วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 483 สุขสันต์วันเกิด

บทที่ 483 สุขสันต์วันเกิด

ถังลั่วเหยาเดินอยู่ท้ายสุด ฉู่ยี่จงใจถอยหลังไปสองสามก้าว เดินเคียงข้างกับเธอ ถามเสียงต่ำว่า “คุณรู้จักเขามาก่อน?”

ถังลั่วเหยาไม่แสดงสีหน้าอะไร “ไม่รู้จัก”

ฉู่ยี่มองไปที่เธอ แต่ก็ไม่ได้สงสัยว่าเธอพูดโกหก ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอจะเป็นนักแสดงในวงการบันเทิง แต่อย่างไรก็ตามฐานะทางสังคมก็ยังอยู่ที่นั่น ไม่น่าจะไปคลุกคลีกับคนอย่างจูเก่อหลิวเฟิงได้

ท้ายที่สุดถังลั่วเหยาก็ไม่ได้อยู่ที่ซื่อจิ่นเหาถิง

เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ แฟนคลับตั้งอกตั้งใจจัดกิจกรรมให้เธอ เธอต้องไปเข้าร่วมสักหน่อย

ดังนั้น สองทุ่ม เธอก็แจ้งผู้จัดการให้ขึ้นมารับเธอออกไป

คนในตระกูลฉู่นับว่ารู้เหตุรู้ผล ถึงแม้ว่าจะอยู่ในบ้านนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าวันนี้วันเกิดเธอ แต่เห็นเธอมีงานต้องไปทำ ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร

จิ่งหนิงโทรมาหาเธอตอนสี่ทุ่ม

ในตอนที่รับสาย เธอพึ่งเสร็จลงมาจากกิจกรรม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไร แค่เพียงไปเข้าร่วม แต่กลับรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว

จิ่งหนิงถามอย่างขำๆว่า “ทำไมเธอฉลองวันเกิด กลับทำให้เธอดูเหนื่อยกว่าใครเลยหล่ะ?”

ถังลั่วเหยาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ทำไมหรอ? มีธุระอะไร?”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่วันนี้ตอนกลางวันลืมให้ของขวัญวันเกิดเธอ เมื่อกี้ฉันให้โม่หนานเอาไปส่งไว้ให้ที่บ้านเธอแล้ว จำไว้ด้วยนะ”

ถังลั่วเหยาพยักหน้า “โอเค ฉันรู้แล้ว”

“งั้นเธอจัดการเสร็จก็รีบนอนหล่ะ สุขสันต์วันเกิด”

“ขอบคุณ จุ๊บๆ ฝันดี”

“ฝันดี”

วางสาย จิ่งหนิงก็ไปที่ห้องนอน เตรียมตัวพักผ่อน

กวาดตามองผ่านปฏิทินอย่างไม่ตั้งใจ จึงพบว่าพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์

ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าไปทำงานหนึ่งสัปดาห์ ประมาณช่วงนี้ก็ควรจะกลับมาแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้ เธอเม้มริมฝีปาก ถึงจะเอนกายพักผ่อน

แต่คิดไม่ว่า ในตอนกลางดึก ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ขนนุ่มๆดันเธอ

เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จิตสำนึกยังคิดว่าเป็นศีเป่า ผลักออกไป พูดอย่างเลอะเลือนว่า “อานอาน อย่าโวยวาย”

ก้อนนุ่มๆนั่นหยุดไปสักพัก ทันทีหลังจากนั้น ก็โอบเอวเธอด้วยแรงมหาศาล กอดเธอแน่นทั้งตัว

เธอตกใจมาก สติเลือนราง จู่ก็นึกขึ้นได้ว่าอานอานไม่ได้อยู่กับเธอในตอนนี้ อีกอย่างเธอจะมาปรากฏตัวที่บ้านในกลางดึกได้ยังไง?

หลังเหงื่อออกในทันที เธอขยี้ตา ในความมืดนั้นมองเห็นเงาดำๆเอนกายอยู่ข้างๆตัวเอง และกอดเอวของตัวเองไว้ และยังวางหัวไว้บนท้องของตัวเองเบาๆ

“อ๊าก___!”

เธอร้องออกมาอย่างตกใจ ไม่ต้องรอให้แก้ตัวก็ตีไปที่หัวของฝ่ายตรงข้าม

ชายคนนั้นร้องออกมา ทันทีหลังจากนั้น มือที่เธอตีไปมั่วๆนั้นก็ถูกจับไว้

น้ำเสียงที่คุ้นเคยและดึงดูดดังขึ้นมา “กลัวอะไร? ผมเอง”

จิ่งหนิงชะงักไป

ในห้องนอนไม่ได้เปิดไฟ ดังนั้นเธอยังมองหน้าของเขาไม่ชัด แต่ในตอนนี้สติเธอกลับมาแล้ว ถึงสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่คุ้นเคยของผู้ชายที่อยู่บนตัว

เธอถอนหายใจออกมาในทันที ทั้งโกรธทั้งตลก ชกไปที่ไหล่ของเขาแรงๆ

“ทำอะไรเนี่ย?ตกใจแทบแย่”

ลู่จิ่งเซินหัวเราะออกมาเสียงต่ำ กอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด

“ผมกลับมาแล้วก็ต้อนรับผมแบบนี้หรอ? รู้อย่างนี้ผมไม่รีบกลับมาในคืนเดียวกันเลยหรอก”

จิ่งหนิงหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆมาดูเวลา ตีสามครึ่ง

ผู้ชายคนนี้นี่นะ นึกไม่ถึงว่าจะกลับมาในตอนดึกของคืนเดียวกัน?

อยากจะด่าเขา คำพูดอยู่ที่บริเวณปาก สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเย็นบนตัวเขา ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนมันเข้าไป

สุดท้าย เขาพูดอย่างจำใจ “ทำไมถึงกลับมาดึกขนาดนี้? ไม่ใช่บอกว่าจะกลับมาพรุ่งนี้เช้าหรอ?”

“รอไม่ไหวแล้ว อยากเจอคุณเร็วๆ”

เขากอดเธอไว้ จูบที่หน้าผากของเธอ ฝ่ามือลูบอยู่ที่ท้องของเธอ

“ลูกเป็นเด็กดีไหม? สองสามวันมานี้มีรบกวนคุยมั้ย?”

เมื่อพูดถึงลูก บนใบหน้าของจิ่งหนิงก็มีรอบยิ้มที่อบอุ่นปรากฏขึ้น

“ไม่มี น่ารักมาก”

“งั้นก็ดีแล้ว หากว่าเขากล้ารบกวนคุณ รอเขาเกิดมา ผมจะช่วยคุณอบรมเขาอย่างดีแน่นอน”

“คุณกล้า”

บางทีอาจจะเป็นเพราะตัวเองไม่ได้รับความอบอุ่นของครอบครัวมากนัก จิ่งหนิงจึงรักเด็กมาก แตกต่างจากคนปกติคนอื่น

ถึงแม้เธอเองก็รู้ การรักมากไปแบบนี้บางที่ก็ไม่แน่ว่าจะถูก แต่เธอก็อดไม่ได้

ทุกครั้งที่นึกถึงลูกในท้อง ก็รู้สึกว่าอะไรก็ไม่สำคัญอีกแล้ว เพียงแค่เขามีความสุขสุขภาพแข็งแรงก็พอ

ลู่จิ่งเซินเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกหึงทันที

“ภรรยา ลูกกับผม คุณรักใครมากกว่า?”

จิ่งหนิงชะงักไป คิดและตอบไปว่า “ต้องเป็นลูกแน่นอนอยู่แล้ว”

ลู่จิ่งเซิน “……”

เหมือนแทงเข้าไปในหัวใจ

จนกระทั่งรู้สึกถึงความแข็งทื่อของตัวเขา จิ่งหนิงจึงรู้ตัว

รีบพูดเสริมทันที “ความหมายของฉันคือ ฉันรักแค่ลูกของเราสองคน ก็มีคุณครึ่งนึงไง”

ลู่จิ่งเซิน “……อ่า”

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก จิ่งเหนิงหัวเราะและพูดว่า “เอาหล่ะๆ คุณเหนื่อยไหม? รีบพักผ่อนเถอะ จะอาบน้ำมั้ย?

“คุณจะช่วยผมอาบ?”

“หลีกไปให้พ้น!”

……

สุดท้าย คนบางคนก็ไปอาบน้ำเองอย่างเชื่อฟัง ในตอนที่เขากลับมา จิ่งหนิงก็หลับไปแล้ว

ตอนนี้เธอตั้งท้องได้หกเดือนแล้ว เดิมทีก็ค่อนข้างจะขี้เซา ดังนั้นตอนกลางคืนยิ่งนอนง่ายขึ้นไปอีก

ลู่จิ่งเซินเปิดผ้าห่มและขึ้นไปบนเตียง จูบไปตรงกลางหน้าผากของเธอ และถึงพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ฝันดี”

วันต่อมา

ในตอนที่จิ่งหนิงตื่น ด้านนอกก็เป็นเวลาช่วงสายแล้ว

เธอลุกขึ้นค่อนข้างลำบาก ในวันปกติจะมีคนรับใช้มาดูแลเธอ วันนี้ยังไม่ทันได้ขยับ แขนที่เรียวยาวและมีแรงก็ยืดมาทางด้านหลังของเธอ พยุงตัวเธอลุกขึ้นมานั่ง

เธอถึงนึกขึ้นได้ เมื่อคืนมีใครบางคนกลับมา

เห็นเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว มีท่าทีจริงจังตั้งใจ เธอจับผมไปมา และถามว่า “คุณตื่นกี่โมง?”

ดวงตาสีเข้มของลู่เฟิงมองมาที่เธอ “เจ็ดโมง”

จิ่งหนิงมองเวลา สิบโมงแล้ว

เอาเถอะ! เธอกวาดตามองไปที่ชายหนุ่มที่พึ่งออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จ ร่างกายรูปร่างที่กำยำล่ำสัน และมองมาที่ร่างกายของตัวเองเงียบๆ

เพราะท้อง เดิมทีรูปร่างของเธอค่อนข้างจะผอม ตอนนี้ถูกเลี้ยงดูจนอวบอิ่มขึ้นมากแล้ว

กินอย่างดีนอนอย่างดี ลู่จิ่งเซินแทบจะอยากให้เธอเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่าของชาติอย่างแท้จริง ช่วงเวลาสองสามเดือน เนื้อหนังเพิ่มขึ้นเร็วเหมือนความเร็วของเครื่องบิน

เธออดไม่ได้ที่จะกลัดกลุ้มใจ พูดเสียงเอะอะโวยวายว่า “ลู่จิ่งเซิน รอคลอดลูกเสร็จ ฉันจะต้องลดน้ำหนักอย่างแน่นอน”

ชายหนุ่มยิ้มออกมา เดินมาจุ๊บที่ริมฝีปากของเธอ

“ไม่ต้องลด มีเนื้อมีหนังแบบนี้ถึงจะดูดี”

“คุณโกหก”

“ผมสาบาน โกหกเป็นหมา”

“เชอะ”

เธอเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มองไปที่เขาด้วยหางตา ขมวดคิ้ว

“ในเมื่ออ้วนแล้วดูดี ทำไมคุณไม่อ้วนขึ้นสักหน่อยหล่ะ?”

ใครบางคน “……”

เหมือนมีภาพลวงตา ขุดหลุมให้ตัวเองกระโดดลงไป

เขาเดินเข้าไปใกล้ตัว กระซิบบริเวณหูของเธอ

วินาทีต่อมา หน้าของจิ่งหนิงก็แดงขึ้นมาทันที

“คุณมันคนเลว! คนบ้ากาม!”

ลู่จิ่งเซินหัวเราะเสียงต่ำ แต่ก็ไม่ตอบโต้ ยอมให้เธอทั้งตีทั้งด่า

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset