วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 394 สัมผัสส่วนลึกของหัวใจ

บทที่ 394 สัมผัสส่วนลึกของหัวใจ

เขาไม่อยู่บ้านหรอกเหรอ?

จิ่งหนิงเงยหน้ามองเวลา นี่มันก็ห้าโมงครึ่งแล้วนะ ช่วงเวลาแบบนี้เขาคงไม่ไปทำงานแน่นอน

แล้วเขาไปไหนกันนะ?

ยอมรับตรงๆก็คือ เมื่อเปิดเผยเรื่องสำคัญทั้งหมด เดิมทีใจของจิ่งหนิงก็ไม่นิ่งอยู่แล้ว พอตื่นมาแล้วไม่เจอฝ่ายชายมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกใจหาย

แต่เธอก็เป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะเพียงพอ ในใจคิดว่าเขาอาจจะยุ่งและมีเรื่องด่วนจนต้องออกไปทำธุระข้างนอกก็ได้

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอก็อดที่จะส่ายหัวไม่ได้ จากนั้นก็หัวเราะออกมา

เพราะวันนี้ป้าหลิวและคนรับใช้คนอื่นๆก็ได้กลับบ้านหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ต้องจัดการเรื่องอาหารเย็น

จิ่งหนิงจึงเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมที่จะทำอาหาร

แต่เมื่อเดินเข้าไปก็เห็นไฟห้องครัวนั้นเปิดอยู่

จากนั้นก็เห็นชายคนหนึ่งใส่ผ้ากันเปื้อน มือข้างหนึ่งถือตะหลิวยืนผัดไข่มะเขือเทศอยู่

“ตื่นแล้วเหรอ? รีบไปล้างมือนะ เตรียมทานข้าว”

จิ่งหนิงอึ้งเล็กน้อย “คุณไม่ได้ออกไปไหนหรอกเหรอ?”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว “ไปไหน?จะให้ออกไปไหนล่ะ?”

จิ่งหนิงที่ยืนอึ้งอยู่ เมื่อมองเห็นชายคนนั้นยืนใส่ผ้ากันเปื้อนเพื่อทำอาหาร ราวกับเป็นพ่อบ้าน ดวงตาของเธอก็เริ่มแดงก่ำ และวิ่งเข้าไปโผกอดเอวของฝ่ายชายอย่างแน่น

เอาใบหน้าของเธอแนบไปที่หน้าอกของเขา พูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ฉันคิดว่าคุณจะโกรธฉัน”

อารมณ์ที่อ่อนไหวบวกกับความวิตกกังวลของเธอนั้นถูกเปิดเผยออกมา

ฝ่ายชายยิ้มที่มุมปาก สัมผัสได้ถึงความผูกพันและการพึ่งพาของหญิงสาว มันก็ทำให้เขานั้นยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“เธออยากสืบเรื่องสาเหตุการตายของตาkไม่ใช่เหรอ? ไปทานข้าวก่อน ช่วงนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันจะช่วยสืบหากับเธอเอง”

“จริงเหรอคะ?” จิ่งหนิงไม่สามารถเก็บสีหน้าอันแสนดีใจได้อีก

“อื้ม”

ในตอนนี้ลู่จิ่งเซินอยากจะกอดและจูบเธอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะมืออีกอย่างกำลังถือหม้อ ส่วนอีกข้างก็กำลังถือกับข้าว ไม่สะดวกจริงๆ

“แล้วแบบนี้จะกระทบเรื่องงานของคุณไหมคะ?” จิ่งหนิงอยู่แก่ใจว่าเขานั้นยุ่งมากจริงๆ

“ไม่กระทบหรอก ช่วงนี้ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่”

“อ้อ โอเคค่ะ!”

“เป็นเด็กดีนะ รีบไปล้างมือ ฉันทำน้ำซุปอีกสักนิดก็เสร็จแล้ว”

“โอเคค่ะ”

จิ่งหนิงล้างมือเสร็จ ก็เห็นกับข้าวสามอย่างถูกจัดวางไว้บนโต๊ะ มีมะเขือเทศผัดไข่ มะเขือเทศผัดปลา และผัดเผ็ดรากบัว ทั้งหมดเป็นอาหารจานโปรดของเธอ

ลู่จิ่งเซินยังคงวุ่นกับการทำน้ำซุป จิ่งหนิงเดินเข้าไปด้วยความสงสัย เอ่ยปากถาม “คุณไม่เคยทำอาหารมาก่อนไม่ใช่เหรอคะ?อาหารพวกนี้คุณเป็นคนทำเองหมดเลยเหรอคะ?”

ลู่จิ่งเซินพยักหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่ตำราการทำอาหาร

“เมื่อช่วงบ่ายเจอที่ชั้นหนังสือ ก็เลยหยิบออกมาดูสักหน่อย เพื่อลองทำดู เธอลองชิมดูนะว่ารสชาติเป็นอย่างไร”

จิ่งหนิงพยักหน้า รีบวิ่งออกไป หยิบตะเกียบและชิมมะเขือเทศผัดไข่

ถึงแม้ว่ารสชาติอาจจะเทียบไม่เท่ากับเซฟระดับสูง แต่ทำอาหารครั้งแรกและทำได้ขนาดนี้ก็สุดยอดมากจริงๆ

จิ่งหนิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมออกมา “อร่อยมากเลยค่ะ!”

จากนั้นก็ชิมผัดปลามะเขือเทศ

ก็ทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์มากกว่าเดิม

ก็รีบชิมผัดเผ็ดรากบัว

โอ้โห……

“ลู่จิ่งเซิน คุณไม่ต้องทำธุรกิจแล้วค่ะ เปลี่ยนอาชีพมาเป็นพ่อครัวเถอะค่ะ!ฉันรู้สึกว่าคุณมีพรสวรรค์ของการเป็นพ่อครัวนะคะ มันอร่อยมากจริงๆ”

ฝ่ายชายเดินยิ้มออกมา“อร่อยจริงๆเหรอ?”

“จริงค่ะ ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองชิมดู!”

“โอเค”

จิ่งหนิงคีบผัดเผ็ดรากบัวป้อนเข้าปากของเขา แต่คิดไม่ถึงว่าฝ่ายชายนั้นจะไม่สนใจรากบัวในมือของเธอ แต่โน้มตัวเข้าไปกัดรากบัวจากในปากของเธอออกมา

เธอตกตะลึง สติหลุด ฝ่ายชายก็ได้กัดรากบัว จากนั้นหรี่ตามองและยิ้มออกมา “อืม รสชาติไม่เลวเลยนะ”

จิ่งหนิงหน้าแดงก่ำ

เธอเบิกตากว้างจ้องมองที่เขา เพราะเขาทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงภายในเสี้ยววินาที

ริมฝีปากของเธอค่อยๆยิ้มออกมา ในใจของเธอนั้นก็เต็มไปด้วยความหวาน

เมื่อลู่จิ่งเซินเห็นเช่นนั้น ก็รับรู้ได้ว่าเธอนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร หัวใจของเขาก็อ่อนลง

ดังเธอเข้ามาไว้ที่อ้อมกอด และจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล

เป็นการจูบที่เบาบางและนุ่มนวล เป็นช่วงเวลาที่น่าหวงแหน เขาจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ จมูกของเธอ คิ้วของเธอ ดวงตาของเธอ หน้าผากของเธอและจากก็จูบลงไปที่มือของเธอ

“จิ่งหนิง ฉันรักเธอนะ”

ในของจิ่งหนิงเต้นรัว

เพราะฝ่ายชายนั้นเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ค่อยแสดงออกด้วยคำพูด แต่วันนี้คำว่ารักนั้นได้ออกมาจากปากของเขา

ในช่วงวินาทีนี้มันทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งจนไม่มาสิ่งใดมาเปรียบได้

เป็นเพียงเพราะคนๆนั้นคือเขาเหรอ?

ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้น

เป็นเพราะเขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งมากกว่าชายคนไหนที่เขาเคยพบเจอมา และยังเป็นคนที่เงียบขรึม ลุ่มลึกมากอีกด้วย แต่เมื่อได้เผชิญหน้ากับเธอ ก็ไม่สามารถที่ควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้อีก และอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ ก็เลยทำให้เขานั้นพูดในสิ่งที่ปกติไม่ได้พูดออกมา

คำเรียบง่ายๆแค่สามคำ ไม่ได้เลิศหรู ไม่ได้อลังการ แต่สามคำนี้กลับสลักลึกลงไปในหัวใจ

จิ่งหนิงยิ้มออกมา ดวงตาแดงก่ำ กอดที่เอวของเขาด้วยความจริงใจ “ฉันก็เหมือนกันค่ะ”

อาหารมื้อนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสุดท้ายนั้นทานหมดได้อย่างไร

ทั้งสองคนนั่งทานอาหารค่ำอย่างเงียบง่าย ใช้เวลาไปสองชั่วโมงเต็มๆ

หลังจากที่ทานเสร็จ จิ่งหนิงปฏิเสธที่จะให้ลู่จิ่งเซินเป็นคนล้างจาน และเธอยืนยันที่จะเป็นคนล้างเอง

เธอไม่ยอมให้ฝ่ายชายเป็นคนทุ่มเทฝ่ายเดียวแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะยินยอม แต่เธอก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองนั้นควรจะทำอะไรบ้าง แบบนี้ถึงจะยุติธรรม

ฝ่ายชายก็คงไม่อาจจะที่ขัดใจเธอได้ ทำได้เพียงมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและหวงแหน

ในตอนนี้เสียงโทรศัพท์ของจิ่งหนิงก็ดังขึ้น

แน่นอนว่าเธอไม่สะดวกที่จะรับสาย จึงเอ่ยปากถาม “คุณช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

ลู่จิ่งเซินเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา ก็เห็นว่าเฟิงยี่เป็นคนโทรมา

ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะรู้สึกคาดคิดไม่ถึง

เมื่อจิ่งหนิงเห็นว่าเป็นเฟิงยี่ ก็ให้ลู่จิ่งเซินช่วยรับสายและเปิดลำโพงให้

“โทรหาฉันมีอะไรหรือเปล่า?”

“พี่สะใภ้ ฉันอยากคุณกับพี่รอง พี่รองอยู่ไหม?”

เอ่อ?

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง และเงยหน้ามองไปที่ลู่จิ่งเซิน

“จะคุยกับเขา แล้วโทรหาฉันทำไมล่ะ?”

“อ่อๆ ฉันโทรหาเขาแล้ว แต่โทนไม่ติดเลย”

เมื่อลู่จิ่งเซินได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง ไม่รู้ว่าแบตหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็เลยเสียบสายชาจแบต จากนั้นค่อยหยิบโทรศัพท์มา

“มีอะไรเหรอ?”

เฟิงยี่พูดถึงธุระของเธอ

ที่แท้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดงานการประมูลของจื่อจินกรุ๊ป ซึ่งสี่ปีจะจัดขึ้นครั้งหนึ่ง และจะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ณ ห้องประชุมใหม่ระหว่างประเทศ เฟิงยี่อยากรู้ว่าปีนี้เขาจะเข้าร่วมหรือไม่

งานประมูลของจื่อจินกรุ๊ปนั้นแตกต่างจากงานประมูลทั่วไป สินค้าที่นำมาประมูลนั้นเป็นสมบัติของชาติ เงินที่ได้จากการประมูลนั้นส่วนหนึ่งจะเป็นของรัฐและอีกส่วนจะนำไปบริจาคให้กับสภากาชาดสากล

ถึงปากจะพูดว่าเป็นการประมูล ที่จริงแล้วควรจะพูดว่าการกุศลจอมปลอมมากกว่า

และยิ่งเป็นองค์กรของจื่อจินกรุ๊ปแล้วนั้นเบื้องหลังก็มีความลึกลับและซ่อนเงื่อนอีกมากมาย

เมื่อก่อนจิ่งหนิงเองก็เคยได้ยินชื่อขององค์กรนี้มาบ้าง รู้แค่ว่าเขาเป็นหนึ่งในสามของตระกูลที่ใหญ่ของโลก อำนาจของตระกูลเขานั้นกระจายไปทั่วโลกนับตั้งแต่หลายร้อยปี

และอิงจากตระกูลนี้แล้วนั้นก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศจีน แต่ถ้าลงลึกมากกว่านั้นเธอเองก็ไม่รู้เช่นกัน

แต่แน่นอนว่านี้คืองานประมูลที่ถูกจัดขึ้นโดยจื่อจินกรุ๊ป ทุกคนที่เข้าร่วมนั้นเป็นบุคคลระดับประเทศ แน่นอนว่าคนธรรมดาไม่สามารถไปเข้าร่วมได้

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset