วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 438 ฉันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยเซี่ยอันน่า แต่ฝั่งตรงข้ามคือพี่หก พวกเราจะทำอะไรต้องคิดดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะพลาดได้ พวกเราจะเสียทั้งผู้หญิงเสียทั้งอาวุธไม่ได้นะ” ตงจื่อรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว แต่เสี่ยวอวี้หลินกลับไม่ฟังเขาเลย

“ฉันรู้สึกว่าความผิดทั้งหมดเกิดจากฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน คงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น” เสี่ยวอวี้หลินเริ่มรู้สึกผิดกับเซี่ยอันน่ามากขึ้นเรื่อยๆ

โลกนี้ไม่อาจคาดเดาได้ บางครั้งทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิด เรื่องราวมันไม่ได้ดำเนินไปตามที่เรากำหนดไว้

ไม่ว่าใครถ้าเจอเรื่องอย่างนี้ คงจะคุ้มคลั่งกันทุกคน และแน่นอนเสี่ยวอวี้หลินก็ไม่ถูกยกเว้นเช่นกัน เขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

“ใช่ ทั้งหมดเป็นความผิดของนาย ใครให้นายทิ้งผู้หญิงคนนั้นไว้ข้างถนนคนเดียว ตอนนี้อย่างแรกที่พวกเรารู้ก็คือ ทำไมเซี่ยอันน่าถึงถูกลักพาตัวไป ทำไมเซี่ยอันน่าถึงถูกเอาไปประมูล ผู้หญิงสวยมากมายบนโลกใบนี้กลับไม่ถูกประมูล ไม่ถูกลักพาตัว มีแค่เธอคนเดียวที่โดน มันเป็นเพราะอะไรกัน นายรู้ไหม” ตงจื่อเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล

“ใช่ ทำไมฉันถึงคิดเรื่องพวกนี้ไม่ออกนะ” เสี่ยวอวี้หลินก็รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ เพราะถ้าแค่ตัวเซี่ยอันน่าเอง เธอไม่ได้มีทรัพย์สินร่ำรวยจนถึงต้องดึงดูดความสนใจของคนอื่น แล้วใครกันที่ลักพาตัวเธอไป

จะบอกว่าแค่เพราะรูปลักษณ์ภายนอกหรอ ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยจริง แต่คนอื่นก็สวยกว่านั้นมีเยอะแยะ

“ในเมื่อนายพูดอย่างนั้น นายรู้เหรอว่าเพราะอะไร” ตอนนี้ไอคิวของเสี่ยวอวี้หลินอยู่ในระดับต่ำมาก เขาต้องเพิ่มไอคิวสักหน่อย ถึงจะเหมาะสมกับฐานะของเขา

แม้แต่ตงจื่อยังรู้สึกว่า ตั้งแต่เสี่ยวอวี้หลินรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเซี่ยอันน่า ไอคิวของเขาก็ถูกปิดจนหมด เขายังเป็นประธานคนที่เจ้าสำราญอยู่ไหม ยังเป็นคนที่ถูกคนเรียกว่าคุณชายหลายอารมณ์อยู่ไหม

“ใช่ เธอโดนลูกพี่ลูกน้องขายมาที่นี่” เมื่อตงจื่อพูดจบ เขาก็หยุดไปนิดนึง และพูดอีกครั้งว่า “ที่จริงธุรกิจนี้มีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้อยู่ นั่นก็คือในเมื่อคุณถูกนำเข้ามาเป็นสินค้าประมูลแล้ว คุณจะไม่มีสิทธิ์พูดอะไรได้อีก นั่นก็หมายความว่า พวกเราไม่สามารถผลีผลามได้ เพราะเธออยู่ในสถานะของประมูล”

ตงจื่อแอบหลบสายตา แต่เสี่ยวอวี้หลินก็สามารถมองเห็นได้ เสี่ยวอวี้หลินไม่รู้ว่าวันนี้ตงจื่อเป็นอะไรไป ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนอย่างนี้

“ตงจื่อ นายตั้งใจจะพูดอะไรกันแน่” เสี่ยวอวี้หลินเกือบจะโกรธขึ้นมา เขารู้สึกว่าวันนี้ตงจื่อผิดปกติ ถึงแม้ว่าคำพูดดังกล่าวจะทำให้เขารู้สึกอึดอัด แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรกับตงจื่อ เพราะคำพูดนั้นมีความจริงอยู่

แต่ดูเหมือนว่า จะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว

“เสี่ยวอวี้หลินนายไม่เข้าใจหรอ เซี่ยอันน่าถูกทำร้ายเพราะนาย” น้ำตาของตงจื่อแทบจะไหลออกมา

การเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงนี้ทำให้เสี่ยวอวี้หลินสับสนทันที

“ตงจื่อนายอยากพูดอะไรกันแน่” เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกงง ท่าทีของตงจื่อเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเกินไป ทำให้เขาปรับตัวไม่ทัน

เมื่อก่อนเขาเป็นคนที่ความคิดรวดเร็ว ทำให้ตงจื่อตามไม่ทันเขา

แต่วันนี้เพราะท่าทีของตงจื่อ ทำให้เสี่ยวอวี้หลินไม่รู้ว่าทำยังไงถึงจะดี

“นายยืนยันจะช่วยเธอจริงๆหรอ แล้วนายจะยอมทำดีกับเธอไปตลอดชีวิตไหม” ตงจื่อพูดประโยคนี้ด้วยความจริงจัง

“ตงจื่อนายไม่ต้องจริงจังขนาดนี้ ไม่ว่ายังไงตอนนี้ฉันก็อยากช่วยเธอออกมา ยังไงตอนนี้ที่เธอเป็นอย่างนี้ก็เพราะความผิดของฉัน ฉันต้องรับผิดชอบ” คำพูดของเสี่ยวอวี้หลินเหมือนจะบอกตงจื่อ และก็พูดให้ตัวเองฟังด้วย

เขามักจะคิดถึงประโยคนี้อยู่ซ้ำๆ ราวกับทำอย่างนี้จะสามารถทำให้เขาหนักแน่นได้

เสี่ยวอวี้หลินไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนพูดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติเขาไม่ใช่คนแบบนี้

“หึ ไม่ว่ายังไงผู้หญิงคนนี้ฉันก็ต้องช่วยมาให้ได้ ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว” เสี่ยวอวี้หลินตัดสินใจ จากนั้นก็เดินออกไป โดยไม่พูดกับตงจื่ออีก

หลังจากที่เสี่ยวอวี้หลินเดินไปแล้ว ตงจื่อก็ถอนหายใจออกมา เซี่ยอันน่าฉันช่วยเธอได้แค่นี้แล้วที่เหลือเธอต้องพึ่งตัวเอง

พอเสี่ยวอวี้หลินเดินออกไป ตงจื่อก็เหงื่อแตกไปทั้งตัว เขากลัวว่าเสี่ยวอวี้หลินจะเป็นอย่างเมื่อก่อนอีก เขาต้องฟังคำพูดของเธอจริงๆ

แต่วันนี้ราวกับเขาฟังเข้าใจแล้ว ว่าตงจื่อแค่กลัวว่าเสี่ยวอวี้หลินจะทำไม่ดีต่อเซี่ยอันน่าเท่านั้น

ในห้องใต้ดินอันมืดมิด เซี่ยอันน่ากำลังทำสงครามประสาทกับพี่หกอย่างตึงเครียด

พี่หกต้องการให้เธอเป็นทาสของเขา หรือพูดอีกแง่หนึ่งก็คือ เขาต้องการให้เซี่ยอันน่าเป็นอย่างผู้หญิงที่เขาชอบ แต่ด้วยนิสัยที่หุนหันของเซี่ยอันน่า  แต่จากสถานการณ์ตอนนี้เธอจำเป็นต้องสงบปากสงบคำ เพราะไม่ว่าเธอจะเข้มแข็งสักแค่ไหน เธอก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ แถมตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังมีคนที่เธอรัก ยังมีเพื่อน และยังมีคนคนนั้น….

เมื่อคิดถึงเสี่ยวอวี้หลิน เซี่ยอันน่าก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา ในขณะที่เธอคิดถึงเขาอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

หึหึ หนุ่มอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ชื่อนี้ไม่ได้ถูกเรียกขึ้นมาเฉยๆ ตอนนี้เขาน่าจะกำลังไปหว่านเสน่ห์อยู่ที่ไหนสักแห่ง

“ทำไม คิดถึงมันอีกแล้วหรอ” พี่หกเจอผู้หญิงมามาก เขาจึงรู้ว่าจะยุแยงผู้หญิงยังไง และจากสถานการณ์ของเซี่ยอันน่า เขาก็พอจะเข้าใจแล้ว  ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะว่าชอบผู้ชายคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นจะมองสิ่งของตรงหน้าโดยไม่กระพริบตาได้ยังไง

เรื่องผู้หญิงไว้ใจเขาเถอะ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

เซี่ยอันน่ามองไปที่พี่หกด้วยความประหลาดใจ ถึงผู้ชายคนนี้จะเป็นคนมีจิตใจเปราะบาง แต่เขาก็เข้าใจผู้หญิง ถ้าจิตใจของผู้หญิงยากแท้หยั่งถึง ผู้ชายคนนี้ก็คงจะเป็นคนเดียวที่สามารถหยั่งถึงได้

แม้แต่ว่าผู้หญิงกำลังคิดอะไรอยู่ เขาก็ยังสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน ยังมีอะไรอีกที่พี่หกรู้

พี่หกยกมือขึ้นมาค่อยๆเอาผมทัดหูให้เซี่ยอันน่าทั้งสองข้าง การกระทำของเขาอ่อนโยนมาก ราวกับกำลังจับของที่มีค่า จึงจำเป็นต้องทะนุถนอมอย่างดี

แต่ถึงอย่างนั้น เซี่ยอันน่าก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ ความไม่สบายใจนี้มาจากความกลัวลึกๆในใจ ความกลัวนั้นเหมือนกับงูตัวเล็กที่สงบอยู่ในใจ และพร้อมจะออกมาทุกเมื่อ

“ขอบคุณค่ะ” แก้มของเซี่ยอันน่าแดงขึ้นเล็กน้อย ราวกับผู้หญิงที่กำลังตกหลุมรัก

เพราะอย่างนั้นพี่หกจึงอดไม่ได้ที่จะแสดงความอ่อนโยนออกมาในใจ เขายิ้มออกมาน้อยๆ โดยรอยยิ้มนั้นมีความเศร้าที่ซ่อนอยู่ แต่ความเศร้านั้นก็เป็นความสุขที่น่าเศร้าเช่นกัน เป็นความเสียใจที่หายไปแต่ก็กลับมาใหม่ทุกครั้ง

“ส้มน้อย เธอสวยมาก” น้ำเสียงของพี่หกอ่อนโยนมากขึ้น จนทำให้คนรู้สึกเสียการควบคุม แม้แต่เซี่ยอันน่าเองก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา เพราะถ้าคนหนึ่งเปลี่ยนนิสัยโดยปกติของตัวเองภายในหนึ่งวันโดยนับครั้งไม่ถ้วน ก็ทำให้คนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

สำหรับคนปกติ ไม่มีทางเกิดอาการอย่างนี้ขึ้นได้แน่

“อะไรนะ” เสียงของเซี่ยอันน่าดังขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ดีๆเขาก็เรียกเธอว่าส้มน้อย มันมาจากไหนกัน เธอมีชื่อนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“จากนี้ไปเธอชื่อส้มน้อย” ฉันไม่สนว่าเมื่อก่อนเธอชื่ออะไร แต่ตอนนี้เธอเป็นคนของฉัน ก็ต้องทำตามคำสั่งของฉัน

พี่หกกลับไปเป็นคนที่เจ้ากี้เจ้าการและไร้เหตุผลอย่างก่อนหน้านี้ จริงๆน้ำเสียงนี้และท่าทางอย่างนี้ทำให้เขากลับไปสู่สภาพเดิม

“โอเค ส้มน้อยเข้าใจแล้ว” เซี่ยอันน่ามองพี่หกอย่างทำอะไรไม่ได้ เขามีนิสัยไม่คงที่ จากนี้เธอต้องระวังหน่อย เพราะไม่แน่ถ้าวันนึงเขาเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา เขาอาจจะทำอะไรเธอก็ได้ ไม่รู้ว่าตอนนั้นผลลัพธ์จะเป็นยังไง

“ทำดีมาก” พี่หกมองเซี่ยอันน่าอย่างพอใจ พลางมองใบหน้าเธอที่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้นมาก

“เหมือน เหมือนมาก” พี่หกมองเซี่ยอันน่าแล้วพูดกับตัวเอง โดยไม่ได้สังเกตท่าทางของเซี่ยอันน่าเลย แต่ยังไงมันก็ไม่ได้จำเป็น เพราะถึงแม้เขาจะรู้แล้วยังไง ยังไงเขาก็ชอบพูดกับตัวเองอยู่ดี

“การออกแบบของคุณนี่สวยจริงๆ” เซี่ยอันน่ารู้สึกว่าเธอต้องแสดงให้เห็นว่าเธอชอบที่นี่ ถึงจะหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอรู้ว่าถ้าเธอไม่ทำตามสิ่งที่เขาสั่ง เธอจะต้องถูกทรมานอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือ ทำให้เขามีความสุข และหาวิธีหนีออกไป เธอยังมีวิธีอื่นอีกไหม แน่นอนว่าไม่มีแล้ว และก็คิดถึงวิธีอื่นไม่ออกด้วย

“ใช่ไหมล่ะ การออกแบบในนี้ ออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะเลยนะ เธอก็ระวังหน่อยล่ะ อย่าจับของในนี้มั่วๆ ถ้าเธอจะย้ายก็บอกฉันก่อน ไม่อย่างนั้น ถ้าเธอย้ายเองแล้วเกิดอะไรขึ้นมา ฉันไม่รับประกันว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไป” คำเตือนของพี่หกใส่ความเป็นความตายเข้าไปด้วย แสดงว่าการออกแบบนี้ต้องเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างแน่

ไม่อย่างนั้นพี่หกจะเครียดขนาดนี้ทำไม

“รู้แล้ว คุณสบายใจได้ ฉันจะไม่มีทางแตะต้องอะไรในนี้ทั้งนั้น” เซี่ยอันน่าพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“รู้แล้วก็ดี” พี่หกมองเซี่ยอันน่าด้วยสายตาสับสน จากนั้นก็ให้เธอดูของตกแต่งในห้องใต้ดินต่อไป

“อืม” เซี่ยอันน่าไม่กล้าพูดอะไรมาก เธอเดินตามเขาไปเงียบๆ ระหว่างทางก็เจอตู้ไวน์ มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น ราวกับเป็นพื้นที่อารยะธรรมเล็กๆ

“คุณคะ คุณ…” เมื่อกี้เขากำหนดเวลาไว้แล้ว แต่ดันมาปรับเวลาในนี้อีก มันจะมากเกินไปแล้ว

เซี่ยอันน่ารู้สึกว่าการตามเขาเหนื่อยเกินไป ดังนั้นเธอจึงหาเก้าอี้มานั่ง และดื่มชา เธอทำราวกับเป็นเด็กๆ ช่างไรเหตุผลจริงๆ

“นี่คือห้องนอน เธอรู้ด้วยเหรอว่ามีเก้าอี้ ขนาดฉันยังไม่รู้เลย แต่คืนนี้เธอต้องพักอยู่ที่นี่” พี่หกคิดไม่ถึงว่าเธอจะตอบตกลงได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ ราวกับเธอในตอนนั้นไม่มีผิด เธอไม่ทำตามระเบียบแบบแผน มักจะทำให้เขาประหลาดใจอยู่ร่ำไป

วันนี้ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแบบนั้นอีกแล้ว กลับชาติมาเกิดจริงๆ คนที่ชอบมักจะอยู่ข้างกายคุณ

“รู้แล้ว ขอบคุณค่ะ” เซี่ยอันน่าทำเป็นไม่สนใจ ทั้งทั้งที่ในใจเธอสนใจมาก

ที่จริงเธอกังวลว่าจะมีอะไรอยู่ในนี้ ตอนแรกที่ถูกลูกพี่ลูกน้องขายเธอก็รู้สึกว่าไม่ราบรื่นแล้ว ตอนนี้ยังมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย

“เคยเห็นอยู่ แต่ไม่เคยมีใครเขียนวันที่ให้คุณ ดังนั้นก็เลยมีบางทีที่จำไม่ได้ว่าเป็นอะไร พอกลับมาก็นึกขึ้นได้” เซี่ยอันน่าอธิบายอย่างเห็นด้วยกับตัวเอง โดยไม่คิดถึงความเป็นไปได้

ดวงอาทิตย์ค่อยๆซ่อนอยู่ข้างหลังพระจันทร์ ตอนนั้นพี่หกถึงเพิ่งจะตื่นขึ้นมา เขาบอกว่าไม่กลัว และวันคืนอันสวยงามจะเริ่มขึ้นในตอนกลางคืน

ขณะที่คนกำลังตึงเครียดกันอยู่ หรือขณะที่คุณกำลังอยู่ในช่วงอันตราย มักจะโหยหาช่วงที่มั่นคงที่สุดที่เคยผ่านมา

แต่สำหรับเสี่ยวอวี้หลินกลับไม่คิดอย่างนั้น สมองของเขากับคิดถึงแต่ปีนั้นเดือนนั้น ตรงบริเวณริมชายหาด เงาของผู้หญิงคนนั้นค่อยๆปรากฏขึ้นมาในใจของเขา ราวกับฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามแต่ไม่เป็นความจริง

เซี่ยอันน่าอยู่ในห้องใต้ดินของพี่หกด้วยความกลัวกับพฤติกรรมของเขา และก็รู้สึกแปลกใจกับการออกแบบของที่นี่ด้วย

เธอทุบตีไปทั่วห้อง เธอรู้ว่าเพียงแค่พี่หกหลับตาลง เธอถึงจะสามารถหาทางออกได้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ปัญหาก็คือ ถ้าเธอไปโดนของในห้องนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ชีวิตเธอจบแน่แน่

“ชิ้นที่หก” แปลกมาก เซี่ยอันน่าแอบคิด

แน่นอนว่าเธอไม่กล้าพูดออกมา แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม หลังจากที่เธอเห็นอิฐก้อนที่หกที่ผิดปกติ เธอก็จับตาดูอย่างระวัง ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธออยู่กับเสี่ยวอวี้หลิน ไม่ใช่ที่ที่เธอจะทำอะไรก็ได้

ท้องฟ้าสีซีดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างอันเดียวที่มีอยู่ แสดงให้เห็นว่าเป็นเวลาเย็นแล้ว

เซี่ยอันน่าไม่รู้ว่าเดินตามพี่หกมานานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดเธอก็เดินไปจนถึงจุดพักผ่อน

น่าจะเดินมาเป็นเวลาชั่วโมงกว่าแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เหนื่อยขนาดนี้

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset