วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 12 คุณนายลู่ในอนาคต

บทที่ 12 คุณนายลู่ในอนาคต

ลู่จิ่งเซิน หันหน้ามา ในที่สุดสายตาก็ตกอยู่บนใบหน้าเธอ

ผู้หญิงตัวเล็กที่สวมใส่เสื้อคลุมสีครีมทั้งตัว ยังเป็นลักษณะที่สะอาดสดใสแบบนั้นเช่นเดิม เพียงแค่นัยน์ตาลึกๆดูเหมือนมีอารมณ์ที่โศกเศร้าเล็กน้อยยังไม่ได้จางหายไปหมด ถูกเขาจับได้ด้วยความฉลาดหลักแหลม

สายตาเขาลึกเล็กน้อย กลับไม่ได้พูดอะไรเลย แค่พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกเล็กน้อย

“อืม ดื่มไปเล็กน้อย”

จิ่งหนิง ฝืนยิ้มหนึ่งที

ผู้ชายช่างพูดโกหกเป็นจริงๆ ได้กลิ่นความเข้มข้นของแอลกอฮอล์นี้ แค่ดื่มไปเล็กน้อยที่ไหนล่ะ?

เห็นได้ชัดว่าดื่มไปอย่างมาก!

แต่จุดยืนของเธอก็เกรงใจที่จะเป็นห่วงเขา ดังนั้นจึงเม้มปากไม่พูดอะไรอีกเลย

ซูมู่ หันหน้ามายิ้มเบิกบานถามเธอว่า “คุณหนูจิ่ง คุณพักอยู่ที่ไหน?”

จิ่งหนิง บอกที่อยู่ไปที่หนึ่ง ซูมู่ พิมพ์ข้อมูลเข้าจีพีเอสนำทาง จากนั้นจึงสตาร์ทรถ

ในรถเงียบสนิทไปหมด นิ้วมือสองข้างของ จิ่งหนิง สอดทับกันวางอยู่บนขา หันหน้าไปยังข้างนอกหน้าต่าง

อาจจะเป็นเพราะสาเหตุที่แรงพลังของผู้ชายที่อยู่ข้างๆแข็งแกร่งมากเกินไปจริงๆ จิ่งหนิง ระมัดระวังจนเกินตัวโดยไม่รู้สาเหตุ กระดูกสันหลังล้วนตึงเครียดไปหมด

ลู่จิ่งเซิน จ้องมองลักษณะที่เธอระมัดระวังจนเกินตัว งอมุมริมฝีปากอย่างเงียบๆ

“เมื่อกี้คุณออกมาจากตระกูลจิ่ง หรือ?”

จิ่งหนิง อึ้งชะงักไป รู้สึกตัวกลับมา“โอ๊ะ ใช่แล้ว”

“ตามที่ผมรู้ยามปกติคุณไม่ค่อยได้กลับไป ทำไมจู่ๆมาทางนี้ล่ะ?”

เป็นผู้หญิงที่นอนกับพี่ใหญ่ไปแล้ว จิ่งหนิงก็ไม่หวังว่าพี่ใหญ่จะไม่ไปตรวจสอบตัวเธอเองเช่นกัน ดังนั้นไม่แปลกใจเลยว่าเขาจะรู้ถึงสถานการณ์ของตนเอง

เธอลังเลเล็กน้อย ไม่ได้ตอบตามตรง

“มีเรื่องส่วนตัวเล็กน้อย……..จำเป็นต้องกลับมาสักครั้ง”

“เรื่องส่วนตัวหรือ?”

ลู่จิ่งเซิน ยักคิ้วแล้วยักคิ้วอีก ใบหน้าที่หล่อเหล่าใบหนึ่งแปดเปื้อนรอยยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้มเล็กน้อยอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ยามค่ำคืน นิ้วมือวางอยู่บนหน้าต่างรถเคาะเบาๆอยู่

“ผมคิดว่า ตัวเองเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องส่วนตัวของคุณผมน่าจะมีสิทธิรู้”

คำพูดนี้ของเขาพูดออกจากปากแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น คงคิดว่าฝั่งตรงข้ามกำลังล้อเล่นอยู่

แต่ จิ่งหนิง กลับรู้ว่า เขาไม่ได้ล้อเล่น

มุมปากนั้นแม้ว่าแขวนรอยยิ้มไว้ สายตากลับจริงใจมาก ดูเหมือนกำลังเตือนเธออยู่ —— ตนเองพูดความจริงออกมาดีที่สุด อย่าบีบบังคับให้เขาไปสืบเลย

จิ่งหนิง จนใจจนยิ้มขมหนึ่งที ไม่กล้าต่อต้าน ได้แค่บอกเรื่องทั้งหมดกับเขาอย่างสัตย์ซื่อ

แท้ที่จริงแล้วในใจแอบเฝ้ารอคอยเล็กน้อย

ถึงยังไงก็เป็นผู้หญิงที่มีชื่อพิมพ์อยู่ในเล่มสีแดงเล่มเดียวกันกับพี่ใหญ่ มองเห็นผู้หญิงของตนเองถูกรังแกแล้ว พี่ใหญ่น่าจะออกหน้าช่วยเธอมั้ง!

อย่างเช่นกลับรถทันทีมุ่งกลับตระกูลจิ่ง ช่วยเธอล้างแค้นเป็นต้น!

คิดไม่ถึง——

“ดังนั้น เมื่อกี้คุณเสียใจเพราะคนเลวต่ำช้าคนนั้นอยู่หรือ?”

จิ่งหนิง ???

พี่ใหญ่ จุดสำคัญที่คุณควรใส่ใจเพี้ยนไปแล้วหรือไม่?

เธออึดอัดใจจนยิ้มแล้วยิ้มอีก “ไม่มี ฉันไม่เสียใจนะ! ใครพูดว่าฉันเสียใจล่ะ?”

รอยยิ้มที่อยู่มุมปากของ ลู่จิ่งเซิน กลายเป็นเยาะเย้ยเล็กน้อย

จิ่งหนิง เม้มปาก มีความหวาดระแวงเล็กน้อย

สายตาของเธอลอยลงสักพัก ท้ายสุดก็บ่นอุบอิบๆเสียงเบาๆ พูดว่า “ฉันก็รู้สึกไม่สมัครใจน่ะสิ! ถูกคนฉกแฟนไปโดยไม่รู้สาเหตุยังไม่พอ ยังต้องไปเล่นละครร่วมกับพวกเขา เห็นพวกเขาโชว์ความรัก คิดแล้วล้วนรู้สึกอัดอั้นตันใจ!”

ลู่จิ่งเซิน จ้องมองสายตาที่หดหู่อยู่นัยน์ตาของเธอ ไตร่ตรองไปสักพัก

“ดังนั้นคุณคิดว่าจะทำยังไงดีล่ะ?”

เขานะไม่เชื่อว่าเธอจะเชื่อฟังขนาดนั้นจริงๆ ไปเป็นฐานของคนเลวต่ำช้าคู่นั้นเหยียบก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง

เหมือนอย่างที่คิด ผู้หญิงที่วินาทีก่อนยังสิ้นหวังเต็มใบหน้า ทันทีนั้นก็ปรากฏสีหน้าที่เจ้าเล่ห์ออกมา

“อันนี้หรือ……..ฉันมีแผนวิเศษของฉันเอง ฉันก็ไม่บอกคุณล่ะ หลีกเลี่ยงคุณเปิดโปง”

ลู่จิ่งเซิน งอริมฝีปากงอแล้วงออีก ก็ไม่ถามต่ออีกเช่นกัน

“ได้ งั้นผมรอดูแผนวิเศษของคุณ”

รถขับมาถึงที่พักของ จิ่งหนิง อย่างรวดเร็ว

คอนโดเล็กๆที่อยู่ใจกลางเมือง บริเวณรอบๆคือการเพาะปลูกเทียมพื้นที่สีเขียว ซูมู่ ชิดข้างหยุดรถไว้ จิ่งหนิง ลงจากรถ โบกมือแล้วโบกมืออีกต่อผู้ชายที่นั่งอยู่หลังรถ

“ประธานลู่ ขอบคุณที่มาส่งฉันกลับ ลาก่อน”

มือที่จัดแขนเสื้อของ ลู่จิ่งเซิน ชะงักไปหนึ่งที จ้องมองเธอ ส่งเสียงแก้ไขว่า “คุณควรเปลี่ยนชื่อเรียกแล้ว คุณนายลู่”

จิ่งหนิง นิ่งอึ้งไป ใบหน้าร้อนขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ

หางตาเหลือบมองเห็น ซูมู่ ที่อยู่บนที่นั่งคนขับยิ้มจนขี้เล่นเต็มใบหน้า จ้องมองเขาหนึ่งที

จากนั้น จึงตอบอย่างจริงใจว่า “ไม่ใช่ตกลงว่าให้เวลาฉันสามวันหรือ? สามวันยังไม่ถึงล่ะ! รีบอะไรน่ะ?”

ลู่จิ่งเซิน คิดแล้วคิดอีก ก็ใช่

เขาเอ่ยปากแล้วเป็นจริงเสมอ ไม่ผิดคำพูดอย่างเด็ดขาด ยังไงก็ตามเวลาสามวันผ่านไปแล้วหนึ่งวันยังเหลือสองวันเท่านั้น ไม่ต้องรีบร้อนจริงๆ

นึกถึงตรงนี้ นัยน์ตาของเขาที่มองไปยังเธอได้เปื้อนรอยยิ้มบางๆชั้นหนึ่งด้วย โบกมือว่า “ได้ งั้นลาก่อน คุณนายลู่ ในอนาคต”

จิ่งหนิง ………

Rolls-Royceสีดำขับออกจากสายตา จิ่งหนิง เก็บสายตากลับมา เดินไปยังคอนโด

ตอนเวลาเปิดประตูได้รับสายจากผู้ช่วย เสี่ยวเหอ สิ่งที่พูดคือเมื่อกี้ได้รับอีเมลจาก ประธานมู่ ทางโน้น เช้าตรู่พรุ่งนี้บริษัทเปิดประชุมด่วน ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดล้วนต้องเข้าร่วม เตือนเธอระวังอย่ามาสายเลย

จิ่งหนิง รับปาก หลังจากวางสายแล้ว เปิดดูอีเมล มองเห็นอีเมลส่งจากกลุ่มของ มู่ยั่นเจ๋อ เหมือนอย่างที่คิด

สำหรับเธอมากล่าวแล้วผลิตภัณฑ์ทางเพศสัมพันธ์เป็นเพียงแค่อาชีพเสริม อาชีพหลักของเธอคือผู้จัดการกรมประชาสัมพันธ์ของบริษัทบันเทิงแห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้มู่ซื่อกรุ๊ป

บริษัทแห่งนี้คืออุตสาหกรรมการผลิตแห่งแรกที่ มู่เทียนหง มอบให้กับ มู่ยั่นเจ๋อ สภาพการณ์ของบริษัทในเวลานั้นไม่ดีมาก มู่เทียนหง มอบบริษัทแห่งนี้ให้กับเขา ก็เป็นเพราะว่าจะทดสอบความสามารถของเขาสักหน่อย

ในช่วงเวลานั้น มู่ยั่นเจ๋อ ยุ่งจนตกอยู่ในสภาพอึดอัด หลังจาก จิ่งหนิง รู้แล้วก็ช่วยเขาจัดการแผนงานหลายเรื่อง ฝีมือสุดยอดเหลือเกิน ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจอย่างมาก

จากนั้นเธอกลับประเทศ สู้กับการขอร้องอย่างยากลำบากของเขาไม่ได้ รับมือกรมประชาสัมพันธ์ของบริษัทแห่งนี้เลย

จากนี้ไป บริษัทผู้จัดการที่มีนามว่า บันเทิงเฟิงหัว แห่งนี้ แทบจะไม่เคยเกิดปัญหาใหญ่อะไรเลย

อีกทั้งอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างโหดเหี้ยมทารุณไปวันๆในปัจจุบันนี้ ยังได้ผลงานที่ดีเด่นมากมาย สั้นๆสองปี จากบริษัทเล็กๆที่ใกล้จะล้มละลายแห่งหนึ่ง พัฒนาอย่างรวดเร็วกลายเป็นบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่ นอกเหนือจาก อานหนิงกั๋วจี้ ก็ไร้คู่แข่งอีกเลย

เธอไม่ใช่ผู้ที่มีพรสวรรค์ แต่ก่อนก็ไม่เคยทำอาชีพนี้เลย เหตุผลที่ได้ผลงานดีเด่นเช่นนี้ นอกเหนือจากพรสวรรค์แล้ว ยังมี ผลลัพธ์ที่ได้มาจากใช้ทั้งแรงกายแรงใจ ไม่รู้คืนรู้วัน พยายามสร้างองค์กร

แค่เพราะว่านี่เป็นบริษัทของเขา

แต่ มู่ยั่นเจ๋อ กลับไม่ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาเลย

ตอนเวลานั้นเธอไม่ได้คิดมากเลย แค่คิดว่าเขาไม่อยากเพราะว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาและจะมีผลกระทบต่องาน ดังนั้นก็ร่วมมืออย่างเงียบๆ อยู่ข้างนอกไม่เคยพูดมากเกินไปสักคำ

ดังนั้นข้างตัวนอกจากมิตรสหายหัวเหยา อีกทั้งไม่มีคนที่สองรู้ว่าเขาทำงานกับมู่ซื่อกรุ๊ป

วันนี้คิดขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านั้นคิดว่าไม่อยากจะเปิดเผย เกรงว่าก็แค่อยากจะเหลือทางออกให้กับตัวเองเท่านั้น

ผู้ชายคนหนึ่งจะรักคุณหรือไม่ สามารถมองเห็นบางสิ่งจากเรื่องอย่างนี้

นึกถึงตรงนี้ จิ่งหนิง งอมุมริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชา

เธอหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความหนึ่งให้กับ มู่เทียนหง จากนั้นทิ้งมือถือไว้ข้างๆ เข้าไปในห้องอาบน้ำ

รอเธออาบน้ำเสร็จออกมา บนมือถือได้รับข้อความตอบกลับจาก มู่เทียนหง แล้ว

“สิ่งของที่คุณอยากได้ผมเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว พรุ่งนี้ช่วงสิบโมงเช้าคุณเข้ามาเซนต์ชื่อ เซนต์ชื่อเสร็จได้ผลทันที”

นิ้วเรียวยาวของเธอลูบไปลูบมาอยู่บนหน้าจอ ตอบกลับว่า “โอเค ขอบคุณ ลุงมู่ มาก”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset