วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 314 เจอกันที่บาร์

บทที่ 314 เจอกันที่บาร์

เพื่อเป็นการขอบคุณ หัวเหยาได้ชวนให้จี้หยุนซูอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกัน

แต่กลับถูกจี้หยุนซูปฏิเสธอย่างอ่อนโยน

ไม่รู้ว่าจิ่งหนิงคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่า ช่วงนี้จี้หยุนซูไม่ปกติ

เดิมทีได้อบอุ่นอ่อนโยน ผู้ชายที่เต็มไปด้วยความสดใส ช่วงนี้ระหว่างคิ้วเหมือนขมวดอยู่ตลอด ได้มีความไม่สบอารมณ์ปนอยู่เล็กน้อย

ด้วยความเป็นห่วง ตอนที่จิ่งหนิงส่งเขาออกไป ก็ได้ถาม “คุณหมอจี้ ช่วงนี้คุณเจอกับเรื่องที่ทำให้ลำบากหรือเปล่า? ทำไมรู้สึกเหมือนว่าคุณคิดอะไรอยู่ตลอด?”

จี้หยุนซูอึ้ง ก็ได้ฝืนยิ้ม

“ไม่มีอะไรครับ”

“จริงเหรอ?”

“อืม จริงครับ” เขาได้นิ่งไป อยู่ๆ ก็คิดถึงใบหน้าที่ใสสะอาดนั้น ก็ทำให้ขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่อยู่

จิ่งหนิงเห็นเขาไม่ยอมที่จะพูด ก็ไม่ได้ถามต่อ ส่งเขาขึ้นรถเสร็จ ก็ได้โบกมือมองเขาจากไป

เวลาก็ผ่านไปแบบนี้

ชั่วพริบตา ก็ถึงงานเลี้ยงอายุครบร้อนวันของเล่อเล่อแล้ว

ถึงแม้ว่าเพื่อนในเมืองหลวงของหัวเหยามีไม่มาก แต่นี่เป็นวันสำคัญของลูกน้อย เพราะงั้นจิ่งหนิงกับหัวเหยาไม่อยากละเลย

เชิญเพื่อนที่สนิทไม่กี่คนมา มารวมตัวกันที่วิลล่าจู้เจียวในเมืองหลวงจัดงานเลี้ยงครบร้อยวันเล็กๆ ก็ได้เป็นการฉลอง

เพราะว่าใกล้สิ้นปี ทุกคนนั้นก็ได้หาเวลาว่างอย่างไม่ง่าย ก็ได้มากันทั้งหมดอย่างให้เกียรติ

ขนาดนี้จี้หยุนซู ก็ได้สละเวลาจากของกองเอกสารรายงานจากสถาบันวิจัยออกมา แล้วก็ได้ซื้อของขวัญที่เป็นสนามเด็กเล่นขนาดเล็กให้เล่อเล่อเป็นของขวัญครบร้อยวัน

งานเลี้ยงวันนั้น ก็ถือว่าคึกคักแล้วก็อบอุ่น

กลางคืนจี้หยุนซูยังมีรายงานที่ต้องเขียนอีกอันหนึ่ง เพราะงั้นก็ได้อยู่ที่นี่ครึ่งชั่วโมงก็ได้ขอตัวกลับไป

และอีกด้าน บาร์ที่อยู่ชั้นล่าง

วิลล่าจู้เจียวเป็นสถานที่พักผ่อนที่หรูหรา ตั้งแต่ชั้นสิบขึ้นไปนั้นเป็นสถานที่พักผ่อน ชั้นหนึ่งถึงชั้นสามเป็นบาร์ขนาดใหญ่

กวนเยว่หวั่นได้รับข้อความจากกู้จื่อจุน บอกว่าเขาอยู่ที่นี่ ให้เธอมาพูดเรื่องระหว่างทั้งสองให้ชัดเจน

วันนั้นถึงแม้ว่าแม่กู้ถูกเธอไล่ไปแล้ว แต่ว่าความคิดที่จะให้ตระกูลกู้กับตระกูลกวนแต่งงานกันนั้นยังไม่หยุด

กวนเยว่หวั่นคิดว่า พวกผู้ใหญ่คุยไม่รู้เรื่อง ถึงแม้ว่าเธอไม่อยากที่จะแต่งงานกับกู้จื่อจุนจริงๆ ตระกูลกู้ก็ทำอะไรเธอไม่ได้ แต่ดึงไปดึงมา ก็ยุ่งยาก

เพราะงั้นถ้าสามารถทำให้ตระกูลกู้เข้าใจ ก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

พอคิดแบบนั้น เธอก็ได้มาตามนัด

มาถึงถึงรู้ ที่แท้วันนี้เป็นวันเกิดของกู้จื่อจุน

วันนี้กู้จื่อจุนได้สวมเสื้อสเวตเตอร์มีฮู้ดแฟชั่น บนหัวนั้นก็ยังที่ที่คาดผมสีแดง ดูแล้วไม่เรียบร้อยเอามากๆ

เขามองเธอไปสักพัก ก็ได้ผิวปาก “โยว่ เธอบอกว่าเธอจะไม่มาไม่ใช่เหรอ?? ทำไมสุดท้ายก็มาแล้วล่ะ?”

กวนเยว่หวั่นจ้องเขาอย่างแรง พูดไม่สบอย่างอารมณ์ “ฉันไม่มา นายสามารถให้แม่ของนายต่อไปอย่ามาวุ่นวายที่บ้านฉันได้ไหมล่ะ?”

กู้จื่อจุนไม่ได้โมโห ก็ได้ยิ้ม “อันนั้นฉันไม่กล้าที่จะรับประกัน ยังไงซะแม่ฉันถูกใจเธอ อยากให้เธอเป็นลูกสะใภ้ท่าน ฉันยังทำอะไรได้อีก?”

กวนเยว่หวั่นหึออกมา เห็นท่าทางที่อวดดีของชายหนุ่มแบบนั้น ก็โมโหจนอยากจะต่อยผู้ชายคนนั้น

แต่กู้จื่อจุนก็ได้หันหลังเดินเข้าไปแล้ว เดินไปสองก้าว เห็นว่าเธอยังยืนอยู่ตรงนั้น ก็ได้เลิกคิ้ว “ยืนนิ่งอยู่ทำไม? เข้ามาสิ!”

กวนเยว่หวั่นกัดฟัน คิดถึงตอนที่แม่บอกไว้ก่อนออกจากบ้าน ช่วยไม่ได้ ก็ได้เดินไปตามเขา

ตอนที่ไปถึงที่นั่ง ก็พบว่าตรงนั้นมีคนเยอะมา ชายหญิงมีหมด

วันเกิดของกู้จื่อจุน แน่นอนว่าไม่เหงาแน่ แต่ว่าคนพวกนั้นได้เล่นอย่างบ้าบิ่นมาก ก่อนหน้ากวนเยว่หวั่นไม่ใช่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่พอมาเจอครั้งแรก ก็ยังอึ้งๆ อยู่เหมือนกัน

มาเจอสถานที่จริง ก็มาเป็น คู่ๆ ทั้งหมด ไม่มีคนมาคนเดียว แต่เธอก็ได้ยืนกับกู้จื่อจุนตรงนั้น แน่นอนก็ทำให้คนเข้าใจผิดง่าย

พอคิดถึงตรงนี้ กวนเยว่หวั่นอยู่ๆ ก็เข้าใจว่าวันนี้กู้จื่อจุนทำไมถึงเรียกเธอมา สีหน้าก็ได้เสียอย่างช่วยไม่ได้

ทั้งสองเข้าไป ยังไม่ได้นั่งลง ก็ได้มีคนถาม “จื่อจุน นี่เป็นใคร?”

กู้จื่อจุนยิ้มร้าย ก็ได้โอบไหล่ของกวนเยว่หวั่น “แฟนฉัน หวั่นหวั่น!”

กวนเยว่หวั่นขมวดคิ้ว ก็ได้สะบัดแขนของเขาออก

กู้จื่อจุนรู้สึกได้ถึงการกีดกั้นของเธอ หรี่ตาเล็กน้อย ไม่พูดอะไร

ถึงแม้ว่ากวนเยว่หวั่นหน้าไร้ความรู้สึก แต่ว่าในที่ที่คนเยอะแบบนี้ ก็จะทำหน้าเย็นชาไม่ได้ เพราะงั้นก็ได้พยักหน้า

คนกลุ่มนั้นคิดว่าแฟนของเขาเย็นชาไปหน่อย เพราะงั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คนกลุ่มนั้นก็ได้เริ่มเฮฮาขึ้น

กู้จื่อจุนเห็นแบบนั้น ก็ได้เข้ามากระซิบ “เอาหน่า แสดงละครกับฉันหน่อย ถ้าแสดงได้ดีฉันคุยกับเธอ เธอวางใจเถอะ กู้จื่อจุนอย่างฉันก็ไม่ใช่ไม่มีคนเอา ไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้น แต่ว่าต่อหน้าพวกเพื่อน เธอจะให้ฉันเสียหน้าก็ไม่ได้จริงไหม?”

กวนเยว่หวั่นหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตกลง

กวนเยว่หวั่นไม่ชอบการกระทำของคนกลุ่มนี้ เพราะงั้นตั้งแต่ต้น ตัวเองนั้นก็ได้นั่งอยู่ที่มุม ไม่ร่วมเกมของพวกเขาสักอย่าง

เวลานานไป ขนาดเพื่อนของกู้จื่อจุนก็รู้สึกได้มามันไม่ปกติ ก็ได้จี้ไปที่แขนของเขา พูดเสียงเบาว่า “นี่ แฟนคนนี้ของนายยังไม่ได้จัดการมาใช่ไหม? ดูคนเขาเย็นชาสิ ไม่สนใจพวกเราเลย”

กู้จื่อจุนหันไปมองเธอ เห็นว่าเธอได้นั่งอยู่ตรงนั้นใบหน้าเย็นชาแบบนั้น สีหน้าก็เริ่มไม่ดีเล็กน้อย

นัยน์ตาเขาได้เย็น หัวเราะออกมา “ไม่นานฉันต้องจัดการเธอได้แน่”

เห็นเขาพูดแบบนั้น ก็ได้หัวเราะออกมา ไม่ได้พูดอะไร ก็ได้หันไปแล้วก็เริ่มเล่นเกมใหม่

ตอนนั้น กู้จื่อจุนเดินไปข้างๆ กวนเยว่หวั่น เอาเหล้าให้เธอหนึ่งแก้ว พูดว่า “มาก็มาแล้ว ทำสีหน้าแบบนั้นให้ใครดู? ดื่มแก้วนึ่ง!”

กวนเยว่หวั่นเงยหน้ามองเขา ขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่ชอบใจ “ฉันไม่ดื่มเหล้า”

กู้จื่อจุนได้ยินคำนี้ ก็เหมือนกับได้ยินอะไรที่แปลก ก็ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง

“เธอมาที่บาร์แต่ไม่ดื่มเหล้า คิดว่าที่นี่เป็นสวนสนุกเหรอ?”

กวนเยว่หวั่นไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่นิด พูดอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ฉันที่อยากมา ถ้านายมองไม่เข้าตา สามารถที่จะคุยกับฉันก่อน คุยจบพวกเราก็แยก ไม่รบกวนกันอีก ว่าไง?”

“เธอ!”

กู้จื่อจุนโมโหจนพูดไม่ออก คำพูดของทั้งสองชายวัยกลางคนที่อยู่ไม่ใกล้ก็ได้ยิน ก็ได้ขำอย่างเยือกเย็น

กู้จื่อจุนมองเธอด้วยความไม่พอใจ กวนเยว่หวั่นไม่ได้มองเขา นั่งอยู่ตรงนั้นเล่นโทรศัพท์ของตัวเอง

ผ่านไปนาน เขาก็รู้สึกว่าไม่สนุก ก็ได้หันหลังเดินไปด้วยความหงุดหงิด

เขากลับไปที่นั่งของตน ก่อนหน้าชายหนุ่มที่ได้มองพวกเขาแล้วขำอย่างเย็นชาก็ได้กวักมือเรียกเขา

กู้จื่อจุนเดินเข้าไป ถามว่า “พี่ฮุย เป็นไรครับ?”

คนที่ถูกเรียกว่าพี่ฮุยก็ได้ยกคาง ชี้ไปที่กวนเยว่หวั่นที่นั่งอยู่หัวมุม “แฟนนาย ยังคว้ามาไม่ได้?”

กู้จื่อจุนขมวดคิ้ว กลัวว่าเขาจะขำตัวเอง หึออกมา “อะไรยังคว้าไม่ได้? ผู้หญิงใจแคบ ช่วงนี้ทะเลาะกันเฉยๆ ปกติเธอนั้นเชื่อฟังผมเอามากๆ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset