วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 433 ไม่ได้ง่ายเลย

บทที่ 433 ไม่ได้ง่ายเลย

และในตอนนี้

“ปัง! “

มีเสียงปืนดังขึ้น ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ แล้วหันไปมอง แค่เห็นโจวเหวินจงถลึงตาโต ตรงหน้าศีรษะมีหลุมเลือดอยู่หนึ่งหลุม เลือดสดไหลออกมาไม่หลุด เขากลับตายไปแล้ว

การตอบสนองของซูมู่ว่องไวที่สุด เขารีบควักปืนแล้วแวบไปอยู่ตรงหน้าลู่จิ่งเซินและจิ่งหนิง กำลังทำหน้าระมัดระวังไปรอบทิศ

เสียงปืนนี้ดังขึ้นก็ได้ทำให้บอร์ดี้การ์ดคนอื่นที่อยู่ไม่ไกลต่างก็ตื่นตกใจ ต่างก็ทำท่าทางที่ระมัดระวังตัว

ผ่านไปสักพัก

ก็ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ลู่จิ่งเซินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น “อย่าดูเลย เป็นพลซุ่มยิง คนน่าจะหนีไปแล้ว”

ซูมู่รู้สึกตกใจ

กลับเห็นลู่จิ่งเซินที่ไม่ทำสีหน้าใดๆ แล้วกำลังโอบกอดจิ่งหนิง แน่นอนว่ามีคนได้ขับเรือไปเทียบท่าแล้ว

หลังจากลงเรือ ก็เห็นรถตำรวจหลายๆ คันจอดอยู่ข้างท่าเรือ ด้านหลังของจี้หลินยวนมีตำรวจที่อยู่ในชุดต่อสู้อยู่หนึ่งกลุ่มกำลังจับปืนแล้วขึ้นเรือ

ชายวัยกลางคนหนึ่งคนที่มีอวบอ้วน ใบหูใหญ่กำลังลงมาจากรถตำรวจ แล้วมองจี้หลินยวน ก็รีบทำสีหน้าที่หวาดกลัวแต่อยากประจบประแจงมาต้อนรับ

“คุณชายจี้ พวกคุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ผมก็เพิ่งจะได้รับข่าวสาร จึงรีบพาคนมาโดยด่วน นึกไม่ถึงว่ากลับมีคนช่างกล้าขนาดนี้มาลักพาตัวเพื่อนของท่าน! รอให้ผมจับมันได้ก่อน จะต้องลงโทษตามกฎหมาย! “

จิ่งหนิงจับจมูก แล้วพูดด้วยเสียงเบา “เขาตายไปแล้ว! “

“อ๊า? ” ผู้ชายคนนั้นรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้น เขาก็ทำสีหน้าขมขื่นที่เผยความลำบากใจออกมา

“นี่ นี่ คุณชายจี้ ผมรู้ว่าท่านโมโหมาก และโกรธมาก แต่ว่านี่ฆ่าคนก็…….ผมรู้ว่าเขาคืออาชญากร เขาสมควรตาย แต่ว่า…….”

“นายใช้ตาดวงไหนเห็นว่าฉันฆ่าคนหรอ? ” จี้หลินยวนทำสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก “อาชญากรที่เป็นพวกเดียวกันเกิดการขัดแย้งกันภายใน ต้องการฆ่าปิดปากผู้บังคับบัญชาตำรวจเจสซี! ในถิ่นของนาย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันหวังว่านายจะรีบให้ผลสรุปหนึ่งกับฉัน! “

เจสซีนิ่งงันไปทันที

หรือว่าจะเป็นพวกเดียวกัน?

เขาได้ข่าว ไม่ใช่ว่าเป็นแค่อาชญากรแค่คนเดียวหรอ?

เขาที่กำลังครุ่นคิดและกำลังจะอ้าปากเอ่ยถาม จี้หลินยวนกลับไม่ได้สนใจเขาอีก แค่ทักทายลู่จิ่งเซินที่อุ้มจิ่งหนิงไว้ แล้วเดินไปอีกข้างของรถฮัมเมอร์ที่จอดอยู่

ผู้บังคับบัญชาตำรวจเจสซียังอยากจะรั้งเขาไว้ ซูมู่ก็มาขวางไว้จากด้านหลัง แล้วพูดอย่างยิ้มแย้ม “คุณผู้ชายท่านนี้ มีอะไรท่านก็ถามผมเถอะ! เมื่อกี้อาชญากรถูกฆ่า ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ ผมสามารถตามท่านไปให้ปากคำได้! “

……..

จิ่งหนิงตามลู่จิ่งเซินขึ้นรถ

รถขับไปบนถนนกว้างขวางด้วยความถี่ที่คงที่ ด้านหน้ามีรถฮัมเมอร์สองคัน ด้านหลังตามอยู่สองคัน แล้วกำลังปกป้องรถคันนี้ที่พวกเขานั่งอยู่ตรงกลาง

ในรถมีพื้นที่ว่างใหญ่มาก และสงบมาก นอกจากจิ่งหนิงและลู่จิ่งเซินแล้ว มีแค่คนขับคนเดียวเท่านั้น

คนขับคนนั้น จิ่งหนิงไม่เคยเห็นมาก่อน น่าจะไม่ใช่คนที่จี้หลินยวนสั่งให้มาปฏิบัติงานกะทันหัน หน้าตาที่เขาดูแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว เหมือนกำลังตั้งใจขับรถแล้วมองไปด้านหน้า

ด้านหน้าและด้านหลังของรถน่าจะเป็นบอร์ดี้การ์ดที่นั่งอยู่ เซ้นท์ของจิ่งหนิงบอกว่าคนพวกนี้กับบอร์ดี้การ์ดเหล่านั้นที่เธอพบเจอบ่อยๆ ไม่ค่อยเหมือนกัน ทว่าจริงๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ไหนที่ไม่เหมือนกัน เธอก็ไม่สามารถบอกออกมาได้

ภายในใจของแอบรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

ตั้งแต่ลู่จิ่งเซินขึ้นรถก็ไม่พูดไม่จา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังครุ่นคิดว่าคืออะไร

จิ่งหนิงกลัวว่าจะเป็นการรบกวนเขา ดังนั้นก็ไม่พูดไม่จาตลอดมา ก็แอบนวดข้อมือที่ถูกเชือกหมัดจนเป็นรอยช้ำ

“เจ็บไหม? “

เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้น จู่ๆ ลู่จิ่งเซินก็มาจับมือของเธอไว้

จิ่งหนิงนิ่งงัน พอเห็นเขาเอามือของตัวเองไปสังเกตมอง จึงค่อนข้างรู้สึกลังเลไปสักพัก จากนั้นก็เลือกที่จะพยักหน้าด้วยความจริงใจ

ข้อมือขาวผ่องอ่อนเยาว์ของผู้หญิงมีรอยรัดที่ชัดเจน มันเขียวช้ำไปแล้ว

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วอันดูดีเล็กน้อย “บนร่างยังที่ไหนรู้สึกไม่สบายมั้ง? “

ตอนที่ช่วยเธอเมื่อกี้นี้ เขาแค่สามารถสังเกตเห็นร่างกายของเธอไปคร่าว และแน่ใจว่าเป็นการได้รับบาดเจ็บที่ไม่แสดงอาการชัดเจน ทว่าก็ไม่แน่ใจว่าถูกกระทบกระแทกตรงไหนบ้าง

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอยังท้อง รกในครรภ์เมื่อหลายวันก่อนไม่มั่นคง ถึงแม้หลายวันที่ผ่านมาก็ได้บำรุงครรภ์จนมันแข็งแรงไปแล้ว ทว่ายังไงนี่ก็คือเหตุการณ์ที่ทำให้เธอได้รับการสะเทือน ทว่าอาจจะไม่เกิดเรื่องอะไร

จิ่งหนิงส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร โจวเหวินจงนอกจากจะขู่ฉันแล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรฉัน นอกจากเมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องโดยสาร หัวของฉันไปชนกับบานประตูแล้ว แค่รู้สึกเจ็บหน่อยๆ เท่านั้น”

ลู่จิ่งเซินทำสีหน้าที่หม่นหมองเล็กน้อย

“เจ็บตรงไหนบ้างแล้ว? “

จิ่งหนิงชี้ไปยังบริเวณหนึ่งตรงหัวของตัวเอง

ลู่จิ่งเซินก็พยุงเธอเข้ามา ให้เธอก้มหัวลงเล็กน้อย นิ้วมืออันเรียวยาวกำลังค้นดูในเส้นผมของเธอ

“ฉึก…….”

จิ่งหนิงได้ยินเสียงฉีกเบาๆ ดังขึ้นกะทันหัน “ที่นั่นแหละ อย่ากด เจ็บ…….”

“เรารีบกลับโรงพยาบาลเถอะ” น้ำเสียงของเขาค่อนข้างเคร่งขรึม

จิ่งหนิงพยักหน้า แล้วหยุดชะงักไป จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเร่งรีบต่อเนื่องกัน “น่าจะกระแทกจนบวมเป็นบริเวณเล็กๆ ผ่านไปสักพักก็ดีขึ้นเอง นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คุณอย่ากังวลเลย”

ลู่จิ่งเซินกลับไม่ได้ฟังคำพูดของเธอ แค่ลูบหัวที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเบามือ นัยน์ตาเลือดเย็น แล้วถึงจะปล่อยเธอออก

“เมื่อกี้อยู่บนเรือ กลัวไหม? ” เขาถาม

จิ่งหนิงพยักหน้า แล้วหยุดชะงักไปต่อ พลางส่ายหัว “ก่อนหน้านี้ก็กลัว หลังๆ มาพอเจอคุณก็ไม่กลัวแล้ว”

ลู่จิ่งเซินกระตุกมุมปาก การพึ่งพิงของผู้หญิงทำให้ทีแรกอารมณ์ที่ย่ำแย่ของเขา ก็รู้สึกมีความสุขตาม เขายื่นมือโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด แขนของเขากระชับให้แน่น

จิ่งหนิงถูกลู่จิ่งเซินกอดแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร อย่าขยับ ข้างหูมีเสียงหัวใจเต้นอันหนักแน่นและมีกำลังของผู้ชายส่งมา เหมือนกำลังตีลงตรงกลางใจ ครั้งแล้วครั้งเล่า…….

หัวใจที่เกร็งมาโดยตลอดของเธอ เหมือนถึงเวลานี้ เพิ่งจะผ่อนคลายลงอย่างแท้จริง

เธอนึกถึงแผลบนร่างกายของเขา แล้วเอ่ยถามอย่างต่อเนื่องทันที “แผลของคุณเป็นยังไงบ้างแล้ว? “

ลู่จิ่งเซินส่ายหัว

“ไม่เป็นไร ตอนออกมาก็ได้ให้คนทำแผลโดยเฉพาะแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร”

จิ่งหนิงไม่เชื่อ แค่ดึงเสื้อของเขามาดู กลับเห็นผ้าก๊อซตรงหน้าอกมีเลือดซึมออกมา

เธอจึงน้ำตาคลอ

“คุณยังบอกว่าไม่เป็นไร จริงๆ เลือดออกมาแล้ว

ลู่จิ่งเซินมองเห็นเธอร้องไห้แบบนี้ จึงยิ้มอ่อนๆ หนึ่งที

“ดังนั้นคุณต้องเชื่อฟัง อย่าให้ผมต้องคอยเป็นห่วง แบบนี้ผมจะได้กลับไปทำแผลแล้วพักผ่อนอย่างสบายใจ

จิ่งหนิงพยักหน้าอย่างแรงไม่หยุด

หลังจากพยักหน้าเสร็จ ก็มองเขาด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย

“ขอโทษนะ ฉันมักจะรบกวนคุณตลอด”

ลู่จิ่งเซินก็ไม่พูดไม่จา

ผ่านไปสักพัก ก็เพิ่งยกมือลูบจับผมของเธอ ดวงตาสีนิลเหมือนมีคลื่นทะเลซัดเข้ามา ทำให้ดูหม่นหมองและลึกลับอย่างแปลกพิลึก

“ไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมเองที่ไม่ได้ดูแลคุณดีๆ “

จิ่งหนิงส่ายหัวทันที “ไม่เกี่ยวกับเรื่องของคุณ ฉันเองที่ไม่ระวังไปได้ยินความลับของโจวเหวินจง ดังนั้นเขาถึงทำแบบนี้ ครั้งต่อไปฉันจะระวังให้มาก จะไม่ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”

เธออธิบายด้วยความเร่งรีบ ทำให้ลู่จิ่งเซินหายใจเร็วขึ้นมาเล็กน้อย คลื่นในดวงตาคู่นั้นเหมือนซัดได้รุนแรงกว่าเดิม รู้สึกค่อนข้างปวดใจ และค่อนข้างประหม่า

“ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คุณพูด”

จิ่งหนิงไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร ในมุมมองของเธอ จริงๆ แล้วเธอไม่ระวังไปได้ยินสองสามีภรรยาโจวเหวินจงคุยกันเท่านั้น

จากนั้นการฆ่าปิดปากครั้งแรกของฝ่ายกันข้ามไม่สำเร็จ กลับถูกเธอบอกความจริงให้กับลู่จิ่งเซิน จากนั้นจึงอยากแก้แค้นอย่างโมโหหน้ามืดตามัวเท่านั้น

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset