วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – 363 บาดเจ็บสาหัส

363 บาดเจ็บสาหัส

ฝนได้สาดลงมาอย่างไม่คิดชีวิต

จิ่งหนิงนั่งอยู่บนพื้น ตัวได้สั่นไปหมด

ผู้กำกับได้พาคนกลุ่มหนึ่งล้อมเข้ามา ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เธอเป็นไงบ้าง? ยังโอเคไหม?”

เธอพยักหน้า

“มือได้รับบาดเจ็บเหรอ? เร็ว! รีบพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!”

เรื่องหลังจากนั้น ที่จริงสติของจิ่งหนิงก็ได้เลื่อนรางแล้ว

เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็แค่รู้สึกว่าปวดหัวเอามากๆ ทุกคนต่างก็ได้เอาผ้ามามัดแผลที่มือของเธอ แต่เลือดก็ได้ไหลไม่หยุด เหมือนว่าจะไหลจนเลือดเธอหมดตัวยังไงอย่างงั้น

ไม่นาน เธอก็ได้สลบไป

ในเวลาเดียวกัน อีกด้าน

คฤหาสน์ตระกูลกวน

คุณท่านกวนดูป้าเสียง

ผมที่ได้ส่งไปสองชุด ได้ทำการตรวจDNAแล้วเรียบร้อย ผลการตรวจได้ส่งมาแล้ว

แต่ว่าผลตรวจนี้ กลับทำให้ทุกคนนั้นพากันประหลาดใจ

เพราะ ผลที่ได้นั้น ไม่ได้มีแค่จิ่งหนิงเป็นลูกสาวของกวนจี้หวั่น แต่จิ่งเสี่ยวหย่า ก็ยังมีสายเลือดของตระกูลกวนอยู่ด้วย

คราวนี้ คุณท่านกวนกับป้าเสียงงงไปเลย

คิดไม่ถึงเลยจริง ว่าผลจะเป็นแบบนี้?

เพราะว่ากวนจี้หวั่นได้เสียไปแล้ว เพราะงั้น ผลDNAที่เอาไปเป็นตัวอย่างนั้น นอกจากจิ่งเสี่ยวหย่ากับจิ่งหนิงแล้ว ก็ยังมีของคุณท่านกวน

ถึงแม้จะเป็นสายเลือดข้ามรุ่น แต่จากการตรวจอย่างละเอียด ก็สามารถที่จะตรวจออกมาได้

แต่ผลก็คือ จิ่งหนิงกับจิ่งเสี่ยวหย่า ต่างก็มีหนึ่งส่วนสี่ที่เป็นสายเลือดของตระกูลกวน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

คุณท่านกวนกับป้าเสียงก็ได้ตกอยู่ในความสับสนทั้งหมด

และแล้วเวลานี้ ก็ได้มีสายเรียกเข้า

กวนเสว่เฟยเป็นคนโทรเข้ามา บอกเรื่องที่จิ่งหนิงได้รับบาดเจ็บ คุณท่านกวนตกใจมากๆ ก็ได้ถามที่อยู่โรงพยาบาล แล้วก็รีบตามไป

และอีกด้าน ลู่จิ่งเซินก็ได้รับข่าวนี้แล้ว

ละครนั้นอานหนิงกั๋วจี้เป็นผู้ร่วมลงทุน ความสัมพันธ์ของจิ่งหนิงกับเขา ก็ได้ประกาศไปตั้งนานแล้ว

เพราะงั้น จิ่งหนิงพึ่งเกิดเรื่อง พวกโปรดิวเซอร์ก็ได้รีบโทรไปบอกเขา

ลู่จิ่งเซินนั้นรีบมาถึงก่อนคนแรก ตอนที่เขามาถึง จิ่งหนิงยังไม่ตื่น

จากการตรวจของคุณหมอ ก็พบว่าเธอไข้สูงถึงสามสิบเก้าจุดห้า โชคดีที่ได้ฉีดยาแล้ว ไข้ก็ได้ลดไป

และแผลบนมือ ก็เพราะว่าใช้แรงมากเกินไป เหล็กลวดก็เหมือนใบมีดที่คม ก็ได้บาดเข้าไปในมือ ส่วนสำคัญบนฝ่ามืออย่างเส้นเลือดใหญ่แล้วก็เอ็นทั้งสองต่างก็ได้รับบาดเจ็บ เพราะงั้นตอนนั้นเลือดก็ได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น

แผลแบบนี้ ไม่ใช้เวลาเดือนสองเดือน ไม่หายแน่ๆ

อีกอย่างต่อให้หาย แต่การใช้ชีวิตหลังจากนี้ก็เป็นผลไปด้วย อย่างเช่นออกแรงไม่ได้ ไม่สามารถที่จะยกของหนักๆ อะไรแบบนั้น

ยังมีอีกอย่างก็คือ ตอนที่เชือกสลิงของจิ่งหนิงได้ขาดนั้น ร่างกายของเธอกระแทกไปที ตัวคนนั้นได้ชนไปกับหุบเขา ก็ทำให้กระดูกระหว่างเอวได้รับบาดเจ็บไปด้วย

อาการบาดเจ็บพวกนี้มารวมกัน ก็ถือว่าสาหัสมากๆ

คนในกองถ่ายคิดไม่ถึง ว่าเธอจะโดนหนักแบบนี้ มองใบหน้าที่เครียดจัดของลู่จิ่งเซิน ใบหน้าราวกับจะกินคน ก็ได้กลัวจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปชั่วขณะ ขนาดหายใจแรงๆ ก็ไม่กล้า

ผู้กำกับโจวเหวินจางก็ได้พาคนของฝ่ายอุปกรณ์ เดินเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัว

“ประธานลู่ นี่เป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องอุปกรณ์การถ่ายทำวันนี้ แต่ว่าผมได้ถามพวกเขาไปแล้ว เครื่องสลิงที่จิ่งหนิงได้ใช้ ช่วงเช้ายังไม่เกิดปัญหาอะไร ช่วงบ่ายเธอใช้ก็ขาดแล้ว นี่ชัดเจนเลยครับว่ามีคนจงใจ น่าจะไม่เกี่ยวกับพวกเขา”

โจวเหวินจางอยากที่จะขอความเห็นใจให้กับทั้งสอง

ยังไงซะ เรื่องนี้ถ้าให้พูดขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ

ยังไงซะหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า คนอื่นใช้แล้วไม่เป็นอะไร ก็แค่ช่วงเวลาทานข้าวเที่ยวแค่นั้น ช่วงบ่ายจิ่งหนิงมาใช้ ก็เกิดปัญหาแล้ว

พวกเขาไม่สามารถที่จะเช็กก่อนที่จะให้คนอื่นใช้ในทุกๆ ครั้งได้ ปกติตอนที่จะเก็บของก็ได้เช็กด้วยกันทั้งหมด เพราะงั้นถึงได้มีช่องโหว่

แต่แล้วลู่จิ่งเซินในเวลานี้ ไม่สนอะไรพวกนั้น

สีหน้าของเขาได้เครียดอย่างน่ากลัวแล้วก็มองสองคนของฝ่ายอุปกรณ์ พูดอย่างเยือกเย็น “ซูมู่!”

ซูมู่ก็ได้รีบเดินเข้ามา

“ท่านประธาน”

“เอาตัวพวกเขาไป สืบสวนดีๆ!”

“ครับ!”

มองสองคนที่ถูกพาออกไปแบบนี้ โจวเหวินจางก็ได้เปิดปาก อยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป

ผ่านไปไม่นาน คุณท่านกวนก็ได้มาถึง

เขาได้พุ่งเข้า ก็ได้รีบถามว่า “หนิงหนิงล่ะ? เธอเป็นไงบ้าง?”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร

พอดีเลย หมอก็ได้ออกมาจากห้องผ่าตัด ก็ได้เดินตรงมาหาลู่จิ่งเซิน รายงานว่า “ประธานลู่ แผลที่มือได้เย็บเสร็จแล้ว แต่เส้นเลือดกับเอ็นก็ได้ขาดไป เวลานี้ สองมือของเธอทำอะไรไม่ได้เลยครับ โดยเฉพาะไม่สามารถที่จะยกของหนักได้ คุณต้องจำให้ดีๆ นะครับ”

โรงพยาบาลตระกูลลู่เป็นคนสร้าง แน่นอนว่าหมอรู้จักกับลู่จิ่งเซิน

สีหน้าของลู่จิ่งเซินก็ได้เครียดลงไป พยักหน้า

คุณท่านกวนอยู่ข้างๆ พอได้ยินว่าเส้นเลือดกับเอ็นได้ขาด ก็ได้ตกใจจนหน้าซีด ตาได้เหลือบ ก็เหมือนจะเป็นลม

โชคดีที่ป้าเสียงประคองไว้ทัน แล้วก็ได้เอายาให้เขาทาน ประคองเขาไปนั่งข้างๆ ถึงได้ดีขึ้นมาหน่อย

และลู่จิ่งเซิน ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะมาคิดแล้วว่าเขาทำไมถึงมาที่นี่ พอรู้ว่าตอนนี้เข้าไปเยี่ยมได้แล้ว ก็ได้รีบวิ่งเข้าไป

จิ่งหนิงก็ได้ส่งไปห้องพักคนไข้VIP

ในห้องสีขาวนั้น เธอได้นอนบนเตียงอย่างเงียบสงบ หลับตา ใบหน้าได้ซีดเอามากๆ

ลู่จิ่งเซินได้นั่งลงข้างๆ เธอ เปิดผ้าห่มออก มองแผลที่มือของเธอ

มือทั้งสองของเธอ ได้มีผ้าพันแผลพันอย่างหนา ที่จริงมองไม่เห็นบาดแผลแล้ว

แต่เขาก็ยังอยากจะมองดีๆ เหมือนว่าสามารถที่จะมองทะลุผ้าพันแผลได้ มองแผลเธอดีๆ

“พวกเธอขวางฉันทำไม? ไม่รู้จักฉันเหรอ? ให้ฉันเข้าไป!”

เสียงด่าของคุณท่านกวนก็ได้ดังมาจากข้างนอก

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว สุดท้ายก็ได้ลุกขึ้น แล้วเดินออกไป

“คุณปู่กวน ท่านมามีอะไรหรือเปล่าครับ?”

คุณท่านกวนเห็นเขา ก็ได้เก็บสีหน้าที่โกรธไป พูดอย่างจริงจัง “ฉันอยากจะไปดูหนิงหนิง”

สีหน้าของลู่จิ่งเซินได้นิ่งเครียด ไม่ค่อยน่าดู

“ขอโทษครับ เธอตอนนี้ต้องการพักผ่อน ไม่พบใครทั้งนั้น”

คุณท่านกวนสะอึก

เขาปรับอารมณ์ พอได้เจอกับสายตาที่กีดกั้นและเย็นชาของชายหนุ่ม ก็ได้เข้าใจเลยทันที

ก็ได้รีบอธิบาย “อาเซิน เราคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นคนทำใช่ไหม? ฉันแก่ขนาดนี้แล้วลงมือกับเธอทำไม เธอในสายตาของฉันนั้นก็เป็นแค่เด็ก!”

ลู่จิ่งเซินยิ้มอย่างเย็นชา

“เพื่อหลานสาวสุดที่รักของท่านแล้วนั้น เรื่องอะไรบ้างที่ท่านทำออกมาไม่ได้? หนิงหนิงพึ่งที่จะทำให้จิ่งเสี่ยวหย่าขายหน้าต่อสาธารณชน กลับมาก็ได้กลายเป็นแบบนี้ ท่านจะให้ผมไม่สงสัยในตัวท่าน เป็นไปได้เหรอครับ?”

คุณท่านกวน “……”

เขารู้ เวลาแบบนี้ต่อให้อธิบายยังไง ลู่จิ่งเซินก็ไม่มีทางเชื่อเขา

เพราะงั้น เขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจ

“ได้ เราไม่เชื่อฉันไม่เป็นไร ตาฉันอยากจะดูเธอจริงๆ ถ้าเราไม่ไว้ใจจริงๆล่ะก็ ก็ให้ฉันมองดูห่างๆ ที่ประตู แค่แป๊บเดียว ได้ไหม?”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset