วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 422 เจอการลอบสังหาร

บทที่ 422 เจอการลอบสังหาร

“แน่นอน องค์กรไม่เคยโกหก ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ใจไม่อยู่กับองค์กรจะบังคับให้อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์”

“ได้ ฉันรับปาก!”

“ดีมาก เซี่ยฉวนเธอไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง ฉันหวังว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน”

เซี่ยฉวนยิ้มอย่างเย็นชา

วางสายไม่พูดอะไรอีก

ลมในตอนกลางคืนพัดแรง เธอเดินไปที่ระเบียงด้านนอกมองแสงไฟในตอนกลางคืนแล้วหรี่ตา

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เม้มริมฝีปากแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง

เปิดเครื่อง มองไปยังหมายเลขที่โทรไปไม่นาน มีความซับซ้อนในแววตา

“Seven ธุระของฉันจัดการเสร็จรึยัง เรื่องที่เธอให้ฉันไปสืบ ฉันส่งคนไปให้เธอแล้ว ตอนนี้ในมือมีข้อมูลบางส่วน เธอสะดวกจะมาคุยกับฉันตัวต่อตัวมั้ย?”

ฝั่งตรงข้ามจิ่งหนิงได้ยินเธอพูดเช่นนั้นก็รีบตกลง “ได้ เธออยู่ไหน? ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้”

“ฉันจะส่งที่อยู่ให้”

“โอเค”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ สายตาก็เย็นชา จากนั้นเธอก็แก้ไขข้อความแล้วส่งต่ออย่างรวดเร็ว

จิ่งหนิงกับลู่จิ่งเซินขับรถจนถึงที่อยู่ที่ชูยีให้ถึงพบว่าที่นี่เป็นโรงแรมหรู

เธอรีบขึ้นลิฟต์ไปชั้นสี่สิบแปดตามที่เซี่ยฉวนบอก

ทันทีที่ฉันเดินออกจากห้องโถงก็มาถึงที่สวนกลางแจ้งด้านนอกก็เห็นเซี่ยฉวนนั่งอยู่บนโซฟาพอดี

รอบกายเธอมีผู้ชายล้อมรอบดูสนุกสนานราวกับว่าพวกเขากำลังรินเหล้าของเธอ

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว พอเห็นว่าสีหน้าเซี่ยฉวนดูไม่สู้ดีนักจึงวิ่งไปผลักผู้ชายเหล่านั้นออกแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า “พวกคุณทำอะไรน่ะ?”

พอคนเหล่านั้นเห็นว่ามีคนมาก็พูดด้วยรอยยิ้ม “โอ้ แม่นางคนนี้มาจากไหนเนี่ย สวยจริง!”

พูดพลางก็ยื่นมือออกไปเพื่อลูบใบหน้าเธอ

แต่ทว่ามือเพิ่งจะยื่นออกไปได้ครึ่งทาง ก็ถูกฝ่ามือใหญ่ยึดไว้ตามด้วยเสียง “กร๊อบ” ข้อมือบิดหัก

ชายคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วถอยล้มลงพลางด่าว่า “ไอ้หน้าไหนที่ตาบอดกล้าคำร้ายกู?”

วินาทีต่อมาก็ถูกเตะเข่าจนขาทั้งสองอ่อนแรง มีเสียง “ตุ๊บ!” แล้วเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น

สีหน้าลู่จิ่งเซินดุดัน “ทำปากแกให้สะอาดหน่อย!”

ชายคนนั้นเสียเปรียบ สายตากวาดมองการแต่งตัวของเขาก็รู้ทันทีว่าฐานะไม่ธรรมดา จึงไม่กล้าพูดอะไรไปชั่วขณะแล้วประคองข้อมือที่เจ็บหนีหายไป

เซี่ยฉวนถึงจะดูเหมือนได้สร่างขึ้นมา พอเห็นจิ่งหนิงก็ยิ้มแล้วพูดว่า “Seven เธอมาแล้ว มาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉัน!”

จิ่งหนิงขมวดคิ้วแน่นขึ้นเมื่อเห็นท่าทางเมามายของเธอ

ลู่จิ่งเซินก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“เธอบอกว่าจะบอกข่าวให้เราฟังไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงดื่มจนเมาขนาดนี้?”

ความจริงจิ่งหนิงก็แปลกใจเช่นกัน

แต่เธอไม่ได้ติดต่อกับกลุ่มมังกรมาหลายปีแล้ว แม้ว่าแต่ก่อนเซี่ยฉวนจะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อมาหลายปีแล้ว ย่อทำให้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายมากนัก

ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไร จึงพูดอย่างเคร่งขรึม “พยุงเธอกลับเข้าไปก่อนแล้วค่อยคุยเถอะ ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุยกัน”

ลู่จิ่งเซินพยักหน้าเห็นด้วย

ดังนั้นจิ่งหนิงจึงก้าวไปคว้าแก้วเหล้าในมือเธอแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่ต้องดื่มแล้ว ไปกับฉัน!”

พูดพลางก็พยุงเธอขึ้นจากโซฟา

“ไม่ไม่! ดื่มกับฉันสิ! ฉันยังดื่มไม่พอเลย”

เซี่ยฉวนตะโกน จะเข้าเอาแก้ว

จิ่งหนิงไม่สนใจเธอสักนิดเลยแล้วพยุงเธอเข้าไปข้างใน

แต่ทว่าเธอตัวเล็กเกินไปทำให้การพยุงเซี่ยฉวนที่เมานั้นกินแรงมาก

ลู่จิ่งเซินทนดูไม่ได้จึงเข้าไปช่วย “ให้ฉัน!”

พูดพลางรับเซี่ยฉวนไปจากมือเธอ ทั้งสองช่วยพยุงเธอเดินกลับเข้าไปข้างในด้วยกัน

แต่ทว่าตอนนั้นเอง จู่ๆสายตาเย็นชาก็กะพริบขึ้นเร็วกว่าที่คิด

วินาทีถัดมาเสียง “ปัง” ดังขึ้นลู่จิ่งเซินถูกเตะไปข้างหลังสองก้าว

ทำให้เลือดไหลไปในอากาศโดยที่ลู่จิ่งเซินไม่ได้สังเกต เขาส่งเสียงฮึ คุกเข่าลงบนพื้น

จิ่งหนิงตกตะลึงอยู่ตรงนั้น ไม่ทันตอบสนอง

จากนั้นก็เห็นเซี่ยฉวนหยิบกริชที่ไม่รู้มาจากไหนออกมาบินตรงหน้า แล้วแทงหัวใจชายหนุ่มอีกครั้ง

ตอนนั้นเธอรู้สึกหายใจติดขัด

เธออ้าปากกว้างนิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับว่าเวลาได้หยุดลง ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

จนกระทั่ง…

ชายหนุ่มกระอักเลือดออกมาแล้วล้มลงกับพื้น

จิ่งหนิงได้สติ กรีดร้องแล้วพุ่งไปหาเขา

“ลู่จิ่งเซิน!”

ผู้คนรอบข้างต่างหลั่งไหลเข้ามาตามเสียงร้อง พอเห็นคนนอนอยู่บนพื้น ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดก็ตกใจจนหน้าซีดแล้วร้องด้วยความตกใจ

เกิดความวุ่นวายในห้องอาหาร จิ่งหนิงโผเข้าหาลู่จิ่งเซินได้ยาก เธอเห็นว่าเขาถูกแทงที่อกสองครั้ง เลือดไหลเหมือนสายน้ำ

เธออยากจะรีบเอื้อมมือไปกดห้ามเลือด แต่ไม่รู้ว่าควรกดตรงไหน เลือดไหลเปื้อนหน้าอกของเขาทันที เธอทำอะไรไม่ถูก

พอเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่เลือดเย็น ก็เห็นเธอยืนอึ้งๆอยู่ตรงนั้นด้วยสายตาที่แจ่มใสไร้ซึ่งอาการเมา

น้ำตาของจิ่งหนิงไหลลงมาทันที เธอมองเธอนิ่ง แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

สีหน้าของเซี่ยฉวนซีดลง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ที่แท้คนที่คุ้นเคยตอนนี้ก็เหมือนเพิ่งจะรู้จักกันเป็นครั้งแรก ช่างแปลกหน้าและน่ากลัวยิ่งนัก

“รถพยาบาล ได้โปรดใครก็ได้ช่วยเรียกรถพยาบาลหน่อย!”

มีคนที่ใจดีรีบโทรเรียกรถพยาบาลให้

จิ่งหนิงกอดลู่จิ่งเซินร้องไห้อย่างหนัก

สายตาของเซี่ยฉวนปรากฏแววเยาะเย้ยจางๆจากนั้นก็หมุนตัวจากไป

คนรอบๆไม่มีใครหยุดเธอได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงมองดูฆาตกรจากไปในฝูงชนที่วุ่นวายอย่างรวดเร็ว

จิ่งหนิงกอดลู่จิ่งเซินแน่นพูดด้วยเสียงสั่นว่า “ลู่จิ่งเซิน อย่าเป็นอะไรนะ อย่าเป็นอะไรเด็ดขาด อดทนไว้ ต้องอดทนไว้นะ”

ความกลัวที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งออกมาจากก้นบึ้งหัวใจเหมือนมือยักษ์ที่จับเธออย่างรุนแรงแล้วดึงเธอลงสู่ก้นบึ้งที่ไร้ขอบเขต

เธอไม่เคยกลัวเหมือนตอนนี้มาก่อน

เธอกลัวมากจนไม่สามารถไล่จับฆาตกรได้ กลัวมากจนไม่มีแรงจะถามว่าทำไม

เธอรู้แค่ว่าเขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้ เขาตายไม่ได้

ไม่มีทาง

ลู่จิ่งเซินหลับตา พูดไม่ออกทำได้เพียงจับมือเธอไว้แน่น

มือนั้นดูเหมือนจะมีพลังมหาศาลจนนิ้วของเธอแทบจะหัก แต่ทว่าเธอกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

จิ่งหนิงกอดเขา ในหัวสับสน นึกถึงจุดประสงค์ที่มาประเทศF แล้วนึกถึงสายที่จู่ๆเซี่ยฉวนโทรมาเมื่อกี้

ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจบางอย่างแล้วคร่ำครวญ “ฉันขอโทษ มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด มันเป็นความผิดของฉัน ฉันไม่ควรให้นายมาเป็นเพื่อนฉัน ฉันโง่เกินที่จะเชื่อเธอ ฉันขอร้องล่ะ อย่าเป็นอะไรไปนะ อย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset