสูบบุหรี่อยู่ภายในห้องพักคนไข้ เธอไม่เคยนึกเลยว่าจะเลี้ยงดูปีศาจร้ายแบบนี้ขึ้นมา

 

 

“นับจากนี้ฉันจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอคนอื่น”

 

 

ข่าวยังคงถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่ห้องแถลงข่าวของไห่รุ่ยอย่างต่อเนื่อง ถึงจุดนี้ ชื่อเสียงของซ่งซินดูเหมือนจะเสียหายเกินเยียวยา แต่กระนั้นซ่งซินก็ยังคงยืนกรานที่จะปฏิเสธความผิดของเธออย่างต่อเนื่องด้วยสภาพจิตใจที่แน่วแน่และมั่นคง

 

 

เป็นเช่นนั้นจนกระทั่งตำรวจได้รับข่าวว่าผู้อาวุโสซ่งได้ทำการฆ่าตัวตายที่โรงพยาบาล!

 

 

หลังได้รับรายงาน เจ้าหน้าที่สอบปากคำได้กลับเข้าไปในห้องสอบปากคำและวางเอกสารบางอย่างลงตรงหน้าซ่งซิน “เมื่อก่อนผมเคยเห็นผู้หญิงที่โหดเ**้ยมมามาก หลายคนหั่นสามีตัวเองเป็นชิ้นๆ แล้วบีบคอลูกสาวของตัวเอง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลักฐาน พวกเธอไม่เคยใช้อุบายอะไรต่อเนื่องเหมือนอย่างที่คุณทำ

 

 

“ถ้าคุณยังมีคุณธรรมอะไรหลงเหลืออยู่ในใจบ้างละก็ คุณควรจะชดใช้ความผิดของคุณที่ทำกับปู่ตัวเองด้วยชีวิต!”

 

 

ณ เวลานั้น ซ่งซินยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเจ้าหน้าที่คนนั้น จนกระทั่งเธอได้เห็นใบยืนยันการเสียชีวิตของผู้อาวุโสซ่ง

 

 

“เกิดอะไรขึ้นกับปู่ของฉัน เขาตายได้ยังไง”

 

 

“ทำไมเขาถึงตายงั้นเหรอ ทำไมคุณไม่ถามตัวเองล่ะ” พูดจบ เจ้าหน้าที่ก็ยื่นจดหมายลาตายที่ผู้อาวุโสซ่งเขียนถึงซ่งซิน

 

 

ขณะที่เธอชำเลืองตามองดูซองจดหมายสีขาวราวหิมะ ในที่สุดซ่งซินก็ตระหนักได้ว่ามือทั้งสองข้างของเธอสั่นเทา เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเช่นนั้น เขาจึงคว้าซองจดหมายไปและช่วยเปิดมันให้เธอ

 

 

[ซินซิน นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ปู่จะเรียกชื่อของหลาน หลังจากได้เห็นสิ่งเลวร้ายต่างๆ ที่หลานได้ทำ ปู่ไม่อาจสู้หน้าใครในโลกนี้ได้อีก สิ่งที่ปู่ทำได้คือการเอาชีวิตของตัวเองชดใช้ให้กับความเลวร้ายทุกอย่างที่หลานได้ทำ นี่คือผลกรรมของปู่ ผลกรรมที่ไม่สั่งสอนหลานให้ดี และเป็นผลกรรมของหลานที่จะต้องสูญเสียครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในโลกใบนี้ไป…

 

 

[ปู่ขอประกาศให้ทรัพย์สินทั้งหมดของปู่ได้รับการบริจาคให้กับการกุศล ปู่ไม่ต้องการให้มันตกอยู่ในมือคนจิตใจอำมหิตอย่างหลาน

 

 

[จากนี้ไป หลานต้องอยู่คนเดียวแล้วนะ ขอให้โชคดี]

 

 

หลังได้อ่านข้อความสั้นๆ ซ่งซินเสียสติ “นี่มันเป็นไปไม่ได้ ปู่ของฉันไม่มีทางตาย”

 

 

“เขาตายแล้ว คุณเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตาย คุณฆ่าปู่ของตัวเอง!” เจ้าหน้าที่คนนั้นตะโกนใส่ซ่งซิน “ถ้าผมเป็นเขา ผมคงสับคุณเป็นชิ้นๆ ก่อนจะฆ่าตัวตาย มันคงเป็นประโยชน์กับสังคมมากกว่านี้”

 

 

ดวงตาของซ่งซินเบิกโพลงขณะที่เธอทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนในที่สุดจะทรุดลงกับพื้นและร้องไห้ “ฉันไม่ได้เป็นต้นเหตุให้ปู่ตาย ฉันไม่ได้ทำ! พวกมันต่างหากที่ทำ!”

 

 

 

 

“ผู้อาวุโสซ่งโชคร้ายจริงๆ ที่มีหลานสาวแบบนี้ ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้แค่ต้องชดใช้ด้วยชีวิตของตัวเอง” หลงเจี่ยมาช่วยถังหนิงดูแลเด็กๆ อยู่ที่ไฮแอทรีเจนซี่ ขณะที่เธออ่านข่าวในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างของเธอก็กำลังช่วยแต่งตัวให้เด็กหนึ่งในสองคน “ถึงจะน่าสังเวชไปหน่อย แต่ชีวิตมันก็แบบนี้ละนะ

 

 

“เขาว่ากันว่าเด็กคือศัตรูจากชาติปางก่อนที่มาเกิดเพื่อเอาคืน ฉันละสงสัยจริงว่าชาติที่แล้วผู้อาวุโสซ่งไปทำติดค้างอะไรซ่งซินไว้มากขนาดนั้น”

 

 

ถังหนิงยิ้มพลางรับลูกชายของเธอจากมือของหลงเจี่ย “ถึงจะน่าสงสาร แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้”

 

 

“แต่ต่อให้ถึงจุดนี่ ซ่งซินก็ยังไม่ยอมปริปากพูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้สึกผิดต่อปู่ตัวเองบ้างหรือไงนะ”

 

 

ถังหนิงส่ายศีรษะ ในขณะที่เธอกำลังจะวางลูกชายคนหนึ่งของเธอลงในเปล เธอได้รับสายเรียกเข้าจากลู่เช่อ “ซ่งซินสารภาพแล้วครับ หลังจากไปที่โรงพยาบาลแล้วเห็นศพปู่ของเธอเอง เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกและในที่สุดก็บอกทุกอย่างกับตำรวจ”

 

 

“เยี่ยมไปเลยไม่ใช่เหรอ” หลงเจี่ยถามพลางมองไปที่ถังหนิง “ในที่สุดเราก็จัดการกับนังปีศาจนี่ได้สักที

 

 

“ถ้ามันยังทำเป็นไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อีก สวรรค์ก็คงต้องส่งสายฟ้ามาผ่ามันให้ตายแล้วล่ะ”

 

 

ซ่งซินน่าเกลียดชังแค่ไหนอย่างนั้นหรือ แค่อ่านสักสิบความเห็นจากความเห็นนับพันบนโลกออนไลน์ก็เพียงพอที่จะตอบคำถามนี้ได้แล้ว

 

 

[ถึงจะฟังดูโหดร้ายนะ แต่ฉันก็หวังว่าศาลจะตัดสินให้มันโดนประหารชีวิตซะ ยิ่งถ้าตัดมันเป็นชิ้นๆ ทีละชิ้นได้ยิ่งดี]

 

 

[ซ่งซินเป็นผู้หญิงที่น่าขยะแขยงจริงๆ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ตัวเองต้องตาย ตอนนี้มันจะมีความสุขอยู่ไหมนะ]

 

 

[ฉันขอให้ตำรวจไม่ปล่อยให้มันตายง่ายๆ ให้มันใช้ชีวิตอยู่ในคุกนั่นแหละดีแล้ว]

 

 

ขณะเดียวกันที่สถานีตำรวจ ซ่งซินได้สารภาพในความผิดสองสามอย่าง แต่เมื่อเป็นเหตุการณ์ของฮั่วจิงจิงและการปั่นหัวฮว่าเหวินเฟิ่ง เธอยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับความผิด ที่จริงเธอพูดกับตำรวจว่า “ถ้าคุณต้องการให้ฉันสารภาพในคดีพวกนั้น ก็ไปพาถังหนิงมาหาฉันสิ!”

 

 

“ถังหนิงไม่ใช่คนที่คุณจะพบได้อีกแล้ว…” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวพลางใส่กุญแจมืออีกฝ่าย “คุณจะมีแค่กำแพงคุกเป็นเพื่อนไปตลอดชีวิตและไม่มีวันได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไป…”

 

 

“ไม่ ต้วนจิ่งหงจะต้องไปกับฉันด้วย…” ซ่งซินพยายามหาสิ่งปลอบใจสุดท้ายให้ตัวเอง แต่ตำรวจกลับทำลายความหวังนั้นของเธออย่างรวดเร็ว

 

 

“คุณเข้าใจผิดแล้ว ต้วนจิ่งหงได้รับการยกย่องที่เข้ามอบตัวกับตำรวจ รวมถึงเหยื่อก็ได้ยกโทษให้เธอแล้ว โทษของเธอเบากว่าของคุณมาก มีเส้นบางๆ คั่นระหว่างความดีกับความเลว และเส้นบางๆ นั้นก็มากพอที่จะกำหนดว่าคุณจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก นั่งรอคำตัดสินของคุณเถอะ!”

 

 

เพราะนี่เป็นคดีใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการบันเทิง ซ่งซินจึงยังได้รับความสนใจจากสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

 

 

ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ นับไม่ถ้วนที่นำมารวมกัน โทษของซ่งซินนั้นมากพอที่จะทำให้เธอต้องอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต…

 

 

คนที่มีความสุขที่สุดในครั้งนี้อาจจะเป็นฮว่าเหวินเฟิ่ง เธอกำลังจะได้มีเพื่อนในไม่ช้า!

 

 

เหตุการณ์ทั้งหมดมาถึงจุดจบในเวลาเดียวกับที่เฉินซิงเยียนถ่ายทำละครเสร็จ หลังจากกลับมายังปักกิ่ง เธอและอันจื่อเฮ่าพากันไปเยี่ยมถังหนิงที่ไฮแอทรีเจนซี่ เมื่อได้เห็นหลานชายทั้งสองของเธอ เฉินซิงเนียนเต็มไปด้วยความปีติยินดี

 

 

ถังหนิงสังเกตเห็นว่าสายตาของอันจื่อเฮ่าจับจ้องไปที่เฉินซิงเยียนตลอดเวลา เธอจึงหัวเราะและเอ่ยถามขึ้น “พวกเธอสองคนคบกันแล้วงั้นเหรอ”

 

 

อันจื่อเฮ่าส่ายหน้า “เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานทางธุรกิจธรรมดาเท่านั้น”

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset