วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 306 ของขวัญวันเกิด

บทที่306 ของขวัญวันเกิด

จิ่งหนิงเองก็รู้ดีจึงไม่ดึงดัน

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ละครเรื่องใหม่ของจิ่งหนิงก็ปิดกอง ซึ่งตรงกับคริสต์มาสพอดี เฟิงยี่โทรเข้ามาถามพวกเขาว่าอยากจะเจอกันหน่อย

จิ่งหนิงคิดแล้วว่าไม่มีอะไรจึงได้รับปากไป

เมื่อไปถึงจึงได้รู้ว่าวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นวันคริสต์มาสยังเป็นวันเกิดของจี้หยุนซูอีกด้วย

จิ่งหนิงไม่รู้มาก่อนจึงไม่ได้เตรียมแม้แต่ของขวัญจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

โชคดีที่ลู่จิ่งเซินเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว จิ่งหนิงมองค้อนเขาในตอนที่เขามอบของที่เตรียมไว้ให้จิ่งหนิง

“ทำไมคุณไม่บอกฉันล่วงหน้าคะ?”

ลู่จิ่งเซินยิ้ม “ช่วงนี้คุณยุ่งแบบนี้ ไม่อยากให้คุณต้องยุ่งยาก”

หลังจากพูดเขาก็หยุดอีกครั้ง “หยุนซูโตมากับพวกเรา เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก”

ถึงแม้ว่าจิ่งหนิงจะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริงแต่เธอรู้ดีว่านี่เป็นเรื่องมารยาทพื้นฐานที่ควรต้องมี

งานปาร์ตี้กับกลุ่มคนถือได้ว่ามีชีวิตชีวา แต่เมื่อผ่านไปครึ่งทางจู่ ๆ จิ่งหนิงก็ได้รับข้อความวีแชท

ปรากฏว่ากวนเยว่หวั่นส่งมา

เธอแปลกใจเล็กน้อย

หลังจากดื่มด้วยกันครั้งหนึ่งในตอนนั้น เธอได้แอดบัญชีของกวนเยว่หวั่นไว้แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

ดังนั้นจิ่งหนิงจึงแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้รับข่าวคราวจากเธอ

จิ่งหนิงลุกขึ้นแล้วเดินออกมานอกห้องรับรอง ก็เห็นกวนเยว่หวั่นสวมเสื้อกันหนาวแคชเมียร์สีเบจยืนอยู่ไม่ไกลจากมุมห้อง

เมื่อเห็นเธอออกมาก็รีบวิ่งมาหาแล้วยิ้มและพูดขึ้น: “ขอโทษนะคะคุณหนิง ต้องรบกวนคุณแล้ว นี่เป็นของขวัญที่ฉันเตรียมมาให้รุ่นพี่ คุณช่วยฉันเอาไปให้เขาทีได้ไหมคะ?”

จิ่งหนิงยิ่งสงสัยมากขึ้น

“จี้หยุนซูอยู่ด้านในน่ะ เธอเอาเข้าไปให้เขาเองไม่ดีกว่าเหรอจ๊ะ?”

กวนเยว่หวั่นฝืนยิ้ม

“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันมีธุระด่วนต้องไปแล้ว ไม่รบกวนช่วงเวลาของพวกคุณดีกว่า อีกทั้งมันไม่ใช่สิ่งของสำคัญอะไร ฉันเองก็แค่ผ่านมาแล้วได้ยินว่าพวกคุณอยู่ที่นี่ก็เลยหยิบมาด้วย”

เมื่อพูดถึงขนาดนี้แล้วหากจิ่งหนิงไม่ช่วยก็ดูจะไม่ค่อยดี

จึงได้รับของขวัญมา

“งั้นก็ได้จ้ะ เธอแน่ใจนะว่าไม่อยากเข้าไปนั่งเล่น?”

“ไม่ค่ะ ฉันยังมีธุระต้องไปก่อน รบกวนคุณแล้ว”

จิ่งหนิงส่ายหน้า “ไม่รบกวนเลย”

“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“อือ”

จิ่งหนิงมองไปที่ด้านหลังของเธออย่างหมดหนทาง

แต่ว่าเธอก็ไม่คิดอะไรมาก เธอถือกล่องของขวัญและเดินกลับเข้าไป

เมื่อกลับเข้าไปในห้องรับรอง เฟิงยี่กำลังชักชวนเพื่อน ๆ มาเล่นไพ่นกกระจอก

ทั้งสามคนเพิ่งจะจบเกมและกำลังพักผ่อน

ลู่จิ่งเซินเห็นเธอเข้ามาจึงถาม: “ไปไหนมา?”

จิ่งหนิงตอบ: “จู่ ๆ กวนเยว่หวั่นก็ส่งข้อความมาบอกมีของจะให้ฉัน”

พูดไปแล้วก็เดินไปที่จี้หยุนซูแล้วส่งกล่องให้เขา “นี่คือของขวัญวันเกิดที่เธอมอบให้คุณ คุณดูสิคะ”

จี้หยุนซูนิ่งไปและประหลาดใจเล็กน้อย

เขาปราดตามองกล่องของขวัญที่อยู่ในมือแล้วยืนขึ้นมองไปที่ด้านหลังเธอและถาม: “แล้วเธอล่ะ?”

จิ่งหนิงถอนหายใจ “ไปแล้วค่ะ!”

“ไปแล้ว? ในเมื่อเธอมาแล้ว ทำไมถึงรีบไป?”

จิ่งหนิงยักไหล่ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? แต่เธอบอกว่าเธอมีธุระ งั้นคงจะมีธุระจริง ๆ แหละมั้ง”

จี้หยุนซูได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าและไม่ได้เก็บมาใส่ใจและไม่ได้ถามต่อ

พวกเขาเล่นกันอยู่หลายเกมจนถึงกลางดึกจึงได้เลิก

แน่นอนว่าพวกจิ่งหนิงนั้นก็ต้องกลับบ้าน

ครอบครัวจี้ที่ช่วงนี้เดินทางไปต่างประเทศไม่มีใครอยู่ จี้หยุนซูจึงอยู่คนเดียว กลับบ้านก็ไม่มีความหมายอะไร

แล้วยิ่งเขาดื่มเหล้าไป พรุ่งนี้ก็ยังมีนัดผ่าตัดล่วงหน้าในตอนเช้าตรู่อีกด้วย จึงได้เปิดห้องพักในโรงแรม

ลู่จิ่งเซินและคนอื่นเห็นดังนั้นจึงแล้วแต่เขาและออกจากโรงแรมไป

กลางดึกจี้หยุนซูกลับมาที่ห้องพักและรู้สึกเหนื่อยมาก เหนื่อยกว่าการผ่าตัดเป็นสิบรอบเสียอีก

เขาล้มตัวนอนบนเตียงทันทีที่หันไปก็เจอกับกล่องใบนั้น

กล่องใบนั้นเป็นกล่องที่กวนเยว่หวั่นขอร้องให้จิ่งหนิงเอามาให้เขาในวันนี้ กล่องเป็นสีชมพูสวยงามด้านบนมีริบบิ้นสวยดูแล้วเหมือนของของเด็กสาว

เขาเม้มริมฝีปากความเมื่อยล้าในร่างกายจางหายไปอย่างอธิบายไม่ได้และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมาก

เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปและแกะกล่องนั้น

มันเต็มไปด้วยดาวดวงน้อยที่พับด้วยมือทั้งกล่อง เขานิ่งไปพักหนึ่งและหัวเราะออกมา นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้รับสิ่งนี้…

จะพูดยังไงดีล่ะ? ของขวัญสุดเก๋ล่ะมั้ง!

เขาจำได้ ครั้งสุดท้ายที่เห็นใครบางคนส่งมอบสิ่งนี้ในความทรงจำของเขามันคือตอนที่เขาอยู่มัธยมปลาย! นั่นมันต้องกี่ปีก่อนแล้วนะ

กลับคิดไม่ถึงว่าผ่านไปหลายปีแล้วตัวเองจะได้รับของแบบนี้

เขายิ้มและพลิกดาวกระดาษดูไปมาก็พบกับกระดาษโน๊ตใบหนึ่ง

เห็นประโยคหนึ่งที่เขียนอยู่ลายมือนั้นสวยงามและเรียบง่ายเหมือนกับความประทับใจที่คน ๆ นั้นมอบให้

บนกระดาษนั้นเขียนว่า: “รุ่นพี่คะสุขสันต์วันเกิดค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณอยากได้อะไร หรือบางทีคุณอาจจะไม่อยากได้อะไรเลย และต้องการเพียงความอวยพรที่จริงใจเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นฉันขอให้คุณเบิกบานและมีความสุขตลอดไปนะคะ”

เรียบง่ายไม่ได้งดงามหรือพิเศษ แต่ทำให้รู้สึกราวกับว่าความรู้สึกอบอุ่นกำลังพลุ่งพล่านอยู่ในใจ

มุมปากของจี้หยุนซูกระตุกอย่างเงียบ ๆ

ทันใดนั้นเขาก็คิดขึ้นได้และหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือและกดเบอร์อย่างรวดเร็ว

ในขณะที่กำลังจะกดโทรออกก็เกิดความลังเลอยู่พักหนึ่ง

สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะยอมแพ้ และเกิดความรู้สึกสับสนปนเปอยู่ในใจ

นี่เขาเป็นอะไรไปนะ? ก็แค่ของขวัญธรรมดาชิ้นหนึ่งเท่านั้น เขาคิดจะโทรไปเพื่อขอบคุณยายเด็กคนนั้นไม่ได้เลยเหรอ?

ส่วนเบอร์โทรศัพท์นั้นเป็นเพราะครั้งก่อนที่กวนเยว่หวั่นดื่มจนเมาครั้งก่อนแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เขา เขาจึงเห็นมันโดยไม่ตั้งใจ

เดิมทีเขาก็ไม่คิดที่จะจำแต่ด้วยความจำเป็นเลิศของเขา เพียงแค่เห็นก็จำได้ขึ้นใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ลืมไม่ลง

เมื่อคิดถึงเรื่องคืนนั้นจิตใจของเขาก็สั่นไหวเล็กน้อย

ครั้งนั้นเป็นกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ที่สถาบันวิจัย

เขาเป็นคนที่ดื่มเก่งพอสมควรแต่เพราะความดีใจ คืนนั้นจึงดื่มไปค่อนข้างเยอะ

ส่วนกวนเยว่หวั่นนั้นคออ่อนอยู่แล้ว ดื่มไม่กี่แก้วก็เมา

กลุ่มเพื่อนร่วมงานร้องให้เขาไปส่งเธอที่ห้อง ต่อหน้าทุกคนในตอนนั้นกวนเยว่หวั่นก็เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เขาไม่อาจหักหน้าเธอ

แต่จะให้คนอื่นไปส่งก็ไม่อาจวางใจได้ จึงได้เป็นคนไปส่งเธอที่ห้องด้วยตัวเอง

แต่คิดไม่ถึงว่ายายเด็กคนนี้จะคออ่อน พอวางเธอลงบนเตียงก็อาเจียนออกมาใส่เขาทันที

ไม่เพียงแค่ตัวเขาแต่อาเจียนใส่เตียงด้วย

ตอนนั้นเป็นช่วงกลางดึกเขาโทรไปที่แผนกต้อนรับแต่ก็ไม่มีห้องว่างเหลือแล้ว แต่อาเจียนก็เลอะเต็มห้องแล้วและไม่สามารถให้เธออยู่ได้อีก

จึงทำได้เพียงพาเธอไปที่ห้องของตัวเอง ทำความสะอาดและให้เธอนอนหลังจากนั้น

คิดไม่ถึงว่าพอเช้าวันต่อมายายเด็กคนนั้นพอตื่นก็ทำเหมือนไม่รู้จักกันแม้แต่คำขอบคุณสักคำก็ไม่มีและหนีกลับไป

ปล่อยให้เขานอนอยู่บนโซฟาทั้งคืน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จี้หยุนซูก็อดที่จะขำไม่ได้

มันน่าประหลาดใจมากที่กวนเยว่หวั่นผู้ซึ่งมีความสง่างามและมีมารยาทมาโดยตลอดมีด้านที่ซุกซนเช่นนี้

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset