วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 479 ยืมมีดมาฆ่า

หลังจากชวีเวยได้ยิน ก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามด้วยความประหลาดใจต่อว่า”นี่คุณไม่รู้หรือว่า เซี่ยอันน่าย้ายออกไปแล้ว?”

ป้าสะอึกเล็กน้อย แต่ก็แสร้งทำเป็นตอบอย่างใจเย็น”พอดีว่าฉันไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากน่ะ”

“อันน่านี่ก็จริงๆเลยนะ ทำไมไม่บอกเรื่องนี้กับคุณกันนะ ที่ที่เธออยู่ตอนนี้ก็ดี ถ้ามีโอกาสเธอควรมารับคุณไปอยู่ด้วย”

ป้ายิ้มแหยๆ ตอบกลับว่า”แหะๆ บางทีอันน่าอาจจะไม่ทันติดตอมาน่ะ”

“ก็คงน่าจะใช่ค่ะ เธองานยุ่งมาก ห้องดีขนาดนั้น ถ้าปล่อยให้ว่างก็คงน่าเสียดายแย่”

“ใช่ๆว่าแต่ เธอคือ?”

“เรียกฉันว่า ชวีเวยค่ะ”

“เธอรู้ที่อยู่ของ เซี่ยอันน่า ไหม?”

“จะว่ารู้ก็รู้ค่ะ แต่ถ้าคุณไม่ทราบ โทรถามอันน่าก็น่าจะได้แล้วนะคะ”

ป้ายิ้มเจื่อนๆเล็กน้อยและพูดว่า”อันน่าน่าจะงานยุ่ง กลัวว่าโทรไปแล้วจะรบกวนการทำงานของเธอ ไม่น่าจะดีเท่าไหร่”

ชวีเวยพยักหน้ารับทราบ จากนั้นเขียนที่อยู่บนการ์ดและส่งให้เธอ พร้อมกับพูดว่า”เธออาศัยอยู่ที่นี่ค่ะ”

ป้ารีบคว้าบัตรมา และพูดว่า”ขอบคุณมากจ้ะ”.

เธอถือบัตรแน่น สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เหอะ นังเซี่ยอันน่า หนีไปอยู่สุขสบายกับไอ้เสี่ยวอวี้หลินคนเดียวแล้วลืมญาติผู้น่าสงสารแบบพวกเขาหรือ? เรื่องอาการบาดเจ็บของลูกชาย เธอยังไม่ได้คิดบัญชีเลย ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอีกเด็ดขาด

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของป้าแล้ว ชวีเวยก็รู้เลยว่า เซี่ยอันน่าต้องปวดหัวแน่ๆ

เธออยากรู้จริงๆว่า เซี่ยอันน่าจะจัดการกับผู้หญิงโลภมากคนนี้ไปได้อย่างไร

ฉากนั้นต้องตื่นเต้นมากและสนุกมากแน่ๆ

มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย อย่างสะใจ

…….

กระดิ่งกริ๊ง—–

เมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตู เซี่ยอันน่าก็รีบวิ่งมาเปิดประตู

ตอนเธอมาเปิดประตูเธอก็ยังคงสงสัยว่านี่ซีซีลืมกุญแจอีกแล้วหรือ นี่น่าจะเป็นครั้งที่ห้าของสัปดาห์แล้ว

โชคดีที่เธออยู่บ้าน เพราะถ้าเธอไม่อยู่ ซีซีคงต้องไปยืนรอที่ข้างถนนใหญ่แน่ๆ

แต่เมื่อเซี่ยอันน่า เปิดประตูเธอก็รู้ว่าข้างนอกประตูไม่ใช่ซีซี แต่เป็นน้าสาวและลูกพี่ลูกน้องของเธอ

“ป้า!?”

เซี่ยอันน่า ยังไม่ทันได้สติ ป้าของเธอก็เบียดเธอออก และเดินเข้าไปในห้อง

ป้ามองรอบๆห้องด้วยตาเป็นประกาย”แกอยู่ในบ้านหลังใหญ่ สภาพแวดล้อมก็ดีจริงๆ”

เซี่ยอันน่า ถามป้าของเธออย่างใกล้ชิดว่า”ป้ามาที่นี่มีเรื่องอะไรหรือ?”

ป้านั่งโซฟา ด้วยท่าทางเหมือนเป็นเจ้าของและพูดว่า”มีแน่นอน อย่างแรกฉันคิดว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ค่อนข้างดีและมีห้องว่างอยู่สองห้อง ฉันเลยคิดว่าจะพาลูกพี่ลูกน้องของแกมาอยู่ด้วย”

“แต่…”

ก่อนที่ เซี่ยอันน่า จะพูดจบป้าของเธอก็ขัดจังหวะเธอและพูดต่อ”ประการที่สองให้ คุณชายเสี่ยวหางานให้กับเขา ต้องเป็นงานที่ดีเงินเดือนดีและไม่เหนื่อยเกินไป”

เซี่ยอันน่า ขมวดคิ้วและถามว่า ”พี่เขาแบกหามอะไรไม่ได้ แล้วไปบริษัทจะทำอะไรได้บ้าง?”

ป้าตอบกลับว่า”ในบริษัทใหญ่ๆ ที่มีคนนั่งดื่มชาและเอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ไม่ใช่หรือ?ให้พี่แกทำงานนั้นแหละ”

เซี่ยอันน่ายิ้มเย้ยหยันและกล่าวว่า”นี่ไม่ใช่การเลี้ยงดูคนไม่มีงานทำหรือ?”

“ไร้สาระ พี่แกมีความสามารถตั้งเยอะตั้งแยก แต่หางานที่เหมาะกับเขาไม่ได้”

“แล้วให้เขาเป็นประธานโอเคไหม?”

“ประธานเป็นอะไร แต่ถ้ามีโอกาสเขาก็ทำได้!”

เซี่ยอันน่าขี้เกียจเกินไปที่จะต่อล้อต่อเถียงกับป้าของเธอ เธอหันศีรษะเล็กน้อยและพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า”ป้า ฉันยังไม่ยังมีหน้ามากพอที่จะขอตำแหน่งนั้นมาให้ได้”

เซี่ยอันน่า คิดว่าป้าของเธอจะโกรธหลังจากได้ยินเรื่องนี้

แต่ป้ากลับยิ้มอ่อนและพูดว่า”ฉันก็ไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่แกหรอก เรื่องงานฉันยังมีคนช่วย แกไม่ต้องกังวล”

เซี่ยอันน่าประหลาดใจและถามว่า ”ป้าขอให้ใครช่วย?”

“แค่…” ป้าพูดได้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็เปลี่ยนใจ เพราะเธอไม่อยากให้เซี่ยอันน่ารู้ความจริง เธอจึงเชิดคางขึ้นและพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า ”ทำไมฉันต้องบอกแก? ในโลกนี้ไม่ได้มีแกคนเดียวสักหน่อย”

“ฉันกลัวว่าป้าจะถูกคนอื่นหลอกใช้”

“ขอแค่ได้กิน จะถูกหลอกใช้หรือเปล่า แล้วจะเป็นอะไร?”

เมื่อเห็นว่าป้าของเธอไม่สนใจเลย เซี่ยอันน่าก็กังวลเล็กน้อยและพูดว่า”ป้า พี่เป็นแบบนี้ไปแล้ว ป้าจะ….”

“หุบปาก!” ใบหน้าของป้าเปลี่ยนไปทันทีและดุว่า”เขากลายเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะแกไง!”

“เพราะฉัน?”

ตอนแรกพี่แกเป็นคนที่สุดยอดมาก แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนไร้ประโยชน์แบบนี้!”

เซี่ยอันน่ารู้สึกไม่พอใจและพูดเสียงเบา ”เขาเป็นคนไร้ประโยชน์มาตั้งนานแล้ว”

“แกพูดอะไร?”

เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เซี่ยอันน่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า ”เอาล่ะ เราจะไม่พูดถึงงานอีก เรื่องที่อยู่ ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว ฉันอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นอีกหนึ่งคน”

ป้าสั่งว่า ”ก็ให้มันออกไปซิ”

“จะเป็นไปได้อย่างไร “แค่เพื่อนร่วมชั้น มันสำคัญกว่าญาติหรือไง?”

“ยังไงซะฉันก็ให้เธอไปไม่ได้”

ป้าของฉันเหล่ตาแล้วถามว่า ”หมายความว่า งานแกก็ไม่หาให้ ห้องก็ไม่ให้เราอยู่ด้วย?”

เซี่ยอันน่า ไม่ได้พูดอะไร เป็นความหมายว่าเธอยอมรับ

ป้ายิ้มพยักหน้าและพูดว่า ”ดีมาก แกเลือดเย็นจริงๆ! แต่โชคดีที่ฉันเตรียมพร้อมมาแล้ว”

ป้าพูดจบ จากนั้นพาลูกพี่ลูกน้องเธอ วิ่งไปที่ประตูห้องของซีซี

เซี่ยอันน่ารีบตามไปและถามว่า ”ป้ากำลังจะทำอะไร?”

แต่ป้าของเธอไม่สนใจ กลับสั่งลูกพี่ลูกน้องของเธอว่า ”ลูกลองดูว่าชอบห้องไหนและเราจะอยู่ห้องนั้นกัน”

“พวกป้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”

เซี่ยอันน่าพยายามขัดขืน แต่ทั้งแม่และลูกไม่ได้สนใจคำพูดของเซี่ยอันน่าเลย

เมื่อลูกพี่ลูกน้องเห็นบ้าน เขาก็ชอบที่นี่มาก

เมื่อเห็นว่าเขามีโอกาสอยู่ เขาก็ตื่นเต้นและถามว่า ”แม่จะไม่เป็นไรจริงๆหรือ?”

“มาอยู่กับญาติ ใครจะพูดอะไรก็ได้อีก? แม้แต่เสี่ยวอวี้หลินก็มาห้ามไม่ได้ อีกอย่างก็เป็นเพราะเสี่ยวอวี้หลินที่ทำนิ้วแกขาดแบบนี้ จะให้มันหางานให้คงไม่มีปัญหาหรอก”

ป้าพูดอย่างนั้น เธอไม่รู้เรื่องที่แท้จริงด้วยซ้ำ

เซี่ยอันน่าไม่อยากรบกวนเสี่ยวอวี้หลิน ให้มายุ่งเรื่องครอบครัวของเธอ ช่วงสองสามวันนี้เสี่ยวอวี้หลินออกไปดูงาน ตอนนี้เธอหวังว่าจะแก้ปัญหานี้ให้เรียบร้อยก่อนที่เสี่ยวอวี้หลินจะกลับมา

ในช่วงเวลาที่ยินงงอยู่นั้น ป้าและลูกชายก็ได้เดินเข้าไปในห้องของซีซีและวางกระเป๋าไว้ข้างใน

“ห้องนี้ดีฉันจะอยู่ที่นี่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยอันน่าก็รีบห้าม ”ไม่ได้ มีคนอยู่ห้องนี้แล้ว”

แต่ป้าไม่ได้สนใจ กลับโบกมือปัดและพูดว่า ”ไเพื่อนร่วมห้องแกไม่ใช่หรือ

ลูกพี่ลูกน้องได้ยินดังนั้น ก็รีบไปหยิบของบนโต๊ะ

เซี่ยอันน่าโกรธมาก เธอรีบไปหาเขาจ้องมองและพูดว่า ”ถ้าพี่กล้าแตะต้องอะไรที่นี่ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”

เมื่อเห็นเซี่ยอันน่าโกรธมาก ป้าแอบเหลือบตามองลุกชายแล้วพูดว่า ”ไม่ให้จับก็ไม่จับ ลูกไปอยู่ห้องว่างห้องนั้นแล้วกัน แม่ดูห้องรับแขกก็ไม่เลว อยู่นี่แล้วกัน”

พูดจบ ทั้งสองก็เดินหัวเราะคิกคักออกไป

แต่เซี่ยอันน่ากลับรู้สึกปวดหัว

การจะเป็นคนที่หน้าด้านอย่างพวกเขาได้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ

แล้วจะอธิบายกับซีซีอย่างไร?

เซี่ยอันน่า ยกมือขึ้นก่ายหน้าผากของเธอ รู้สึกปวดหัวมา

คลิก ——

มีเสียงเปิดที่ประตูและเป็นซีซีที่ซื้ออาหารกลางวันกลับมา

ซีซีถือกล่องอาหารกลางวันสองกล่องในมือ และพูดว่า ”อันน่าฉันซื้อ ซาลาเปาของโปรดของเธอมา นี่ยังร้อนๆอยู่ มากินกัน”

เมื่อสิ้นเสียง ซีซีกลับไม่เห็นเซี่ยอันน่า แต่เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคน

เมื่อป้าได้ยิน เธอก็เดินออกไปแย่งถุงมา อย่างไม่เกรงใจ และพูดไปกินไปว่า ”หิวพอดี ลูกมากินด้วยกันซิ”

ซีซีช็อก จากนั้นหันไปมองเซี่ยอันน่าด้วยความสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

เซี่ยอันน่ายิ้มอย่างขอโทษและอธิบายว่า ”เขาเป็นญาติฉันน่ะ มาอยู่ด้วยวันสองวัน”

ป้ากลืนอาหารในปากทันทีและรีบพูดขึ้นว่า ”เราไม่ได้อยู่แค่แปปๆ แต่จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ”

“หะ?”

ซีซีช็อกอีกรอบ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นญาติของเซี่ยอันน่า ซีซีจึงไม่สามารถพูดอะไรได้

เซี่ยอันน่าดึงซีซีออกมา และกระซิบว่า ”อย่าฟังเรื่องไร้สาระของพวกเขา ฉันจะหาทางไล่พวกเขาไปให้ได้ภายในสองวัน”

“แล้วคุณชายเสี่ยวรู้เรื่องนี้หรือยัง?”

เซี่ยอันน่าเม้มริมฝีปากล่างของเธอและพูดว่า ”ช่วงสองวันนี้เขาไม่อยู่ เลยยังไม่รู้ เพราะฉะนั้นฉันต้องหาวิธีที่จะทำให้พวกเขากลับไปภายในสองวันนี้ให้ได”

ซีซีสบายใจขึ้น แต่เริ่มกังวลเซี่ยอันน่า และถามว่า ”อันน่าฉันรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนดี เธอจะเอาชนะพวกเขาได้หรือ?”

เมื่อมองไปทางสองแม่ลูกชายนั่น เซี่ยอันน่ารู้สึกมืดแปดด้าน ”สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้ จะยอมให้พวกเขามากดหัวฉันอย่างเดียวไม่ได้”

“ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็โทรหาคุณชายเสี่ยว”

เมื่อเซี่ยอันน่าได้ยินดังนั้นเธอก็รีบบอกซีซีว่า ”นี่เป็นเรื่องครอบครัวฉัน ฉันต้องจัดการให้ได้”

“งั้น…โอเค ฉันกลับห้องก่อน”

ซีซีรู้สึกกลัวสองแม่ลูกมาก เธอจึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องและซ่อนตัวสักพักเพื่อสังเกตสถานการณ์

ไม่รู้ว่าอดอยากมาจากไหน ผ่านไปแค่ครึ่งวัน ก็เอาของในตู้เย็นมาซัดซะเกลี้ยง

ช่วงมื้อเย็น

เซี่ยอันน่ารู้สึกผิดมาก อยากจะพาซีซีไปทานข้าวข้างนอก

แต่เซี่ยอันน่าก็คิดกังวลขึ้นมาอีกว่า ถ้าเธอไม่อยู่สองแม่ลูกก่อเรื่องอะไรอีก ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงโทรสั่งอาหารให้มาส่ง

พิซซ่ามาส่ง แต่ป้ากินได้ไม่กี่คำ ก็เดินเข้าห้องไป

เธอกินอะไรไม่ลง ท้องของเธอแน่นไปหมด

และเซี่ยอันน่าเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในห้องของซีซี

ระหว่างรับประทานอาหาร ซีซีและเซี่ยอันน่าต่างก็พากันปรึกษาและหาทางจัดการกับสองแม่ลูกนั่น

วิธีของซีซี อาจจะทำให้มองหน้ากันไม่ติดและเกลียดกันไปอีกตลอดชีวิต

แต่เซี่ยอันน่ากลับคิด

ถึงแม้ว่าป้าและลูกพี่ลูกน้องของเธอจะแย่มาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับแม่ก็ดีมาก

ถ้าพวกเขาถูกไล่ออกไปจริงๆ คงจะพูดจาให้เธออีกแน่ๆ

จากนั้นแม่ก็คงจะร้องห่มร้องไห้พูดเรื่องวันนั้น วันที่ป้าช่วยชีวิตแม่ขึ้นมาจากน้ำอีก

แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย ป้ากับลูกพี่ลูกน้องคงยิ่งแย่มากกว่านี้แน่

แล้วราจะทำอย่างไรดีที่จะไล่พวกเขา?

เซี่ยอันน่าขมวดคิ้วและคิดสักพัก แต่ไม่ได้คิดคำตอบ แต่กลับยิ่งทำให้เธอปวดหัวมากขึ้น

หลังอาหารค่ำ เซี่ยอันน่าก็กลับไปที่ห้องของเธอ เตรียมจะท่องบทเพราะพรุ่งนี้ต้องไปถ่ายงานแต่เช้า

แต่เมื่ออ่านบทได้เพียงครึ่งเดียว เธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของซีซี

ใจเธอตกไปอยู่ตาตุ่ม จากนั้นรีบวิ่งไปที่ห้องของซีซี

ที่หน้าประตูห้อง เซี่ยอันน่าเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอเดินผ่านไป

ระหว่างที่เซี่ยอันน่ายังไม่ได้สติ ซีซี ก็วิ่งออกไป

เธอกำคอเสื้อไว้แน่นและจับมือของเซี่ยอันน่า สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยหวาดกลัว

เซี่ยอันน่าถามว่า ”เกิดอะไรขึ้น?”

“เขาแอบมองฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า!”

อะไรนะ!?

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เซี่ยอันน่าก็โกรธมาก

“ซีซี เธอรอที่ห้องก่อนเดี๋ยวฉันจะจะไปสั่งสอนเขา!”

“อันน่าอย่านะ …”

เซี่ยอันน่าไม่ได้ฟังซีซี

เธอรีบตามหาตัวเขา

เมื่อผลักประตูเปิด เซี่ยอันน่าจ้องไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอที่กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาน่ากลัว

เขาลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกผิดและถามว่า ”อะ..อะไร?”

“อยู่ให้ห่างจากซีซี!”

และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นป้าก็เลือกที่จะมาปกป้องลูกชายและพูดกับเซี่ยอันน่าอย่างเข้มงวดว่า ”เซี่ยอันน่า แกตะโกนอะไร?”

“เขาแอบดูซีซีเปลี่ยนเสื้อผ้า!”

ป้าของฉันมองเธอสีขาวและพูดว่า ”มองก็เอาไปไม่ได้จะอะไรนักหนา”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ เซี่ยอันน่ารู้สึกหมดคำพูด

“ป้านี่มันเรื่องคุกคามผู้หญิง ป้ายังคิดว่ามันไม่มีอะไรอีกหรือ?”

ป้ากอดอก และถาม ”แล้วจะยังไง ให้พี่แกไปแต่งงานกับมันเลยไหม? ต่อไปพี่แกต้องได้เป็นคนใหญ่คนโต และต้องแต่งงานกับผู้หญิงสวยๆฐานะดีๆ ส่วนผู้หญิงประเภทนี้ ก็เอามาแค่เล่นๆเฉยๆแหละ”

เธอพูดด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง

เหลือเชื่อจริงๆ

เซี่ยอันน่าหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์และพูดว่า ”ฉันไม่สนใจว่าเขาจะแต่งงานกับใคร แต่เขาแอบดูซีซีและตอนนี้เขาต้องขอโทษ!”

“ทำไมต้องขอโทษ เพื่อนแกยั่วเขาเอง เขาเลยควบคุมตัวเองไม่อยู่ พูดไปพูดมา ก็ความผิดของนังนั่นนั่นแหละ!”

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset