วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 348 ไหลไปตามน้ำ

บทที่ 348 ไหลไปตามน้ำ

นายหญิงเพิ่งตระหนักได้ว่า เธอได้ใส่อารมณ์มากเกินไป ทำให้เด็กน้อยตกใจ

เธอรีบสงบสติอารมณ์ และเอ่ยอย่างนิ่มนวลว่า:“ไม่จ้ะ ย่าทวดไม่ได้โกรธ ย่าทวดแค่รู้สึกปวดใจแทนหนู เสี่ยวอานอานของพวกเราฉลาดและน่ารักขนาดนี้ แต่ก็ยังมีคนจิตใจอำมหิตคิดจะทำร้ายหนู หนูไม่ต้องห่วง ย่าทวดจะช่วยหนูหาตัวฆาตกรมาให้ได้ ย่าทวดจะไม่มีทางปล่อยมันไปง่ายๆ ! ”

อานอานดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็รู้ดีว่า นายหญิงไม่ได้โกรธเธอ เธอก็โล่งใจแล้ว

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

“อานอาน ลูกแน่ใจนะว่าเมื่อกี้มีคนผลักลูกตกน้ำ?”

อานอานเบิกตากว้างอย่างเหม่อลอย มองไปที่จิ่งหนิง จากนั้นก็มองไปยังลู่จิ่งเซินที่ยืนอยู่ด้านข้าง ด้วยสีหน้าบึ้งตึงเช่นเดียวกัน

ในที่สุด เธอก็ส่ายศีรษะ

“หนูไม่แน่ใจ”

แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่เธอก็รู้ดีว่า เธอไม่สามารถทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้

ดังนั้น เธอจึงพูดตามความเป็นจริงว่า:“ตอนนั้นหนูแค่รู้สึกว่าตัวเองเสียหลัก จำไม่ได้ว่าหนูลื่นล้มเอง หรือว่าหนูโดนผลักลงไป บางทีหนูอาจไม่ทันได้ระวังตัวแล้วตกลงไปก็ได้ค่ะ”

นายหญิงได้ยินดังนั้น เธอจึงพูดขึ้นอย่างใจเย็น:“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หลานจำไม่ได้ พวกเราจะตรวจสอบให้เอง”

พูดเสร็จ เธอก็หันหน้าไปมองนายท่านใหญ่กวนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ด้านหลัง พร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา:“ตากวนส่วนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาใช่ไหม?”

เมื่ออานอานเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่บ้านของตระกูลกวน นายท่านใหญ่กวนจึงมีส่วนผิดไปด้วย ในเวลานี้เขาไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน

“ไม่มีปัญหา นี่เป็นสิ่งที่ควรทำ ฉันจะรีบส่งคนไปเก็บข้อมูลเดี๋ยวนี้”

นายหญิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เธอมองกลับไปยังร่างที่เปียกชื้นของจิ่งหนิง จึงรีบพูดขึ้นว่า:“การเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก หลานตัวเปียกแบบนี้ไม่ดีแน่ มัวแต่ห่วงเด็ก แต่กลับปล่อยให้ตัวเองหนาวแบบนี้ หลานให้คนอื่นพาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ”

ทันใดนั้นสวีหุ้ยที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆมาโดยตลอดก็รีบผุดลุกขึ้น และพูดด้วยรอยยิ้ม:“พอดีเลย แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่อากาศก็ยังหนาวอยู่ โชคดีที่ฉันมีเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ยังไม่ได้ใส่ ฉันจะพาคุณไปเปลี่ยน อีกสักพักค่อยลงมาดูภาพจากกล้องวงจรปิด”

จิ่งหนิงไม่ได้คัดค้านอะไร แต่นายท่านใหญ่กวนกลับห้ามสวีหุ้ยเอาไว้ เขาหันไปพูดกับกวนเสว่เฟยที่ยืนอยู่ไม่ไกล:“เสว่เฟย หนูพาสะใภ้ตระกูลลู่ไปหน่อย พวกหนูอายุเท่ากัน เสื้อผ้าของหนูเหมาะกับเธอมากกว่า”

เมื่อสวีหุ้ยเห็นดังนั้น ความรู้สึกอับอายได้ฉายผ่านสีหน้าของเธอ

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนจำนวนมากแบบนี้ เธอก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของนายท่านใหญ่

ได้แต่ตามน้ำไป “งั้นก็ได้ค่ะ พอดีว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้ ฉันไปเดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อนเสว่เฟย และได้ซื้อเสื้อผ้ามาด้วยสองสามชุด เสว่เฟย เธออย่าลืมเอาชุดพวกนั้นออกมาด้วยนะ ให้จิ่งหนิงเป็นคนเลือกเอง”

กวนเสว่เฟยนิ่วหน้า ร่องรอยของความไม่พอใจฉายลึกอยู่ในดวงตาของเธอ

แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงตอบรับอย่างเรียบเฉย:“คุณมากับฉัน”

จากนั้นเธอก็พาจิ่งหนิงออกไป

ลู่จิ่งเซินไม่ไว้ใจเธอ อันที่จริงเขาอยากตามเธอไปด้วย แต่กลับถูกสายตาของจิ่งหนิงห้ามไว้

เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อานอานก็ยังอยู่ที่นี่ แม้ว่าจะมีนายหญิงและคนอื่น ๆ อยู่ด้วย แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่วางใจ

เมื่อมีลู่จิ่งเซินอยู่ตรงนั้น ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น

แม้ว่ากวนเสว่เฟยจะไม่ค่อยถูกกับเธอ แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ในตระกูลกวนแล้ว กวนเสว่เฟยถือเป็นอันตรายน้อยที่สุดสำหรับเธอ

จิ่งหนิงเดินตามกวนเสว่เฟยเข้าไปในห้องพักของเธอ ห้องของกวนเสว่เฟยได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและเรียบง่าย ทั้งห้องเป็นสไตล์มินิมอล ดูไม่เหมือนห้องของเด็กผู้หญิงแม้แต่น้อย ดูเหมือนเด็กผู้ชายส่วนใหญ่น่าจะชอบห้องสไตล์นี้มากกว่า

ทันทีที่เข้ามาในห้อง กวนเสว่เฟยก็หยิบเสื้อผ้าทั้งหมดออกมา โยนลงบนเตียง และพูดด้วยเสียงห้วนว่า:“คุณเลือกเองก็แล้วกัน! เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เรียกฉัน”

พูดเสร็จ เธอก็เตรียมตัวออกไป

จิ่งหนิงเหลือบมองเสื้อผ้าเหล่านั้น และเรียกเธอไว้

“คุณกวน ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ”

กวนเสว่เฟยผงะ เธอชะงักฝีเท้าและหันกลับมายังจิ่งหนิง สายตาของกวนเสว่เฟยมองเธออย่างพิจารณา

“คุณอยากถามอะไร?”

จิ่งหนิงยิ้มเล็กน้อย

“ตอนที่อานอานจมน้ำ คุณอยู่ไหน?”

สีหน้าของกวนเสว่เฟยเปลี่ยนไป

“คุณหมายความว่าอย่างไร? คุณสงสัยฉันเหรอ?”

จิ่งหนิงไม่ตอบ

กวนเสว่เฟยคลี่ยิ้มอย่างเย็นชา

“จิ่งหนิง ฉันยอมรับว่า ฉันเกลียดขี้หน้าคุณมาก ถ้าตอนนี้คุณสามารถตายต่อหน้าฉันได้ ฉันจะปรบมือและโห่ร้องด้วยความยินดีอย่างแน่นอน เพราะคุณไม่เพียงแต่จะพรากพี่เซินไปเท่านั้น แต่ยังรู้ความลับที่ฉันต้องการซ่อนมาตลอดชีวิต!

แต่คุณต้องเข้าใจว่า ศัตรูของฉันคือคุณ ไม่ใช่อานอาน อย่าคิดว่าตอนนี้เธอจะยอมรับคุณในฐานะแม่ ก่อนที่ฉันจะรู้จักคุณ ความรู้สึกของเธอกับฉันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก!

ดังนั้น อย่าใช้ความคิดต่ำ ๆ ของคุณมากล่าวหาฉัน ทุกคนไม่ได้นิสัยเหมือนคุณ ที่มีความคิดฝังหัวว่า ทุกคนรอบตัวเป็นคนไม่ดีไปเสียหมด! ”

กวนเสว่เฟยโมโหจนถึงขีดสุด หลังจากพูดเสร็จ หน้าอกของเธอยังคงหอบกระเพื่อมจากอารมณ์โกรธเมื่อสักครู่

จิ่งหนิงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

เธอยิ้มและพูดขึ้นว่า “ขอโทษค่ะ ฉันก็แค่ถามเผื่อเท่านั้น ฉันไม่คิดหรอกว่าคุณจะเป็นคนผลักอานอาน”

กวนเสว่เฟยนิ่วหน้า

“แล้วคุณยังถามฉันอีกเหรอ?”

จิ่งหนิงเลิกคิ้ว

“ฉันบอกไปแล้ว ว่าฉันก็แค่ถามเผื่อไว้ สายตาของคุณบอกฉันว่า คุณไม่ได้ทำ”

กวนเสว่เฟยสับสนกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า

จิ่งหนิงไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับเธออีก เธอเลือกชุดจากกองเสื้อผ้าบนเตียง หยิบเสื้อสเวตเตอร์ขนแกะสีม่วงอ่อนและกางเกงยีนหนึ่งตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเธอโดยไม่อาย

เมื่อกวนเสว่เฟยเห็นว่าจิ่งหนิงไม่ได้ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นคนนอก ความโกรธของเธอก็ทุเลาลง

กวนเสว่เฟยกำลังจะเปิดประตูออกไป แต่ทันใดนั้นเอง เธอกลับชะงักไป

เธอเห็นจิ่งหนิงเพิ่งถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของเธอออก กระดูกสันหลังที่เรียงรายอย่างสมบูรณ์แบบบนแผ่นหลังของเธอ กลับมีผีเสื้อตัวหนึ่งที่ดูราวกับกำลังกระพือปีกอยู่บนนั้น

เธอตกใจสุดขีด!

มันคือปานแดงที่มีมาแต่กำเนิด เนื่องจากปานนั้นอยู่บริเวณสะบักของจิ่งหนิง และขยับไปมาตามการยกแขนของเธอ คล้ายกับมันกำลังกระพือปีกบินอย่างไรอย่างนั้น

นั่นไม่ใช่……

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

จิ่งหนิงไม่ได้สังเกตสีหน้าของเธอ หลังจากใส่เสื้อสเวตเตอร์แล้ว แต่เนื่องจากมีเชือกเส้นหนึ่งที่ต้องอ้อมไปผูกทางด้านหลัง

ตอนนี้กล้ามเนื้อแขนของเธออักเสบ จากการช่วยอานอานขึ้นจากน้ำ เมื่อสักครู่ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร พอเปลี่ยนเสื้อผ้าก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ดังนั้นเธอจึงไม่สะดวกที่จะเอื้อมมือไปผูกเชือกที่ด้านหลังของเธอ

เธอจึงถามขึ้นว่า:“คุณกวน รบกวนคุณผูกเชือกให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

กวนเสว่เฟยได้สติ เธอไม่ได้ขานรับ แต่ก็ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว

จิ่งหนิงรู้สึกได้ว่ากวนเสว่เฟยกำลังผูกเชือกให้เธอ เธอยกยิ้มมุมปากขึ้น และพูดว่า “อันที่จริงถ้าคุณไม่ชอบลู่จิ่งเซิน ฉันคิดว่าคุณก็เป็นคนดีเลยทีเดียว และไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ฉันคิดไว้”

ตอนนี้กวนเสว่เฟยที่กำลังช็อก ไม่มีอารมณ์ที่จะต่อปากต่อคำกับเธอ เธอฟังสิ่งที่จิ่งหนิงพูด

และพึมพำตอบรับอย่างขอไปที สมองของเธอตอนนี้ คิดถึงแต่เรื่องปานบนหลังของจิ่งหนิง

จิ่งหนิงยิ้มและกล่าวว่า “จะว่าไป เห้อเฉินจุนคนนั้นก็ถือว่าไม่เลวเลยนะ แม้ว่าพื้นเพของเขาอาจไม่ค่อยดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังล้มเหลวในหน้าที่การงานอีก แต่เขาก็ถือว่าเป็นคนจิตใจดีคนหนึ่ง

เรื่องอื้อฉาวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ก็เกิดจากศิลปินหญิงคนอื่นๆ ที่ต้องการเกาะกระแสเขา ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการพัวพันด้วย ดังนั้นหากคุณมีลูกจริงๆ ลองกลับไปพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาดูก็ได้นะ ลองดูอีกสักครั้ง ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset