วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 134 ด่าไปก่อนแล้ว

ตอนที่134 ด่าไปก่อนแล้ว

ทุกคนต่างตกใจกันใหญ่

ต้องรู้ว่า  นั่นเป็นน้ำชาที่ร้อนลวก เพราะมีฟองขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดกระเด็นโดนใครเข้าทั้งถ้วยล่ะ?

ทุกคนต่างหันไปมองทางจิ่งหนิงด้วยความตื่นตระหนก กลับเห็นเขาเอียงตัวไปยืนอยู่ข้างๆแล้ว ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ส่วนถ้วยชาตกลงไปที่พื้นด้านหน้า แตกกระจาย

ทุกคนถึงได้โล่งใจ

 

สายตาที่หันไปมอง ลู่หลันจือ อดไม่ได้ที่จะขุ่นเคืองเล็กน้อย

จิ่งหนิงก็รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย

เธอให้ความเคารพ ลู่หลันจือ ไม่อยากถือสาอะไรกับเขา เพราะเขาเลี้ยงดูลู่จิ่งเซินมา

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะทำอะไรตามอำเภอใจกับเธอก็ได้ มุ่งประเด็นไปที่เธอซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีที่สิ้นสุด

เธอทำหน้าใจเย็น พูดเสียงทุ้มว่า : “จะว่าไปคุณป้าก็น่าจะอายุราวสามสิบสี่สิบปีเห็นจะได้ ตรรกะของการดื่มชาที่ต้องรอให้เย็นสักนิดก็ยังไม่เข้าใจหรือคะ?

เรื่องที่เด็กระดับอนุบาลยังเข้าใจแต่คุณกลับไม่รู้ ยังต้องโทษคนชงชา หรือว่าตาและนิ้วมือของคุณมีไว้เพื่อความสนุกสนาน? มองไม่เห็นไอน้ำขาวๆที่ลอยขึ้นมาและไม่รับรู้ถึงอุณหภูมิ? ต้องรอให้ถึงปากก่อนถึงจะรู้ว่าร้อนหรือคะ?

ลู่หลันจือ คิดไม่ถึงว่า จิ่งหนิงจะพูดจาแบบนี้

ในฐานะลูกสาวของตระกูลลู่ เธอไปไหนมาไหนก็มีแต่ได้รับคำเยินยอและการชื่นชม ไหงกลายเป็นโดนย้อนแบบดีได้ล่ะ?

แต่ว่าตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า กล้าว่าเธอ?

แถมยังบอกว่าเธอสู้เด็กอนุบาลไม่ได้?

สวรรค์โปรด ตกลงใครทำให้เธอกล้าหาญถึงขนาดนี้เนี่ยะ? เธอรู้ตัวไหมว่าตัวเองเป็นใคร?

ไม่เพียงแค่ ลู่หลันจือ กวนเสว่เฟยที่ยืนอยู่ข้างๆและบรรดาคนรับใช้ก็พากันอึ้งไปด้วย

พวกเขาชื่นชมในความกล้าหาญของจิ่งหนิงจริงๆ

รู้ไว้ว่า ตั้งแต่วันที่ไม่มีพ่อแม่ ลู่หลันจือในทุกๆด้าน แทบจะเรียกได้ว่ารับบทบาทเป็นแม่ของลู่จิ่งเซินเลยก็ว่าได้

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ลู่หลันจือก็เป็นแม่สามีของจิ่งหนิงน่ะสิ!

กล้าพูดจาสามหาวไร้มารยาทแบบนี้กับแม่สามี ช่าง….เสียจริง

จาบจ้วง!

ลู่หลันจือโกรธแทบคลั่ง เสียงแหลมขึ้นมา “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร! ถึงกล้ามาสั่งสอนฉัน? เธอรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นคนเลี้ยงดูจิ่งเซินมาตั้งแต่เล็ก? ถ้าฉันพูดเพียงคำเดียว ต่อไปเธอไม่มีวันได้มาเสนอหน้าที่นี่อีก!”

“ก็เพราะรู้ว่าคุณเป็นคนเลี้ยงอาเซินมาจนโตน่ะซิคะ ดังนั้นฉันจึงได้สุภาพกับคุณ แต่ว่าในโลกนี้ ไม่ใช่ว่าคุณสุภาพต่อคนอื่นแล้วคนอื่นจะให้ความเคารพคุณเสมอไปนะคะ คนบางประเภทถือว่าตัวเองมีบุญคุณจึงทำตัวหยิ่งผยองยกตนข่มท่าน ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันคิดว่าคงจะไม่อดทนอีกต่อไป”

“แก! แก——!”

ลู่หลันจือชี้หน้าเธอ แล้วพูดว่า “แก” อยู่สองคำ ใบหน้าแดงด้วยความโกรธ หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ

กวนเสว่เฟยเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว ก้าวขึ้นหน้ามาปกป้องเขา

““ป้าลู่ คุณโอเคไหมคะ?”

ลู่หลันจือใช้เวลาครู่หนึ่งในการสงบสติอารมณ์ ชี้ไปที่จิ่งหนิง แล้วพยักหน้าติดต่อกัน

“ดี ดีมาก! นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอคนที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้ คอยดูเถอะ! ฉันจะคอยดู ระหว่างฉันกับเธอจิ่งเซิน สุดท้ายจะเลือกใคร?”

พูดจบ ลู่หลันจือก็พา กวนเสว่เฟย จากไปด้วยความโกรธแค้น

คนรับใช้กลุ่มหนึ่งตกใจกลัวเงียบกริบ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

จนกระทั่งมีเสียงรถยนต์ดังมาแต่ไกล ป้าหลิวจึงเดินเข้ามาข้างๆจิ่งหนิง พูดด้วยความกังวลว่า : “คุณผู้หญิงคะ คุณป้าจากไปแบบไม่พอใจแบบนี้ เกรงว่าจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ คุณ….”

จิ่งหนิงลดสายตาลงเล็กน้อย สักพัก เธอจึงพูดขึ้นมาเบาๆว่า : “ก็แล้วแต่เขาเถอะ!”

เธอเดินมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่ด้วยการพึ่งพาการยกย่องเยินยอ

ระหว่างคนเรานั้นเธอปฏิบัติด้วยมารยาทขั้นพื้นฐานที่สุดแล้ว แต่ถ้าอีกฝ่ายยืนกรานไม่ฟังใคร เธอก็ไม่สามารถทำตามใจอีกฝ่ายได้หรอก

ไม่ว่าใครหน้าไหน!

“แต่ว่า….คุณผู้ชาย….”

ป้าหลิวเป็นกังวลมาก

จิ่งหนิงยิ้มให้เล็กน้อย

“ถ้าเรื่องแค่นี้เขายังไม่เชื่อฉัน แล้วคำว่าสามีภรรยาจะมีความหมายอะไรล่ะ?”

พูดจบ เธอก็เดินไป

เหลือไว้เพียงป้าหลิวที่ยังยืนอึ้งๆอยู่ที่เดิม

อีกด้านหนึ่ง

ที่ลู่ซื่อกรุ๊ป

ประตูห้องทำงานของท่านประธานถูกคนเปิดออกอย่างรุนแรง ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้น ก็เห็น ลู่หลันจือที่แต่งตัวสวยพา กวนเสว่เฟยเดินเข้ามาด้วยกัน

“ป้าลู่ พี่จิ่งเซินกำลังทำงานอยู่ พวกเรา…..”

“เสว่เฟย เธออย่าห้ามฉัน ผู้หญิงคนนั้นกล้าพูดกับฉันแบบนี้ ฉันไม่ควรมาหาจิ่งเซินเพื่อหาคำอธิบายหรือไง? ฉันต้องเจอเขาวันนี้ให้ได้!”

ทั้งสองคุยกันไป พลางเดินเข้าไปหาต่อหน้าลู่จิ่งเซิน

ลู่จิ่งเซินลุกขึ้นยืน มองไปที่ซูมู่ที่ร้อนใจแต่ไม่กล้าขวางทาง จากนั้นก็ดึงสายตากลับมา มองไปที่ ลู่หลันจือที่อยู่ตรงหน้าเขา

ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้ม และเอ่ยถามว่า : “คุณป้า  มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”

ลู่หลันจือสวมชุดสูท Chanel สีขาว ถึงแม้เธอจะอายุสี่สิบปีแล้ว แต่ดูแล้วก็ยังมีเสน่ห์

เพียงแต่ตอนนี้ท่าทางโกรธมาก มันจึงส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์เธอนิดหน่อย

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ได้ตอบคำถามของลู่จิ่งเซิน แต่ตรงเข้าประเด็นที่คาใจทันที : “จิ่งเซิน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ที่ตระกูลแนะนำผู้หญิงที่มีชื่อเสียงให้เธอตั้งมากมาย เธอก็ไม่สนใจ เลือกแล้วเลือกอีกผลสุดท้ายได้คนแบบนี้มาเนี่ยะนะ! เธอมีดีอะไรนักหนา ถึงได้ตกลงแต่งงานกับเธอได้?

ลู่จิ่งเซินอึ้ง ทันใดนั้นสีหน้าก็สลดลงทันที

“คุณไปที่คฤหาสน์บ้านลู่มาแล้วหรือครับ?”

ลู่หลันจือเห็นเขาไม่เพียงไม่ตอบคำถามของตัวเอง กลับใช้น้ำเสียงคาดคั้นตัวเธออีก ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่

“ทำไมหรือ? คฤหาสน์บ้านลู่ซ่อนสมบัติล้ำค่าอะไรไว้ฉันถึงไปไม่ได้? ฉันไปมาแล้วแล้วทำไม? ลู่จิ่งเซิน ผู้หญิงคนนั้นมันเอายาเสน่ห์ให้เธอกินหรือไงกัน? ถึงได้ทำให้เธอใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับป้าของเธอ?”

เธอพูดไปพูดไป ดวงตาก็เริ่มแดงขึ้นด้วยความน้อยใจ

ความไม่พอใจต่อจิ่งหนิงยิ่งทวีมากขึ้น

กวนเสว่เฟยเห็นสถานการณ์แล้ว ขมวดคิ้วเล็กน้อย ปลอบใจ ลู่หลันจือเบาๆว่า 

“ป้าลู่ อย่าพูดแบบนี้เลยคะ พี่จิ่งเซินให้ความเคารพกับท่านอย่างดีเสมอมา ข้อนี้ใครๆต่างก็รู้ดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ?”

เธอพูดไป ก็มองหน้าลู่จิ่งเซินไป ขยิบตาข้างหนึ่งให้เขา

ลู่จิ่งเซินกลับแกล้งทำเป็นไม่เห็น

“คุณป้าครับ จิ่งหนิงไม่ใช่คนไม่ดี และไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นด้วย เขาเป็นภรรยาของผม คฤหาสน์บ้านลู่คือบ้านของเขาคุณมาที่เมืองจิ้นแล้วไม่มาหาผมที่บริษัทก่อน ไปหาเขาที่บ้านให้มันยุ่งวุ่นวายเปล่าๆ ได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วยังจะโทษคนอื่นอีกหรือครับ?”

น้ำเสียงของเขาอ่อนลง แต่ ลู่หลันจือฟังจบกลับโกรธมากขึ้น

“ลู่จิ่งเซิน! แกพูดอะไรออกมาห๊ะ? คฤหาสน์บ้านลู่เป็นบ้านของมันหมายความว่ายังไง? นั่นมันที่พักอาศัยของแก! ที่พักอาศัยของครอบครัวลู่! ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างมันมีสิทธิ์อะไรมาครอบครองที่นั่น…..”

“คุณป้า!”

เมื่อครู่ลู่จิ่งเซินพูดด้วยความเกรงใจ ครั้งนี้ เขากลับพูดด้วยความจริงจัง

เขาทำสีหน้าเย็นชา มอง ลู่หลันจือ กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า : “ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย เขาเป็นภรรยาของผม!”

ลู่หลันจือ : “…..”

กวนเสว่เฟยเห็นบรรยากาศระหว่างคนทั้งสองไม่ค่อยดีนัก จึงรีบขัดจังหวะขึ้นว่า

“พี่จิ่งเซิน คุณป้าก็แค่โกรธชั่วครู่ ก็เลยเป็นแบบนี้ พี่อย่าถือโทษโกรธแกเลย อีกอย่างเมื่อกี้….”

เธอกัดริมฝีปาก ลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยปาก : “คุณจิ่งแสดงกิริยาก้าวร้าวเล็กน้อย แน่นอนว่า ฉันไม่ได้บอกว่าเขาไม่ดี เพียงแต่คุณป้าเป็นผู้อาวุโสของเขา ยังไงซะก็ไม่ควรพูดจาแบบนั้นคะ!”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset