วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 1 จับชู้คาเตียง

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม?”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ?”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

……

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะกลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขาต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวายส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่น นอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเองด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จิ่งหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้นเดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น

ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านในถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตาเป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตึ๊ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไปกระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ……ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จิ่งหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้

ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย?

รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ?”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “……หนิงหนิง?”

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียกปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟเหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ อีกทั้ง……ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิ่งหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ยั่นเจ๋อ ใครคะ?”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมา จากนั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไปอย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?”

จิ่งหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้าซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่องตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอาไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่……”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนักข่าวและช่างกล้องเดินตามมา

เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทางเพศ จริงหรือไม่คะ?”

“นายมู่ ในฐานะผู้สืบทอดมู่ซื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?”

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มีข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ?”

“นายมู่……”

มู่ยั่นเจ๋อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้

เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น?”

นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตาของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

” นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จิ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

” คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและตำรวจ

” เพี๊ยะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ๋อถูกตบเสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ ……”

” ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ๋อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า

” กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุนที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ๋อตื่นตระหนก ” อะไร! ทุนอะไร !!!!”

จิ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้นความจำคุณ?”

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหึๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือเป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้

เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตามไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จิ่งหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึงได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแววตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัดทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็นหลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง

จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีกทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคลที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป

จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?”

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูกตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายของมู่ซื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคนเมื่อกี้”

“ครับ?” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน?”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออกไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน

……

ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานีตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ?”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่นคือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้นเหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง?”

จิ่งหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ?คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า?”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิ่งรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่องหรือไง?”

จิ่งหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง……ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหนรีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset