วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 103 มีความลับกับเขา

บทที่ 103 มีความลับกับเขา

“Seven! รอก่อน!”

จิ่งหนิงหยุดเดิน

พร้อมกับหันไปมองยังต้นเสียง

“มีอะไรอีก”

ตาKลังเลอยู่ชั้วขณะ แล้วพูดว่า:“เมื่อเร็วๆนี้ ภายในของกลุ่มมังกรกำลังกระสับกระส่าย มีคนมากมายกำลังตามหาคุณอย่างลับ ๆ คุณควรระวังตัวไว้! ”

จิ่งหนิงผงะไปชั่วครู่

ชั่วขณะนั้น เธอจึงยิ้มออกมา

“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”

ตาK ยิ้มตอบ

“ในฐานะเพื่อนเก่าเพียงสองคนที่ฉันรู้จัก ฉันจึงอยากเตือนคุณด้วยความเป็นห่วง ไม่ต้องขอบใจหรอก”

จิ่งหนิงพยักหน้ารับ ไม่พูดอะไรต่อ และเดินจากไป

ภายในรถยนต์โรลส์-รอยซ์

ซูมู่มองไปยังคนทั้งสองที่เดินออกจากกัน บริเวณประตูร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกล เขามีความรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เขาหันกลับไปมองสีหน้าของเจ้านายตนเอง และถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า:“ท่านประธาน พวกเราควรจะลงไปไหมครับ?”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว จ้องมองดูเงาของร่างเล็กที่ค่อย ๆ เลือนหายไปในแสงอาทิตย์ยามเย็น

หลังจากนั้นสักครู่ เขาจึงพูดว่า:“ไม่จำเป็นแล้ว”

หลังจากพูดจบ ประตูรถก็ปิดลงอีกครั้ง และรถยนต์โรลส์-รอยซ์ก็ขับออกจากริมถนน

เป็นเพราะมุมที่จิ่งหนิงอยู่ ทำให้เธอไม่เห็นรถยนต์โรลส์-รอยซ์ที่จอดอยู่อีกด้าน

หลังจากที่เธอขึ้นรถแล้ว เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากลู่จิ่งเซิน

น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความเย็นชา ถามขึ้นว่า:“คุณอยู่ที่ไหน?”

จิ่งหนิงเลิกคิ้วขึ้น ขณะมองไปยังฝูงชนรอบตัว และพูดด้วยเสียงเบาว่า “อยู่ที่บริษัท มีอะไรหรือเปล่า?”

การหายใจของอีกฝ่ายชะงักลงชั่วครู่

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม จิ่งหนิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เธอมองไปทางซ้ายและขวาอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าไม่มีใบหน้าหรือรถที่คุ้นเคย นี่จึงทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย

แล้วรีบถามต่อว่า:“คุณเลิกงานหรือยัง?”

“ยัง”

“งั้น…คุณก็ตั้งใจทำงานนะ เจอกันคืนนี้?”

“ได้ เจอกันคืนนี้”

หลังจากวางสาย จิ่งหนิงจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

เมื่อมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งดับไปได้ไม่นาน เธอก็หัวเราะกับตัวเองสักพัก

แล้วตอนนี้เธอกำลังรู้สึกผิดกับอะไรอยู่?

ผู้ชายคนนั้น ก็ไม่ใช่สามีที่แท้จริงของเธอ

แค่ได้หลับนอนด้วยกันเพียงครั้งสองครั้งแล้วอย่างไร?แค่มีทะเบียนสมรสร่วมกันแล้วอย่างไร?

เขาก็ปกปิดบางอย่างจากเธอด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรือ? แล้วทำเธอต้องซื่อสัตย์และจริงใจกับเขาด้วย?

จิ่งหนิงพยายามเกลี้ยกล่อมตัวเอง เธอใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ในการระงับความรู้สึกกังวลและความรู้สึกผิดนี้ลง

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ลู่จิ่งเซินวางสายโทรศัพท์ เขานึกถึงเงาของร่างเล็กที่เห็นบริเวณทางเข้าร้านกาแฟเมื่อครู่ และนึกถึงคำโกหกที่ผู้หญิงคนนั้นพูดผ่านโทรศัพท์อย่างเรียบง่าย นัยน์ตาของเขาแสดงความเย็นชาขึ้นเล็กน้อย

เขาหัวเราะอย่างเยือกเย็น และบอกกับซูมู่

“ไปตรวจสอบ ว่าคนเมื่อครู่นี้เป็นใคร”

ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความ ซูมู่ก็รู้ได้ว่า “เขา” ที่เจ้านายของตนเองหมายถึงคือใคร

เขารีบตอบรับอย่างรวดเร็ว

ในตอนกลางคืน เมื่อกลับถึงบ้าน ลู่จิ่งเซินก็อยู่ที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่จิ่งหนิงเข้าประตูไป ป้าหลิวก็เข้ามาทักทายเธอ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“นายหญิงกลับมาแล้ว และอาหารมื้อเย็นก็พร้อมแล้ว นายท่านกำลังรอคุณอยู่ที่ห้องอาหารค่ะ!”

จิ่งหนิงพยักหน้า และเดินเข้าไปภายในห้องครัว

ในห้องอาหาร ลู่จิ่งเซินสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เขานั่งยืดตรงพร้อมกับจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่

ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปสลัก ดวงตาเปรียบดั่งเกล็ดน้ำค้างอันแหลมคม

เมื่อเห็นเธอเข้ามา เขาเพียงแค่ยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย และเงียบไป

จิ่งหนิงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในบรรยากาศวันนี้ เธอเหลือบมองไปยังป้าหลิวที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่จิ่งเซิน ที่พยายามส่งสายตาให้เธออย่างเป็นนัย

วันนี้คุณชายอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้ทุกคนกำลังทำตามหน้าที่อย่างหวาดหวั่น!

จิ่งหนิงเข้าใจดี และหลังจากนั่งลงแล้ว เธอจึงยิ้มและถามเขาว่า“ช่วงนี้ยุ่งมากหรือ? เหนื่อยมากหรือเปล่า?”

ลู่จิ่งเซินไม่ตอบ

เขามีใบหน้าเย็นชา อันที่จริงไม่จำเป็นต้องให้ป้าหลิวพูด คนธรรมดาที่ตาไม่บอดก็สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้อารมณ์ไม่ดี

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือ ตามนิสัยสุขุมของชายผู้นี้ มักจะไม่แสดงอารมณ์ของเขาออกมา น้อยมากที่จะแสดงอาการผ่านทางสีหน้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการระบายความโกรธต่อหน้าคนรับใช้

วันนี้เขากลับแสดงความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน…

จิ่งหนิงกลอกตาเล็กน้อย เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

เธอหัวเราะออกมาเงียบ ๆ แล้วถามว่า “อารมณ์ไม่ดีหรือ?เกิดอะไรขึ้นที่บริษัท?”

ในที่สุดลู่จิ่งเซินก็มองเธออย่างจริงจัง

ไม่มองตายังดีกว่า ดวงตาคู่นั้น จ้องมองจนทำให้จิ่งหนิงกลับรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ดวงตาของชายคนนั้นทะลุทะลวงมาก ราวกับว่ากำลังทะลุผ่านดวงตา และความคิดของเธอ

จิ่งหนิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย จึงค่อย ๆ เบนสายตาออกไป และฟังเขาถาม:“บ่ายนี้คุณไปไหนมา?”

จิ่งหนิงสะอึกในใจ

เธอพยายามสงบจิตใจของตัวเอง มองไปที่เขา แล้วพูดอย่างแผ่วเบาว่า:“คุณถามคำถามนี้เพื่ออะไร?”

“ตาK นักสืบเอกชนใต้ดินที่มีชื่อเสียง มีทักษะที่ยอดเยี่ยม รู้จักผู้คนมากมาย และเป็นที่รู้จักโดยเฉพาะในเมืองจิ้น คุณไปหาเขาทำไม?”

จิ่งหนิงตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อ รายละเอียดการพบกันของเธอกับตาK ก็แวบเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ไม่เห็นว่ามันผิดปกติตรงไหน เธอขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้

“คุณตามดูฉันหรือ?โม่หนาน?”

ลู่จิ่งเซินหัวเราะอย่างเยือกเย็น

“คุณสามารถไปถามโม่หนานได้ ว่าฉันได้บอกให้หล่อนตามดูคุณหรือเปล่า?”

จิ่งหนิง:“…”

จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อวันนี้ตอนบ่ายที่เธอออกไปหา ตาK เธอได้เบี่ยงเบนความสนใจของโม่หนานไว้แล้ว

หล่อนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะออกไปร้านกาแฟ แต่อาจจะไม่รู้ว่าเธอไปพบกับใคร

พอคิดได้ดังนี้ จิ่งหนิงก็มองไปยังลู่จิ่งเซินอีกครั้ง ดวงตาฉายแววสำรวจอย่างห้ามไม่ได้

“งั้น ตอนนี้คุณกำลังถามฉันอยู่สินะ?”

“ในฐานะสามี เมื่อถูกภรรยาของตนเองหลอกลวง จะถามสักสองสามคำถามไม่ได้หรืออย่างไร”

จิ่งหนิงยิ้มเย็น

“ถ้าในสายตาของคุณ สามีและภรรยาควรที่ปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างจริงใจและไม่ปิดบังต่อกันและกัน สิ่งนี้ขอรบกวนคุณชายลู่จิ่งเซินทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยพูด”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็รู้สึกว่าคืนนี้เธอไม่มีความรู้สึกอยากอาหารแล้ว วางตะเกียบลงและเตรียมที่จะลุกออกไป แต่กลับถูกลู่จิ่งเซินหยุดไว้

“หยุดอยู่ตรงนั้น!”

จิ่งหนิงหยุด ขมวดคิ้วและมองไปที่เขา

“หมายความว่าไง พูดมาให้ชัด!”

จิ่งหนิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น

ความคับแค้นใจและความโกรธที่ถูกเก็บกดมาตลอดทั้งวันปะทุขึ้นในทันที“หมายความว่าอย่างไรคุณไม่เข้าใจหรือ?ความสัมพันธ์ของคุณกับคู่หมั้นคนนั้น และยังลูกของคุณ ในความคิดของคุณแล้ว ฉันในฐานะภรรยา ควรมีสิทธิ์รู้ด้วยใช่หรือไม่?”

ภายในชั่วพริบตาก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมภายในห้องอาหารทันที

เสียงอีกาเงียบลง แทบจะได้ยินเสียงเมื่อเข็มกระทบพื้น

ดวงตาของคนรับใช้เบิกกว้างขึ้น ทุกคนต่างอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก ด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

ดูเหมือนว่าในขณะนั้น แม้จังหวะหายใจทั้งหมดจะหยุดชะงักลง แต่พวกเขาก็แอบชื่นชมในความกล้าหาญของจิ่งหนิง!

พวกเขาไม่เคยเห็นใครกล้าต่อกรกับนายท่านมาก่อน นายหญิงคือคนแรก!

นายท่าน … คงไม่โกรธหรอกมั้ง!

หันหน้าไปมองลู่จิ่งเฉิน เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขามืดมัวลง และความเย็นแผ่ออกมารอบกาย แทบจะทำให้คนแข็งตายได้

มันจบแล้ว!

นายท่านโกรธแล้ว ทำอย่างไรกันดี?

ก่อนที่คนรับใช้จะได้ทำอะไร ลู่จิ่งเซินก็กล่าวด้วยเสียงเย็นเยียบ“พวกเธอออกไปให้หมด!”

ทุกคนมองหน้ากัน และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที พวกเขาก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

จิ่งหนิงยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองเขาอย่างเย็นชา

ในใจของเธอเกิดความรู้สึกเสียใจที่พูดแบบนั้นออกไป

ก็บอกไปแล้วว่าไม่สนใจ ทำไมตอนนั้น ต้องโกรธมากขนาดนี้ด้วย?

ท้ายที่สุดเธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้จนถามเขาออกไปตามตรง!

ถ้าผลลัพธ์เป็นอย่างที่เธอได้ฟังมา เมื่อเวลามาถึงเธอควรจะจัดการอย่างไร?

คิดไปแล้วก็พาลให้รู้สึกเสียหน้า!

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset