วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 202 เป็นไปไม่ได้

บทที่ 202 เป็นไปไม่ได้

น้ำเสียงของเขาเบาและนุ่มนวลแต่เมื่อเข้ามาในหูของจิ่งเสี่ยวหย่าเธอก็ตกตะลึง

“อะไรนะคะ สิบเท่า?”

“ใช่ครับ ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าทำไมทางบริษัทถึงกล้าที่จะให้คุณเป็นพรีเซนเตอร์งานนี้?”

“แต่ว่า……”

“ทำไม คุณไม่มีความมั่นใจเหรอ?”

จิ่งเสี่ยวหย่าชะงักลง

เธอมองดูมู่ยั่นเจ๋อ ผู้ชายคนนั้นยังคงอ่อนโยนราวกับหยกสีขาวบริสุทธิ์ แต่เธอรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป ไม่รู้เพราะอะไร

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ดวงตาของเขาเวลามองเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเดิมแล้ว ใบหน้าของเขาแม้จะกำลังยิ้มอยู่แต่สายตานั้นก็เยือกเย็นราวกับมีน้ำแข็งปกคลุม หนาวจนเธอใจสั่นสะท้าน

เธอกลืนน้ำลายลงคอ ผ่านไปชั่วครู่จึงได้พยักหน้า

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ฉันมั่นใจ!คุณไม่ต้องกังวลนะคะ”

“ดีมากครับ”

มู่ยั่นเจ๋อปล่อยมือออกหันหลังไป มือข้างหนึ่งของเขาลูบคลำไปยังกาน้ำชาลายครามที่วางอยู่บนโต๊ะ

จิ่งเสี่ยวหย่าครุ่นคิดแล้วเอ่ยถามว่า “พี่เจ๋อคะ เมื่อสักครู่ที่บอกว่าจะแต่งงานกันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

มือที่มู่ยั่นเจ๋อจับกาน้ำชานั้นชะงักลง ส่วนลึกของแววตาเขาแสดงถึงความมืดมนแล้วพยักหน้า

“ครับ”

จิ่งเสี่ยวหย่าดีใจขึ้นมาทันที

“พวกเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ?”

“รอให้คุณจัดการเรื่องพรีเซนเตอร์ของคาร์รันจิให้สำเร็จก่อน”

เมื่อเขาพูดจบ ก็หยิบกาน้ำชาวางไว้ข้างๆจากนั้นหันมายิ้มที่มุมปาก

“เสี่ยวหย่าของเราจะต้องเป็นดาราที่เปล่งประกายที่สุดในวงการบันเทิงใช่ไหมครับ?”

จิ่งเสี่ยวหย่าเงยหน้ามองเขาแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ

“ใช่ค่ะ ฉันมั่นใจ!”

มู่ยั่นเจ๋อลูบไปที่หัวของเธอด้วยความพึงพอใจแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะยังคงรับบทเป็นแฟนที่ดีต่อหน้าสาธารณชนและไม่ทำให้คุณต้องอาย”

จิ่งเสี่ยวหย่าจึงได้แสดงรอยยิ้มอันโล่งใจออกมา เธอเอื้อมมือออกไปโอบเขาแล้วซุกหน้าตัวเองเข้าไปในอ้อมอก

“พี่เจ๋อคะ คุณดีจังเลย”

มู่ยั่นเจ๋อไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาเพียงลูบไปที่หลังของเธอเบาๆ ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังสักพักก่อนที่เขาจะจากไป

มู่ยั่นเจ๋อเพิ่งจะออกไปไม่นาน ถงซูก็เดินเข้ามา

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดีใจ เมื่อมองเห็นจิ่งเสี่ยวหย่าก็รีบวิ่งเข้ามาหาเธอ

“เสี่ยวหย่า มีข่าวดีจะมาบอก!”

จิ่งเสี่ยวหย่ามองดูเธอแล้วถามว่า “เรื่องพรีเซนเตอร์คาร์รันจิใช่ไหม?”

ถงซูตกตะลึง

“รู้เรื่องนี้แล้วหรือ?”

จิ่งเสี่ยวหย่าหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

“เมื่อกี้พี่เจ๋อมา เขาบอกกับฉันก่อนกลับไปน่ะ”

เมื่อได้ยินว่ามู่ยั่นเจ๋อมา ถงซูก็มีความสุขเช่นกัน

เนื่องจากหลังเรื่องของจิ่งเสี่ยวหย่าและมู่ยั่นเจ๋อถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว หลายๆคนก็รู้สึกโปรดปรานทั้งคู่

มู่ยั่นเจ๋อเป็นคุณชายแห่งตระกูลมู่ซึ่งเป็นเจ้าของมู่ซื่อกรุ๊ป หน้าตาดีมีทรัพย์สินเงินทองอีกทั้งยังหนุ่มยังแน่น เนื่องจากเขาบริหารบันเทิงเฟิงหัวด้วย ดังนั้นจึงได้เปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนบ่อยครั้ง

ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวกับจิ่งเสี่ยวหย่า เขาก็ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าสำหรับชาวเน็ต ดังนั้นทุกคนจึงพอจะทราบได้ว่าเขานั้นไม่เท่าไหร่

หากจะพูดถึงความเจ้าชู้ของบรรดาลูกเศรษฐี เขาก็นับว่าอยู่อันดับต้นๆ

เมื่อเขาและจิ่งเสี่ยวหย่าประกาศตนต่อหน้าสาธารณชน อีกทั้งยังคบหากันเป็นตั้งแต่เด็กทุกคนจึงได้รู้สึกดีใจ

ฉากของละครรักเกาหลีที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงแบบนี้ จึงเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนๆชื่นชอบมาก

และเนื่องจากเรื่องนี้ภาพลักษณ์ของจิ่งเสี่ยวหย่าจึงได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้น

ที่จริงเรื่องที่ดาราสาวแต่งงานกับเศรษฐีก็ไม่เท่าไหร่

แต่สามารถได้เป็นคู่รักตั้งแต่วัยเด็กกับตระกูลที่ร่ำรวยและมีความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้มาตลอดหลายปี จนกระทั่งได้แต่งงานกันนี่คือความรักที่งดงามราวกับสวรรค์

ด้วยสิ่งนี้ แม้จิ่งเสี่ยวหย่าจะมีข่าวอื้อฉาวขึ้นมามากเพียงใด เพียงแค่ไม่ถึงแก่ชีวิตก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเธอมากนัก

ด้วยสิ่งนี้ยังกำหนดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับมู่ยั่นเจ๋อว่าไม่ค่อยมีปัญหาใด

ในตอนนี้ภาพลักษณ์ของเธอลดลงอย่างมากเนื่องจากข่าวอื้อฉาวเมื่อปีที่แล้ว

หากความสัมพันธ์ของเธอกับมู่ยั่นเจ๋อจะมาแตกหักอีก ภาพลักษณ์ของเธอจะได้รับผลกระทบอย่างมาก เช่นนั้นเธอจึงจะตกอยู่ในความลำบากใจและโดดเดี่ยวอย่างไม่มีทางแก้

เหตุผลเหล่านี้จิ่งเสี่ยวหย่าเข้าใจดี เธอครุ่นคิดแล้วถามว่า “พี่ถงคะ คาร์รันจิจะเซ็นสัญญาเมื่อไหร่?”

ถงซูตอบมาว่า “น่าจะอีกสองสามวันนี้แหละ รอให้ถ่ายเรื่องนี้เสร็จก่อนแล้วฉันจะขออนุญาตหลินชูฝานให้เธอเอง”

จิ่งเสี่ยวหย่าพยักหน้า ตอนนี้ในใจของเธอรู้สึกโล่งมาก จากนั้นเธอก็ได้ยินถงซูถามขึ้นว่า “ช่วงนี้ฉันมักได้ยินคนอื่นบอกว่ามู่ยั่นเจ๋อมาหาเหรอ ตอนนี้คืนดีกันเหมือนเดิมแล้วหรือไง?”

จิ่งเสี่ยวหย่าจ้องมองเธอจากนั้นคล้ายกับคิดอะไรได้ จึงยิ้มและพยักหน้า

“ก็ทำนองนั้น”

ถงซูจึงได้ถอนหายใจออกมาแล้วบอกว่า “ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยมาหาเธอเลย แม้แต่ฉันที่เป็นคนอื่นยังมองออกว่าพวกเธอสองคนเยือกเย็นต่อกัน ฉันยังกลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรกับพวกเธอทั้งสองคน ตอนนี้มองแล้วฉันคงคิดมากไปเอง”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จิ่งเสี่ยวหย่าก็อดไม่ได้ที่จะหยุดชะงักลง

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจู่ๆเธอก็นึกถึงคำพูดที่มู่ยั่นเจ๋อพูดก่อนจะจากไป

“วางใจได้ ผมจะรับบทเป็นแฟนที่ดีต่อหน้าสาธารณชนและไม่ทำให้คุณต้องอับอาย”

รับบทเหรอ?

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย หัวใจของเธอสั่นสะท้านเมื่อเธอคิดได้

หรือว่าที่เขาทำอยู่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงออกมาถึงความอ่อนโยนและเอาใจใส่เขากำลังแสดงอยู่เหรอ?

ไม่!เป็นไปไม่ได้!

พี่เจ๋อรักเธอ!

เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ และทิ้งจิ่งหนิงที่รักกันมาถึงหกปีได้ เขาจะทิ้งเธอไปเหรอ?

ใช่!มันเป็นไปไม่ได้หรอก

เป็นไปไม่ได้แน่!

จิ่งเสี่ยวหย่าปลอบใจตัวเอง ถงซูสังเกตเห็นว่าท่าทางของเธอผิดปกติไปจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เป็นอะไรหรือเปล่าไม่สบายตรงไหน?”

จิ่งเสี่ยวหย่าส่ายหัว

“ไม่มีอะไรค่ะ พี่ถง เรื่องของพรีเซนเตอร์ต้องรบกวนให้พี่ช่วยติดตามด้วยเอานะคะ ใกล้จะถึงเวลาถ่ายทำแล้วฉันต้องไปเตรียมตัวก่อนพี่ออกไปก่อนนะ”

เมื่อถงซูเห็นดังนั้นแม้จะยังคงกังวลอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรทำได้เพียงพยักหน้าและเดินจากไป

ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงแค่จิ่งเสี่ยวหย่าคนเดียวเท่านั้น

เธอนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหงุดหงิด มือของเธอกำไปที่หน้าอกแล้วหลับตา

พี่เจ๋อ จะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ!

ฉันลงทุนมากมายจึงแย่งคุณมาจากมือของจิ่งหนิงจึงได้หัวใจของคุณ

คุณจะทำให้ฉันต้องผิดหวังไม่ได้!

อีกด้านหนึ่งในห้องพัก

เมื่อจิ่งหนิงพักผ่อนเรียบร้อยแล้วก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องเตรียมตัว จึงได้ลุกขึ้นตั้งใจจะเดินไปยังห้องแต่งตัวเพื่อให้ช่างแต่งหน้าเสริมเมคอัพให้กับเธอแล้วเตรียมตัวถ่ายงานต่อ

แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเธอเดินมาที่หน้าประตูก็พบเข้ากับใครคนหนึ่ง

เธอหยุดฝีเท้าลงแล้วรู้สึกแปลกใจ

หลังจากชะงักไปสองวินาที เธอก็ยิ้มขึ้นด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

“อ้าว คุณชายใหญ่มู่ มาหาฉันเหรอคะ?”

มู่ยั่นเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ

เขากระแอมเบาๆแล้วมองจิ่งหนิงด้วยท่าทางจริงจัง จากนั้นพูดว่า “หนิงหนิง ผมขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหม?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset