วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 137 ใครเป็นคนทำ

บทที่ 137 ใครเป็นคนทำ

เขาได้ยินดังนั้นมองหน้าจิ่งเสี่ยวหย่าด้วยความตระหนก “เสี่ยวหย่า นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านได้? อะไรมันจะซวยขนาดนี้เนี่ย”

จิ่งเสี่ยวหย่าสูดลมหายใจเข้าลึก

“หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พอมีเรื่องแบบนี้เกิดในบ้าน ก็ต้องให้ทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อสืบหาสาเหตุที่มาที่ไป”

จิ่งเซี่ยวเต๋อจึงพยักหน้า

“ที่ลูกพูดก็มีเหตุผล งั้นเอาตามนี้ก็แล้วกัน”

เวลานี้ มีเสียงผู้ใหญ่ที่ชื่อหวังเสว่เหมยดังมาจากข้างนอก

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนมาจุกกันอยู่ที่นี่ล่ะ?”

จิ่งเซี่ยวเต๋อมองไปที่เธอ ราวกับคนจมน้ำได้เห็นฟางช่วยชีวิต รีบวิ่งออกไปทันที

“แม่ครับ แม่มาก็ดีแล้ว แม่รีบไปดูเร็ว นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”

เขาพูดไปพลาง เดินนำหวังเสว่เหมยมาที่ห้องน้ำ

พอเห็นเลือดสีแดงนองเต็มพื้นเหล่านั้น สีหน้าของหวังเสว่เหมยเปลี่ยนไปทันที

กระแทกไม้เท้าอย่างหนัก “ให้ตายสิ! นี่ใครเป็นคนทำ?”

หยูซิ่วเหลียนอธิบายว่า “ยังไม่ทราบคะ ตอนเช้าเสี่ยวหย่ากำลังจะเข้าห้องน้ำก็มาเจอเข้า”

“สองวันนี้ที่บ้านก็ไม่มีแขกมาเยี่ยม ห้องน้ำก็ทำความสะอาดทุกวัน ดังนั้นก็ต้องเป็นคนในบ้านกันเองนี่แหละ หามาให้ได้! ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องจับตัวคนๆนั้นมาให้ฉัน!”

ในคฤหาสน์เริ่มตื่นตระหนกกันทันที

ในไม่ช้า ก็มีคนหาเจอแล้ว

มันคือเลือกหมูที่อยู่ในพื้นห้องน้ำ เช้าวันนี้ตอนเจ็ดโมงครึ่ง มีคนส่งของด่วนมา ระหว่างทางขอใช้ห้องน้ำหน่อย

แน่นอน คนรับใช้ไม่ยอมให้เขาไปใช้ห้องน้ำของจิ่งเสี่ยวหย่าทางนั้นแน่ แต่ว่าห้องน้ำที่คนส่งของใช้อยู่ไม่ไกลจากห้องนั้น

ในเวลานั้น คนรับใช้ในบ้านต่างมัวยุ่งวุ่นวายกันอยู่ ไม่มีใครทันสนใจทางนั้น

ต่อมาคนส่งของก็ออกไปไม่บอกกล่าว หลังจากนั้นไม่นาน จิ่งเสี่ยวหย่าตื่นขึ้นมาใช้ห้องน้ำ จึงพบเลือดสดพวกนี้

เรื่องราวได้ถูกตรวจสอบแล้ว ทุกคนต่างโล่งใจทันที

ถึงแม้จุดประสงค์และพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามยังไม่แน่ชัด แต่เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่ฝีมือคนในบ้าน ก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป

ในเวลานี้ โทรศัพท์ของจิ่งเสี่ยวหย่าก็ดังขึ้น

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นมู่ยั่นเจ๋อโทรมา

มู่ยั่นเจ๋อรู้ว่าช่วงนี้เธอต้องการพักผ่อน เพื่อไม่รบกวนการนอนของเธอ น้อยมากที่เขาจะโทรมาหาเช้าขนาดนี้

ดังนั้นตอนที่รับสายเขา จิ่งเสี่ยวหย่ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

 

หลังจากกดรับสาย กลับได้ยินน้ำเสียงของมู่ยั่นเจ๋อลนลานสุดขีด “เสี่ยวหย่า วันนี้คุณเข้าอินเตอร์เน็ตแล้วหรือยัง?”

จิ่งเสี่ยวหย่าทำหน้างง รู้สึกจิตตกนิดหน่อย “ยังคะ ฉันเพิ่งตื่นนอน มีอะไรหรือเปล่า?”

“คุณรีบเข้าไปดูเดี๋ยวนี้เลยนะ! ในนั้นมีแต่ข่าวของคุณเต็มไปหมด ดูเสร็จแล้วโทรมาหาผมนะครับ”

พูดจบ เขาก็วางสายไป

จิ่งเสี่ยวหย่าสับสนเล็กน้อย ใช้มือถือล๊อคอินเข้าWeibo ดูสักหน่อย 

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที

เห็นว่าในอินเตอร์เน็ตไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มีข้อคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับชีวิตของเธอ

เมียน้อยบ้าง ลูกนอกสมรสบ้าง แม้กระทั่งมีคนบอกว่าพวกเธอสองแม่ลูกฆาตกรรมคู่สมรสเดิม เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติของภรรยาเก่า!

เธอดูแล้ว ข้อความแรกสุดลงเมื่อเวลาเช้ามืดวันนี้ ผ่านช่องทางพวกไอดีปล่อยข่าวปลอม จนถึงตอนนี้ มันแพร่กระจายไปไหนต่อไหนแล้ว

กลายเป็นคำค้นหายอดฮิตในอินเตอร์เน็ตแล้วตอนนี้

นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หยูซิ่วเหลียนเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดี จึงตรงเข้ามาดูด้วย เมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์มีตัวอักษรใหญ่เขียนว่าฆาตกรฆ่าคนตายทั่วทั้งร่างของเธอก็สั่นสะท้าน

“นี่ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! นี่มันใส่ความกันชัดๆ! ฉันจะฟ้องพวกมันให้หมด!”

จิ่งเซี่ยวเต๋อและหวังเสว่เหมยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างก็ขมวดคิ้ว เมื่อพวกเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข่าวในนั้น ก็อดไม่ได้ที่สีหน้าเปลี่ยน

“ใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังข่าวโคมลอยนี้? ทีแรกก็เลือดหมูนองในบ้าน ตอนนี้ในอินเตอร์เน็ตมีข้อคิดเห็นพวกนี้อีก นี่มันคิดจะมุ่งเป้าไปที่เสี่ยวหย่าชัดๆ มุ่งเป้ามาที่ ตระกูลจิ่งของพวกเรา!”

หวังเสว่เหมยโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จิ่งเซี่ยวเต๋อพูดด้วยเสียงเย็นชา

“จะมีใครเสียอีกล่ะ? กล้าปล่อยข่าวแบบนี้สู่สาธารณะ นอกจากนังคนที่สมควรตายนั่น คงไม่มีใครอื่นหรอก!”

“คุณหมายถึงจิ่งหนิงหรือ?”

หยูซิ่วเหลียนแสร้งทำท่าตกใจ “เขา….ไม่น่าเป็นไปได้ ทำให้ ตระกูลจิ่งเสียชื่อ แล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ?”

“หึ ตอนนี้เธอยังดูไม่ออกอีกหรือ? ขอเพียงพวกเราอยู่กันอย่างไม่เป็นสุข เธอก็พอใจแล้ว นังเด็กสมควรตายคนนี้! ถ้ารู้แต่แรก เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนฉันน่าจะกำจัดมันทิ้งเสีย! นอกนี้จะกำจัดผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มันยังแส่หาเรื่องมาให้ฉันอีก!”

จิ่งเซี่ยวเต๋อพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกหวังเสว่เหมยมองค้อนด้วยสายตาเฉียบคม

เขาหยุดชะงัก รีบสงบปากสงบคำ

หวังเสว่เหมยพูดเสียงต่ำว่า : “ไม่ว่าเรื่องนี้ใครจะอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้เราต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เสี่ยวหย่า เธอรีบโทรหาผู้จัดการส่วนตัวของเธอเลย ทางนี้ฉันจะคิดหาทางให้คนปิดข่าวก่อน เตรียมการเรื่องทนายไว้ด้วยนะ ถ้าไม่ได้จริงๆจะได้ให้ทนายจัดการ ส่วนเรื่องทางบริษัท ถึงแม้ตอนนี้บริษัทจะเปลี่ยนชื่อไปแล้ว แต่ยังมีผู้ถือหุ้นเก่าอีกหลายราย ล้วนเป็น ตระกูลโม่ พวกเรายังไม่ต้องทำอะไรกับพวกเขาตอนนี้ ข่าวน่าจะปิดไม่อยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้ต้องทำให้มันคงที่ก่อน เอาตามนี้ รีบไปจัดการซะ!”

ทุกคนฟังหวังเสว่เหมยพูดจบ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ต่างคนต่างแยกย้ายไป

ส่วนหวังเสว่เหมย ก็กลับไปที่ห้องของตัวเองตามลำพัง

“เซี่ยวเต๋อ เธอตามฉันมา”

“ครับ”

จิ่งเซี่ยวเต๋อตามหวังเสว่เหมยเข้าไปในห้อง หวังเสว่เหมยนั่งลงบนเก้าอี้โยกสีแดงเข้ม ลูบขมับของเธออย่างเหนื่อยล้าเอ่ยถามว่า : “เร็วๆนี้เธอได้เจอผู้หญิงคนนั้นบ้างไหม?”

ไม่ต้องถาม จิ่งเซี่ยวเต๋อก็รู้ว่าเธอคนนั้นหมายถึงใคร

เขารีบตอบไปว่า : “ไม่เลยครับ”

“เสี่ยวหย่าไปยั่วโมโหเธออีก?”

“ไม่น่าเป็นไปได้ ช่วงนี้เสี่ยวหย่าเตรียมลงกอง อยู่บ้านซ้อมบททุกวัน ไม่ได้ออกไปไหนเลย”

ถ้างั้นเขาก็กำลังแก้แค้นเรื่องเดิมสินะ? เรื่องของ สวี่เทียนหง?”

จิ่งเซี่ยวเต๋อยิ้มเย็นชา

“เธอจะแก้แค้นหรือเปล่า นั่นไม่ใช่ประเด็น ยังไงเธอก็ทำเช่นนี้กับครอบครัวเราอยู่เสมอ เธอไม่เคยมีความรู้สึกดีๆหลงเหลือไว้เลย ผมเสียใจจริงๆที่ตอนแรกเหลือเธอเอาไว้ วันนี้จึงหลงเหลือหายนะยิ่งใหญ่ไว้กับตัวเอง”

หวังเสว่เหมยมองหน้าเขา ดวงตาขาวซีดเต็มไปด้วยแสงเจิดจ้า

“คำพูดนี้เธอพูดกับฉันไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต่อหน้า หยูซิ่วเหลียนและเสี่ยวหย่า อย่าพูดแบบนี้อีก”

จิ่งเซี่ยวเต๋อชะงัก

ทันใดนั้นเขาก็เบ้ปาก พึมพำกับตัวเองว่า : “ก็คนในครอบครัวเดียวกัน ยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก”

ถึงแม้เสียงของเขาจะต่ำมาก แต่ก็หนีไม่พ้นหูของหวังเสว่เหมย?

เธอพูดเสียงเข้มว่า : “เมียแกคนนั้น บอกว่ารักแกสุดหัวใจ แต่ว่าหัวใจของคนเรามันแยกกันกับท้อง ตอนนั้นเขาถึงไม่ลังเล ขับรถชนโม่ไฉ่เวยตายซึ่งๆหน้า เห็นไหมละว่าโหดเหี้ยมขนาดไหน จิตใจของคนเรา มันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาดังนั้นแกไม่ต้องบอกทุกเรื่องกับเธอหรอก โดยเฉพาะเสี่ยวหย่า….”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset