วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 1018 มีคนในเป็นขโมย

เขาแนะนำทุกคนที่อยู่ในตอนนั้นให้กับภรรยาของตนทีละคนๆ

สุดท้าย ก็หันมามองทุกคน พร้อมกับพูดแนะนำขึ้นว่า:“ขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ท่านนี้คือภรรยาของผมอะเสียน”

จี้หลินยวนและหัวเหยารีบขเยิบเข้าไปข้างหน้า พลางพูดขึ้นอย่างมีมารยาทว่า:“คุณป้าซื่อ”

คุณนายเฉินดูแล้วน่าจะอายุราวๆสี่สิบกว่าปี อาจเป็นเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง และไม่ได้บำรุงรักษาตนเองสักเท่าไหร่ จึงทำให้ใบหน้าดูขาวซีดและซูบผอม แต่ก็สามารถดูออกว่าพื้นฐานไม่เลว อวัยวะทั้งห้าชวนมอง ตอนที่วัยรุ่นก็น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งเลยทีเดียว

หล่อนยิ้มอ่อนๆพลางพูดขึ้นว่า:“ข้างนอกหนาว มีเรื่องอะไร เข้าไปคุยข้างในกันดีกว่า”

ขณะที่พูด ก็ปลีกตัว แล้วให้พวกเขาเข้าไป

เมื่อคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปในบ้าน ฮีตเตอร์ก็ทำให้บรรยากาศภายในห้องอบอุ่นคุณนายเฉินสั่งให้คนรับใช้เข้ามาหยิบเสื้อผ้าของพวกเขา

จิ่งหนิงรวมทั้งคนกลุ่มนี้ เนื่องจากออกมาด้วยความรีบร้อน บนร่างกายของพวกเขายังคงใส่ชุดงานเลี้ยงอยู่ เพียงแต่คลุมทับด้วยเสื้อนอกเท่านั้น

แต่ดีที่อยู่ในบ้านอากาศอบอุ่น เมื่อถอดเสื้อคลุมภายนอกออกก็ไม่ทำให้รู้สึกหนาว ดังนั้นทุกคนต่างถอดเสื้อคลุมออก

เฉินซื่อโป๋ถามขึ้นด้วยความรีบร้อน:“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?แผ่นหยกชิ้นนั้นก็วางอยู่ที่บ้านดีๆไม่ใช่เหรอ?ทำไมอยู่ๆถึงได้หายไปล่ะ?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของคุณนายเฉินก็ไม่สู้ดีนัก

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ของที่อยู่ในบ้าน ปกติวางตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น และก็ไม่เคยมีใครไปแตะต้อง เมื่อสักครู่ที่คุณโทรมาหาฉัน ฉันก็เลยเปิดตู้เซฟดู ปรากฏว่าของชิ้นนั้นหายไปแล้ว”

สีหน้าของเฉินซื่อโป๋ขรึมลง

“พาผมไปดูหน่อย”

ดังนั้น คนกลุ่มหนึ่งจึงขึ้นไปที่ชั้นสอง

แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ชิ้นนั้น เดิมทีวางไว้ในตู้เซฟ

แม้ว่าในสายตาของเฉินซื่อโป๋มันอาจจะเป็นของปลอม แต่ว่านั้นหมายความว่ามันอาจจะเป็นเพียงแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ของปลอมเท่านั้น แต่บางทีมันอาจจะเป็นหยกชั้นดีก็ได้

ดังนั้นเฉินซื่อโป๋จึงนำมันใส่ไว้ในตู้เซฟและล็อคอย่างแน่นหนา

อีกทั้งตู้เซฟนี้ยังอยู่ในห้องนอนชั้นสอง

เมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงยังสถานที่จริง ก็เห็นเพียงตู้เซฟที่เปิดอยู่ ข้างในมีธนบัตรและเอกสาร รวมทั้งกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่ข้างๆ เมื่อเปิดกล่องออกมา พบว่าข้างในนั้นว่างเปล่า

เฉินซื่อโป๋รีบขเยิบเข้าไปข้างหน้า แล้วหยิบกล่องขึ้นมาดู

จิ่งหนิงถามขึ้นว่า:“ก่อนหน้านี้แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์นี้อยู่ในกล่องนี้ใช่ไหมคะ?”

เฉินซื่อโป๋พยักหน้า

สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก เขาพลิกกล่องกลับไปกลับมาหลายครั้ง จากนั้นก็ดูที่ตู้เซฟ พลางพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า:“ตอนที่คุณเปิดตู้เซฟออก กล่องก็เปิดออกแบบนี้เหรอ?”

คุณนายเฉินส่ายศีรษะ

“เปล่าค่ะ กล่องปิดอยู่ เดิมทีฉันคิดว่าของยังอยู่ในกล่องนั้น ขณะที่กำลังหยิบออกมาดู ตอนที่ถือกล่องอยู่ก็รู้สึกว่าน้ำหนักเบาลงไปมาก มีบางอย่างแปลกๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเปิดออก ก็พบว่าของไม่อยู่แล้ว”

สีหน้าของเฉินซื่อโป๋เคร่งขรึม

คุณนายเฉินกับเขาแต่งงานกันมาเกือบยี่สิบปี สามารถเชื่อใจได้อย่างแน่นอน แต่ว่าที่บ้านนอกจากพวกเขาสองคน โดยปกติแล้วคนรับใช้จะต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะเข้ามาในห้องนอนได้ แล้วของนั้นไปอยู่ที่ไหนล่ะ?

เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงหันไปมองกู้ซือเฉียน

“คุณกู้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ เดิมทีผมคิดว่าพอจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่ว่าตอนนี้ ……”

กู้ซือเฉียนยกมือขึ้นมา เพื่อขวางคำพูดประโยคข้างหลังของเขา

“ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมเชื่อในความหวังดีของเฉินซื่อโป๋ ตอนนี้ของก็หายไปแล้ว หากคนเต็มใจ พวกเราพร้อมที่จะช่วยคุณตามหาหยกกลับมา”

เฉินซื่อโป๋พยักหน้า

“ต้องเต็มใจอย่างแน่นอน แต่ว่า……หายังไงล่ะ?”

ทำธุรกิจเขาพอที่จะทำได้ แต่ว่าให้จับขโมย เขานั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย

กู้ซือเฉียนมองไปยังคุณนายเฉิน

“ได้นำของชิ้นนี้ไปใส่ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

คุณนายเฉินพูดขึ้นเสียงเบาว่า:“วางไว้ตั้งนานแล้ว หากต้องนับจริงๆ ก็น่าจะประมาณห้าปีที่แล้ว”

“วางไว้ที่นั้นตลอดโดยไม่มีการขยับเลยใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ครับ”เฉินซื่อโป๋พูดเสริมว่า:“พวกเราทำธุรกิจทุกหนทุกแห่ง และได้ซื้อบ้านไว้ในแต่ละพื้นที่ ที่นี่เป็นเพียงหลังหนึ่งเท่านั้น บางครั้งหากทำธุรกิจและต้องการอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน ก็จะพักอยู่ที่นี่ บางครั้งคิดถึงของชิ้นนี้ ก็จะหยิบออกมาดู แต่ว่าจำนวนครั้งก็ไม่ได้มากนัก”

“เฉินซื่อโป๋คุณยังจำได้ไหมว่าครั้งสุดท้ายที่คุณเห็นมันคือเมื่อไหร่?”

“ประมาณ……สามวันก่อน?”

เฉินซื่อโป๋ครุ่นคิด พลางพูดขึ้นอย่างลังเล:“เดิมทีผมคิดว่าจะนำมันมามอบเป็นของขวัญให้กับท่านย่าจิ้น แต่เมื่อคิดไปคิดมาเห็นว่ามันเป็นของปลอม เกรงว่าจะไม่เป็นมงคล ก็เลยไม่ได้นำไปมอบให้กับท่าน จึงวางกลับไปที่เดิม”

“แสดงว่า ของชิ้นนี้หายไปในระยะเวลาสามวัน ในคฤหาสน์หลังนี้นอกจากพวกคุณทั้งสองคนแล้ว มีใครเข้ามาอีกบ้างไหม?”

“ไม่มี”

ในครั้งนี้คุณนายเฉินเป็นคนเอ่ยปาก“ที่นี่ฉันอยู่กับเหล่าเฉินแค่สองคน ไม่มีลูกชายและไม่มีลูกสาว แน่นอนว่าคงไม่มีคนอื่นเข้ามา คนรับใช้ภายในบ้านส่วนใหญ่ก็จะอยู่แต่ชั้นบน ห้องนอนและห้องหนังสือที่อยู่ชั้นบน ฉันเป็นคนทำความสะอาดด้วยตนเอง ไม่มีคนนอกเข้ามาอย่างแน่นอน”

หัวเหยายิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“ถ้างั้นก็น่าแปลก ไม่มีคนเข้ามา แล้วของจะอันตรธานสูญหายไปได้ยังไง?”

“แน่นอนว่าคงไม่สามารถอันตรธานสูญหายไปได้”

กู้ซือเฉียนขเยิบเข้ามา ตรวจสอบตู้เซฟอย่างละเอียด พลางถามขึ้นว่า:“รหัสของตู้เซฟนี้ มีแค่พวกคุณสองคนเท่านั้นที่ทราบใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ ยังมีหลายชายของบ้านฝั่งแม่ เนื่องจากตู้เซฟหลังนี้เขาเป็นคนมาช่วยพวกเราติดตั้ง พวกเราทั้งสองไม่มีลูกชายและลูกสาว ก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกชายแม้ๆมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ได้ปิดบังเขา เพราะเกรงว่าหากเกิดอะไรที่ไม่คาดคิด อย่างน้อยเขาก็สามารถช่วยพวกเราจัดการได้”

กู้ซือเฉียนพยักหน้า เขาตรวจสอบตู้เซฟก่อน จากนั้นก็เดินไปข้างนอก พลางมองไปที่ประตูของห้องนอน

เฉียวฉีมองเขาด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

กู้ซือเฉียนถาม:“ตอนนี้หลานชายของคุณอยู่ที่ไหน?”

“อ่อ เขาไปร่วมงานวันเกิดของท่านย่าจิ้น”

“เขาก็ไปร่วมงานวันเกิดเหมือนกันเหรอครับ?”หัวเหยาประหลาดใจครู่หนึ่ง

“เขาชื่ออะไร?วันนี้ดูเหมือนว่าผมจะไม่เห็นคนแปลกหน้าเลยนะ”

เพราะถึงยังไงหล่อนก็ได้แต่งงานกับจี้หลินยวนมานานหลายปีแล้ว ญาติพี่น้องของตระกูลจิ้นไม่ว่าจะอายุมากมาย หล่อนก็เคยเจอหมดแล้ว หัวเหยาไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษอะไร คุณสมบัติพิเศษอย่างเดียวของหล่อนก็คือความจำดี

ไม่ต้องพูดหรอกว่าหล่อนจำชื่อของทุกคนได้ไหม แต่อย่างน้อยคนที่หล่อนเคยพบ หากเจอกันอีกครั้งหล่อนจำได้อย่างแน่นอน

คุณนายเฉินพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า:“ไม่เคยเห็นเหรอคะ?เป็นไปไม่ได้ เขาบอกกับฉันเองว่าเขาจะไป”

จี้หลินยวนถามขึ้นว่า:“ขอถามหน่อยนะครับ หลานชายของคุณชื่ออะไร?”

“เขาชื่อโจวฉือเจิน”

โจวฉือเจิน?

หัวเหยาและจี้หลินยวนมองหน้ากัน

เพราะยังไงถือว่าเป็นงานฉลองวันเกิด แขกที่มาร่วมงานทุกคนล้วนมีของขวัญมามอบให้

ตอนที่รับของขวัญ เพื่อสะดวกในการจดจำน้ำใจของคนที่มีต่อกัน จึงมักที่จะมีการจดบันทึกรายชื่อของแขก

ในฐานะที่จี้หลินยวนเป็นหลานเพียงคนเดียวของท่านย่าจิ้น แน่นอนว่าจะต้องเห็นใบรายชื่อนี้

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset