วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – ตอนที่ 97 ปาร์ตี้วันเกิดของหนานกงเฮ่า

“ไม่ได้เตรียมของขวัญวันเกิดให้หนานกงเฮ่าเหรอ? ยังนอนบนเตียงแกล้งตายอีก? !” เย่ฉ่าวเฉินแค่นยิ้มพูดขึ้น

มู่เวยเวยสีหน้าเปลี่ยนไป สุดท้ายก็เข้าใจความหมายเขา รีบลุกขึ้นจากเตียง ถามขึ้น “นายจะพาฉันไปเตรียมของขวัญวันเกิดให้หนานกงเฮ่าไหม? ”

เย่ฉ่าวเฉินมุมปากยกขึ้น มุมปากยิ้มถากถาง แล้วพูดขึ้นอย่างเฉยเมย “เธอกำลังฝันหวานอยู่เหรอ? ! ฉันจะใจดีเตือนเธอให้นะ! ของขวัญวันเกิดเธอต้องไปเตรียมเอง!”

มู่เวยเวยกระตุกมุมปาก คำรามอย่างโหดเหี้ยม “เย่ฉ่าวเฉิน นายมันเป็นผู้ชายเลว!”

“เธอเพิ่งรู้เหรอ!”

“นาย!” มู่เวยเวยโกรธแทบตาย “นายอยากทำให้ฉันโกรธตายจริงๆ สินะ!”

……

ตระกูลหนานกงเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมือง A งานเลี้ยงอาหารค่ำวันเกิดหนานกงเฮ่าได้รับความสนใจจากโลกภายนอกอย่างแน่นอน ตามรายงานของสื่อระบุว่าสถานที่จัดงานวันเกิดหนานกงเฮ่าในครั้งนี้ ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะจัดขึ้นในโรงแรมหรูริมหาด

ตั้งแต่เช้าตรู่มู่เวยเวยนั่งรถตระกูลเย่รีบไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง นอกจากนี้ยังมีเย่ฉ่าวเฉินและเฉียวซินโยวที่แต่งตัวจัดเต็มก็มาร่วมด้วยในครั้งนี้

เย่ฉ่าวเฉินสวมชุดสูทสีดำล้วนตัดเย็บโดยแบรนด์อิตาลีระดับไฮเอนด์ กระดุมทองคำบริสุทธิ์เปล่งประกายหรูหรา ผมดำพิถีพิถัน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสงบนิ่งและยับยั้งชั่งใจ

ในทางกลับกันเฉียวซินโยว สวมชุดราตรียาวสีชมพูสวยบริสุทธิ์ แต่งหน้าสวยงามด้วยลิปสติกสีเดียวกัน ยิ่งแสดงความงามของ ‘สาวชมพู’ มากยิ่งขึ้น แค่รองเท้าส้นสูงสีดำคู่หนึ่ง ก็เพิ่มความเย็นชาให้เธอนิดหน่อย

สีหน้าเยือกเย็นของเฉียวซินโยวมองสำรวจมู่เวยเวย มุมปากยกขึ้นอย่างถากถาง ถามขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “นี่เธอซื้อชุดแชแนลปลอมมาจากร้านไหน? บอกฉันหน่อยสิ คราวหน้าถ้าฉันว่างก็ไปชอปปิ้งกัน!”

มู่เวยเวยทำหน้าเย็นชา ไม่อยากสนใจเธอสักนิด ที่ไม่สนใจไม่ใช่เพราะกลัวเธอ แต่เพราะอยู่ในงาน เธอไม่ละอายใจแต่เธอยังมีความละอายอยู่นะ

ก้มหน้ามองชุดสวยที่ออกแบบใหม่ด้วยตัวเอง ทันใดนั้นในใจก็เกิดความขุ่นเคือง

เมื่อวานเย่ฉ่าวเฉินฉีกชุดราตรีที่หนานกงเฮ่าให้เธอขาดเป็นสองท่อนต่อหน้าเธอ หลังจากเขาไปแล้ว มู่เวยเวยก็รีบร่างการออกแบบอย่างรวดเร็ว และแก้ไขงานในชั่วข้ามคืน

เธอใช้กลีบดอกลิลลี่ปกปิดบริเวณที่เย่ฉ่าวเฉินฉีกขาด หงส์ด้านบนมีขนเทียมเพิ่มเข้ามา ส่วนขนที่เหลือเธอเปลี่ยนไปอยู่บริเวณเท้า ส่วนที่ขาดบริเวณหน้าอก เธอเปลี่ยนเป็นเอวสูงทรง v ลึก

เมื่อเทียบกับรูปแบบสวยงามและค่อนข้างอนุรักษนิยมของก่อนหน้านี้ ตอนนี้ดูมีสไตล์และเรียบง่าย

เผชิญหน้ากับมู่เวยเวยที่หูหนวก ในใจเฉียวซินโยวก็เกิดความเย็นชา เธอกำลังอยากจะสั่งสอนเธอสักหน่อย ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงอ่อนโยนสง่างามของหนานกงเฮ่า

“เวยเวย เธอออกแบบชุดใหม่เหรอ? ”

สีหน้ามู่เวยเวยค่อนข้างรู้สึกผิด กังวลว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเธอไม่หวงแหนมัน แต่บอกเหตุผลที่แท้จริงไม่ได้ ทำได้แค่พูดขึ้นด้วยใบหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษนะ หนานกง ฉันแทบจะกลายเป็นโรคคันมือ มีเสื้อผ้าสวยๆ แล้วอยากจะลงมือทำด้วยตัวเอง”

หนานกงเฮ่าส่ายหน้า มุมปากยิ้มอ่อนโยนยิ่งขึ้น พูดขึ้นอย่างสดใส “สวยมาก สวยกว่าแบบก่อนหน้านี้อีก”

มู่เวยเวยหน้าแดงนิดหน่อย พูดขึ้นด้วยใบหน้าซาบซึ้ง “ขอบคุณที่ชมค่ะ”

เฉียวซินโยวมองดูการโต้ตอบทั้งสองคน ในใจก็พ่นหัวเราะ คิดอย่างไม่แยแส หนานกงเฮ่า นายปลอมมากกว่านี้อีกนิดได้ไหม?

แต่นี่เป็นการฉวยโอกาสหัวใจเธอ เธอกระวนกระวายอยากให้หนานกงเฮ่ารีบจีบมู่เวยเวย รีบส่งมอบตำแหน่งคุณหนูของตระกูลเย่ออกมา!

เฉียวซินโยวมองไปรอบๆ พบว่าเย่ฉ่าวเฉินกำลังคุยกับผู้ชายสองสามคนอยู่ ก็โล่งใจทันที เธอนึกว่า……

แต่เย่ฉ่าวเฉินให้ความสนใจกับสถานการณ์ทางนั้นอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เห็นหนานกงเฮ่าไปหามู่เวยเวย สีหน้าก็มืดมนทันที หลังจากพูดคุยกันไม่กี่คำ ก็ถือโอกาสเดินออกมา

“ฉ่าวเฉิน! ”

เฉียวซินโยวเห็นเย่ฉ่าวเฉินเดินมา ก็ควงแขนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยท่าทีรักใคร่ ไม่ได้สังเกตเลยว่าสีหน้าเย่ฉ่าวเฉินแข็งทื่อเล็กน้อย

มู่เวยเวยเห็นภาพนี้ สีหน้าไม่มีการตอบสนองใดๆ เธอเข้าใจความหมายของเฉียวซินโยวแน่นอน นอกจากอยากยั่วยุเธอแล้ว ก็อยากสร้างความเป็นเจ้าของให้คนอื่นเห็นอย่างเงียบๆ

น่าขำมาก ทั้งๆ ที่เธอเป็นภรรยาในนามของเย่ฉ่าวเฉิน!

แต่มู่เวยเวยไม่หงุดหงิด แค่เพราะเฉียวซินโยวสนใจ เธอก็ไม่เก็บมาใส่ใจ เธอทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย ใช้ความสามารถในการต่อสู้

สีหน้าหนานกงเฮ่าสงบนิ่ง เขายื่นมือขวาออกไปอย่างสุภาพบุรุษ ด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน ถามมู่เวยเวยที่อยู่ตรงหน้า “มู่เวยเวย ฉันไม่รู้ว่าตัวเองมีเกียรตินี้หรือเปล่า ช่วยเต้นรำกับฉันหน่อยได้ไหม? ”

เมื่อพูดออกไป สีหน้าเย่ฉ่าวเฉินก็มืดมนลงมาก ในใจเกิดความเย็นชา หนานกง นายจะประกาศสงครามกับฉันต่อสาธารณะเหรอ?!

มู่เวยเวยลังเลสักพัก กุมมือตัวเองเบาๆ แล้วพูดขึ้น “วันนี้นายเป็นเจ้าของวันเกิด ฉันปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว”

มุมปากหนานกงเฮ่ายกยิ้มอ่อนโยน จูงมือมู่เวยเวยเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำ มีท่วงทำนองไพเราะดังข้างหู ด้วยการขึ้นลงของจังหวะดนตรี ทั้งคู่ก็เต้นด้วยการเคลื่อนไหวที่ชำนาญ

เห็นมือหนานกงเฮ่าวางข้างเอวเธอ สีหน้าเย่ฉ่าวเฉินก็แพร่กระจายความเย็นยะเยือกออกมา ทำให้เฉียวซินโยวข้างกายตัวสั่น รู้สึกอุณหภูมิรอบตัวลดลงอย่างมาก

การแสดงออกของฉ่าวเฉินพิสูจน์ว่า ในใจเขาที่มีต่อมู่เวยเวยไม่ใช่ไม่แยแสเหรอ?

เฉียวซินโยวลุกลี้ลุกลนในใจ เธอบังคับตัวเองให้สงบลง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาเพ้อเจ้อของเธอ ตอนนี้เธอจะสับสนวุ่นวายไม่ได้!

“ฉ่าวเฉิน เราไปเต้นรำกันเถอะ!”

เฉียวซินโยวเงยหน้าหยาดเยิ้มขึ้น มองเย่ฉ่าวเฉินด้วยสีหน้าคาดหวังเต็มเปี่ยม ภาวนาสุดใจไม่ให้เขาปฏิเสธ

เย่ฉ่าวเฉินมองเธอเงียบๆ รู้สึกถึงความคาดหวังในใจเธอ ยื่นมือออกไปอย่างสง่างาม เดินตรงไปที่ฟลอร์เต้นรำโดยมีแขนโอบเอวเธออยู่

เฉียวซินโยวมีสีหน้าเขินอาย ในใจรู้สึกภูมิใจมาก เธอรู้ว่าคนที่อยู่ในงานวันนี้ล้วนเป็นบุคคลสำคัญ ตราบใดที่เธอทำผลงานได้ดี ต้องมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน

ชื่อของเธอจะเป็นฉลากติดบนตัวเย่ฉ่าวเฉินอย่างเป็นธรรมชาติ

เฉียวซินโยวตามฝีเท้าเย่ฉ่าวเฉินไป พยายามคล้อยตามฝีเท้าเขา เธอรู้สึกได้ว่ามีสายตาสืบเสาะมากขึ้นเรื่อยๆ ย้ายสายตามาที่พวกเขา แน่นอนว่ารวมถึงหนานกงเฮ่าและมู่เวยเวยด้วย

อย่างไรแล้วเย่ฉ่าวเฉินและหนานกงเฮ่าก็เป็นจุดสนใจในวันนี้ ในฐานะผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาก็ดึงดูดสายตาอย่างเป็นธรรมชาติ

มู่เวยเวยตามสเต็ปการเต้นของหนานกงเฮ่า ทั้งคู่หมุนกันอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าพื้นลื่นเกินไป หรือรองเท้าส้นสูงเธอสูงเกินไป มู่เวยเวยรู้สึกลื่น ร่างกายตามความเฉื่อยในการหมุน เคลื่อนตัวออกไปทางทิศตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง

สีหน้ามู่เวยเวยตึงเครียดนิดหน่อย ขณะที่เธอกังวลว่าจะไปชนคนอื่น จู่ๆ ก็มีคู่เต้นคู่หนึ่งปรากฏตรงหน้า ไม่คิดว่าจะเป็นเย่ฉ่าวเฉินและเฉียวซินโยว!

เธอรีบหยุดฝีเท้า ในตอนนี้รู้สึกบริเวณเอวมีมือใหญ่คู่หนึ่งโอบอยู่ จากนั้นมือคู่นั้นก็หล่นสู่อ้อมแขน มู่เวยเวยโล่งอกทันที กำลังจะขอบคุณ ก็เห็นใบหน้ายินดีปรีดาในความโชคร้ายคนอื่นของเย่ฉ่าวเฉิน

มู่เวยเวยอับอายอย่างมาก นึกขึ้นได้ว่าคู่เต้นเขาคือเฉียวซินโยวไม่ใช่เหรอ? แล้วเธอล่ะ?

มองไปรอบๆ ก็เห็นเฉียวซินโยวหมุนอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็อยู่ตรงหน้าหนานกงเฮ่า

“ทำไม? เต้นกับฉันมันทำให้เธอน้อยใจมากเหรอ?!” เย่ฉ่าวเฉินเห็นเธอมองไปทางหนานกงเฮ่า ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

มู่เวยเวยละสายตากลับมา สีหน้าดูเรียบง่ายอย่างมาก จงใจกดเสียงทุ้มแล้วพูดโต้กลับ “เย่ฉ่าวเฉินนายหุบปาก! ตอนนี้ฉันไม่อยากทะเลาะกับนาย ได้โปรดใส่ใจกับสถานที่ด้วย”

“หือ? ” สีหน้าเย่ฉ่าวเฉินเย็นชาลง น้ำเสียงมีความเคียดแค้นที่มองไม่เห็น “เธอเป็นห่วงหนานกงเฮ่าขนาดนี้เลยเหรอ? ! ถึงได้ปกป้องชื่อเสียงมันสุดชีวิตแบบนี้ อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับมันอีกขั้นใช่ไหม? !”

มู่เวยเวยพูดไม่ออกสุดขีด หางตาเหลือบมองเขา แล้วพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ “นายอย่าคิดสกปรกแบบนี้ได้ไหม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับหนานกงเฮ่า!”

“ไม่ได้เป็นอะไรแล้วมันให้ชุดราตรีสำหรับงานเลี้ยงโดยไม่มีเหตุผลเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรแล้วจะเลือกสไตล์เดียวกับชุดสูทมันเหรอ! มู่เวยเวย เธอมันไม่มีสมอง หรือแกล้งไม่รู้กันแน่!”

มู่เวยเวยอึ้งไป ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้จริงๆ พอเห็นชุดสูทชายแชแนลในซีรีส์เดียวกันบนตัวหนานกงเฮ่า ก็เพิ่งสังเกตได้ มันก็แค่ชุดแบบเดียวกันไม่ใช่เหรอ?

เขาถากถางเธอขนาดนี้เลยเหรอ? !

มู่เวยเวยยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ การแสดงออกโกรธเคืองอย่างอธิบายไม่ได้ พูดขึ้นอย่างเย็นชา “นายยังมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอ? ! นายกับเฉียวซินโยวก็ใส่แบบเดียวกันนี่? ! ทำไมไม่ว่าตัวเองก่อนล่ะ? ”

เธอสังเกตเห็นตั้งนานแล้ว ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไร ทั้งคู่กลิ้งบนเตียงเดียวกันแล้ว ตอนนี้สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันมันจะเป็นอะไรไป?

ไม่คิดว่าเธอไม่สนใจ แล้วเขายังมาหายใจรดตนอีก!

เห็นใบหน้าโกรธของเธอ มุมปากเย่ฉ่าวเฉินก็ยิ้มเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงติดตลก “เธอหึงเหรอ? โกรธขนาดนี้เลย? ”

มู่เวยเวยกลอกตาทันที พูดขึ้นอย่างดูถูก “ฉันไม่ชอบหึง”

“’ งั้นเธอชอบกินอะไร? ”

มู่เวยเวยคิดสักพัก แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “ฉันชอบกินหวาน”

เย่ฉ่าวเฉินพ่นหัวเราะ ค่อยๆ เข้าไปใกล้หน้าเล็กสวยงามของเธอ ถามขึ้นเบาๆ “รู้ไหมว่าฉันชอบกินอะไร? ”

มู่เวยเวยอึ้ง ถามขึ้นอย่างสงสัย “อะไร? ”

มุมปากเย่ฉ่าวเฉินกระตุก สายตาจ้องมองหน้าอกขาวเนียนของเธอ แล้วพูดขึ้นอย่างใจเย็น “ฉันชอบกินเธอไง”

ได้ยินเขาพูดจบ สีหน้ามู่เวยเวยก็กลายเป็นสีแดงเข้มทันที เธอรีบปิดปากเขา พูดด้วยใบหน้าอับอาย “เย่ฉ่าวเฉิน นายอย่าเล่นไม่รู้เวลา ถ้าคนอื่นได้ยินฉันตายแน่!”

เห็นสีหน้าร้อนใจและโกรธเคืองของเธอ เย่ฉ่าวเฉินก็เลียปาก ท่าทางเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

ไอ้ผู้ชายบัดซบนี่……

อีกด้านหนึ่ง เฉียวซินโยวเต้นกับหนานกงเฮ่าแค่ผิวเผิน หางตากลับมองสำรวจไปอีกด้านหนึ่งเป็นครั้งคราว สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

เมื่อครู่นี้เห็นมู่เวยเวยหมุนมาด้านหน้า เฉียวซินโยวอยากจะขัดขาเธอ ทำให้วันนี้เธอขายขี้หน้า ไม่คิดว่าตอนหมุน ด้านหลังโดนเย่ฉ่าวเฉินผลักไว้ ไม่คิดว่าจะหมุนไปทิศทางหนานกงเฮ่าจริงๆ

หมุนมาถึงหน้าเขา ก็โดนแขนหนานกงเฮ่าจับไว้ ในใจเธอก็เกิดความคิดแย่ๆ คู่เต้นของเธอกลายเป็นหนานกงเฮ่า แล้วมู่เวยเวยกับเย่ฉ่าวเฉิน……

อย่างที่คิดไว้ หันหน้าไปก็เห็นมู่เวยเวยโดนเย่ฉ่าวเฉินจับไว้ ทั้งคู่เต้นเพลงวอลซ์กันอย่างคุ้นเคย

สีหน้าหนานกงเฮ่าเย็นชานิดหน่อย มองเฉียวซินโยวที่ไม่ได้มีความคิดอยู่กับเขาเลยสักนิด ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กลั้นใจไว้ ถึงตอนนี้เธอจะมองวิตกแค่ไหน เย่ฉ่าวเฉินมันก็ไม่มองเธอหรอก”

เฉียวซินโยวที่ถูกเปิดเผยจิตใจ หน้าก็แดงทันที พูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างอึดอัด “ตอนแรกฉันจะใช้โอกาสนี้สร้างประเด็นความเห็นของผู้คนสักหน่อย ตอนนี้ความคิดแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว”

เพราะทั้งสองคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน รวมถึงมีความสัมพันธ์แบบ ‘ร่วมมือกัน’ เฉียวซินโยวจึงไม่ได้ปกปิดความคิดที่แท้จริงภายในใจ

หนานกงเฮ่าดูไม่ชัดเจน มองไปที่ทั้งสองคนที่อยู่ไม่ไกลแล้วพูดขึ้นเบาๆ “เธอรีบทำไม การแสดงในวันนี้ฉันเตรียมมันเรียบร้อยตั้งนานแล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วง มันมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการของเธอ”

พอเฉียวซินโยวได้ยิน ในใจก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที ถามขึ้นด้วยใบหน้าประหลาดใจ “นายพูดจริงเหรอ? การแสดงอะไร? นายอยากบอกฉันหน่อยไหม ฉันจะได้ร่วมมือเป็นอย่างดี”

หนานกงเฮ่าก้มหน้า เข้าใกล้ข้างหูเฉียวซินโยว แต่เห็นรอยยิ้มมุมปากเฉียวซินโยวกว้างขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งคู่เต้นต่อไปอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่ตอนนี้หัวใจเฉียวซินโยวตื่นเต้นนิดหน่อย เธอยิ่งคาดหวังเรื่อยๆ กับ ‘การแสดง’ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมความคิดของหนานกงเฮ่าอีกครั้ง

สื่อไว้ใจไม่ได้จริงๆ ต่างพูดว่าเขาเป็นคนนุ่มนวลธรรมดา แค่อาศัยเกียรติยศของวงศ์ตระกูล ถ้าให้คนรู้ว่าเขาฉลาดแกมโกงมากแค่ไหน พวกเขาอาจจะตบปากตัวเองก็ได้

บางทีอาจจะเป็นภาพลวงตาที่เขาจงใจสร้างขึ้นต่อหน้าสื่อ แล้วจุดประสงค์ของเขาคืออะไรล่ะ?

เฉียวซินโยวสงสัยอย่างมาก ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็เอ่ยปากถามขึ้น “พวกสื่อมักบรรยายว่าคุณชายหนานกงเจ้าชู้ มีใครรู้บ้างว่านายฉลาดแกมโกงขนาดนี้? ฉันอยากรู้มากว่าทำไมนายสร้างภาพลวงตาต่อหน้าสื่อ? ”

หนานกงเฮ่าไม่คิดว่าเธอจะถามแบบนี้ อึ้งไปนิดหน่อย คิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ฉันแค่ไม่อยากทำให้ใครบางคนตกใจ”

ใครบางคนแน่นอนว่าคือมู่เวยเวย

ภายในใจเฉียวซินโยวเกิดความเศร้า รู้สึกว่ามู่เวยเวยผู้หญิงคนนั้นโชคดีจริงๆ ได้ครอบครองผู้ชายชั้นนำสองคนติดต่อกัน

สิ่งที่หนานกงเฮ่าคิดไม่ถึงก็คือ ไม่ว่าเขาจะจริงใจแค่ไหนก็ตาม เมื่อวันหนึ่งใบหน้าที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผย เขาก็ไม่มีโชคชะตากับเธอแล้ว

เพราะสิ่งที่ทำให้เธอประทับใจคือความจริงใจ ไม่ใช่อาศัยวิธีการน่ารังเกียจ

เมื่อท่วงทำนองเพลงสิ้นสุด นักเต้นบนฟลอร์ทุกคนก็ทยอยปิดงาน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเพลงถัดไปโดยอัตโนมัติ มู่เวยเวยรู้สึกเหนื่อยล้านิดหน่อย พูดขึ้น “ฉันไม่อยากเต้นแล้ว ฉันอยากไปหาที่พักหน่อย”

สีหน้าเย่ฉ่าวเฉินสงบนิ่งมาก พูดเสียงทุ้ม “ในเมื่อไม่เต้นแล้ว งั้นเราไปหาที่นั่งพักสักหน่อย”

เรา?

มู่เวยเวยได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ชำเลืองมองโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดถึงเฉียวซินโยวที่กำลังเดินมาทางนี้ ก็พ่นหัวเราะ พูดขึ้น “คุณเฉียวมาแล้ว นายไม่ถามความเห็นเธอหน่อยเหรอ? ”

มู่เวยเวยยังพูดไม่ทันจบ เฉียวซินโยวก็ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ

เดินมาระหว่างกลางของทั้งสองคน จงใจเบียดตัวเธอออก มุมปากยิ้มอ่อนโยน พูดกับเย่ฉ่าวเฉิน “ฉ่าวเฉิน เมื่อกี้เรายังเต้นไม่จบเลยนะ? ”

มู่เวยเวยทำหน้าเรียบเฉย ไม่สนใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนอีก อยากหันตัวเดินออกไปทันที

และในตอนนี้……

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset