วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 259 ฉีดหน้าไร้ความรู้สึก

บทที่ 259 ฉีดหน้าไร้ความรู้สึก

เธอได้พูดเหมือนยุติธรรม แล้วก็ได้ส่งสายตาให้กับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ บอดี้การ์ดก็ได้รีบเข้ามา

และแล้วไม่รอให้พวกเขาเข้าใกล้ โม่หนานก็ได้พาบอดี้การ์ดไม่กี่คนยืนออกมา แล้วก็ปกป้องจิ่งหนิงไว้ด้านหลัง

บรรยากาศได้อึดอัด ถ้าแตะแล้วก็จะวุ่นวาย

จิ่งหนิงมองหวังเสว่เหมย ยิ้มอย่างเยือกเย็น “ทำไม? ตอนนี้อยากจะหนีหนักเอาเบา? หรือว่าคุณคิดว่าเรื่องมันได้มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังสามารถที่จะฟังคำพูดที่พูดหลอกลวงไปไม่กี่คำก็ได้แล้ว?”

เธอได้ชูเครื่องอัดเสียงขึ้น แล้วก็ได้พูดหน้ากล้องของพวกนักข่าวอย่างหนักแน่นว่า “สิ่งที่อัดอยู่ในนี้ ฉันสามารถเอาตัวเองมาเป็นประกันได้เลยว่า เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ถ้าเกิดพวกคุณไม่เชื่อ ฉันสามารถที่จะส่งมอบให้กับตำรวจไปพิสูจน์ ว่าได้มีการตัดต่อมาเรียงแบบนี้ไหม”

หวังเสว่เหมยโมโหจนตาแทบหลุดออกมา

“จิ่งหนิง!”

จิ่งเซี่ยวเต๋อก็ได้ร้อนใจ แล้วก็พุ่งเข้ามาหมายจะแย่งเครื่องอัดเสียงนั่น แต่ก็ได้ถูกตำรวจห้ามไว้

“คุณจิ่ง นี่เป็นหลักฐานสำคัญ ขอให้คุณอย่าแตะ”

จิ่งเซี่ยวเต๋อได้โมโหจนไม่รู้จะพูดยังไงดี ก็ได้มองจิ่งหนิงด้วยความแค้น ด่าว่า “จิ่งหนิง! เธออยากให้ตระกูลจิ่งของพวกเราล่มถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? อยากให้พวกเราทุกคนตายไปหรือไงเธอถึงจะพอใจ?”

จิ่งหนิงรู้สึกอยากขำ

“คุณจิ่ง ก่อนหน้านี้พวกคุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่า พวกคุณไม่ได้ผิดอะไร? ไหนๆ ก็เป็นแบบนั้น งั้นคุณร้อนรนอะไร?

ให้ทางตำรวจตรวจสอบก่อน ถ้าเกิดเป็นเรื่องเท็จ ก็สามารถที่จะยืนยันแล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกคุณบริสุทธิ์?”

จิ่งเซี่ยวเต๋อไม่รู้จะตอบอะไรเลยทันที

หวังเสว่เหมยได้จ้องมองเธอ จิ่งหนิงได้มองกลับอย่างไม่เกรงกลัว นัยน์เต็มได้ด้วยความเปิดเผย

ก็ได้มีนักข่าวถาม “คุณจิ่ง งั้นเรื่องลักพาตัว เป็นคุณที่จัดฉากเพราะที่จะเอาคืนตระกูลจิ่งหรือเปล่าคะ?”

“ไม่ใช่ค่ะ”

“อะไรนะ? ไม่ใช่?”

ผู้คนก็ได้อุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจ

ยังไงซะ ก่อนหน้าจิ่งเสี่ยวหย่าเป็นคนบอกเองว่า จิ่งหนิงไม่ได้ถูกลักพาตัว ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนจัดฉากมาเอง ก็เพื่อที่จะใส่ร้ายตน

แต่ตอนนี้ ความจริงก็ได้ชี้ว่า จิ่งหนิงก็ได้ยืนอยู่ตรงนี้แบบไม่เป็นอะไรเลยจริง

เห็นทุกคนมีใบหน้าที่สงสัย จิ่งหนิงก็ได้อธิบายไปว่า “ก่อนหน้าฉันได้ถูกคนจับตัวไปจริงค่ะ แต่ว่าโชคดีของฉัน ที่ระหว่างนั้นได้หนีออกมาได้

ตอนที่รู้ว่าคนที่ทำการลักพาตัวฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองนั้น ฉันก็ไม่กล้ากลับบ้าน แล้วก็บังเอิญไปรู้เรื่องความจริงของอุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณแม่เมื่อห้าปีก่อนเข้าพอดี

ก็ได้ขอความร่วมมือจากทางตำรวจ ให้แสดงเรื่องการหายตัวไปของตัวเอง ถึงแม้ว่าสถานการณ์มันบังคับ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นได้ทำให้ทุกคนสงสัยแล้วก็รบกวนทุกคนไป ฉันก็ขอขอโทษ ณ ที่นี้

เวลาเดียวกันก็อยากให้ทุกคนเข้าใจ ฉันที่อยู่ในฐานะลูกสาว อยากจะรู้ความจริงของการตายของคุณแม่”

นักข่าวอีกคนก็ได้ถาม “งั้นเรื่องที่จิ่งเสี่ยวหย่าหายตัวไปก่อนหน้า ก็เป็นคุณที่ทำหรือเปล่าครับ?”

จิ่งหนิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ”

พูดแบบนั้นออกมา สถานการณ์ก็ได้วุ่นวายทันที

“คุณหมายความว่า คุณไม่ได้ลักพาตัวเธอ ไม่ได้ขังเธอ?”

จิ่งหนิงพยักหน้า

“ฉันสามารถที่จะสาบานต่อหน้าแม่ที่ตายไปของตนได้เลยว่า ตั้งแต่ที่ฉันมาที่เกาะซีหนิง ก็ไม่ได้ไปเจอเธออีกเลย เรื่องที่เธอหายตัวไป ฉันไม่รู้ค่ะว่าใครเป็นคนทำ

แต่พอคิดๆ ลับหลังเธอนั้นก็ได้ทำตัวไม่ดีไว้มาก อาจจะทำให้ใครโมโหเข้าก็ได้ใครจะรู้ พวกคุณถ้าอยากจะรู้ความจริง สามารถที่จะไปสืบได้ค่ะ”

จิ่งหนิงพูดจบ ทุกคนก็ได้พากันมองหน้า

กับข่าวฉาวในช่วงครึ่งปีที่ได้หลุดออกมา ทุกคนนั้นก็พอที่จะได้ยินนิสัยที่แท้จริงของจิ่งเสี่ยวหย่ามาบ้าง เพราะงั้นได้ยินที่จิ่งหนิงพูดแบบนี้ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร

และแล้วจิ่งเสี่ยวหย่าที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ร้อนรน พูดอย่างโมโห “จิ่งหนิง เธอโกหก! เธอเป็นคนที่จับตัวฉันไปที่เรือเล็กนั่นเองแท้ๆ!

เธอยังข่มขู่ฉัน บอกว่าจะฆ่าฉันแล้วก็ทำลายหลักฐาน ถ้าเกิดไม่ใช่ฉันที่เป็นคนหนีออกมาได้ ตอนนี้เกรงว่าฉันได้ถูกเธอจัดการไปแล้ว เธอยังกล้าที่จะพูดอะไรไร้สาระอยู่ตรงนี้อีก?”

จิ่งหนิงมองเธออย่างไม่แยแส หัวเราะอย่างเย็นชา “อ้อ? เธอทำไมถึงได้บอกว่าฉันเป็นคนทำล่ะ งั้นเธอมีหลักฐานไหม?”

จิ่งเสี่ยวหย่าก็ได้เงียบไม่รู้จะพูดอะไร อึมอำอยู่นาน ไม่ได้พูดอะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมา

จิ่งหนิงก็ได้พูดเสียงจริงจัง “ที่จริงเรื่องนี้อยากจะยืนยันก็ไม่ยาก ช่วงเวลานี้ฉันอยู่ในเกาะอยู่ตลอด พนักงานในโรงแรมและคนอื่นในเกาะสามารถที่จะมาเป็นพยานให้ฉันได้”

เธอพูดแบบนี้ ทุกคนก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก

สายตาที่มองไปทางจิ่งเสี่ยวหย่าก็ได้ดูน่าสงสัยยิ่งกว่าเดิม

เป็นตัวเองที่ลักพาตัวคนอื่นไม่สำเร็จ ตอนนี้ยังมาใส่ร้ายคนอื่นว่าได้มาลักพาตัวตัวเองอีก?

นี่มันหน้าไม่อายเกินไปเลยจริงๆ

จิ่งเสี่ยวหย่าคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะมาถึงตอนนี้ เธอได้มองไปหาทุกคนด้วยความร้อนใจ พบว่าไม่มีใครเลยที่จะเชื่อเธอ ก็ได้ร้อนรนไปอีก

เธอได้มองไปที่หวังเสว่เหมยอย่างหมดทางช่วย

“คุณย่า ตอนนี้พวกเราทำยังไงดี?”

ในใจของหวังเสว่เหมยก็ไม่รู้ว่าจะทำไง

แต่ว่าการที่เป็นหัวหน้าครอบครัวตระกูลจิ่ง ลมพายุหลายปีมานี้ก็ผ่านมาแล้ว สีหน้าก็ยังไม่ได้เสียไป

เธอก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงโมโห “ต่อให้เธอไม่ได้ไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้สั่งให้คนไปทำ แต่ว่าเธอวางใจเถอะ เรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่พวกเราต้องสืบออกมาให้ชัดเจนแน่ ตอนนี้ เธอเองก็ได้ยอมรับแล้วว่าเรื่องนี้เธอเป็นคนจัดฉากเอง ก็หมายความว่าก่อนหน้าไม่กี่วันนี้ที่เสี่ยวหย่าได้โดนด่าทางเน็ตก็เป็นความผิดที่เขาไม่ได้ก่อ พวกเราก็แค่อยากจะมายืนยันเรื่องนี้ก็พอแล้ว เรื่องที่เหลือกลับไปแล้วต้องจัดการแน่นอน”

หวังเสว่เหมยพูดจบ ก็อยากที่จะพาตัวคนออกไป

คาดไม่ถึง กลับถูกจิ่งหนิงขวางไว้

“เดี๋ยวก่อน!”

เธอได้เดินเข้าไป พูดเสียงเข้ม “เรื่องของคลิปเสียงนั่น ท่านหญิงจิ่งยังไม่ได้อธิบายเลยนะคะ! ก็อยากจะกลับไปแบบนี้เลยเหรอ?”

สีหน้าของหวังเสว่เหมยได้เขียวไปเลย

“ฉันบอกแล้วว่า นั้นเป็นเรื่องเท็จ! พวกเราไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน!”

“อืม……เห็นทีคุณยืนยันที่จะไม่ยอมรับ?”

“เรื่องที่ไม่เคยทำ ฉันทำไมต้องยอมรับ?”

“ก็ดีค่ะ”

จิ่งหนิงพยักหน้าแบบคิดวิเคราะห์ “คุณไหนๆ เรื่องก็ได้มาถึงขนาดนี้แล้ว งั้นพวกเราก็เจอกันที่ศาลเถอะ! ถึงเวลา อย่าหาว่าฉันไม่ได้ไว้หน้าท่านหญิงจิ่งอย่างคุณ หรือว่าไม่ได้ให้ทางออกกับตระกูลจิ่งของพวกคุณนะคะ”

หวังเสว่เหมยได้ยินคำพูดที่เธอข่มขู่แบบนั้น ก็ได้โกรธจัด

“จิ่งหนิง เธออย่าลืมล่ะ ว่าเธอก็เป็นคนของตระกูลจิ่ง!”

“โทษทีนะคะ ฉันได้ลืมไปเลยจริงๆ ยังไงซะเมื่อห้าปีมานี้ ฉันได้มองเข้าใจชัดเจนแล้วว่าพวกคุณทำอะไรกับฉันบ้าง ความทรงจำก่อนหน้าก็ได้ฝั่งไปตามแม่ที่ตายไปแล้วของฉันแล้ว! เพราะงั้น ต่อไปก็ไปทางใครทางมัน รักษาตัวด้วย!”

เธอพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจหวังเสว่เหมยอีก หันหลังแล้วเดินเข้าไป

หวังเสว่เหมยมองเธอด้วยความแค้น แค้นจนอยากจะมองให้ตัวเธอนั้นเป็นรูไป!

จิ่งเสี่ยวหย่าก็ยังทำท่าทางที่น่าสงสารแบบนั้นเหมือนเดิม พูดเสียงสั่น “พี่ พี่จะเย็นชาขนาดนี้จริงๆ เหรอ? คุณย่าและคุณพ่ออย่างน้อยก็เคยที่จะรักไปมาก่อน หรือว่าพี่ไม่มีความรู้สึกที่มีให้ในอดีตเลยล่ะ?”

จิ่งหนิงหัวเราะอย่างเย็นชา

“ฉันเคยให้โอกาสพวกคุณแล้ว ให้พวกคุณออกมายอมรับกับฉันเอง แต่พวกคุณเห็นค่าไหม? ตอนนี่กลับมาโทษฉันเย็นชา? ปีนั้นพวกคุณวางแผนที่จะชนแม่ฉันให้ตาย ทำไมไม่คิดบ้าง ว่าตัวเองเย็นชาขนาดไหน?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset