วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 111 ชูยีตายแล้ว

บทที่ 111 ชูยีตายแล้ว

หัวจิ้งเจ๋อสีหน้าอึมครึม ตบโต๊ะอย่างรุนแรง

“อย่าสร้างปัญหา! ไม่แต่งกับคุณชายยู่ แล้วแกจะแต่งกับใคร? อันธพาลเสเพลสกุลจี้คนนั้นน่ะเหรอ?”

หัวเหยาขมวดคิ้ว

อยากจะอธิบายอะไร แต่ความเจ็บปวดเล็กๆในใจ สุดท้ายยังคงทำให้เธอไม่พูดออกไป

ชั่วครู่ เสียงทุ้มๆพูดขึ้น: “พ่อสบายใจได้ หนูก็ไม่แต่งกับเขาหรอก”

เธอกับเขา……เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว

ผู้ชายคนนั้นเกลียดเธอเข้ากระดูก แค่ได้พบเธอสักครู่ก็ตีตัวออกห่างแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะแต่งงานกับเธอ?

หัวเหยาฝืนความเจ็บปวดในแววตา พูดต่อ: “ตอนนี้หนูแค่อยากจะถ่ายละครให้เต็มที่ ไม่คิดเรื่องอื่นทั้งนั้น แล้วตอนนี้หนูก็อายุยังน้อย เรื่องการแต่งงาน อีกสักกี่ปีค่อยว่ากันใหม่!”

พูดจบ ก็หมุนตัวเดินขึ้นข้างบน

หัวจิ้งเจ๋อเห็นท่าทางนี้ของเธอ ก็เดือดดาลขึ้นมาทันที

เขาพุ่งขึ้นไปข้างบนแล้วขู่ออกมา: “ถ้าฉันรู้ว่าแกยังไปพบกับสกุลจี้คนนั้นอีก ฉันจะหักขาของแก! ไม่เชื่อก็ลองดู!”

……

ช่วงปีใหม่ ลู่จิ่งเซินกับจิ่งหนิงต่างก็หยุด

อยู่ในเมืองจิ้นก็ไม่มีอะไรทำ ทั้งสองคนจึงตัดสินใจไปพักผ่อนที่ภาคใต้

แต่คิดไม่ถึง ก่อนที่จะออกไปหนึ่งชั่วโมง จู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากเมืองหลวง

นายท่านลู่ป่วยหนัก เช้าวันนี้ก็โดนเข็นเข้าไปช่วยชีวิตในห้องฉุกเฉินแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร สีหน้าของลู่จิ่งเซินเปลี่ยนไปทันที ภายใต้สถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ แผนการท่องเที่ยวทำได้เพียงหยุดเอาไว้ก่อนชั่วคราว ให้เขากลับไปดูสถานการณ์ของนายท่านก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

จิ่งหนิงกลับไม่มีความเห็น อย่างไรก็ตามเธอเองก็ไม่ได้หลงใหลในการท่องเที่ยวขนาดนั้นอยู่แล้ว และอีกฝ่ายอันที่จริงก็เป็นปู่ของลู่จิ่งเซิน จะอย่างไร สุขภาพของคนเฒ่าคนแก่ก็สำคัญที่สุด

หลังจากลู่จิ่งเซินกลับไป จิ่งหนิงอยู่ในบ้านก็เบื่อมากๆ จึงถือโอกาสทำงานเสียเลย

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงของอานหนิงกั๋วจี้หรือซิงฮุย ต่างก็ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โตเกิดขึ้น อันที่จริงอยู่ในช่วงปีใหม่ ทุกคนราวกับค่อนข้างเก็บตัวอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย

จิ่งหนิงชอบที่จะอยู่อย่างเงียบสงบสบายๆ แล้วก็หาตัวอย่างวิทยานิพนธ์ของแต่ก่อนออกมาวิเคราะห์ ราวกับว่าทำเพื่อฆ่าเวลา

บ่ายวันนี้ เธอกำลังขดตัวดูเอกสารอยู่บนโซฟา จู่ๆเสี่ยวเหอก็โทรเข้ามา

วันนี้เพิ่งจะวันที่สาม ตามหลักแล้ว ยังเหลืออีกสองวันถึงจะทำงาน

เสี่ยวเหอโทรมาตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร

จิ่งหนิงรับโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของเสี่ยวเหอ “พี่หนิงหนิง ตอนนี้พี่ว่างหรือเปล่าคะ? สะดวกมาบริษัทสักหน่อยไหม?”

จิ่งหนิงตกตะลึง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เรื่องน่ายินดีค่ะ! มีบุคคลที่มีอิทธิพลมีชื่อเสียงโด่งดังถูกใจบริษัทของพวกเรา อยากจะเซ็นสัญญากับพวกเราค่ะ”

จิ่งหนิงตะลึงงัน

ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจในตนเอง จริงๆแล้วตอนนี้ซิงฮุยเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน พละกำลังมีขีดจำกัดจริงๆ บุคคลที่มีอิทธิพลมีชื่อเสียงโด่งดังที่ไหนจะมาเซ็นสัญญากับที่นี่ของเธอได้?

แม้ในใจจะคิดอย่างนี้ แต่ร่างกายเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

พลางเดินขึ้นข้างบนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็พลางถามไปด้วย: “ใครเหรอ?”

“พี่มาแล้วก็รู้เองค่ะ”

เสี่ยวเหอจงใจทำให้สงสัย แล้วก็วางสายไป

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว รู้สึกค่อนข้างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ขับรถไปบริษัท

ช่วงปีใหม่ ภายในบริษัทไม่มีคนอยู่แล้ว

ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสิบหก อยู่ไกลๆก็ได้ยินเสียงดีอกดีใจของเสี่ยวเหอจากในห้องทำงานแล้ว คงจะกำลังทักทายแขกอยู่

จิ่งหนิงก้าวเข้าไป

“นายหลิน คุณดูสิคะ นี่เป็นวิดีโอกิจกรรมของบริษัทพวกเราก่อนหน้านี้ แม้ตอนนี้ขนาดของพวกเราจะยังเล็กอยู่ แต่พวกเราอิงจากอานหนิงกั๋วจี้ ก็ยังพอมีพละกำลังนะคะ เพียงแค่คุณยินยอมที่จะเซ็นสัญญากับบริษัทของพวกเรา พวกเรารับประกันเลยว่าจะให้ค่าตอบแทนที่ดีที่สุดแก่คุณ”

แล้วเสียงที่โอหังอวดดีก็ดังขึ้น

“เฮอะ! ถ้าพวกเราขาดเงิน จะมาบริษัทที่ขาดทุนของพวกคุณเหรอ? ไปอานหนิงกั๋วจี้โดยตรงก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือว่าพวกเขาก็จะไม่ให้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับพี่เทียนอีก?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวเหอชะงักงัน

บนเวทีธุรกิจ เรื่องบางเรื่องเก็บไว้ในใจก็พอไม่ควรพูดออกมา พูดจาอย่างนี้ ต่อไปจะคุยกันอย่างไร?

ขณะที่กำลังลำบากใจ เสียงรองเท้าส้นสูง “ต๊อกๆ” บนพื้นลอยเข้ามาจากด้านนอก

เสี่ยวเหอดวงตาเป็นประกาย รีบวิ่งไปที่ประตู อย่างที่คิดเอาไว้เห็นจิ่งหนิงแล้ว

“พี่หนิงหนิง พี่มาแล้ว!”

จิ่งหนิงพยักหน้า สายตาเย็นชาชำเลืองไปมองด้านข้าง ก็เห็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา

ฝีเท้าชะงักงัน

“พี่หนิงหนิง ฉันจะแนะนำให้พวกคุณสักหน่อยนะคะ ท่านนี้คือหลินเทียน นายหลิน เธอเป็นเจ้าของบริษัทของพวกฉันค่ะ จิ่งหนิง”

ผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมามอง

ปรากฏใบหน้าของคนที่หลงใหลในความสวยงามราวกับปีศาจอย่างเต็มที่

แม้ว่าหลินเทียนจะเคยเจอมาหลายครั้งแล้ว แต่ได้เห็นใบหน้านี้อีกครั้งอย่างกะทันหัน ก็ยังอดใจไม่ไหวที่จะโดนความงดงามนี้ดึงดูดเอาไว้

อวัยวะทั้งห้างดงามจนไร้ที่ติ โครงหน้าเล็กๆที่สบายตา ผมยุ่งๆเล็กน้อยบนหน้าผาก หางตากระดกขึ้นนิดหน่อย แค่สายตาที่มองคนอื่นอย่างไม่สนใจไยดี ก็ราวกับประกอบไปด้วยความรักเพียงเล็กน้อย ทำให้ใจคนเต้นเร็วมากขึ้น

เธออดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ครู่หนึ่ง จึงหาเสียงของตนเองเจอ

“หลินเทียน ทำไมถึงเป็นนาย?”

หลินเทียนยืนขึ้นจากโซฟายิ้มดีใจ

“เสี่ยวหนิงหนิง พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”

เสี่ยวเหอ: ????

“พี่หนิงหนิง พวกคุณรู้จักกันเหรอคะ?”

จิ่งหนิงยกมุมปากขึ้นอย่างไม่จริงใจ

รู้จัก! จะไม่รู้จักได้อย่างไร?

แต่ถ้าเธอเลือกได้ เธอยอมที่จะไม่รู้จักเจ้าคนซื่อบื้อนี่ดีกว่า!

เธอหันไปพูดกับเสี่ยวเหอ: “เธอออกไปก่อนเถอะ ตรงนี้ไม่มีงานของเธอแล้ว”

เสี่ยวเหอค่อนข้างสงสัย

สายตามองไปมองมาระหว่างทั้งสองคน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร ออกไปอย่างเชื่อฟัง

หลินเทียนก็โบกมือให้ผู้จัดการที่อยู่ด้านหลัง “Bob นายก็ออกไปข้างนอก”

ผู้จัดการยังไม่ค่อยยินยอม โดนหลินเทียนถลึงตาใส่ จึงยอมเดินออกไป

รอให้ทุกคนออกไปหมดแล้ว ในห้องจึงเหลือเพียงจิ่งหนิงและหลินเทียนสองคน ตอนนี้เธอจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ กอดอกขึ้น

“ว่ามา! นายมาหาฉันมีเรื่องอะไร?”

หลินเทียนเลิกคิ้วมองเธอ

เขาหน้าตาดีเหลือเกิน ในฐานะที่เป็นคนเอเชียศิลปินชายน้อยนักที่จะโด่งดังไปทั่วโลก ใบหน้าที่แทบจะบอกได้ว่าไม่ว่าคนแก่หรือเด็กก็ชอบกันทั้งนั้น สาวน้อยมากมายหลงใหลคลั่งไคล้

รวมไปถึงกระแสนิยมศิลปินดาราของตอนนี้ไม่เหมือนเดิม ความสามารถในการทำงานของเขาก็สุดยอดมาก เพิ่งจะยี่สิบกว่าปี ก็ออกมาแปดอัลบั้มแล้ว ทุกอัลบั้มก็ขายไปทั่วโลก เพลงฮิตในนั้นก็มากมายนับไม่ถ้วน

เป็นศิลปินที่มีทั้งพรสวรรค์และรูปโฉมงดงาม ไม่มีใครไม่ชอบ

แต่สิ่งที่ทุกคนต่างไม่รู้ก็คือ รูปลักษณ์ภายนอกของชายหนุ่มคนนี้ที่ดูเหมือนปีศาจที่ดึงดูดคน เมื่อโยนวงแหวนที่เป็นศิลปินทิ้งไป ยังคงเป็นผู้ดูแลสาขาสโมสรรถแข่งใต้ดินที่ทรงพลังมากอีกคนหนึ่งด้วย

“Seven เธอพูดอย่างนี้ ก็เป็นคนอื่นคนไกลแล้วนะ ไม่ว่าอย่างไรก็เคยเป็นเพื่อนร่วมรบแบกรับหน้าที่ทำสงครามมาด้วยกันนะ ฉันมาตามหาเธอตั้งไกล จะมีท่าทีอย่างนี้กับฉันงั้นเหรอ?”

หลินเทียนพูดไป แล้วก็จับหน้าอกทำท่าทางปวดใจไปด้วย

จิ่งหนิงมองค้อนใส่เขา

ไม่มีความอดทนที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับเขา หมุนตัวจะออกไป

“จะพูดก็พูด ไม่พูดฉันไปก่อนนะ!”

“เฮ้ อย่าสิ!”

หลินเทียนดึงเธอเอาไว้ ภายใต้สายตาที่เบื่อหน่ายของจิ่งหนิง สีหน้าก็หม่นหมองขึ้นมา

“ชูยีตายแล้ว”

“อะไรนะ?”

กลุ่มมังกรเป็นสโมสรแข่งรถใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศF ตามที่เล่าลือกันมามีคนจีนเป็นผู้ก่อตั้ง ภายในมีสมาชิกมากมายแล้วก็เป็นคนจีนทั้งหมด

แต่ก่อนตอนที่จิ่งหนิงอยู่ต่างประเทศ เพื่อจะเอาชีวิตรอด จึงได้มาเป็นสมาชิกของพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset